เปลี่ยน “ดวงชะตา” กำหนดชีวิต ลิขิตด้วย “ตัวเอง” โดย =จิตอสุรา=

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย JitAsura, 24 พฤศจิกายน 2012.

  1. JitAsura

    JitAsura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +178
    [​IMG]

    เปลี่ยน “ดวงชะตา” กำหนดชีวิต ลิขิตด้วย “ตัวเอง”

    --- “ความเชื่อนอกพระพุทธศาสนา ซึ่งมีมาก่อนสมัยพุทธกาลมีอยู่ด้วยกัน 3 ความเชื่อ”
    1.“เชื่อเรื่องกรรมเก่า” ความเชื่อนี้ เชื่อกันว่า เราเกิดมารับผมของกรรมเก่าในอดีตชาติ และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
    2.“เชื่อเรื่องเทพบันดาล” ความเชื่อนี้บอกว่า ชีวิตแต่ละคนเหมือนเป็นตัวละครที่ พระเจ้า หรือเทพองค์ใดองค์หนึ่ง เขียนขึ้นมา และไม่มีทางเลยที่จะเปลี่ยนแปลง อย่างเช่น เชื่อว่า ชีวิตขึ้นอยู่กับ “พรหมลิขิต”
    3.“ไม่เชื่ออะไรเลย” ความคิดนี้ว่ากันว่า ทุ
    กสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนแล้วแต่มาจากความ “บังเอิญ” บังเอิญ และบังเอิญ ในทุกๆ เรื่อง

    --- หลายๆ คนชอบไปดูดวง โดยเฉพาะคุณผู้หญิง คำถามยอดนิยมส่วนใหญ่ก็จะมีไม่กี่คำถาม อย่างเช่น เนื้อคู่จะมาเมื่อไหร่? เมื่อไหร่ฉันจะรวย? ฉันจะสอบผ่านไหม? ของที่หายจะได้คืนไหม? ฯลฯ ซึ่งหมอดูส่วนใหญ่จะได้เงินกับคนที่กำลังอมทุกข์อยู่ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อยามชีวิตดี อะไรๆ ก็ดี ไม่ค่อยไปหาหมอดูกันหรอก แต่ที่แปลกก็คือ หมอดูบางคน หรือ ศาสตร์บางศาสตร์ แม่นเอามากๆ จนเหลือเชื่อ จึงทำให้หลายๆคนมีคำถามในใจว่า
    1.แล้วเหตุไฉน จึงแม่นหรือทายถูกเช่นนั้น???
    2.วันเกิดหรือฤกษ์ยามเกิด สามารถกำหนดชีวิตเราได้จริงหรือ???
    3.ดวงดาวต่างๆในจักรวาล มีผลกับชีวิตเราด้วยหรือ???

    --- เรื่องของศาสตร์การทำนานายทายทักนั้น มีมาอย่างยาวนาน ยิ่งในสมัยก่อนแล้วยิ่งแม่นยำเอามากๆเลยที่เดียว อย่างเช่น พราหมณ์ ที่ทำนายทายทักว่า “เจ้าชายสิทธัตถะ” มีลักษณะมหาบุรุษ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ที่ปกครองทุกทวีป จนไม่มีใครหรือเมืองไหนสามารถต่อกรได้( ที่ทายเช่นนั้นเพราะในสมัยก่อน ยังไม่มีใครรู้จักพระพุทธเจ้า เพราะผู้ที่เกิดในฤกษ์ยามนี้ และมีลักษณะเช่นนี้ เป็นผู้มีบุญจนหาที่เปรียบมิได้) แต่ก็ยังมีหมอดูคนหนึ่งทายได้ถูกจริงๆ นั่นก็คือ พราหมณ์ชื่อ “โกณฑัญญะ” ซึ่งทำนายว่าจะออกบวช และได้เป็นศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ หรืออีกตัวอย่างก็คือ “องคุลีมาล” ตอนเกิด พราหมณ์ในสมัยนั้นทำนายว่า โตมาจะเป็นโจรใจบาป ฆ่าคนอย่างผักปลา ไม่เว้นแต่ละวัน แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ หากเป็นเช่นนี้แล้ว แสดงว่าฤกษ์ยามที่เราเกิด หรือวันเกิดของเรานั้น สามารถกำหนดชีวิต เราได้ถึงขนาดนั้น แล้วถ้าหาก หมอดูที่ทายแม่นที่สุดในโลก ทำนายเราว่า ชีวิตเราจะไม่ค่อยดีนะ เราจะไม่มีทางแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเลยหรือ??? ก่อนอื่นผมขอตอบปัญหา 3 ข้อที่กล่าวมาก่อน

