แฉอาถรรพ์-ซานติก้าผับ..ตั้งทับ"สุสาน"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle height=10>แฉอาถรรพ์-ซานติก้าผับ ตั้งทับ"สุสาน" เหยื่อไฟนรกดับเพิ่มอีก1 </TD></TR><TR><TD align=middle height=10>

​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD align=middle height=10></TD></TR><TR><TD>

สู่สุขคติ : ญาติพี่น้องและเพื่อนที่รอดชีวิตจากเหตุไฟไหม้"ซานติก้า"ผับนรกย่านทองหล่อ นำเครื่องเซ่น และจุดธูปอธิษฐานบอกกล่าววิญญาณที่ถูกไฟคลอกรมควันเสียชีวิต 60 ศพ ให้ไปสู่สุขคติ จากเหตุเคาท์ดาวน์ระทึกขวัญ ซึ่งมีคนบาดเจ็บกว่า 200คน เมื่อวันที่ 2 มกราคม ​

ยอดตาย60ศพ/ต่างชาติสาหัส21
เจ้าของไม่โผล่/หมายเรียกผจก.
กทม.สั่งรื้อทิ้งแล้วอาคารมรณะ​

จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้"ซานติก้าผับ"สถานบันเทิงชื่อดัง ตั้งอยู่ระหว่างซอยเอกมัย9 กับ 11 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.ในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 59ศพและบาดเจ็บกว่า 200คนนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 2มกราคม พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.),พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผู้บัญชาการสำนักนิติวิทยาศาสตร์(ผบช.สนว.ตร.),พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5,พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ,พ.ต.อ.นิธิ บรรฑุวงศ์ ผกก.กองพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและการส่งกลับ สนว.ตร.พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ร่วมประชุมคลี่คลายคดี โดยใช้เวลา 1ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น ​

ตร.เร่งคลายคดีซานติก้าผับ
พล.ต.อ.จงรัก เปิดเผยหลังประชุมว่า ได้ประชุมเพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนผู้เสียชีวิตสรุปว่า มีผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ทราบชื่อทั้งสิ้น 21ศพ ส่วนนี้ขอให้ญาติผู้เสียชีวิตนำหลักฐาน เอกสารและข้อมูลมาที่ สน.ทองหล่อ เพราะมีการตั้งศูนย์ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ที่นี่ ในส่วนรถยนต์ที่พบในที่เกิดเหตุ มีทั้งสิ้น 27คัน ขณะนี้มีผู้ติดต่อขอรับรถกลับแล้วเกือบหมด เหลือเพียง 3คันที่จอดอยู่ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเจ้าขอจะเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เราทราบชื่อทั้งหมดแล้วและขอให้ญาตินำหลักฐานเพื่อมารับรถคืนแล้ว ​

ผิดแน่ปล่อยโจ๋ต่ำ17ใช้บริการ
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวต่อว่า จากที่พบปรากฏว่า มีความผิดชัดเจนในเรื่องปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 17ปี เข้าไปใช้บริการ ซึ่งจะต้องดำเนินคดีกับผู้จัดการร้าน หรือผู้เกี่ยวข้อง ส่วนเจ้าของคือ นายวิสุข หรือเฮียขาว เสร็จสวัสดิ์ ขณะนี้ได้ประสานว่าจะเข้าพบเจ้าหน้าที่และต้องมาแน่นอน เพราะต้องตรวจสอบเรื่องเอกสารต่างๆ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า สถานบันเทิงแห่งนี้ เคยทำเรื่องขอใบอนุญาตเมื่อปี2547 แต่สถานที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จดี จึงไม่ออกใบอนุญาตได้ ทำให้ทางร้านยื่นเรื่องกับทางศาลศาลปกครอง กระทั่งศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้เปิดกิจการได้ ส่วนด้านการสอบสวนตอนนี้สอบปากคำไปแล้ว 20ปาก ซึ่งรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ ​

