เรื่องเล่าเฉียดตายของ... พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย guawn, 24 ธันวาคม 2006.

  1. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top> เรื่องเล่าเฉียดตายของ... พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] ตำแหน่งทางการเมืองของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ ได้ก้าวเข้าไปเป็นสูงสุด คือ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงใหม่ แล้วยังได้เป็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ๒๕๓๔


    สมาชิกวุฒิสภา ๒๕๓๒ และ ๒๕๓๕ และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๓๙ รวมทั้งเคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมตำรวจมาด้วยเช่นกัน ในความเป็นอาชีพตำรวจก็ทำให้เชื่อในเรื่องพุทธคุณขององค์พระเครื่องต่างๆ
    พล.ต.อ.สวัสดิ์ กล่าวว่า พระเครื่องที่แขวนติดตัวประจำ คือ พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ฐานแซม ได้มาตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ สมัยเป็นอธิบดีกรมตำรวจ โดยได้มาจากคุณกฤตย์ รัตนรักษ์ ผู้บริหารธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงท่านแล้วก็จะแขวนพระสมเด็จองค์นี้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา และยังมีพระหลวงพ่อเงินที่เหน็บติดตัวอีกด้วย ส่วนพระเครื่องที่แขวนก่อนหน้านี้ในสมัยที่มียศเป็นร้อยตำรวจตรีใหม่ๆ คุณแม่ก็จะให้แขวนพระนางพญา พิษณุโลกติดตัว จนมีเหตุการณ์เฉียดตายมาแล้วหลายครั้ง
    เหตุการณ์ครั้งนั้นจำได้ว่าอายุประมาณ ๒๕ ปี เป็นร้อยตำรวจตรีอยู่ สน.พญาไท ได้ขับรถเพื่อกลับบ้าน แล้วย่านมักกะสันช่วงเวลานั้นฝนตกหนักประกอบกับรถบดไม่ได้เปิดไฟหน้ารถทำให้มองไม่เห็น ส่งผลให้รถชนกับรถบดถนนอย่างแรงทำให้ตัวเองกระเด็นออกมาจากรถจนหมดสติไป แต่มีความรู้สึกว่ามีคนขับรถแท็กซี่ ๒ คนมาอุ้มแล้วก็จำได้จึงเรียกหมวดหวัด
    ระหว่างนั้นพอรู้สึกตัว จึงถามคนขับแท็กซี่ว่าจะเอาเราไปไหน เขาบอกว่าจะพาไปส่งโรงพยาบาล เราก็บอกไปว่าไม่ต้องหรอกเพราะไม่เป็นอะไรจริงๆ แล้วยังสามารถกลับบ้านได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตรงนี้ถือเป็นเรื่องแปลกอย่างมาก กระจกรถที่บาดลึกฝังลงไปที่ข้างหลังน่าจะมีเลือดออก พอแม่กับพี่สาวเอากระจกออกกลับไม่มีเลือดออกเลย มีเพียงรอยช้ำๆ เท่านั้น
    เหตุการณ์เฉียดตายครั้งที่สอง พล.ต.อ.สวัสดิ์ เล่าว่า ในสมัยนั้นถนนวิภาวดีรังสิตยังไม่มีสามเหลี่ยมดินแดงก็ยังเป็นกองขยะ วันหนึ่งมีคนร้องเรียนว่ามีการเล่นการพนัน โดยมีกลุ่มทหารมาเล่นกับพวกชาวบ้านเป็นจำนวนมาก หลังจากได้รับการร้องเรียนจึงนำกำลังตำรวจ สน.พญาไท ไปตามจับกุมได้มา ๑ ชุด วันต่อมามีคนโทรศัพท์บอกว่าให้มาจับใหม่แต่หมวดอย่าเอาอาวุธปืนมา ความท้าทายตรงนี้จึงบอกกับนายตำรวจไม่ต้องเอาปืนไป ประเด็นนี้หลังจากมีการจับกุมแล้วก็มีตำรวจต่อว่ามาจนถึงทุกวันนี้
