แชร์ !!! ประสบการณ์ แรงบันดาลใจ คติเตือนใจ หลักธรรม ในการดำเนินชีวิต

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย bhagavad gita, 3 เมษายน 2013.

  1. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    อาจารย์เทวา
    ขอเป็นส่วนหนึ่ง ในการแลกแปลี่ยน แชร์ประสบการณ์ ในเหตุแห่งวิถีการดำเนินชีวิต ที่ได้พึงปฏิบัติ ได้ยินได้ฟังมา ในข้อคติธรรม ข้อเตือนใจ หลักธรรม ข้อความอื่นที่เป็นประโยชน์...
    จุดประสงค์เพื่อให้ผู้อ่านในกระทู้ได้รับแรงบันดาลใจ ในการต่อสู้ มุ่งหมาย เป้าหมาย มีหลักทิศทางในการเดินทางต่อไป ที่เกิดกำลังใจในการดำเนินชีวิต ที่พึงปฏิบัติมีปฏิบัติได้ แต่ด้วยความเพียร ความวิริยะอุตสาหะ สิ่งนี้นั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์พึงปฏิบัติได้กันทุกท่าน หากทุกท่านมีความมุ่งมั่นตั้งใจและ
    ความเพียร


    หากท่านใดมีจุดประสงค์ไปตามเดียวผมน้อมรับด้วยเช่นกัน มาแชร์ความรู้ประสบการณ์ได้ ประโยชน์ที่ได้ เพื่อผู้อ่าน และนำไปปฏิบัติจักเกิดปรโยชน์สูงสุด

    ในความดีแห่งนี้ ขอยกถวายผลบุญ แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งหลักธรรมคำสั่งสอนพระพุทธองค์ และพร้อมถึงพระสงฆ์ผู้แห่งเผยแผ่ศาสนา พร้อมด้วยบิดามารดา พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ พระครูบาอาจารย์ ได้รับในผลบุญแห่งนี้ เพื่อประโยชน์เพื่อความสุข แด่ ทุกท่านทุกนาม ในจิตอันบริสุทธิ์ มีแต่ความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกภัยทั้งสิ้นด้วยทุกประการนนาประการทั้งปวง...

    และในความผิดพลาด ในข้อแก้ไข ผมอาจารย์ เทวา ขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียว ในสิ่งที่ผิดพลาดพร้อมจักแก้ไขต่อไป หากมีความผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วย และขอเป็นความกรุณา ติชมได้ทุกประการเช่นกัน

    อาจารย์เทวา
     
  2. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    เริ่มแรก นั้น ผมขอเชิญคำสอน ของหลวงปู่ทวด

    ชีวิตทุกข์
    การเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่ง จะว่าประเสริฐก็ประเสริฐ จะว่าไม่ประเสริฐก็ไม่ประเสริฐ จะเห็นได้ว่า ตื่นเช้าก็มีความทุกข์เข้าครอบงำ จะต้องล้างหน้า ล้างปาก ล้างฟัน ล้างมือ เสร็จแล้วจะต้องกินต้องถ่าย นี่คือความทุกข์แห่งกายเนื้อ เมื่อเราจะออกจากบ้านก็จะประสบความทุกข์ในหมู่คณะ ในการงาน ในสัมมาอาชีวะ การเลี้ยงตนชอบ นี่คือ ความทุกข์ในการแสวงหาปัจจัย

    บรรเทาทุกข์
    การที่เราจะไม่ต้องทุกข์มากนั้น เราจะต้องรู้ว่า เรานี้จะต้องไม่เอาชีวิตไปฝากสังคม เราต้องเป็นตัวของเราเองและเราจะต้องวินิจฉัย ในเหตุการณ์ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเราว่าส่งใดเราควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ

    ยากกว่าการเกิด
    ในการที่เราเกิดมา ชีวิตแห่งการเกิดนั้นง่าย แต่ชีวิตแห่งการอยู่นั้นสิยาก เราจะทำอย่างไรให้อยู่ได้อย่างสุขสบาย

    ไม่สิ้นสุด
    แม่น้ำทะเล และมหาสมุทร ไม่มีที่สิ้นสุดของน้ำ ฉันใด กิเลสตัณหาของมนุษย์ก็ย่อมไม่มีที่สิ้นสุด ฉันนั้น