รถยนต์3คันรอเจ้าของรับ
จากนั้น พล.ต.อ.จงรัก นำภาพถ่ายเจ้าของรถยนต์ที่จอดไว้ในลานจอดรถซานติก้าผับ ทั้ง 3 คน มาแสดงให้สื่อมวลชนดู พร้อมนำรถยนต์มาเปิดตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยเจ้าของรถยนต์ทั้ง 3คน ประกอบด้วย นางปรียานุช คงกำเนิด เจ้าของรถยนต์โตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ศศ 7698 กทม.ตรวจสอบในรถพบกระเป๋าสะพายหนังสีดำของสตรี ภายในพบนามบัตรระบุชื่อ น.ส.สายสุนีย์ มณีศิลป์ ทราบว่ารักษาตัวอยู่ รพ.จุฬาฯ รายต่อมา คือ นายสมภพ ธุระเสร็จ เจ้าของรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีเทา ทะเบียน ภว 3077 กทม.และน.ส.อัญชิษฐา ด้วงสวัสดิ์ เจ้าของรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีม่วง ทะเบียน สฬ 6274 กทม. พบกระเป๋าสะพาย 2ใบ มีสมุดบัญชีธนาคารทหารไทยระบุชื่อ น.ส.ปิยะกมลและน.ส.ปุณชรฐา ศิริเชษฐ์วงศ์ ซึ่งคาดว่านะเดินทางด้วยกัน ​

ส่อวุ่นผับมรณะหมดประกัน
ด้าน พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ซานติก้าผับ ไม่มีประกันภัย เนื่องจากหมดประกันไป 4เดือนก่อนเกิดเหตุและไม่ได้ทำการต่อประกัน เนื่องจากผับกำลังหมดสัญญาเช่า ประเด็นเรื่องวางเพลิงจึงไม่น่าจะเกี่ยวข้อง แต่จะเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก่อน ส่วนเจ้าของสถานที่ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัดว่า จะเดินทางมาให้ปากคำเมื่อใด โดยทราบว่า นายวิสุข มีอาการสำลักควัน โดยขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ไม่ทราบว่าเป็นที่ใด ​

ออกหมายเรียกเอ็มดี5มค.
อย่างไรก็ตาม ได้รับแจ้งว่า นายวิสุข ติดต่อมายัง ผกก.สน.ทองหล่อ ขอเลื่อนเข้าให้ปากคำ โดยอ้างว่าไม่สบาย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมออกหมายเรียก นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ กรรมการผู้จัดการซานติก้าผับ มาให้ปากคำในฐานะพยาน โดยสั่งเข้าให้ปากคำในวันที่ 5มกราคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมชัย รักธรรมกิจ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เขต1 เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ พร้อมกล่าวว่า มาที่นี่เพื่อประชาสัมพันธ์ญาติผู้เสียชีวิตให้ทราบว่า ผู้ใดทำประกันภัยไว้กับบริษัทใดบ้างและรายใดที่มีปัญหา ให้เข้าปรึกษาได้ที่ คปภ.และจะมารอพบ นายวิสุข เพื่อสอบถามว่า ได้ทำประกันภัยไว้ที่ใดบ้าง เพื่อให้สามารถทำการช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง ​

เขตวัฒนาสั่งรื้ออาคารทิ้ง
ขณะที่ นายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผอ.เขตวัฒนา เปิดเผยว่า ในส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เขตได้ตั้งศูนย์ประสานงานส่วนหน้าขึ้นที่หน้าสถานบันเทิงที่เกิดเหตุ ซึ่งมีญาติผู้ได้รับบาดเจ็บมาติดต่อสอบถามข้อมูล รวมทั้งขณะนี้ได้เขตได้ทยอยออกใบมรณะบัตรให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยกับสถานประกอบการต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตวัฒนาแล้ว ซึ่งเชื่อว่าตามสถานประกอบการต่างๆ คงไม่มีการเล่นดอกไม้ไฟอะไรต่างๆ เพราะผ่านหน้าเทศกาลไปแล้ว
มีรายงานแจ้งว่า นายประกิต สัตยาอภิธาน หัวหน้าฝ่ายโยธา เขตวัฒนา ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 1มกราคมที่ผ่านมา ให้เจ้าของสถานบันเทิงซานติก้าผับทำการรื้อถอนอาคารหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ​