    สมัยนั้นโรงพักยังไม่มีรถยนต์ กำลังตำรวจทั้ง ๘ นายก็ใช้รถจี๊ปของตนเองไปจับนักพนัน พอเข้าจับกุมก็มีการชกต่อยกันอย่างอุตลุด ส่วนตนเองตามไล่เจ้ามือไปถึงกลางทุ่งนา พอข้ามคันนาไปเขาเปิดกองฟางขึ้นมาพร้อมกับเอาปืนยูเอชขึ้นมาขู่ บอกว่าห้ามก้าวเท้าขึ้นมาที่คันนาเด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะยิงทันที ทันใดนั้นเองนายทหารคนนี้ที่เป็นเจ้ามือก็เหยียบคันนาขึ้นไปแล้ววิ่งอย่างรวดเร็วเข้าไปยังกรมทหาร ระหว่างวิ่งตามต้องหยุดกะทันหัน บังเอิญมีทหารเวรท่านหนึ่งบอกว่าเข้าไม่ได้เป็นเขตทหาร ทหารเวรท่านนี้คงจำกันได้เพราะท่านชื่อ พ.ท.อาทิตย์ กำลังเอก ยศในขณะนั้น
    "ท่านอาทิตย์ก็บอกว่า ทหารคนนี้จะต้องไปซ้อมรบที่ราชบุรี เป็นนายทหารที่ต้องกดระเบิด จึงทำเรื่องของตัวไปซ้อมรบก่อน อีกสามวันจะนำตัวมามอบตัวได้ ท่านอาทิตย์ก็ยังไปพูดคุยกับแม่ผมว่า ลูกท่านร้ายจริงๆ วิ่งไล่จับทหารของผมด้วยมือเปล่า และสิ่งที่ผมแคล้วคลาดน่าจะมาจากพุทธคุณขององค์พระนางพญา อีกส่วนหนึ่งถ้าผมไม่มีสติก็อาจจะถูกยิงตายไปแล้ว" เขาเชื่อว่ารอดตายมาได้เพราะพุทธคุณพระเครื่อง
    นอกจากนี้ อดีต ส.ว.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ทุกปีจะต้องทำบุญทอดกฐิน ทอดผ้าป่าเป็นประจำ ยิ่งวัดที่อยู่ด้านหลังกองบินตำรวจก็จะทำบุญทอดกฐินใหญ่ทุกปี โดยเฉพาะวัดสุดสวาท ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถือเป็นวัดบ้านเกิดของแม่และของตน สิ่งที่ได้ไปสร้างเอาไว้ เช่น สร้างศาลา แล้วยังมีไปทำบุญสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ พระประธาน แล้วยังมีการสร้างพระนางพญาเอาไว้ใต้ฐานพระประธานองค์นี้ด้วย มีความรู้สึกดีใจที่ได้สร้างถาวรวัตถุให้พระพุทธศาสนา ขณะเดียวกันสิ่งที่ทำประจำอีกอย่างหนึ่งคือ การสวดมนต์ เนื่องจากการสวดมนต์ทำให้จิตใจเราปลอดโปร่ง สบาย แล้วยังได้ศึกษาความหมายของบทสวดมนต์ทั้งหมดด้วย ไม่ว่าเป็นการบูชาพระรัตนตรัย บูชาพระพุทธเจ้า ไปจนถึงคาถาชินบัญชร การที่ได้สวดมนต์แล้วจะทำอะไรก็รู้สึกดีและจิตใจสงบ "ชีวิตผ่านตำแหน่งมาก็มากมาย สุดท้ายผมก็พบสัจธรรมในชีวิตว่า สัจธรรมชีวิตคือความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะมียศ ชื่อเสียง ถ้าเราไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็อยู่ได้ในสังคมแบบปลอมๆ แต่ถ้าเราอยู่แบบเป็นตัวของตัวเองเราก็อยู่ไม่ได้ เป็นต้นว่า ถ้าเราแข็งขืนกับนักการเมืองเราก็อยู่ไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประสบมากับตัวเอง วันนี้ผมก็ภูมิใจที่เกษียณราชการจากอธิบดีกรมตำรวจออกมาแบบสมศักดิ์ศรี" พล.ต.อ.สวัสดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

