เลือกประกันสุขภาพฉบับแรกแบบไหนดี สำหรับมือใหม่ที่อยากมีประกันสุขภาพที่ใช่

หนึ่งในเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเราไม่ใช่น้อยอย่าง ค่าใช้จ่ายฉุกเฉินจากปัญหาสุขภาพ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเราอย่างไม่คาดคิดมาก่อน เช่น ป่วยเป็นโรคร้ายแรง โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง ต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นการด่วน เเละโรคร้ายอื่นๆที่ค่ารักษาแพงมากตั้งหลักแสน-หลักล้านบาทอีก ซึ่งคนที่อยู่ในช่วงของเป็นมือใหม่ที่เพิ่งจะซื้อประกันครั้งแรกหรือกำลังมีเเพลนจะซื้อประกันก็ตาม ย่อมรู้สึกใจคอไม่ดีเลยเพราะเราจะหาประกันสุขภาพอย่างไรให้คุ้มค่ากับโรคร้ายแรงในวันข้างหน้าอย่างไรดี เพราะเหตุนี้ ซื้อประกันสุขภาพ จึงเป็นทางเลือกที่เราควรจะพร้อมเลือกประกันที่ใช่เข้าถึงไม่ยากก่อนป่วยหนัก เพราะการมีประกันสุขภาพที่เหมาะสมจะช่วยให้เราได้รับการดูแลและการรักษาที่ดี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายรักษาที่สูงนั่นเอง

สิ่งสำคัญของมือใหม่ที่อยากหาประกันสุขภาพที่ใช่ เริ่มต้นอย่างไรดี

1.ควรเลือกประกันสุขภาพในค่าเบี้ยที่เราไหว

โดยคำนึงถึงเลือกซื้อประกันสุขภาพที่ค่าเบี้ยประกันที่ไม่เกิน 10-15% ของรายได้เราเเต่ละเดือน เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายของเรามากจนเกินไป เหตุผลเพราะหลายคนพอไปเลือกทำประกันสุขภาพในเบี้ยประกันที่แพงมากเกินไป เช่น เบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ราคาเกิน 20,000 บาท ต่อปี เเล้วเราไม่สามารถหาเงินก้อนมาจ่ายได้ แม้จะใช้วิธีหักเบี้ยประกันแบบรายเดือนแล้วก็ยังเจอค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่สูงอยู่ดี ส่งผลให้เราจำเป็นต้องคำนึงถึงประกันสุขภาพที่เราจะซื้อนั้น ควรมีเบี้ยประกันที่เราจ่ายไหวจริงๆเท่านั้น

2.โรงพยาบาลคู่สัญญาของประกันถ้าอยู่ใกล้บ้าน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

เเม้ว่าเราจะเลือกประกันสุขภาพไปแล้วก็ตาม เเต่หากเราไม่ทันได้ดูในเงื่อนไข รพ.คู่สัญญา ล้วนส่งผลเสียทำให้เราอาจพลาดพลั้งได้ เนื่องจาก รพ.คู่สัญญาของแต่ละบริษัทประกันมีไม่เหมือนกัน เช่น รพ.แรกก็เป็นคู่สัญญาของประกันเจ้านึง ส่วนอีก รพ.นึงก็เป็นคู่สัญญาของประกันอีกยี่ห้อนั่นจึงเป็นสิ่งที่ก่อนจะซื้อประกันนั้น เราควรดูข้อมูลเรื่องโรงพยาบาลคู่สัญญาก่อน ดูว่ามีรพ.ที่ไหนบ้างที่อยู่ในเครือของประกันสุขภาพที่เราทำ สามารถเเฟลกซ์เคลมได้ เเละอยู่ใกล้บ้านเราด้วย ซึ่งจะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกประกันสุขภาพที่จะซื้อได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

อ่านบทความเพิ่มเติม คลิก >> กรมธรรม์ประกันสุขภาพ

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ

3.เข้าใจเงื่อนไขช่วงระยะเวลารอคอย

เพราะทุกประกันสุขภาพล้วนมีช่วงระยะเวลารอคอย ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์อยู่เเล้ว ซึ่งปกติช่วงระยะเวลารอคอยนั้นจะมีอยู่หลายแบบ เช่น ระยะเวลารอคอย 30 วัน 60 วัน 120 วัน 180 วัน ซึ่งจะยังไม่สามารถเคลมประกันสุขภาพได้ ยิ่งเป็นโรคร้ายแรงนั้นระยะเวลาตรงนี้ก็ต้องเพิ่มมากขึ้นเป็นธรรมดา ดังนั้นผู้ทำประกันจึงควรเข้าใจเงื่อนไขนี้ก่อนเสมอ

4.เงื่อนไขสำรองจ่ายก่อน กรณีเคลมประกันบ่อยมากในช่วงเพิ่งทำประกันใหม่ๆ

เนื่องจากเป็นเงื่อนไขที่บริษัทประกันมักจะระบุไว้เเล้วถึง เงื่อนไขสำรองจ่าย หากผู้ซื้อเพิ่งทำประกันเมื่อไม่นานนี้ เเล้วเคลมประกันช่วงแรกบ่อยมาก ถึงจะเคลมประกันเเค่โรคเล็กน้อยก็ตาม ผลเสียจากการเคลมประกันบ่อยมีสิทธิทำให้เราเสี่ยงต่อเงื่อนไขถูกสำรองจ่ายก่อน โดยเฉพาะช่วงที่ประกันสุขภาพที่เราถือครองอยู่นั้นอายุยังไม่ถึง 2 ปี อายุกรมธรรม์น้อย

5.เคลมประกันสุขภาพอย่างสมเหตุสมผล หลีกเลี่ยงการรักษาเกินความจำเป็น

เเม้ว่าเราจะสามารถเคบมประกันสุขภาพตามสิทธิที่ประกันคุ้มครองอยู่ แต่หากว่าเราเคลมประกันบ่อยครั้งมากเกินไป หรือ เคลมประกันบ่อยเเทบไม่เว้นช่วงเลย ผลที่ตามมานั่นคือบริษัทประกันอาจปฏิเสธเคลมประกันเนื่องจาก การรักษาที่เกินความจำเป็น ซึ่งเสี่ยงถึงขั้นยกเลิกกรมธรรม์ประกันสุขภาพทีเราถือครองได้ ดังนั้นให้เราเคลมประกันอย่างสมเหตุสมผล ตอนป่วยโรคร้ายแรงต่างๆ หลังเคลมประกันไปแล้วก็เว้นช่วงบ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหาดังกล่าว

ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยให้มือใหม่เลือกซื้อประกันสุขภาพฉบับแรก สามารถเข้าใจก่อนซื้อประกันเสมอ เพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อประกันให้เหมาะสมกับเรา ส่งเบี้ยประกันสุขภาพไหว ใช้สิทธิเคลมประกันได้อย่างถูกต้องตามเงื่อนไขกรมธรรม์นั่นเอง '' ประกันสวัสดีดอทคอม '' เรามีครบทั้งประกันสุขภาพหลากหลายกรมธรรม์ให้เพื่อนๆได้เลือกชม สามารถเปรียบเทียบประกันสุขภาพแต่ละแห่งได้ด้วย พร้อมรับสิทธิพิเศษเมื่อซื้อประกันสุขภาพผ่านสวัสดีดอทคอม สามารถเข้าไปชมได้ที่หน้าเว็บไซต์ได้เลยครับ

ทำเรื่องประกันสุขภาพให้เป็นเรื่องง่ายๆ คลิก ประกันสวัสดีดอทคอม ประกันสุขภาพออนไลน์ คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 599