ผลสอบถึงมือปลัด5ม.ค.
ทางด้าน นางวรรณวิไล พรมลักขโณ รองปลัด กทม.ในฐานะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ เปิดเผยว่า ขณะนี้เขตวัฒนากำลังเร่งทำรายงานสรุปข้อมูลทั้งหมด ประกอบด้วยเรื่องการอนุญาตก่อสร้างอาคาร โครงสร้างอาคารมีการต่อเติมหรือไม่ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเหยื่อเพลิงไหม้ คาดว่ารายงานจะส่งถึงมือคณะกรรมการในวันที่ 4มกราคมนี้ ก่อนจะนำเสนอ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.พิจารณาในวันที่ 5มกราคม ซึ่งเป็นไปตามกรอบเวลาที่ปลัด กทม.สั่งการให้ดำเนินการสรุปข้อเท็จจริงภายใน 3วัน ​

มท.1สั่งตรวจสถานบันเทิง
ขณะที่ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.กระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนำกระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุพลิงไหม้ซานติก้าผับที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ว่า ต่อไปนี้สถานบันเทิงต้องออกแบบให้ได้ตามหลักสากล โดยเฉพาะประตูฉุกเฉินและเมื่อก่อสร้างเสร็จต้องผ่านการตรวจสอบ ว่าเป็นไปตามหลักวิศวกรรมหรือไม่
"กรุงเทพมหานครต้องสุ่มตรวจสถานบันเทิงว่า มีความปลอดภัยตามหลักที่กำหนดไว้หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจจะให้พักกิจการชั่วคราว ซึ่งถือเป็นวิธีการป้องปรามอีกแบบหนึ่ง ส่วนการควบคุมนักท่องเที่ยวที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่อนุญาต ปกติมีระเบียบอยู่แล้ว แต่การดูแลอาจจะอ่อนไป จึงต้องเข้มงวดมากกว่านี้"นายชวรัตน์ กล่าว ​

ซินแซทำพิธีเชิญวิญญาณ
ต่อมา เวลา 11.00น.นายดำรงชัย แท่นศรีเจริญ ซินแสอิสระ เดินทางมาทำพิธีเผากระดาษส่งวิญญาณบริเวณด้านหน้าซานติก้าผับ ก่อนเผยว่า วันนี้ตนนำกระดาษมาเผาส่งวิญญาณให้กับผู้ตาย เพราะถือว่าเป็นวิญญาณที่ยังวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมคำนวณทางหลักฮวงจุ้ยพบว่า ซานติก้าผับ เป็นจุดอับมงคล ทำเลไม่ดี เป็นประตูทางเข้าออกของวิญญาณ สาเหตุที่มีคนตายจำนวนมากคาดว่าน่าจะเป็นวิญญาณเก่ามาเอาตัวตายตัวแทน เพื่อให้วิญญาญดวงใหม่มาเฝ้าแทน ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกช่วงปีใหม่ สำหรับตนนั้นในอดีตเคยดูดวงให้กับ นายยงยุทธ ติยะไพรัชและส.ส.พรรคไทยรักไทย สมัยที่ยังเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลอยู่​

ผวาอาถรรพ์-สร้างทับสุสาน
เวลาไล่เรี่ยกัน นางอรทัย วิไลลับ อายุ 44ปี มารดา นายมงคล วันบันเทิง อายุ 22ปี พนักงานบาร์น้ำในซานติก้าผับ ซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ได้นำธูปและดอกไม้มาเรียกวิญญาณโดยเชิญ พระครูสังขลักษณ์ไวย จากวัดอุทัยธาราม ย่านบางกะปิ ทำพิธีปั้นหุ้นรูปมนุษย์ ทำจากดินน้ำมันสีเขียว พร้อมทั้งแปะกระดาษเขียนชื่อ นายมงคล ทำสายสิญจน์คล้องสวดบริกรรมคถาเรียกวิญญาณ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดอุทัยธาราม นอกจากนี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศและเดินทางมาตรวจดูสถานที่เกิดเหตุ พร้อมกับไว้อาลัยให้กับผู้ที่จากไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในย่านดังกล่าวต่างพากันรำลือว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอาถรรพ์ เนื่องจากที่ตั้งของซานติก้าผับในอดีตเคยเป็นกุโบว์ หรือสุสานของผู้นับถือศาสนาอิสลาม ​

