เทศกาลวัดเทวราชกุญชร 2552

สำนักงานเขตดุสิตร่วมกับวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร จัดงานฉลองสมโภชแห่งปีของวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร ในงาน "เทศกาลวัดเทวราชกุญชร 2552" วันศุกร์ที่ 5 และวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2552 ซึ่งจะมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมมากมายให้ได้มีส่วนร่วม ดังนี้
สมโภชพระบรมสารีริกธาตุ อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกาขอเชิญชวนเข้ารับความเป็นสิริมงคล สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกาประดิษฐาน ณ ชั้น 2 พิพิธภัณฑ์สักทอง
พบกับหนึ่งเดียวในกรุงเทพฯ สักการะพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ประติมากรรมอันงดงาม ซึ่งประดิษฐานหน้าพิพิธภัณฑ์สักทองเพื่อความเป็นสิริมงคล ณ จุดยืนอธิษฐานขอพร พลังจักรวาลเสริมบุญบารมี โดยในวันที่ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 17.00 น. จะมีพิธีบวงสรวงพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์สักทอง โดยมี ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ประธานในพิธีบวงสรวง
ไหว้พระ ทำบุญ อธิษฐานเสริมสร้างบารมี สักการะขอพร พระรูป (หุ่นขี้ผึ้ง) สมเด็จพระสังฆราช 18 พระองค์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ ชั้น 2 พิพิธภัณฑ์สักทอง และร่วมปล่อยปลา ณ ท่าน้ำวัดเทวราชกุญชร จนถึงเวลา 21.00 น.
สำหรับ "พิพิธภัณฑ์สักทอง" เริ่มต้นก่อสร้างในปี พ.ศ.2549 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามมากอีกแห่งหนึ่ง เป็นทรงปั้นหยาประยุกต์ 2 ชั้น กว้าง 16.75 เมตร ยาว 30.15 เมตร มีเนื้อที่ชั้นละประมาณ 505 ตารางเมตร รวม 2 ชั้น มีเสาขนาดใหญ่ขนาด 2 คนโอบถึง 59 ต้น
พิพิธภัณฑ์สักทองเดิมเป็นบ้านไม้สักทองหลังใหญ่ ชื่อว่า "บ้านแก้ว" เป็นบ้านที่รวมไม้เก่าที่ใช้ปลูกบ้านอยู่อาศัยมานานหลายปี อันเป็นไม้สักทองที่ปลูกอยู่ทางภาคเหนือ จำนวน 11 หลัง มาปลูกเป็นบ้านหลังเดียว ต่อมาบ้านแก้ว ได้อยู่ในความครอบครองของนาวินปาร์ค ที่นำบ้านแก้วมาสร้างไว้ที่ นาวินปาร์ค รังสิต ตำบลคลองสองอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ที่สร้างไว้เพื่อต้องการอนุรักษ์ไม้สักทองไว้เป็นสมบัติของชาติ และให้เยาวชนรุ่นหลังได้มีโอกาสชมความยิ่งใหญ่และความงดงามของไม้สักทอง
ต่อมา ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานโครงการบูรณะพระอาราม และท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน รองประธานโครงการฯ ได้มีจิตศรัทธาถวายบ้านสักทองหลังนี้ให้วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร เพื่อดำเนินการสร้างเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้สักทอง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การอนุรักษ์ เป็นศูนย์เผยแพร่ความรู้ทางด้านพระพุทธศาสนาและเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ใน พ.ศ.2549 และเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษาในปี พ.ศ.2550
วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมของอาคารต่างๆ ทั้งภายในพระอุโบสถ ด้วยการสักการะพระพุทธเทวราชปฏิมากร ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ และความงดงามทางจิตรกรรมฝาผนัง, มณฑปจัตุรมุข, ศาลาการเปรียญทรงไทย และหมู่อาคารอื่นที่เป็นเรือนไทยประยุกต์ลักษณะทรงปั้นหยาที่มีความสวยงาม
รื่นเริงใจในการแสดงและมหรสพทางวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก มาจัดแสดงให้ชมในวาระพิเศษและมหามงคลเพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรมที่ดีงามของไทย ในรูปแบบที่หลากหลายและน่าสนใจ ภายในบริเวณงาน ในวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร ส่วนต่างๆ กับกิจกรรมทางวัฒนธรรม ดังนี้
ส่วนพิธีเปิดงาน ในวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 18.30 น. จะมีพิธีเปิดงาน "เทศกาลวัดเทวราชกุญชร" มี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี พร้อมกับชมการแสดง แสง สี เสียง และสื่อผสม ชุด "เทิดพระบรมสารีริกธาตุ เทวราชกุญชรนฤมิต" ที่นำเสนอพุทธประวัติ และที่มาของพระบรมสารีริกธาตุ และการอัญเชิญมาให้สักการะ โดยจัดแสดงในรูปแบบเรื่องราว ประกอบเทคนิคแสง สี เสียง ตระการตา รวมทั้งการแสดงมหรสพไทยหาชมยาก เป็นส่วนในการร่วมอนุรักษ์ศิลปะการแสดงที่ล้ำค่าไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา โดยจัดมหรสพการแสดงแบบไทยที่หาชมยาก อาทิ รำเทพอำนวยพร การแสดงหุ่นกระบอกออกตัวชุดหุ่นหายปลายโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน สำมนักขาก่อศึก-พระรามตามกวาง การแสดงหุ่นสาย เรื่อง ศรัทธามหาบุรุษ โดยคณะหุ่นสายเสมา การแสดงหนังใหญ่เรื่องรามเกียรติ์ ตอน หนุมานถวายแหวน โดยคณะหนังใหญ่วัดขนอน
นอกจากนี้ยังมีการบรรเลงดนตรีไทยเคล้าคลอบรรยากาศของงาน สอดผสานกันเป็นศิลปะการบรรเลงดนตรีไทยที่ไพเราะ ในบรรยากาศแบบไทยๆ โดยวงดนตรีไทยจัดแสดงบริเวณเวทีวัฒนธรรมหน้าพระอุโบสถ และยังมีการแสดงความสามารถจากเยาวชนเขตดุสิตกับการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆ
ผู้มาชมงานยังได้ชื่นชมการสาธิตงานฝีมือไทยต่างๆ อาทิ งานจิตรกรรมไทย, งานลายรดน้ำ, งานประดับมุก, งานปักสะดึง และงานร้อยมาลัย ฯลฯ เป็นงานสาธิตเอกลักษณ์ไทย จากวิทยาลัยในวังชาย, วิทยาลัยในวังหญิง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตโชติเวช และการแสดงอัญมณีเครื่องประดับอันล้ำค่า อาทิ มังกรทองคำ น้ำหนัก 15 กิโลกรัม, แหวนนพเก้า 9 สี, พลอยประจำราศี, พลอยบุษราคัมเจียรนัย 35 กะรัต, ไข่มุก, ทองคำ, เพชร, เครื่องเงินประดับอัญมณี เป็นต้น จัดแสดงภายในอาคารพิพิธภัณฑ์สักทอง ตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น.
นอกจากนี้ยังมีซุ้มถ่ายภาพย้อนยุค ผู้ชมงานสามารถถ่ายภาพแบบย้อนยุค ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5-7 เก็บไว้เป็นที่ระลึก ที่ใช้พิพิธภัณฑ์สักทองที่มีสถาปัตยกรรมทรงปั้นหยาเป็นฉากหลัง พร้อมจัดบริการเครื่องแต่งกายย้อนยุคไว้บริการนักท่องเที่ยวที่สนใจด้วยในราคาพิเศษ การจำหน่ายสินค้าต่างๆ
อิ่มบุญรื่นเริงใจในวัฒนธรรมกับงาน "เทศกาลวัดเทวราชกุญชร 2552" ผู้สนใจสามารถเข้ามาสักการะไหว้พระขอพรได้ตลอดทั้งวัน ส่วนกิจกรรมการแสดงและกิจกรรมต่างๆ จะเริ่มขึ้นในระหว่างเวลา 17.00-21.00 น.
เทศกาลวัดเทวราชกุญชร 2552 | ไทยโพสต์

 

เสียดายจังเลยวันไปแล้วเนาะ