    เมื่อท่านได้วาง เป็นอุเบกขาแล้วนั้น คือการวางเฉยเสีย สิ่งนี้ แหละ เป็ฯการเริ่มต้นแห่งการหลุดพ้น เมื่อวางเสียได่ ก็หลุดพ้นเสียได้ ในหลักธรรมพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) แต่ข้อสุดท้ายนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากไม่มีก็จะไม่เกิด ข้อแรกได้เลย ทำไมถึงเป้ฯเช่นนั้น หากท่านทั้งหลาย ยังไม่วางนิ่งเสียกับเหตุการร์ในขณะที่เกิด ยัง ทุกข์ ยังโกรธ ยังโมหะ โทสะ โลภะอยู่นั้น ท่านทั้งหลาย ท่านว่า จะเกิดความเมตตา แก่ผู้อื่นนั้นได้ไหมเล่า เมื่อท่านได้ไปปฏิบัติดูท่าจะรู้ เองว่า เเป็นเช่นไร นอกเสียจากว่าท่านได้ ปฏิบัติ ได้ทำแล้วเฉกเช่นนั้น ...ผู้ใดได้ทำแล้วหากมีข้อสงสัยเช่นไรถามได้ ไม่ว่าจะทางใดก็ตามผมขอน้อมรับ

    ในสิ่งนี้ ที่เ็ป็นคุณ ขอถวายผลบุญต่อ พระรัตนตรัยที่เป็นที่พึ่ง เป็นสะระนะใจดวงจิต ดวงใจ ให้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ต่อบิดามารดา พระมหากษัตรย์ไทยพร้อมบรมวงศานุวงศ์ พระครูบาอจารย์ได้รับผลบุญเช่นกันนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อประโยชน์เพื่อความสุข จงมีแต่ทุกท่านทุกนามด้วย ให้มีแต่สุขเถิด...

    ในสิ่งที่ผิดพลาด อาจารย์เทวาขอน้อมรับ
     
  3. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    หากมิสิ่งใดเพื่มเติม แชร์กันได้เลยนะครับ ผมยินดีน้อมรับ...อาจารย์เทวา
     
  4. Amatayan

    Amatayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +6,188
    ยังไม่รู้จะแชร์อะไรครับ แต่มาอ่านแล้วดี เลยมาเป็นกำลังใจให้คนดี ทำดี เผยแพร่สิ่งดีๆครับ
     
  5. Mon Treal

    Mon Treal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +536
    การต่อสู้ดิ้นรน ๒ แบบ

    “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การดิ้นรนที่ทำได้ยากในโลกนี้มี ๒ อย่าง คือการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อแสวงหาเครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย และเครื่องยารักษาโรคของคฤหัสถ์ผู้อยู่ครองเรือน ๑ การต่อสู้ดินรนเพื่อสละอุปธิทั้งปวงของผู้ออกบวชเป็นบรรพชิต ๑....
    “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรดาการต่อสู้ดิ้นรน ๒ อย่างนี้ การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อสละอุปธิทั้งปวงเป็นเลิศ....เพราะเหตุนั้นแล เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่าเราจักเริ่มตั้งความเพียรพยายามเพื่อสละอุปธิทั้งปวง...”

