เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 5 มีนาคม 2025 at 16:47.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,661
    ค่าพลัง:
    +26,525
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,661
    ค่าพลัง:
    +26,525
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพไปทำวัตรเช้าร่วมกับว่าที่พระอุปัชฌาย์ที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) หลังจากที่ได้ฉันเช้าร่วมกันแล้ว ก่อนการบรรยายชั่วโมงแรกโดยพระเดชพระคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ. ๖) เจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี กระผม/อาตมภาพก็มีหน้าที่ "เรียกแขก" ซึ่งเป็นการประพฤติปฏิบัติส่วนตัวที่มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็คือไม่เคยเร่งให้ใครเข้าห้องอบรม ไม่เคยเร่งให้ใครเข้าที่ปฏิบัติธรรม หากแต่ว่าเล่าเรื่องที่สมควรเล่าไปเรื่อย ๆ ใครสนใจใคร่ฟังก็จะมาเอง แล้วท้ายที่สุดยังไม่ทันจะถึงเวลา ทุกคนก็มากันครบครันจริง ๆ..!

    ในลักษณะอย่างนี้ บางท่านบอกว่าถ้าไม่มีประสบการณ์มากแล้ว เราจะไม่สามารถเล่าสารพัดเรื่องได้ตลอดระยะเวลาการอบรมหลายวัน อย่างเช่นว่าการอบรมพระกรรมฐานประจำปี ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

    ซึ่งถ้าเป็นระดับปริญญาตรีก็ ๑๐ วันต่อเนื่องกัน ระดับปริญญาโทก็ ๑๕ วันต่อเนื่องกัน เหล่านี้เป็นต้น แต่กระผม/อาตมภาพก็ทำให้ทุกท่านดูมาโดยตลอด เพียงแต่ว่าผู้ที่ต้องรับช่วงต่อทำท่าท้อใจ บอกว่าไม่ได้มีเรื่องเล่ามากมายขนาดนี้ จึงไม่สามารถที่จะเลียนแบบปฏิปทานี้ได้..!

    ครั้นได้เวลาแล้ว กระผม/อาตมภาพก็มอบเวรประเคนไมค์ถวายหน้าที่ให้กับท่านเจ้าคุณอ๋อ (พระวชิรปัญญาภรณ์, ดร.) เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านได้นิมนต์พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณทองดำ (พระราชวิสุทธาภรณ์) ซึ่งมาถึงก่อนเวลาเช่นกัน และนั่งฟังกระผม/อาตมภาพเรียกแขกอยู่

    หลวงพ่อท่านได้นำบูชาพระรัตนตรัย รับการถวายสักการะจากตัวแทนว่าที่พระอุปัชฌาย์ แล้วก็เริ่มบรรยายถวายความรู้ ที่กระผม/อาตมภาพบอกกับว่าที่พระอุปัชฌาย์ทุกรูปว่า "หลวงพ่อเจ้าคุณทองดำท่านพูดเรื่อย ๆ พูดง่าย ๆ ฟังสบาย ๆ แต่ถ้ารู้จักเก็บ เราจะได้อะไรมากทีเดียว"

    กระผม/อาตมภาพนั้น คราวก่อนโน้นฟัง "อาการของคนแก่" จากท่าน ครั้งแรกก็รับได้ไม่ครบถ้วน มารับเอาครบถ้วนในครั้งนี้เอง ซึ่งเคยได้เรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมมาหลายครั้งแล้วว่า กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นคนความจำค่อนข้างดี ถ้าฟังเรื่องอะไรครั้งแรกจะจำได้ ๗๐ - ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าฟังครั้งที่ ๒ มักจะจำได้ครบถ้วน แต่ถ้าจะเอาให้จำได้แน่นอน ขอฟังสัก ๓ ครั้ง..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,661
    ค่าพลัง:
    +26,525
    จากคราวก่อนโน้นที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณทองดำท่านบอกว่า คนแก่จะมีอาการก็คือ

    ๑) ใจไม่ฟู ไม่กระตือรือร้นกับเรื่องต่าง ๆ เพราะว่ามีชีวิตมายาวนาน จนหมดความตื่นเต้นกับทุกเรื่องไปแล้ว

    ๒) ดูไม่ชัด ก็คือ สายตาย่ำแย่ บางท่านถ้าไม่ใช้แว่น มองอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ใครเป็นลูก ใครเป็นหลาน ต้องใช้วิธีจำเสียงเอา..!