แฉตั้งกางเขน-โลงศพแต่งผับ
ทั้งนี้ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ซานติก้าผับถูกตกแต่งและออกแบบให้ต่างไปจากผับอื่นๆ ในย่านเดียวกัน โดยเฉพาะตัวอาคารที่ตั้งของผับนั้น ถูกออกแบบให้ละม้ายโบสถ์เก่าแก่ของคริสต์ศาสนา ซ้ำภายในยังมี"กางเขน"อันเป็นสัญลักษณ์ของพระเยซู ตั้งประดับตระหง่านติดฝาผนังและตกแต่งด้วยแสงไฟให้สวยงามและน่าเกรงขามยิ่งนัก ที่สำคัญ ด้านล่างเยื้องที่ตั้งไม้กางเขนนั้น ซานติก้าผับยัง นำ"หีบศพ"หรือ"โลงศพ"มาตั้งไว้ด้วย ทั้งทราบกันอยู่ทั่วไปแล้วว่า"โลงศพ"ควรตั้งอยู่ในที่อันควรตั้ง เพราะทุกศาสนาย่อมรู้อยู่แล้วว่า การตั้งโลงศพในที่อันไม่สมควรติดตั้ง เป็นมงคลหรือไม่ ​

พี่รับรถยนต์แทนน้องบาดเจ็บ
จากนั้น เวลา 12.30น.นายธนกร ด้วงสวัสดิ์ พี่ชายของ น.ส.อัญชิษฐา ด้วงสวัสดิ์ เจ้าของรถยนต์โตโยต้า ยาริส เดินทางมาติดต่อขอรับรถยนต์และทรัพย์สินของน้องสาวและเพื่อนน้องสาว นายธนกร กล่าวว่า น้องสาวตนมาเที่ยวพร้อมกับเพื่อนๆเพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่ หลังจากเกิดเหตุได้นำตัวน้องสาวส่งไปรักษาที่ รพ.กรุงเทพ ซึ่งทั้งน้องสาวและเพื่อนอยู่ในอาการสาหัส ขณะนี้ยังใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ตนจึงเดินทางมารับรถยนต์และทรัพย์สินแทน ขณะที่รถยนต์อีก 2คัน ก็มีญาติผู้ได้รับาดเจ็บเดินทางมารับรถยนต์กลับไปหมดแล้วเช่นกัน ​

แม่พาลูกเข้าแจ้งความเพิ่ม
เวลาไล่เรี่ยกัน นายสกล การพจน์ พา นายชลสิทธิ์ การพจน์ อายุ 24ปี บุตรชาย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีเจ้าของผับ เพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ พร้อมกับขอตรวจสอบทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ
นายสกล กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุลูกชายไปเที่ยวซานติก้าพร้อมกับพี่ชาย คือ นายเมธี การพจน์ เพื่อฉลองปีใหม่ ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งสองอยู่หน้าเวทีดนตรี โดย นายชลสิทธิ์กำลังถ่ายภาพบรรยากาศภายในผับ ขณะนั้นเห็นบทเวทีมีการใช้เอฟเฟ็กซ์ประกอบการแสดงเป็นลูกไฟพุ่งขึ้นไปโดนของตกแต่งภายในร้านที่ห้อยอยู่ด้านบน นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟ็กซ์บางส่วนที่อยู่หลังวงดนตรีก็ทำให้เกิดสะเก็ดไฟติดผ้าม่านและของตกแต่งเวทีจนไฟลุกท่วมอย่างรวดเร็ว หลังผ่านไป 30วินาที ไฟก็ลามไปทั่ว คนในร้านพากันแตกตื่น ส่วน นายชลสิทธิ์กับพี่ชาย พยายามหาทางหนี แต่ถูกฝูงชนผลักดันจนแยกไปคนละทาง ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะมาช่วยชีวิตไว้ได้ ​

ญาติโวยรับทรัพย์สินไม่ได้
ขณะเดียวกัน เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ โดย นางพนิดา โกศรี อายุ 28 ปี พร้อมลูก เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 1มกราคม ขณะที่ตนมาติดต่อขอดูศพสามีคือ นายอาทิตย์เทพ ปัทมานุรักษ์ ได้เห็นทรัพย์สิน ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ หนัก 5บาท พระเลี่ยมทอง 2องค์ กระเป๋าสตางค์และบัตรเครดิต ซึ่งเป็นของสามี อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู แต่ขอรับทรัพย์สินดังกล่าวไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯอ้างว่า ให้ไปติดต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ตนจึงไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอรับทรัพย์สินคืน ปรากฏว่า สร้องคอทองคำและพระเลี่ยมทอง สูญหายไป โดยหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ จึงมาร้องผ่านสื่อมวลชน ​

