ปิดรับบริจาค เชิญอนุโมทนาบุญ สร้างรอยพระพุทธบาทสมเด็จองค์ปัจจุบัน ถวายเเล้ว น.8

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย ศิษปู่ใหญ่, 20 พฤศจิกายน 2012.

  1. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    สวัสดีครับ

    วันนี้ผมมีงานบุญใหญ่ อีกงานหนึ่งมาบอกบุญทุกๆท่านครับ คือ ขอเิชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างรอยพระพุทธบาทสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เพื่อประดิษฐาน ณ สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่เเห่งนี้ เคียงคู่กับ พระพุทธบาทสี่รอยจำลองที่ พี่Noo Norwayเเละพี่หนึ่ง1 เคยบอกบุญไปเเล้วเมื่อไม่นานมานี้ครับ:cool:
    61650_304861572953467_779697176_n.jpg
    ขอเชิญร่วมอนุโมทนางานถวายรอยพระพุทธบาท 4 รอยจำลอง + ผ้าป่าฯ 163,699 บาท น.51

    มูลเหตุการจัดสร้าง

    มีพี่ญาติธรรมท่านหนึ่ง มีความศรัทธาในองค์หลวงปู่มากได้ปรารถนาจะสร้างพระพุทธบาทถวายสวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่เเห่งนี้ ผมจึงเห็นว่า เป็นโอกาสดีที่หลายๆท่านที่พลาดโอกาสร่วมบุญในโครงการที่เเล้วได้ร่วมบุญอันยิ่งใหญ่นี้ครับ

    พระบาทnt.jpg

    ลักษณะเป็นรอยพระพุทธบาทที่จะจัดสร้างนี้เป็นรอยพระบาทรอยเดียวมีสัญลักษณ์ลวดลายภาพมงคล 108ประการ หล่อจากทองเหลือง ความยาว 2 เมตร ทำสีดำ จำลองจากรอยพระพุทธบาทสระบุรีครับ

    ผมจึงขอบอกบุญทุกท่านผู้มีจิตศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาให้ร่วมด้วยช่วยกัน ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างรอยพระพุทธบาทสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ตามกำลังศรัทธาเพื่อให้งานบุญที่คั่งค้าง สำเร็จลุล่วงสืบไป
    ท่านใดที่ร่วมเป็นประธานจัดสร้าง 1,000 บาท จะสลักชื่อผู้ร่วมบุญลงในเเผ่นหินเเกรนิต


    ประกาศ!! ท่านใดต้องการร่วมบุญสามารถเเจ้งรายชื่อได้



    หรือร่วมบริจาคทรัพย์ตามกำลังศรัทธาครับ

    ร่วมบุญได้ที่
    สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ "ธนพลาราม"
    (ตรงข้ามวัดโพธิ์เจริญ) บ้านหัวถนน
    ซอย ๒๑ ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    โทร 0868032001


    โอนปัจจัยร่วมทำบุญได้ที่.....

    ชื่อบัญชี พระธนพล ธนพโลเลขที่ 359-0-13922-6 ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์ราชการสุพรรณบุรี



    กำหนดการ

    วันอาทิตย์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๖
    เวลา ๑๐.๐๐ น. ทำพิธีถวายรอยพระพุทธบาทเเละทอดผ้าป่าสามัคคีสมทบทุน เทพื้น “วิหารพระพุทธเจ้า ๓ กาล”



    ชมภาพวันพิธีถวายรอยพระบาทที่ หน้า 8 ครับ:cool::cool::cool:



    อานิสงค์การสร้างรอยพระพุทธบาท
    อานิสงส์ในการสร้างรอยพระพุทธบาทจำลอง และ การสักการะรอยพระพุทธบาท

    แสดงไว้ในอรรถกถาขุททกนิกาย เถรคาถาหน้า 168 กล่าวถึงประวัติของพระสุคันธเถระในอดีตชาติว่า " เมื่อก่อนเรา(พระสุคันธเถระ)กับบิดาและปู่ เป็นคนทำการงานในป่า เลี้ยงชีพด้วยการฆ่าปศุสัตว์ กุศลกรรมของเราไม่มี ใกล้กับที่อยู่ของพระพุทธเจ้าผู้นำชั้นเลิศของโลกทรงพระนามว่าติสสะ ผู้มีพระปัญญาจักษุได้ทรงแสดงรอยพระบาทไว้สาทรอย เพื่ออนุเคราะห์ เราได้เห็นรอยพระบาทของพระธรรมศาสดาผู้ทรงพระนามว่าติสสะที่พระองค์ทรงเหยียบเอาไว้ เป็นผู้ร่าเริง มีจิตยินดี ยังจิตให้เลื่อมใสในรอยพระบาท เราเห็นต้นหงอนไก่ที่ขึ้นมาจากแผ่นดินมีดอกบานแล้ว จึงเด็ดมาพร้อมทั้งยอด บูชารอยพระบาทอันประเสริฐสุด เพราะกรรมที่เราทำไว้ดีแล้วนั้นปละเพราะความตั้งเจตนาไว้ เราละร่างมนุษย์แล้วไปสู่ดาวดึงสพิภพ เราเข้าถึงกำเนิดไดๆ คือ เทวดาหรือมนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ เรามีผิวกายเหมือนสีดอกหงอนไก่ มีรัสมีเป็นแดนซ่านออกจากตน ในกัปที่ 92 แต่ภัทรกัปนี้ เราได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชารอยพระพุทธบาท เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราทำสำเร็จแล้ว"