    ป. ทุก. อํ. (๒๔๘)
    ตบ. ๒๐ : ๖๓ ตท. ๒๐ : ๕๗
    ตอ. G.S. ๑ : ๔๔
     
  6. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    หนทางสู่ความดับทุกข์
    พระพุทธองค์ได้ทรงค้นพบ เหตุและปัจจัยที่ว่า
    เมื่อมีสิ่งนี้ สิ่งนี้ก็มี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้ก็เกิดขึ้น
    เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ
    ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ เมื่อขจัดเหตุเสียได้นั้น ก็จักไม่เกิดผลที่ตามมา
    “ เพราะความไม่รู้จริง ถูกขจัดไปไม่เหลือ
    การปรุงแต่(สังขาร)จึงไม่มี
    เพราะไม่มีการปรุงแต่ง วิญญาณจึงดับ
    เพราะวิญญาณดับ ใจ (นาม)และกาย(รูป)จึงดับ
    เพราะอายตนะ6 ดับ ผัสสะจึงดับ
    (จักขุสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางตา คือ ตา+รูป+จักขุวิญญาณ
    โสตสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางหู คือ หู+เสียง+โสตวิญญาณ
    ฆานสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางจมูก คือ จมูก+กลิ่น+ฆานวิญญาณ
    ชิวหาสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางลิ้น คือ ลิ้น+รส+ชิวหาวิญญาณ
    กายสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางกาย คือ กาย+โผฏฐัพพะ(เช่น ร้อน เย็น อ่อน แข็ง)+กายวิญญาณ
    มโนสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางใจ คือ ใจ+ธรรมารมณ์(สิ่งที่ใจนึกคิด)+มโนวิญญาณ)
    เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ
    เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ
    เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
    เพราะภพดับ ชาติจึงดับ
    เพราะชาติดับ ความชรา และความตายจึงดับ
    พร้อมกับความโศกเศร้า คร่ำครวญ ความทุกข์ ความโทมนัส ความคับแค้นใจ กองทุกข์ทั้งปวงก็ประกอบด้วยการหละฉะนี้”

    หากเรานั้นสามารถตัดห่วงเหล่าที่ว่ามาดังกล่าวนั้นเสียได้แล้ว ก็ไม่มีการปรุงแต่งตอบโต้ใดๆซึ่งอันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ และเมื่อเราอิสระจากความทุกข์นั้นเสียได้ เราก็จะพบแห่งความสุข ที่เย็นเบาโปร่งโล่ง สบาย วงล้อแห่งความทุกข์นั้น ก็จะเปลี่ยนทิศทางไปเป็นวงล้อแห่งความหลุดพ้น

    สิ่งนี้ ที่เจ้าชายสิทธัตถะโคตรมะทรงบำเพ็ญเพียร จนตรัสรู้ และโปรดแสดงให้ผู้อื่นปฏิบัติตามดังพุทธพจน์ที่ว่า
    “ตนทำชั่วเอง ย่อมเศร้าด้วยตนเอง ตนไม่ทำชั่วย่อมหมดจดด้วยตนเอง”

    ลองไปฝึกแล้วนำพาแห่งความเพียรในการปฏิบัติ สิ่งใดเล่าจะสู้ความเพียร ความวิริยะอุตสาหะ ...อาจารย์เทวา
     
  7. Amatayan

    Amatayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +6,188
    ธรรมะกับสภาวะธรรม หรือสภาวะเข้าถึงธรรม ดูเหมือนจะใกล้ๆกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังอยู่ไก๋ไกล ไกลริบๆเลย......รู้ธรรมะเหมือนทับพีตักแกงเลย...เรา ....อิอิบางที่บอกว่าอยู่ใกล้ๆๆกับธรรมะ แต่สิ่งที่แสดงออกมันไกลกันเหมือนยอดเขากับหุบเหว....555555
     
  8. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    สังขาร ทั้งปวง ไม่เที่ยง
    เมื่อบุคคลใดพิจารณา เห็นแจ้งด้วยปัญญาดังนี้
    เมื่อนั้นเขาย่อมเบื่อหน่ายในความทุกข์
    นี้คือหนทางแห่งความบริสุทธิ์

    สุตตัต.เล่ม 17 ขุททกนิกาย ธรรมบท มรรควรรค
     
  9. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    ความกรูณาที่แท้จริง คือ
    ความปรารถนาที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ แต่ต้องเป็นความปรารถนาดี ที่ไม่ยึดมั่นถือมั่น หากตัวเราปล่อยให้ความทุกข์ผู้อื่นนั้น มามีเหตุปัจจัยให้ โศกเศร้า มัวหมองในจิตแล้ว ย่อมไม่ใช่หนทางธรรมะ ถ้าหากมีความกรูณาอย่างแท้จริง เราจะช่วยผู้อื่นอย่างสุดความสามารถ ด้วยความรักและความปรารถนา ถ้าไม่สำเร็จก็ยิ้มรับและพยายามหาทางออกอื่นที่บรรเทาความทุกข์นั้นได้ไม่มากก็น้อย โดยไม่วิตกกังวลว่าผลเป็นอย่างไร ความกรูณาที่แท้จริงควรมากจิตที่เป็นกลาง ความนิ่งเฉย หรือความเป็นอุเบกขา ให้มากที่สุดเท่าที่ควรปฏิบัติมีปกิบัติได้