    ๓) กัดไม่เข้า เนื่องเพราะว่าฟันฟางหลุดร่วงไปตามสภาพของสังขาร ที่เฒ่าชะแรแก่ชรามาหลายสิบปี ถึงเวลาถ้าไม่มีฟันปลอมให้อาศัย ก็กัดอะไรไม่เข้า กระนั้นก็ยังมีมานะพยายาม อย่างเช่นว่าบางคนอยากจะกินถั่วลิสงคั่ว ก็อุตส่าห์ให้ลูกหลานใส่ครกตำมาให้ เป็นต้น

    ๔) เบาไม่รู้ ก็คือบางทีก็ปัสสาวะไหลไม่รู้ตัว เนื่องจากว่าเข้าห้องน้ำไปแล้ว แต่บางท่านเป็นโรคต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะไม่สุด เมื่อออกจากห้องน้ำมา บางทีก็ปัสสาวะไหลซ้ำอีก เป็นต้น

    ๕) หูไม่ดี ก็เป็นไปตามสภาพสังขารเช่นกัน ให้สังเกตว่าคนแก่ที่หูไม่ดีมักจะพูดเสียงดัง เนื่องจากว่าตัวเองก็ไม่ได้ยินเสียงตัวเอง ก็เลยทำให้ต้องพูดเสียงดัง เพราะคิดว่าตัวเองนั้นพูดเสียงเบา

    เรื่องนี้ต้องถามหลวงปู่ประยงค์ (พระครูสุวัจจริยาภรณ์) วัดบางนมโค แต่ถ้าขืนไปถาม กระผม/อาตมภาพก็คงได้มะเหงกเป็นรางวัล..! เนื่องเพราะว่าใครที่ไปกราบหลวงปู่ประยงค์ เจ้าอาวาสวัดบางนมโคก็จะรู้ดีว่า ท่านจะส่งเสียงดังคับศาลามาเลยทีเดียว เนื่องเพราะว่าหูของท่านไม่ค่อยได้ยินแล้ว

    ๖) มีเพื่อนน้อย เพราะว่าอยู่มานาน เพื่อนฝูงทั้งรุ่นเดียวกัน รุ่นพี่ หรือว่ารุ่นน้องก็เสียชีวิตกันไปมากต่อมากด้วยกัน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,661
    ค่าพลัง:
    +26,525
    คราวที่แล้ว กระผม/อาตมภาพจำได้แค่นี้ ก็คือคนแก่นั้นใจไม่ฟู ดูไม่ชัด กัดไม่เข้า เบาไม่รู้ หูไม่ดี มีเพื่อนน้อย มางวดนี้ก็ได้รับต่อมาอีก ก็คือ

    ๗) คอยเป็นไข้ อันนี้พอได้ยินแล้วกระผม/อาตมภาพก็ถึงขนาดขำเลยทีเดียว เนื่องเพราะว่าคนแก่นั้นส่วนใหญ่สภาพร่างกายก็อ่อนแอ ออกอาการเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพเป็นอยู่ตรงกันเลย ก็คือเป็นไข้อยู่เกือบทุกวัน

    ๘) ไอยังเหนื่อย ก็คือ เรี่ยวแรงไม่มีแล้ว ถ้าเกิดระคายคอ คันคอ หรือว่าเป็นหวัดอะไรขึ้นมา ถ้าไอบางทีก็หายใจไม่ทัน

    ๙) เมื่อยไปหมด เป็นเพราะว่าแก่ชราแล้ว เลือดลมไม่ดี เมื่อถึงเวลา เลือดลมเดินไม่สะดวก ไปอั้นอยู่ตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บ้าง ก็ทำให้ปวดให้เมื่อยไปหมด คนแก่จึงต้องอาศัยลูกหลานช่วยเหยียบช่วยนวดให้ ลูกหลานก็คอยแต่จะวิ่งเล่นอย่างเดียว ถึงเวลาก็เหยียบให้แบบเสียไม่ได้ เหล่านี้เป็นต้น และ
    ข้อสุดท้าย

    ๑๐) ตดยังแผ่ว แปลว่าแม้แต่ผายลมก็ไม่มีแรง ถ้าลักษณะอย่างนี้ ดูท่าว่าชีวิตจะไม่ยืนยาว

    กระผม/อาตมภาพก็เลยต่อให้ขำ ๆ เป็นข้อที่ ๑๑ ว่า แมวชนล้ม ก็คือคนแก่ พอไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ไปกระทบอะไรผิดจังหวะเข้าก็ล้มเอาง่าย ๆ แล้วล้มแต่ละทีก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะว่ากระดูกแตกกระดูกหัก ฟกช้ำดำเขียว รักษาตัวกันนานทีเดียว
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,661
    ค่าพลัง:
    +26,525
    เมื่อฟังท่านบรรยายจบแล้ว ก็ต่อด้วยท่านเจ้าคุณสมชาย - พระเดชพระคุณพระราชวชิรโมลี (สมชาย พุทฺธญาโณ ป.ธ. ๗) รองเจ้าคณะภาค ๑๔ ซึ่งท่านจะบรรยายต่อ แต่กระผม/อาตมภาพรับนัดจากหลวงพ่อญา (พระครูวัชรชลธรรม) เจ้าอาวาสวัดชลธราราม (วัดท่าซิก) เจ้าคณะอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เอาไว้ ท่านบอกว่าจะมาถวายมุทิตา เนื่องในโอกาสที่กระผม/อาตมภาพได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี จึงต้องกราบลาผู้บังคับบัญชาเดินทางกลับวัดอุทยาน