จนท.ร่วมกตัญญูปัดขโมย
ด้าน นายสหชาติ ประถิ่น เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ออกมาแถลงโต้ ว่า ตนขอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับทางมูลนิธิฯ ซึ่งระหว่างพวกตนนำศพ นายอาทิตย์เทพ มาถึงสถาบันนิติเวช ก็ไม่พบทรัพย์สินตามกล่าวอ้างและการทำงานของพวกตน จะมีเจ้าหน้าที่นิติเวช มายืนเป็นพยาน มีการถ่ายรูปและบันทึกรายละเอียดไว้ในแบบฟอร์มด้วย เรื่องนี้น่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดของ นางพนิดา คาดว่าเจ้าตัวคงสับสน เพราะมีทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตอีก 1ราย ที่มีสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองลักษณะคล้ายของ นายอาทิตย์เทพ เช่นกัน ​

เหยื่อซานติก้าตายเพิ่มอีก1
สำหรับอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เดือนเพ็ญ พรหมทอง อายุ 24ปี ที่เข้ารักษาตัวยัง รพ.รามคำแหง เนื่องจากถูกไฟไหม้เกือบทั้งตัว ได้เสียชีวิตลง เมื่อเวลา 02.40น.วันที่ 2มกราคม โดยญาติมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว เหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ จึงทำให้มีผู้เสียชีวิต 60คน (รวม น.ส.เดือนเพ็ญ รายล่าสุด) ​

สุดเศร้าญาติร่ำไห้รับศพ
ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับที่ถูกส่งมาชันสูตรทั้ง 28ราย มารอรับศพเป็นจำนวนมาก ส่วนบรรยากาศที่ รพ.จุฬาฯ ก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเช่นกัน มีศพผู้เสียชีวิตถูกส่งมาผ่าพิสูจน์จำนวน 30ราย
ด้าน พ.ต.อ.พรชัย สุทธีรกุล รอง ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา ระบุว่า ยังคงเหลือร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้อยู่ที่สถาบันนิติเวช ทั้งสิ้น 17ราย ในจำนวนดังกล่าวไม่ทราบชื่อ 11ราย เป็นหญิง 6รายและชาย 5ราย ขณะที่สองวันที่ผ่านมา ส่งมอบผู้เสียชีวิตให้ญาติได้แล้ว 12ราย จาก 28ราย ​

ต่างชาติยังนอนรพ.21คน
ขณะที่ นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)กล่าวว่า สรุปผลจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 229คน ยังรักษาในโรงพยาบาล 86คน ในจำนวนนี้อาการสาหัสต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 38คน เป็นชาย 21คนและหญิง 17คน ทั้งนี้ มีชาวต่างชาติบาดเจ็บทั้งหมด 41คน ในจำนวนนี้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 21คน โดยจะนำรายชื่อผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ซึ่งสามารถตรวจสอบชื่อได้แล้ว 23ราย ขึ้นเวบไซต์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ http://narendhorn.moph.go.th ​

ไม่พบชาวสิงคโปร์หาย2คน
วันเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ แถลงว่า ชาวสิงคโปร์ 2คน ที่อยู่ในซานติก้าผับ ช่วงที่เกิดเพลิงไหม้ ยังคงหาตัวไม่พบ ขณะนี้สถานทูตสิงคโปร์ในกรุงเทพฯ กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการไทย เพื่อระบุสถานะของคนทั้งสอง รวมทั้งตรวจสอบว่า มีชาวสิงคโปร์คนอื่นๆ ได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ มีชาวสิงคโปร์เสียชีวิต 1คน ​

จีนส่งเวชภัณฑ์ช่วยเหยื่อ
ด้าน นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากเหตุไฟไหม้สถานบันเทิงซานติก้าผับ นายจาง จิ่วหวน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้ส่งสารแสดงความเสียใจมายังกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมประสานส่งเวชภัณฑ์รักษาแผลที่ถูกความร้อนมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยส่งผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง คาดว่าเวชภัณฑ์จะมาถึงในวันที่ 3มกราคม ​