    เป็นสิ่งที่ นักพยากรณ์ ควรพึงปฏิบัติด้วยจิตอันศรัทธา ความบริสุทธิ์ของจิตที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขให้กับผู้มารับทำนายพยากรณ์ ไปตามเหตุสมควร แห่งศาสตร์ที่ตนได้ศึกษามา ตามเท่าที่ความสามารถพึงกระทำ ...อาจารย์เทวา
     
  10. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    เห็นด้วยอย่างยิ่งในสิ่งที่คุณสีลสิกขากล่าวมา
    ในบางที คนเรานั้น ที่เห้นได้ชัด คืือการต้องกำลังใจ จากคนอื่นๆ ก็เหมือนหวังผล ในสิ่งนั้นเื่พื่อความต่อยอดในสิ่งหรือผลที่ทำ ว่าสิ่งนั้นมีผลตอบรับในทิศทางที่ดีหรอืไม่ เหมือนการได้รับfeedbackกลับมาว่าสิ่งที่เรากระทำไปนั้นผลเป็นอย่างไร แต่จงดูใจตนเป็นที่ตั้ง ว่าสิ่งที่เราทำนั้น หากหัวใจพองโต รู้สึกปราบปลื้มปิติกับสิ่งที่ทำ สิ่งนั้นแหละคือสิ่งที่เราปรารถนา ที่ตรงใจเราเป็นที่ตั้ง ก้ขอให้ตั้งใขฝึกฝนมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำนั้นต่อไป อย่าได้ท้อ อย่าได้ถอย ผมขอเป้นกำลังใจให้ทุกท่าน ให้สู้กับสิ่งที่กำลัง และสิ่งที่ต้องการในสิ่งนั้น ต้องด้วยความเพียร ความวิริยะและความอุตสาหะ สิ่งเหล่านี้ขาดเสียมิได้ เฉกเช่น ที่ต้องรดน้ำพรวนดินให้กับต้นไม้ เป้นประจำสมำ่เสมอ ทั้งเช้าและเย็นแต่สิ่งนั้นก็ต้องดูถึง พืชผลที่ท่านได้ปลูกว่า ว่าต้นไม่ชนิดนั้นแต่ละชนิดต้องการเพียงไร ก็เหมือนกับคุณเอง ว่าคูรเองไหวกับสิ่งนั้นขนาดไหน อย่าได้ฝืนการกระทำ แต่ให้ทำด้วยใจรัก ตั้งมั่น ในสิ่งนั้น การทำงานหรือสิ่งใด ที่ใช้ใจ และตั้งใจ และนำเอาความรู้ที่ท่านมีมาประกอบสิ่งนั้นเป้นประโยชน์ทั้งตัวท่านและบุคคลอื่นที่ได้รับจากท่าน ขอให้ทุกท่าน และคุณสีลสิกขา ให้สัมฤิทธิ์ผลในสิ่งที่หวังทุกประการ ตามแต่ที่ท่าน ได้ตั้งใจตั้งมั่นในสิ่งนั้น ...อาจารย์เทวา
     
  11. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    อย่าปลงใจเชื่อ เพราะได้ยินได้ฟังมา
    อย่าปลงใจเชื่อ เพราะได้สืบทอดต่อๆกันมา
    อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเป็นคำเล่าลือของคนหมู่มาก
    อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมีอยู่ในตำราหรือคัมภีร์
    อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการคาดเดา
    อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นไปได้
    อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับความคิดของตน
    อย่าปลงใจเชื่อ เพราะว่ามีเหตุมีผลหรือ น่าเชื่อถือ
    อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือสมณะนี้เป็นครูของเรา
    ต่อเมื่อได้รู้ได้เข้าใจด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็น อกุศล หรือเป็น กุศล มีโทษหรือไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงได้ควรละหรือควรถือไปปฏิบัติการนั้น