    0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ วันชัย ไกรศรขจิต 0

    -->[​IMG]
    ตำแหน่งทางการเมืองของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ ได้ก้าวเข้าไปเป็นสูงสุด คือ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงใหม่ แล้วยังได้เป็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ๒๕๓๔
    สมาชิกวุฒิสภา ๒๕๓๒ และ ๒๕๓๕ และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๓๙ รวมทั้งเคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมตำรวจมาด้วยเช่นกัน ในความเป็นอาชีพตำรวจก็ทำให้เชื่อในเรื่องพุทธคุณขององค์พระเครื่องต่างๆ
    พล.ต.อ.สวัสดิ์ กล่าวว่า พระเครื่องที่แขวนติดตัวประจำ คือ พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ฐานแซม ได้มาตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ สมัยเป็นอธิบดีกรมตำรวจ โดยได้มาจากคุณกฤตย์ รัตนรักษ์ ผู้บริหารธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงท่านแล้วก็จะแขวนพระสมเด็จองค์นี้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา และยังมีพระหลวงพ่อเงินที่เหน็บติดตัวอีกด้วย ส่วนพระเครื่องที่แขวนก่อนหน้านี้ในสมัยที่มียศเป็นร้อยตำรวจตรีใหม่ๆ คุณแม่ก็จะให้แขวนพระนางพญา พิษณุโลกติดตัว จนมีเหตุการณ์เฉียดตายมาแล้วหลายครั้ง
    เหตุการณ์ครั้งนั้นจำได้ว่าอายุประมาณ ๒๕ ปี เป็นร้อยตำรวจตรีอยู่ สน.พญาไท ได้ขับรถเพื่อกลับบ้าน แล้วย่านมักกะสันช่วงเวลานั้นฝนตกหนักประกอบกับรถบดไม่ได้เปิดไฟหน้ารถทำให้มองไม่เห็น ส่งผลให้รถชนกับรถบดถนนอย่างแรงทำให้ตัวเองกระเด็นออกมาจากรถจนหมดสติไป แต่มีความรู้สึกว่ามีคนขับรถแท็กซี่ ๒ คนมาอุ้มแล้วก็จำได้จึงเรียกหมวดหวัด
    ระหว่างนั้นพอรู้สึกตัว จึงถามคนขับแท็กซี่ว่าจะเอาเราไปไหน เขาบอกว่าจะพาไปส่งโรงพยาบาล เราก็บอกไปว่าไม่ต้องหรอกเพราะไม่เป็นอะไรจริงๆ แล้วยังสามารถกลับบ้านได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตรงนี้ถือเป็นเรื่องแปลกอย่างมาก กระจกรถที่บาดลึกฝังลงไปที่ข้างหลังน่าจะมีเลือดออก พอแม่กับพี่สาวเอากระจกออกกลับไม่มีเลือดออกเลย มีเพียงรอยช้ำๆ เท่านั้น
    เหตุการณ์เฉียดตายครั้งที่สอง พล.ต.อ.สวัสดิ์ เล่าว่า ในสมัยนั้นถนนวิภาวดีรังสิตยังไม่มีสามเหลี่ยมดินแดงก็ยังเป็นกองขยะ วันหนึ่งมีคนร้องเรียนว่ามีการเล่นการพนัน โดยมีกลุ่มทหารมาเล่นกับพวกชาวบ้านเป็นจำนวนมาก หลังจากได้รับการร้องเรียนจึงนำกำลังตำรวจ สน.พญาไท ไปตามจับกุมได้มา ๑ ชุด วันต่อมามีคนโทรศัพท์บอกว่าให้มาจับใหม่แต่หมวดอย่าเอาอาวุธปืนมา ความท้าทายตรงนี้จึงบอกกับนายตำรวจไม่ต้องเอาปืนไป ประเด็นนี้หลังจากมีการจับกุมแล้วก็มีตำรวจต่อว่ามาจนถึงทุกวันนี้