    1.“แล้วเหตุไฉน จึงแม่นหรือทายถูกเช่นนั้น???” ตอบ ศาสตร์โบราณที่ใช้ในการทำนายทายทักนั้น เกิดจากการสังเกตและเก็บรวามรวมข้อมูลเป็นพันๆปี และจดบันทึกเอาไว้รุ่นต่อรุ่น จนแน่ใจ และได้กลายมาเป็นตำรา สำหรับทำนายทายทัก เพราะฉะนั้นเราจึงปฏิเสธไม่ได้ ว่าเรื่องการดูดวง หรือการทำนายไม่มีจริง มันมีจริงครับและเป็นจริงด้วย ไม่ว่าจะเป็น ลายมือ, ลายเท้า, โหงวเฮ้ง ฯลฯ เป็นต้น

    2.“วันเกิดหรือฤกษ์ยามเกิด สามารถกำหนดชีวิตเราได้จริงหรือ???” ตอบ บางคนเชื่อว่า วันเกิดหรือฤกษ์ยาม ที่เราเกิดกำหนดชีวิตของเรา แต่ในความเป็นจริงตามพุทธศาสนาแล้ว วันเกิดนั้นไม่ได้เป็นตัวกำหนดชีวิตเรา แต่กรรมที่เราทำมาต่างหากที่ กำหนดวันเกิดและฤกษ์ยามเกิดของเรา เพราะกรรมที่เราทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ส่งให้เราต้องมาเกิดในวันนั้นๆ หรือ ฤกษ์ยามนั้นๆ เพื่อรับผลของกรรมนั้น(กลับกัน)

    3.ดวงดาวต่างๆในจักรวาล มีผลกับชีวิตเราด้วยหรือ??? ตอบ ดวงดาวแต่ละดวงนั้น มีแรงดึงดูดดั่งเช่นโลกของเรา ทำให้แรงอันมหาศาลนี้ ดึงดูดวิถีชีวิต การกระทำ และความคิดของคนเราไปต่างๆนาๆได้เหมือนกัน ดังนั้น ดวงดาวต่างๆจึงมีผลต่อการกระทำและความคิดของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี พระพุทธองค์จึงได้เลือก เทศนาธรรม ในวัน ขึ้น 8 ค่ำและ 15 ค่ำ(เราเรียกกันว่าวันพระ) เพราะในวันนั้นเอง พระจันทร์จะเต็มดวง ซึ่งมีผลกระทบต่อจิตใจของผู้ฟังธรรม จันทร์ที่เต็มดวงจะมีผลทำให้ จิตของผู้ฟังธรรมผ่องใส และง่ายต่อการบรรลุธรรม ดังนั้นศาสตร์ที่ใช้ทำนายทายทักจากการดูดาวจึงเป็นเรื่องจริง

    --- แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นก็แปลว่า ชีวิตของเราแต่ละคนโดนลิขิตมาหมดแล้ว ตามกรรมเก่าหรือตามดวงดาว แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระพุทธองค์ไม่ได้ตรัสสอนเช่นนั้นเลย ทรงได้สอนว่า ชีวิตเป็น “อนิจจัง” เปลี่ยนแปลงได้ และเป็นไปตามกรรมในชาติปัจจุบันด้วย ซึ่งเราสามารถบริหารจัดการชีวิตเราใหม่ได้ในปัจจุบันชาติ ผมขอยกตัวอย่างเดิมคือ “พระองคุลีมาล” โดยกรรมเก่าของท่านนั้น ทำให้ท่านต้องมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคนหลายๆคน จึงได้เป็นโจรฆ่าคนตัดนิ้ว แต่ด้วยการฟังธรรม และปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ท่านก็ได้บรรลุธรรมเป็น “พระอรหันต์” ในที่สุด นี่ขนาดจากคนต่ำที่สุด ยังไปเป็นคนสูงที่สุดได้เลย แล้วเราเองจะพลิกชีวิต พลิกดวงชะตาของเราไม่ได้เชียวหรือ??? ทำได้ครับ ทำได้ทุกคนด้วย เราเรียกคนพวกนี้ว่า “คน - เหนือ - ดวง”