    สุตตันต.เล่ม 12 อังคุตตรนิกาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 เมษายน 2013
  12. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    เจ้าสวดมนต์ แต่เจ้านินทา
    เจ้าทำงาน แต่เอาเจ้าเปรียบ
    เจ้ามีความรู้ แต่เจ้าดูถูกคน
    เจ้าตัวสะอาด แต่ใจเจ้าดำ
    เจ้าหามิตรแท้ แต่เจ้าไม่แท้
    เจ้าทำกุศล แต่หมายชื่อเสียง
    เจ้ามีทุกสิ่ง แต่ไม่คิดแบ่งปัน
    เจ้าดูแลคนอื่น แต่ห่างเหินพ่อแม่
    เจ้างดเนื้อสัตว์ แต่เจ้าข่มเหงเพื่อนมนุษย์
    เจ้าหาเราไม่เจอ แต่กรรมหาเจ้าเจอ


    อาจารย์ เทวา ...
     
  13. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825




    เป็นเรื่องจริงแท้ในชีวิตมนุษย์เรานี้
     
  14. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    ยินดีอย่างยิ่งยวดเช่นกันครับ ขอบคุณทุกท่านเลยมาแชร์คติธรรมนั้น ซึ่งเป็ฯส่วนหนึ่งนำพา ให้จิตและการเรียนรู้นั้นมากขึ้น เกิดความรอบคอบมากขึ้น จะบอกว่าเจริญมากขึ้น มนุษย์เรานั้นก็คิดไปเสียว่า เจริญ ฏ้ต้องมั่งมีเงินทองเสีย นั้นคือผลพลอยได้จากทางโลก แต่ผลที่ได้จากธรรมนั้นมีค่ายิ่งยวดกว่าสิ่งใด จิตที่เจริญ ย่อมนำพานำสิ่งสรรค์นั้น ให้จิตเรานั้นสว่าง ขึ้น เห็นวิกฤตเป็นโอกาส เห็นโอกาสนั้นมาช่วยนำพาคนอืื่นเป็นประโยชน์ในสาธารณชนมากยิ่งขึ้นไป

    ขออนุโมนาบุญด้วยเช่นกันครับ
     
  15. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    อนุโมนาบุญด้วยครับ เป็นสิ่งดีในสิ่งที่ได้กระทำในสิ่งนั้น เพื่อทำนุบำรุงเผยแผ่ศาสนาต่อไปยิ่งยืนนาน

     
  16. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94

    ป็นคติธรรมที่ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง

    แต่หากคนเรานั้นหลีกเลี่ยงเสียมิได้ ในการติติงคนผู้คนนั้น ก็ขอให้การติติงนั้น เป็นแนวทางในการแนะนะว่ากล่าวตักเตือน โดยจิตอันเป็นบริสุทธิ์ใจ ที่อยากให้เค้าเปลี่ยนใจกลับตัว
    โดยควรบอกแก่ผู้นั้นแนะนำำแก่ผู้นั้นโดยตรงเสีย หากผู้นั้นทำตามก็ตามนั้น แต่หากไม่ทำนั้นท่านที่ได้แนะนำนั้นก็อย่าได้ถือโทษโกรธผู้นั้นเลย และสำคัญอันยิ่งยวดกว่าการติงติงผู้นั้น
    อย่าได้นำความผิดผู้นั้นไปว่ากล่าวผู้นั้นลับหลังเสีย หรือหากแต่ผู้นั้นไม่ทำตามที่ท่านว่ากล่าว ก็อย่าไปนินทา หรือกล่าวร้ายเขาในทางออ้มก็ขอให้จบเสียที่ท่านอย่าได้แพร่งพรายไปสู่บุคคลที่สามหรือสี่เสีย
    เน้นและ้ำย้ำขอได้แนะนำแ่ผู้นั้นแล้ว พอ
    อย่าไปไปว่ากล่าวกันไปมา มันเป็นอกุศลไปโดยเปล่า การนินทาก็จะหมดไป แต่คนเรานั้น ก็มองในมุมต่าง ก็เปิดใจให้กว้างในคำทั้งติและชม มนุษย์เรานั้น ชอบเสียในคำชม และชอบละทิ้งในคำติ หากเรานำเอาคำติติงมา แก้ไข ว่าสิ่งนั้นที่กระทำไปนั้นมีควรเหตุอย่างไรเสีย เหมือนเป้นกระจกเงาส่องตัวซึ่งบางทีท่านทำไปก็อาจเพียงทำมานาน ก็เห็นว่าสิ่งนั้นถูกต้องหรือควรไปเช่นนั้น แต่หากอาจมีผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญก็อาจมาแนะนำเพิ่มเติมท่านได้ สิ่งเหล่านี้ขอนอ้อมรับ กระผมเองก็ขอน้อมรับสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน ตามความคิดเห็นส่วนตน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2013
  17. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94