    สมัยนั้นโรงพักยังไม่มีรถยนต์ กำลังตำรวจทั้ง ๘ นายก็ใช้รถจี๊ปของตนเองไปจับนักพนัน พอเข้าจับกุมก็มีการชกต่อยกันอย่างอุตลุด ส่วนตนเองตามไล่เจ้ามือไปถึงกลางทุ่งนา พอข้ามคันนาไปเขาเปิดกองฟางขึ้นมาพร้อมกับเอาปืนยูเอชขึ้นมาขู่ บอกว่าห้ามก้าวเท้าขึ้นมาที่คันนาเด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะยิงทันที ทันใดนั้นเองนายทหารคนนี้ที่เป็นเจ้ามือก็เหยียบคันนาขึ้นไปแล้ววิ่งอย่างรวดเร็วเข้าไปยังกรมทหาร ระหว่างวิ่งตามต้องหยุดกะทันหัน บังเอิญมีทหารเวรท่านหนึ่งบอกว่าเข้าไม่ได้เป็นเขตทหาร ทหารเวรท่านนี้คงจำกันได้เพราะท่านชื่อ พ.ท.อาทิตย์ กำลังเอก ยศในขณะนั้น
    "ท่านอาทิตย์ก็บอกว่า ทหารคนนี้จะต้องไปซ้อมรบที่ราชบุรี เป็นนายทหารที่ต้องกดระเบิด จึงทำเรื่องของตัวไปซ้อมรบก่อน อีกสามวันจะนำตัวมามอบตัวได้ ท่านอาทิตย์ก็ยังไปพูดคุยกับแม่ผมว่า ลูกท่านร้ายจริงๆ วิ่งไล่จับทหารของผมด้วยมือเปล่า และสิ่งที่ผมแคล้วคลาดน่าจะมาจากพุทธคุณขององค์พระนางพญา อีกส่วนหนึ่งถ้าผมไม่มีสติก็อาจจะถูกยิงตายไปแล้ว" เขาเชื่อว่ารอดตายมาได้เพราะพุทธคุณพระเครื่อง
    นอกจากนี้ อดีต ส.ว.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ทุกปีจะต้องทำบุญทอดกฐิน ทอดผ้าป่าเป็นประจำ ยิ่งวัดที่อยู่ด้านหลังกองบินตำรวจก็จะทำบุญทอดกฐินใหญ่ทุกปี โดยเฉพาะวัดสุดสวาท ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถือเป็นวัดบ้านเกิดของแม่และของตน สิ่งที่ได้ไปสร้างเอาไว้ เช่น สร้างศาลา แล้วยังมีไปทำบุญสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ พระประธาน แล้วยังมีการสร้างพระนางพญาเอาไว้ใต้ฐานพระประธานองค์นี้ด้วย มีความรู้สึกดีใจที่ได้สร้างถาวรวัตถุให้พระพุทธศาสนา
    ขณะเดียวกันสิ่งที่ทำประจำอีกอย่างหนึ่งคือ การสวดมนต์ เนื่องจากการสวดมนต์ทำให้จิตใจเราปลอดโปร่ง สบาย แล้วยังได้ศึกษาความหมายของบทสวดมนต์ทั้งหมดด้วย ไม่ว่าเป็นการบูชาพระรัตนตรัย บูชาพระพุทธเจ้า ไปจนถึงคาถาชินบัญชร การที่ได้สวดมนต์แล้วจะทำอะไรก็รู้สึกดีและจิตใจสงบ "ชีวิตผ่านตำแหน่งมาก็มากมาย สุดท้ายผมก็พบสัจธรรมในชีวิตว่า สัจธรรมชีวิตคือความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะมียศ ชื่อเสียง ถ้าเราไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็อยู่ได้ในสังคมแบบปลอมๆ แต่ถ้าเราอยู่แบบเป็นตัวของตัวเองเราก็อยู่ไม่ได้ เป็นต้นว่า ถ้าเราแข็งขืนกับนักการเมืองเราก็อยู่ไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประสบมากับตัวเอง วันนี้ผมก็ภูมิใจที่เกษียณราชการจากอธิบดีกรมตำรวจออกมาแบบสมศักดิ์ศรี" พล.ต.อ.สวัสดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ref.http://www.komchadluek.net/2006/12/24/j001_76875.php?news_id=76875
     

แชร์หน้านี้

Loading...