    --- พระพุทธเจ้าได้ทรงแบ่งมนุษย์ออกเป็น 4 ประเภทคือ มาสว่าง ไปสว่าง, มามืด ไปมืด, มาสว่าง ไปมืด, มามืด ไปสว่าง เพราะพระพุทธองค์ทรงเล็งเห็นความสำคัญของการกระทำในชาติปัจจุบันว่า มีความสำคัญพอทีจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์ได้เลยที่เดียว พระพุทธองค์จึงไม่ได้ให้มนุษย์ ยอมจำนนต่อโชคชะตา และให้ก้มหน้ารับกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ทรงสอนสั่งหลักธรรมทั้งหลาย ตั้งแต่การทำชีวิตให้ดีขึ้น จนไปถึงการหลุดพ้นจากวัฏสงสารกันเลยทีเดียว

    --- วิธีการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้ เพื่อการปฏิบัติไว้มี 3 ประการ คือ 1. ทาน, 2.ศีล, 3.ภาวนา

    “ทาน” หมายถึง “การให้” การให้นี้ จะให้อะไรก็ได้ที่เป็นสิ่งดีงาม บุญใหญ่ๆก็อย่างเช่น ธรรมทาน, อภัยทาน, วิหารทาน และ สังฆทาน ส่วนอย่างอื่นนั้น ถึงแม้บุญจะน้อยกว่า แต่ก็มิควรละเลย เพราะอานิสงส์ของการทำทานแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน ดังนั้น เราไม่ควรละเลยการช่วยเหลือและสงเคราะห์ ทั้งผู้คนหรือแม้แต่สรรพสัตว์ด้วย นอกเหนือจากนั้น ทาน เมื่อทำแล้ว เราสามารถอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ที่เราเคยล่วงเกินเขาได้อีกด้วย

    “ศีล” หมายถึง “ปกติ” การรักษาความเป็นปกติของ กาย วาจา ใจ มิให้สร้างกรรมไม่ดี เพิ่มขึ้นอีก ในส่วนของฆราวาส นั้นก็มีศีล 5 เป็นเครื่องปฏิบัติไว้อยู่แล้ว หรือใครมีกำลังใจมากจะเอาศีล 8 ไปเลยก็ไม่มีปัญหา อันนี้ยังรวมถึงการประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่ผิลศีลและไม่ผิดธรรมด้วยนะครับ

    “ภาวนา” หมายถึง “พัฒนา” การพัฒนานี้ ควรพัฒนาในทุกๆด้าน เช่น พัฒนาความรู้ความสามารถในงานที่ตนเองทำ รวมไปถึงการ พัฒนาจิตใจตนเองให้ผ่องใสและดีงามอยู่เสมอ นอกจากทำจิตใจให้ผ่องใสและดีงามแล้ว ต้องทำจิตให้มีปัญญาด้วย เพื่อจะได้ใช้ปัญญาในการ ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องที่สุด(มีสมถะกรรมฐานและวิปัสนากรรมฐาน) อีกทั้งยังสามารถอุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวรได้ดียิ่งกว่า บุญที่เกิดจากทานเสียอีก