    ม่ว่าจะสิ่งใด พระพุทธองค์ท่านก็คือมนุษย์เช่นกัน แต่ท่านสละด้วยความเพียร ความวิรยะอุตสาหะ สิ่งนี้ขาดเสียไม่ได้ เสียเลยไม่ว่าท่านจะทำงานด้านแขนงไหนสิ่งไหน จะให้สำเร็จงานนั้น ก็ด้วยความเพียร วิระยะอุตสาหะความตั้งใจตั้งมีให้เกิดสิ่งนั้นด้วยสุดความสามารถที่เราพึงมีพึงกระทำได้ ตามวาระแห่งความสมควร

    ในพรหมวิหาร 4 ผมเห็นกับสิ่งที่สำคัญที่ก่อนมนุษย์พึงมี ความเมตตานั้น ก็ควรางจิตนั้นเสีย(อุเบกขา) ให้เป็นกลาง นิ่งเฉยเสีย ได้ยินก็คือได้ยิน คำพูดนั้น จะก่อเกิดปฏิกริยาต่อสังขาร (คือไม่ชอบ หรือชอบ หรือชัง หรืออะไรก็ตอบ อย่าให้เป้นเช่นนั้นได้ยินใจบอกว่าได้ยินแล้ววางเสีย ก็จะไม่เกิดสังขารตามมา แต่หากได้ยิน อาทิืิเช่นคำเหล่านั้นหยาวคายหนือนินทาเรามา พอได้ยินเสีย เรากลับไปมีโต้ตอบต่อสังขาร ท่านว่าท่านจะเกิดความเ็ป็นเมตตาได้เสียหรือ ก่อนที่เรานั้นจะเมตตาได้เสีย จิตนั้นวางเป็นกลาง นิ่งเสีย อย่าได้มีผลอะไรต่อสังขาร เมื่อเรานั่งสมาธิเมื่อปวดก็รู้ว่าปวด ชาก็รู้ว่าชา อย่าไปทำให้เกิดสังขารว่า ชาเป็นแบบนั้นแบบนี้มันรู้สึกแบบนั้น เราจะต้องขาพิการแน่เลยเสีย มิชายดอก ยิ่งคิดมากจิตเจ้าก็ยิ่งปรุงแต่งมาก วางให้เป้นกลางเสียแต่แรกใจเจ้าก็จะคลายไปเอง เอาว่า นี่ส่วนเป็นความคิดส่วนข้าพเจ้าแล้วกัน หากท่านทั้งหลาย จะไปใช้ ข้าพเจ้ายินเสียนี่กระไร แต่ทั้งหมดทั้งมวลมานี้ เจ้าเท่านั้นแหละจะรู้ ว่าสิ่งที่เจ้าทำจะเป็นเช่นไร การที่เจ้าเข้ามาอ่าน แต่เจ้าไม่ทำ ก้เสียประโยช์ไปแล้วเสีย เมื่ออ่านเจาก็จะรู้ แต่เจ้าจะรู้ได้ขนาดไหนก็ไม่สู้ที่เจ้าปฏิบัติดอกเสีย เพราะเจ้ากระทูนี้ ได้กระทำ ตอนนี้ก็กระทำ แต่ก็ขาดความเพียรบ้างไม่เพียรบ้าง แต่ทุกครั้งที่ทำต้องตั้งใจทุกครั้งไป ตั้งใจแล้วนะ ...
     
  18. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    ดีใจมากกว่าครับ ที่ได้มาแชร์ ในคำสอน คติธรรม เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต

    ทำให้ ในคติธรรมนั้น มีแง่และข้อคิดพิจารณา ...ในการปฏิบัติต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2013
  19. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    เมื่อคุณต้นพุทธได้แวะเยี่ยมบ้านใด บ้านนั้น ต้องสดใสรื่นเริงนี่เสียจริงๆๆดีครับ เป้นประโยชน์กับผู้อ่านด้วย อนุโมทนาบุญครับ

     
  20. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...