เรียนเชิญท่านผู้สนใจฝึกสมาธิวิชชาธรรมกายเข้ารับการอบรมในหลักสูตร วิปัสสนาจารย์

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย สมถะ, 11 เมษายน 2014.

  1. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    เรียนเชิญท่านผู้สนใจฝึกสมาธิวิชชาธรรมกายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เข้ารับการอบรมในหลักสูตร วิปัสสนาจารย์

    รับทั้งพระภิกษุและฆราวาส

    จุดมุ่งหมายคือ ให้มีความรู้สอนตนเองและผู้อื่นให้เข้าถึงธรรมกายได้

    ข้อมูลเบื้องต้นตามลิ้งค์นี้http://khunsamatha.com/vip.html

    เปิดอบรมฝึกวิปัสสนาจารย์ ในเดือนพฤษภาคม 2557
    ณ วัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหาร
    ภายในพระอุโบสถ
    วัน-เวลา จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
    ท่านผู้สนใจติดต่อเข้ารับการอบรมล่วงหน้าได้ที่


    e-mail : khunsamatha2555@hotmail.com

    ติดตามวัน-เวลา เปิดอบรมได้ที่ลิ้งค์นี้ เรียนเชิญผู้สนใจฝึกสมาธิวิชชาธรรมกายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง - ห้องประชาสัมพันธ์ - ชมรม�
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2014
  2. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    พระพุทธองค์ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ผ่องใส (ประภัสสร) แต่ว่าจิตนั้นแลเศร้าหมองแล้ว ด้วยอุปกิเลสที่จรมา ปุถุชนผู้มิได้สดับ ย่อมจะไม่ทราบจิตนั้นตามความเป็นจริง ฉะนั้น เราจึงกล่าวว่า ปุถุชนผู้มิได้สดับ ย่อมไม่มีการอบรมจิตภาวนา”
    (องฺ.เอก. ๕๐/๑/๒๐)

    (อุปกิเลสที่ทำให้จิตมัวหมองนั้นมี ๑๖ ข้อ คือ ๑. อภิชฌาวิสมโลภะ ๒. พยาบาท ๓. โกธะ ๔. อุปนาหะ ๕. มักขะ ๖. ปลาสะ ๗. อิสสา ๘. มัจฉริยะ ๙. มายา ๑๐. สาเถยยะ ๑๑. ถัมภะ ๑๒. สารัมภะ ๑๓. มานะ ๑๔. อติมานะ ๑๕. มทะ ๑๖. ปมาทะ)

    จะกระทำจิตให้ผ่องใส ท่านว่าให้เจริญจิตภาวนา ชำระจิตที่เศร้าหมองนั้น ให้กลับมาผ่องใสดังเดิม สมดังคำตรัสเป็นโอวาทปาติโมกข์ ความว่า

    การไม่ทำความชั่วทั้งปวง 1
    การบำเพ็ญแต่ความดี 1
    การทำจิตของตนให้ผ่องใส 1
    นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย


    ที่ต้องกระทำจิตให้ผ่องใสก็เพื่อ จิตที่ผ่องใสย่อมไม่คิดทำความชั่ว มุ่งแต่ทำความดีเเพียงถ่ายเดียว จิตที่ผ่องใสจึงสำคัญมาก เพราะจิตเป็นประธานแห่งความสำเร็จกิจทั้งปวง ดังพุทธพจน์ทรงตรัสว่า

    "มโน ปุพพํ คมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา มนสา เจ ปทุฏฺเฐน ภาสติ วา กโรติ วา ตโตนํ ทุกฺขมนฺเวติ จกฺกํ ว วหโต ปทํ"

    แปลว่า "ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จได้ด้วยใจ ผู้ที่กล่าววาจาหรือ กระทำการสิ่งใดด้วยใจคิดร้าย กรรมย่อมตามผู้นั้นไป เหมือนดังล้อที่หมุนตามรอยเท้าโคที่ลากเกวียนไป ฉะนั้น"


    ดังนั้น การเจริญภาวนาวิชชาธรรมกาย คือการอบรมจิตภาวนาให้ ใจเกิดความผ่องใสหรือสว่างใส เมื่อใจผ่องใส ใจก็อยู่ฝ่ายกุศล คือ คิด ทำ พูดในฝ่ายดี เป็นการแก้ไขจิตหรือใจของเราให้เกิดความประภัสสร(ผ่องใส)เนืองๆ สมดังพุทธวจนะที่ได้ยกมาให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณาฉะนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...