    แต่พอมาถึงวัด เจอข้อมูลในกลุ่มไลน์แล้วก็ต้องมาเครียดว่า มีอยู่สถานที่หนึ่ง เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมมีชื่อเสียงมาก แต่เนื่องจากว่าวัตรปฏิบัตินั้นค่อนข้างจะแปลกประหลาด จึงมีผู้ถามมาในกลุ่มไลน์ว่า "การปฏิบัติแบบนี้ใช่แนวทางในพระพุทธศาสนาหรือไม่ ?"

    กระผม/อาตมภาพดูข้อมูลแล้วว่า สำนักนี้นั้นท่านไม่เอาเรื่องการสวดมนต์ไหว้พระ ไม่เอาเรื่องการรักษาศีล ไม่เอาเรื่องการเจริญสมาธิภาวนา บอกอยู่อย่างเดียวว่า "เป็นการยึด เป็นการติด เป็นการผิดรูปแบบ หลุดพ้นไม่ได้" ต้องปฏิบัติตามแบบของท่านอย่างเดียวเท่านั้น แล้วแบบของท่านก็คือขอขมาผู้นั้น ขอขมาผู้นี้

    เมื่อมีผู้สอบถามมา กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมีความมั่นคงในพระรัตนตรัย หรือว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็จะไม่เสียเวลามาถามเลย เนื่องเพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใดก็ตามที่ไปอ้างว่า แนวทางของศีล สมาธิ ปัญญานั้นสอนผิด ทำให้ยึดติด หลุดพ้นไม่ได้ ต้องเป็นแนวทางของตนเท่านั้น
    กระผม/อาตมภาพยังไม่เห็นว่าในโลกนี้ หรือว่าโลกไหน มีบุคคลใดเก่งกาจไปกว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย..!
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,661
    ค่าพลัง:
    +26,525
    แม้กระทั่งในอดีต ก่อนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลก บรรดาครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ในอดีตก็มีถึง ๖๒ สำนัก ซึ่งแต่ละสำนักนั้นก็เก่งกล้าสามารถทั้งสิ้น ประกอบไปด้วยปุพพันตกัปปิกทิฏฐิทั้งหมด ๑๘ สำนัก และอปรันตกัปปิกทิฏฐิ ๔๔ สำนัก รวมทั้งสิ้น ๖๒ สำนัก

    ๑๘ สำนักแรกนั้น สามารถที่จะระลึกชาติได้มากบ้างน้อยบ้าง จึงแสดงลัทธิของตนตามการที่ตนรู้เห็น อีก ๔๔ สำนักนั้นสามารถที่จะเห็นอนาคต ว่าคนและสัตว์ตายแล้วไปเกิดที่ใดบ้าง ก็แสดงไปตามความสามารถของตนที่รู้เห็น มากน้อยต่างกันไป ในด้านของการปฏิบัติสมาธิก็สูงสุดถึงระดับสมาบัติ ๘

    แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ในระยะแรกก็ยังต้องศึกษาจากท่านทั้งหลายเหล่านี้ แล้วด้วยความที่พระองค์ท่านสั่งสมบารมีมา เพื่อขนถ่ายสัตว์โลกออกจากวัฏสงสาร จึงเห็นว่าไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ที่แท้จริง แล้วพระองค์ท่านก็ค้นพบมัชฌิมาปฏิปทา ตลอนจนกระทั่งอริยสัจ ๔ นำพาพวกเราทั้งหลายหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานมามากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งมัชฌิมาปฏิปทาก็คือหนทาง ๘ ประการ ตั้งแต่สัมมาทิฏฐิ ไปจนถึงสัมมาสมาธิ เมื่อย่อลงมาแล้วก็คือเหลือ ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง

    ดังนั้น..
    สำนักไหนก็ตาม ถ้าปฏิเสธในเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา แถมยังเก่งกล้าสามารถระดับที่ว่าไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์ ต้องทางของท่านเท่านั้น ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนั้น เราก็ยกให้ท่านไปเถิด บุคคลที่เก่งกล้ากว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น กระผม/อาตมภาพไม่กล้าที่จะคบหาสมาคมด้วย ขออยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ปฏิบัติตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไปจะดีกว่า

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...