แต่งสวนแบบเทพๆ

แต่งสวนแบบเทพๆ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รายงานโดย :เรื่อง วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ / ภาพ ศิลป์ทรายแกลเลอรี่:

</TD><TD>วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า คนไทยนั้นผูกพันกับความเชื่ออย่างมาก มากชนิดที่ไม่อาจจะมีชนชาติใดในโลกนี้เลียนแบบได้ คือ เชื่อมันไปหมดทุกอย่างที่มีให้เชื่อ ตั้งแต่พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู ฯลฯ


เรียกว่าเชื่อแล้วสบายใจ ไม่เดือดร้อนใครก็เชื่อไว้ก่อน ไม่เชื่อไม่ลบหลู่ พร้อมๆ กับเปิดประตูต้อนรับความเชื่อทั้งหลายให้เข้ามาผูกพันกับชีวิตประจำวันอย่างนวลเนียน

​

คิดดูเถิด แค่เปิดประตูเข้ามานั่งในรถ (เชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 70-80% ของรถยนต์ในเมืองไทย) จะต้องเจอกับเครื่องรางของขลังประดามี ไม่ว่าคันไหนคันนั้นขนมาเต็มหน้ารถ ทั้งพระเครื่อง พระพุทธรูป ผ้ายันต์ ผ้าเหลือง ตะกรุด สายสิญจน์ ทำมาค้าขึ้น ร่ำรวยเจริญ ป้ายทอง (อันที่จริงเป็นป้ายพลาสติก) เขียนเสือ โจรไม่ปล้น ฯลฯ

ส่วนเวลาเข้าบ้านปะทะแรกก็เจอศาลพระภูมิเจ้าที่ ถามผู้รู้บอกว่า ศาลพระภูมิไม่ใช่ความเชื่อทางพุทธหรือพราหมณ์ด้วยซ้ำ หากเป็นความเชื่อผีของท้องถิ่น

เชื่อ..เชื่อ..เชื่อ..เชื่อไปหมด เชื่อเถอะ ถ้าเชื่อแล้วสบายใจ

แต่งบ้านด้วยความเชื่อ

เข้าบ้านปุ๊บก็ยกมือไหว้ปั๊บ เหมือนทักทายว่ากลับมาแล้วนะ แสดงความเคารพเมื่อกลับมาเจอ แม้ไปตามสถานที่ใดๆ เป็นออฟฟิศใหญ่น้อยแค่ไหน เดี๋ยวนี้ก็มีหมดทั้งศาลพระภูมิ ศาลเทพต่างๆ สี่แยกสามแยกยกมือไหว้กันเป็นระวิง ถามคนที่เขาเชื่อ เขาเชื่อจริงๆ เมื่อก่อนเคยนึกขำ แต่พออายุมากขึ้นแลเห็นสัจธรรม คิดได้ว่ามันเป็นสิทธิที่จะเชื่อ เชื่อแล้วสบายใจถือเป็นกำไร ดีกว่าคนที่ไม่เชื่อในอะไรเลย ชีวิตล่องลอยไร้สิ่งยึดเหนี่ยว ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนก็ดี..Good For You แต่พอเจอกระทบหนักๆ โดยมากมักเป๋ วิ่งหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กราบไหว้

 

สุดยอดจริงๆครับ สวยมาก

 

ขอบคุณกับบทความแนะนำเรื่องการแต่งสวนและภาพประกอบสวยๆนี้ค่ะ