เมื่อเกิดเหตุรถชนในพื้นที่ถนนบนภูเขาสูง จะทำอย่างไรดี ?

โดยทั่วไปแล้วทริปเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง ที่เที่ยวภูเขาสูง หรือ แหล่งท่องเที่ยวที่มีภูเขาสูงเป็นพื้นที่ใหญ่ อาทิ อุทยานแห่งชาติ เขารักษาพันธ์ุสัตว์ป่า หรือที่เที่ยวภูเขาทั่วไปที่เวลาเราเดินทางไปก็กังวลใจต่ออุบัติเหตุบนถนนขึ้นภูเขาที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ปาย , เขาค้อ , ด่านซ้าย , ภูทับเบิก , หินสามวาฬ บึงกาฬ , ถนนทางหลวงสายน่าน-บ่อเกลือ ที่ทั้งสองฟากฝั่งเป็นเหวภูเขาทั้งสองฟาก ซึ่งที่กล่าวมาล้วนบ่งบอกถึงพื้นที่เสี่ยงที่เราต้องรับมือเอาไว้ให้ก่อนเลย

โดยเฉพาะหากเเพลนเที่ยวของเรากำลังจะไปเที่ยวภูเขาซึ่ง ประกันรถยนต์ เราควรเข้าถึงเอาไว้ก่อนเนิ่นๆเลยครับ เพราะเป็นที่เที่ยวที่มีโอกาสเสี่ยงต่ออุบัติเหตุระหว่างมากที่สุด เมื่อเทียบกับที่เที่ยวทะเล หรือ ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ซึ่งเราควรจะเลือกประกันรถยนต์ที่พร้อมเต็มที่ เเละรับมือกรณีเกิดเหตุรถชนถนนบนภูเขาสูง เอาไว้ดังต่อไปนี้

1.หากเกิดรถชนบนภูเขาเเล้ว ควรรีบออกจากตัวรถชนให้เร็วที่สุด

เนื่องจากถือเป็นอุบัติเหตุใหญ่ ไม่ว่าจะรถชนแบบมีคู่กรณี หรือ ไม่มีคู่กรณีก็ตาม หากเรายังโชคดีไม่บาดเจ็บมาก ก่อนอื่นให้เราออกจากตัวรถที่ชนก่อนเลยครับ เพราะถ้าเรายังอยู่ในตัวรถอีกอาจเสี่ยงอุบัติเหตุซ้ำสองได้

2.รีบติดต่อหาบริษัทประกันรถยนต์โดยด่วนที่สุด

อุบัติเหตุรถชนถนนบนภูเขาเป็นเหตุร้ายที่ต้องได้รับการช่วยเหลือโดยเร็ว หลังจากที่เราออกจากตัวรถที่ชนเเล้ว ให้รีบติดต่อหาบริษัทประกันรถยนต์โดยด่วนที่สุด เพื่อให้ทางบริษัทประกันเร่งส่งตัวแทน-พนักงานบริษัทประกัน เข้ามาช่วยเหลือเราในที่เกิดเหตุด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม คลิก >> เคลมประกันรถยนต์

เปรียบเทียบประกันรถยนต์

3.หากเกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์หลังรถชนบนภูเขาด้วย

โดยปกติเเล้วเหตุไฟไหม้รถยนต์เป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ถ้าเป็นอุบัติเหตุรถชนร้ายแรงจนทำให้เกิดประกายไฟ ในกรณีที่เป็นรถชนถนนบนภูเขาสูงหากมีสัญญาณอันตรายเสี่ยงไฟไหม้รถยนต์ทั้งคัน อาทิ กลิ่นไหม้บนรถ หรือเห็นประกายไฟบนหน้ารถที่ถูกชน รีบออกจากตัวรถให้เร็วที่สุดก่อนเลย อย่ามัวเเต่ห่วงของมีค่าในรถจนเสี่ยงต่อชีวิต หลังจากนั้นให้รีบติดต่อหาหน่วยดับเพลิงที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อให้มาช่วยดับไฟไหม้รถต่อไป