    --- สรุปวิธีถ้าพูดเป็นภาษาสมัยนี้ก็คือ “แทงสวนไปเลย” หมายถึง กระทำตนให้สวนทางกับกรรมเก่าและโชคชะตา อย่างสิ้นเชิงไปเลย อย่างเช่น หมอดูอาจทำนายคุณว่า คุณไม่ได้เป็นเศรษฐีหรอก แต่ถ้าคุณประกอบอาชีพสุจริต ไม่ย่อท้อ ต่ออุปสรรค ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง คุณก็ลุกขึ้นสู้ใหม่ทุกครั้ง อีกทั้งยังทำทานให้ตรงเหตุ เช่น การให้ทรัพย์เป็นทาน ก็จะได้ผลบุญเป็นทรัพย์ ถ้าแนะนำให้เอาบุญใหญ่ๆไปเลย ก็คือสละทรัพย์เพื่อสร้างวิหารทาน อย่างเช่น ร่วมสร้างองค์พระพุทธรูป, โบสถ์, ศาลา, กุฏิ, ห้องน้ำ เป็นต้น หรือหมอดูอาจเตือนเรามาว่า สุขภาพคุณจะไม่แข็งแรง คุณก็ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ทานของที่มีคุณค่าทางอาหาร ขับถ่ายให้เป็นเวลา พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงการถวายยาเป็นสังฆทาน เท่านี้คุณก็ไม่เป็นไปตามดวงแล้ว

    --- ตกลงแล้วทำได้จริงหรือ?? ไอ้การอยู่เหนือดวงนี่ ผมขอบอกเลยว่า ทำได้จริงครับ ให้พิสูจน์ด้วย ผมขอยกตัวอย่างคนที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีนะครับ อย่างเช่น บิล เกตส์, สตีฟ จอบส์, ในไทยก็อย่างเช่น คุณตัน ภาสกรนที คุณลองไปหาคนอื่นที่เกิดวันเดียวกันกับคนพวกนี้ เวลาตกฟากเดียวกับคนพวกนี้ดู คุณก็จะรู้ว่า บางคนก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในชีวิตเลย แสดงว่ามนุษย์เปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองได้ใช่ไหมครับ แล้วอย่างนี้ พวกเราจะยังไปหาหมอดูกันอยู่ หรือจะตั้งหน้าตั้งตาทำความดี และตั้งใจทำมาหากินอย่างซื่อสัตย์สุจริต อันนี้ก็ต้องเลือกกันแล้วนะครับ

    “จะปล่อยชีวิตไปกับโชคชะตา หรือจะท้าฟ้าลิขิตชีวิตตนเอง”

    หากคุณตั้งใจทำ 3 ข้อนี้ตามพระพุทธองค์ อย่างสม่ำเสอม ต่อไปเรื่อยๆ ผมขอบอกได้เลยว่า หมอดูที่ดูแม่นที่สุดในโลก ก็ทายชีวิตคุณไม่ถูกซักอย่าง นั่นเพราะคุณเป็น “คน - เหนือ - ดวง” ทุกคนทำได้ครับ!!! ขออนุโมทนาบุญ....

    =จิตอสุรา=

    ติดตามหัวข้อธรรมะบรรยายของ "จิตอสุรา" ได้ดังนี้
    การหยั่งรู้วาระจิตผู้อื่น (เจโตปริยญาณ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2013
  2. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    ขออนุโมทนาบุญด้วยคะ ที่ให้ความรู้ ศาสนาพุทธเน้นที่จิตใจ การ“แทงสวนไปเลย” นั่นคือการแก้ไขเหตุแห่งทุกข์ ซึ่งถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ต่อไปเราควรจะต้องทำดีกว่าหมดอาลัยตายอยาก ปล่อยไปตามบุญตามกรรม ใช้ปัญญาแก้ปัญหาซะ ถ้ายังไม่สำเร็จก็เริ่มต้นใหม่ อยู่บนพื้นฐานของการไม่เบียดเบียน ศาสดาของเราได้ประพฤติปฏิบัติมาด้วยตนเองรู้แจ้งแทงตลอดแล้วจึงนำมาสอน
     
  3. nangkeaw

    nangkeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +396
    สนับสนุนความรู้นี้ 1000 เปอร์เซ็นค่ เพราะดิฉันพิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว ว่าคนเหนือดวงเป็นอย่างไร ต้องทำอย่างไร นั่นก็คือทางที่พระพุทธองค์ทรงสอนอันมี 1.ทาน, 2.ศีล, 3.ภาวนา ค่ะ ต่อให้หมอดูที่ไหนบอกไปมาสามภพหรือมีตารอบท้ายทอย ก็มิอาจทางมหาบุญกุศลนี้ได้ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...