มูลค่า5แสนดอลลาร์สหรัฐ
นายมานิต นพอมรบดี รมช.กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)และคณะ ไปตรวจซานติก้าผับ พร้อมกล่าวว่า ที่ทางการจีนยื่นมือช่วยเหลือไทยในเรื่องเวชภัณฑ์ยาสมุนไพร รักษาผู้บาดเจ็บจากการถูกไฟคลอก มูลค่าประมาณ 5แสนดอลลาร์สหรัฐ หากไทยตอบรับในเบื้องต้น ทางการจีนจะส่งเวชภัณฑ์ยาและแพทย์ที่มีความชำนาญรักษาบาดแผลจากไฟไหม้มาให้คำปรึกษาทันที ขณะนี้ไทยยังอยู่ระหว่างการหารือกับผู้เชี่ยวชาญของไทย ซึ่งไทยเคยส่งทีมแพทย์ไทยไปช่วยรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนเมื่อปี2550 ที่ผ่านมาเช่นกัน ​

ไหม้ผับอีกแห่งหวิดซ้ำรอย
ขณะเดียวกัน เกิดเหตุไฟไหม้สถานบันเทิงอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตวัฒนา เกือบจะซ้ำรอยเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ทั้งนี้ เมื่อเวลา 02.30น.วันที่ 2มกราคม พ.ต.ท.ยาณวุฒิ เลี่ยมแก้ว สารวัตรเวร สน.ทองหล่อ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้"รอว์ไฮด์ผับ"ซอยคาวบอย แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.จึงประสานรถดับเพลิงเข้าสกัดไฟ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 5ชั้น เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำประมาณ 15นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เบื้องต้นยังสรุปไม่ได้ว่า สาเหตุเกิดจากอะไร เพราะช่วงเกิดเหตุร้านปิดบริการแล้ว โดยจะเรียกพนักงานมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง
นายเอเรียน เชลเบอร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นดีเจดึงปลั๊กไฟประดับต้นคริสมาสต์ แล้วมีประกายไฟตกบนพื้น จากนั้นพนักงานรีบนำถังดับเพลิงมาฉีด แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิง จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ระหว่างนั้นเห็นคนปีนหนีลงทางบันไดหนีไฟออกจากอาคาร แต่ไม่นานรถดับเพลิงก็มาถึงและควบคุมเพลิงไว้ได้ ​

</TD></TR><TR><TD height=10>



</TD></TR><TR><TD align=right>วันที่ 3/1/2009



</TD></TR></TBODY></TABLE>
------
ที่มา:แนวหน้า
http://www.naewna.com/news.asp?ID=141243

 

แล้วแต่คนจะเชื่ออะนะ แต่ปลาว่าเพราะคนมันประมาทเกินไป

พุทธองค์สอนให้ไม่ประมาท... ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย

 

ต้องขออภัย ถ้าหากข้อความไม่โดนใจ......ท่านๆนะครับ

และนี่คือ...กะทะทองแดง...บนโลกมนุษย์ดีดีนี่เอง
สถานบันเทิงที่ล้วนมอมเมาหล่ามนุษย์ ผู้ลุ่มหลงอยู่ใน กามคุณทั้ง 5
ผู้ผลิตสุรา ผู้ขายสุรา ผู้ร่วมงาน..ทีมงานในวงการบันเทิง ทุกๆฝ่าย
ตลอดจนผู้เสพสิ่งเหล่านี้ อย่างเมามันในอารมณ์ ด้วยความประมาท
ทุกสิ่งล้วนเป็นองค์ประกอบกัน ทำให้วงจรธุรกิจและสื่อสร้างสรรค์ด้านมืดนี้
เกิดเพิ่มมากขึ้นในสังคม................
แล้วมนุษย์พวกนี้จักได้ไปสวรรค์ได้อย่างไรเล่า..?