4.บริการช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับประกันรถยนต์จะได้ใช้เต็มที่

โดยเฉพาะผู้ที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ชั้น 2+ , ประกันรถยนต์ชั้น 2 หากเกิดเหตุรถชนบนภูเขาสามารถได้รับความช่วยเหลือเต็มที่ได้แบบไร้รอยต่อเลย ได้รับบริการฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆตามที่บริษัทประกันกำหนด เเต่สำหรับผู้ที่มีประกันรถยนต์ชั้น 3+ หรือ ชั้น 3 ยังคงได้รับความช่วยเหลือฉุกเฉินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่มีค่าใช้จ่ายส่วนต่างเพิ่มเติมพ่วงด้วยที่เจ้าของรถต้องจ่ายเงินเอง ( เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ คลิก )

5.บริษัทประกันจะทำการสรุปภาพรวมความเสียหายจากรถชนทั้งหมด

หลังจากที่พาผู้บาดเจ็บรถชนบนภูเขาออกจากที่เกิดเหตุเเล้ว พาส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยดีปลอดภัย บริษัทประกันรถยนต์จะทำการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถชนทั้งหมด ซึ่งจะดูทั้งร่อยรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น จำนวนผู้บาดเจ็บ รถยนต์เสียหายมากแค่ไหน เมื่อสรุปภาพรวมความเสียหายจนหมดเเล้วก็จะทำการขนย้ายซากรถยนต์ที่ถูกชนเสียหายออกจากที่เกิดเหตุต่อไป

6.เจ้าของรถได้รับใบเคลมประกันจากประกันเพื่อนำไปเคลมประกันต่อไป

ซึ่งบริษัทประกันจะสรุปยอดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ เเละออกใบเคลมประกันรถยนต์ให้กับเราหรือกับคู่กรณีรถชนถ้าเป็นรถชนแบบมีคู่กรณี นำไปเคลมประกันต่อไป ส่วนจะได้รับการชดเชยความเสียหายมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับประกันรถยนต์ที่เราทำไว้ ประกันรถชั้น 1 ก็ได้รับเยอะที่สุด ประกันรถชั้น 2+ ก็ได้รับรองลงมา ส่วนประกันรถชั้นอื่นๆ ก็ชดเชยความเสียหายตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์นั่นเอง

สรุปแล้ว ถ้าเราเกิดเหตุรถชนบนภูเขาสูงนั้น ควรตั้งสติเเละหาทางออกโดยเร็วย่อมปลอดภัยที่สุด เเต่ถ้าจะให้ดีนั้น ประกันสวัสดีดอทคอม มีศูนย์รวมประกันรถยนต์ทุกยี่ห้อทุกประเภท ให้ได้เลือกทำประกันเอาไว้ตั้งเเต่ต้นก่อนเลย เเนะนำให้คนที่เลือกทริปเที่ยวภูเขาควรจะมีประกันรถยนต์ตั้งเเต่ชั้น 1 หรือ ชั้น 2+ เพื่อจะได้รับความคุ้มครองหากเกิดเหตุรถชนบนภูเขาได้ครอบคลุมโดยไม่ต้องกังวลใจว่าเราจะเสียเงินส่วนต่างค่าเสียหายเองหรือเปล่า อย่าลืมพกพาประกันรถยนต์ที่ไม่หมดอายุประกันไว้กับตัวด้วยเสมอทุกครั้งเลยครับ

ทำเรื่องประกันให้เป็นเรื่องง่ายๆคลิก ประกันสวัสดีดอทคอม ประกันรถยนต์แบบผ่อน ให้คุณผ่อนเงินสด 0% นานสุด 12 เดือน ไม่ง้อบัตรเครดิต เลือกได้ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เเละประกันชั้นอื่นๆอีกมากมาย เบี้ยประกันถูกๆ สบายกระเป๋า

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ประกันออนไลน์คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 5999