เทศกาลเฉลิมฉลองยังมีมนุษย์ผู้ประเสริฐอีกมาก ที่เลือกทำสิ่งที่ดีงาม
ให้เกิดภายในครอบครัวและสังคม และเรายังขอเชิญชวน และพยามดึง ผู้มัวเมาเหล่านั้นให้หันมาทำตาม (ซึ่งดูเป็นเรื่องยาก...เหลือเกิน)

พระพุทธองค์เตือนไว้แล้ว..ทำไมมนุษย์พวกนี้ยังคงโง่ หลงเชื่อแต่สมองตัวเองอยู่
ลองนึกสภาพเวลาโดนไฟร้อนๆลวก ในผับ ทรมานแทบขาดใจ รอดมาได้ ก็โชคดีไปตายไปยังไม่รู้ต้องไปทรมานกับไฟนรก ร้อนๆในกะทะทองแดง ของท่านยมอีกนานเท่าไร
การตายของมนุษย์ที่ดีงาม ...ในสังคมย่อมได้รับการยกย่องสรรเสริญ
แต่การตายด้วยเหตุของความเมามันประมาทของท่านเวลานี้...นั้น ก็คงจะตรงกันข้าม


และนี่ ...เป็นการเตือนสำหรับมนุษย์พวกที่รอด
และเป็นการลงทัณฐ์แล้ว สำหรับ มนุษย์ผู้หมดโอกาสสร้างบุญอีกต่อไป
ขณะที่มีชีวิตอยู่ไม่เคยได้สร้างบุญ สร้างความดีเอาไว้ เป็นเกราะป้องกันอันตราย บัดนี้ได้เวลา ที่ท่านยมฑูต ยมบาล ต้องทำงานหนัก
กับการกวาดล้าง มนุษย์ไร้ค่าในสังคมอีกครั้ง.........

จงหมั่นสร้างความดีงามเถิด....ท่านทั้งหลาย....
สวรรค์ และ นรก รอให้ท่านเลือกได้ ด้วยกรรมดีและเลวเป็นตัวตั้ง อยู่แล้ว
จงเชื่อมั่นและศรัทธาในคำสอนขององค์พระพุทธเจ้าของเรา...เถิด.....

 

ของเค้าแรงจริงๆ

 

ไม่มีสิ่งใดในโลก เป็นสิ่งบังเอิญ
กรรมดี กรรมชั่ว ได้จัดสรรเอาไว้แล้ว
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ผลบุญทั้งลายที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้ว
ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติขออุทิศให้
ดวงวิญญาณท่านทั้งหลายไปสู่สุขคติเถิด

 

มันเป็นอุบัติเหตุ น่ะ อุบัติ ของ เหตุ เคยสร้างเหตุไว้
และนี่คือ การอุบัติ ของ ผล
ดันมาตายตอนกินเหล้าซะด้วย ทีนี่แหละ

 

ถึงไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่
แต่ก็นะ ทำไมถึงจุดพลุในผับ เพราะความประมาทแท้ๆ
เกิดผิดพลาดขึ้นมา ก็แก้ไขเรียกร้องกลับคืนมาไม่ได้แล้ว

 

อืมๆ...

 

ขอแสดงความเสียใจ้ด้วยคัรบ

 

ทำกรรมมาร่วมกัน มารวมตัวกัน ก็เลยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

 

เคยได้ยินมาว่า สถานที่อโคจร + คนที่ชะตาถึงคาดหลายคนรวมกัน สามารถทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้เลย ไม่รู้จริงหรือป่าว

 

เห้อ...อําลาซานติก้า...อำลานักท่องเที่ยวตลอดไปเลย เหอะๆๆ

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ผลบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้ว
ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติขออุทิศให้
ดวงวิญญาณท่านทั้งหลายไปสู่สุขคติเถิด

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

เห็นด้วยอย่างมากค่ะ ปีใหม่อยู่กับครอบครัวพากันไปฟังธรรม ตักบาตรกันนะจ๊ะ

 

ยังไงก็อุทิศบุญให้ผู้เสียชีวิตบ้างนะคับ

 

ขอให้ทุกดวงวิญญาณหลุดพ้นซึ่งความทุกข์ความเจ็บปวด ด้วยการนึกถึงบุญ อำนาจบุญของพระรัตนตรัยของพระพุทธเจ้า ที่ได้เคยสร้างมาเพือหาทางออกคือสุขคติด้วยเถิด

 

ขอเชิญชาวพูทธทุกๆท่าน ได้ร่วมกันเจริญศีลสมาธิ ปฏิบัติธรรม ทุกๆวันและได้โปรดแผ่บุญกุศลให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตในผับซานติก้า ด้วยดวงจิตที่เมตตาสงสารเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