    อีกแห่งหนึ่งหน้า 253 พระรมณียวิหารีเถระได้แสดงอานิสงส์ การบูชารอยพระพุทธบาทไว้ว่า "เราได้เห็นรอยพระบาท อันประดับด้วยจักรและเครื่องอลังการ ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่าวิปัสสี ผู้แสวงหาคุณใหญ่ทรงเหยียบไว้ จึงเดินตามรอยพระบาทไป เราได้เห็นต้นหงอนไก่มีดอกบานจึงเก็บเอามาบูชาพร้อมทั้งราก เราร่าเริง มีจิตใจโสมนัสได้ไหว้รอยพระบาทอันอุดม ในกัปที่ 91 แต่ภัทรกัปนี้เราได้บูชารอยพระบาทด้วยดอกไม้ได ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาในกัปที่ 57 ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่าวีตมละ ทรงสมบูรณืด้วยแก้วเจ็ดประการมีพลมาก เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราทำสำเร็จแล้ว"

    ดังจะเห็นว่า การบูชารอยพระบาทของพระพุทธเจ้าในอดีตทำให้พระเถระทั้งสองรูปไม่เกิดในทุคติ และมีผิวกายเหมือนดอกไม้ที่นำไปบูชา ในที่สุดก็ทำให้บรรลุพระอรหันต์ได้ อานิสงฆ์ของการบูชาด้วยศรัทธาที่แน่วแน่มั่นคงย่อมได้ผลตามสมควรเสมอ
    STRANGER IN PARADISE - ขอเชิญร่วมสร้าง " รอยพระพุทธบาท "


    อธิบายภาพมงคลในรอยพระพุทธบาทครับ​

    1.jpg
    2.jpg 3  .jpg 4nn.jpg 5n.jpg
    ภาพมงคล ๑๐๘ ที่ปรากฎอยู่บนรอยพระพุทธบาทจำลองนั้น เป็นภาพอะไรบ้างมีความหมายอย่างไร ดูเหมือนจะมีคนอธิบายไว้น้อยมาก ผมได้หาข้อมูลทั้งจากเว็บไซท์ และหนังสือ นั้นก็เห็นว่ามีใจความหลักๆ คล้ายๆกัน เพียงแต่การเรียงลำดับอาจคลาดเคลื่อนกันไปบ้าง ตามแต่ว่าจะนำภาพ รอยพระพุทธบาทของวัดใดมาเป็นต้นแบบ ซึ่งสำหรับผมคงไม่สำคัญในการจัดวางขนาดนั้น เพราะหากเราไปพบรอยพระพุทธบาทที่จัดวางต่างไป ก็อาจทำให้สับสนกันเปล่าๆ ผมจึงขอคัดลอกมาเฉพาะเนื้อหาที่ว่ามีภาพมงคลใดบ้าง ในรอยพระพุทะบาทจำลอง
    ภาพสวรรค์และรูปพรหม มีประมาณ ๒๔ ภาพ (สวรรค์ ๖ ชั้น รูปพรหม ๑๖ ชั้น)
    ๑. รูปพรหมชั้นสูงสุด คือ อกนิฏฐาพรหม ชั้นที่ ๑๖
    ๒. รูปพรหมชั้นที่ ๑๕ คือ สุทัสสีพรหม
    ๓. รูปพรหมชั้น ๑๔ คือ สุทัสสาพรหม
    ๔. รูปพรหมชั้น ๑๓ คือ อตัปปาพรหม
    ๕. รูปพรหมชั้น ๑๒ คือ อวิหาพรหม
    ๖. รูปพรหมชั้น ๑๑ คือ เวหัปผลาพรหม
    ๗. รูปพรหมชั้น ๑๐ คือ อสัญญีสัตตพรหม (หรือ พรหมลูกฟัก)
    ๘. รูปพรหมชั้น ๙ คือ สุภกิณหาพรหม
    ๙. รูปพรหมชั้น ๘ คือ อัปปมาณสุภาพรหม
    ๑๐. รูปพรหมชั้น ๗ คือ ปริตตสุภาพรหม
    ๑๑. รูปพรหมชั้น ๖ คือ อาภัสสราพรหม
    ๑๒. รูปพรหมชั้น ๕ คือ อัปปมาณาภาพรหม
    ๑๓. รูปพรหมชั้น ๔ คือ ปริตตาภาพรหม
    ๑๔. รูปพรหมชั้น ๓ คือ มหาพรหมาพรหม
    ๑๕. รูปพรหมชั้น ๒ คือ พรหมปุโรหิตาพรหม
    ๑๖. รูปพรหมชั้น ๑ คือ พรหมปาริสัชชาพรหม
    ๑๗. เป็นชั้นเทวโลกแดนกามาวจรภูมิ เป็นแดนของเทพเทวดาสวรรค์ชั้นที่ ๖ เป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด คือ ปรนิมมิตวสวัตตี
    ๑๘. สวรรค์ชั้นที่ ๕ คือ สวรรค์ชั้นนิมมานรดี
    ๑๙. สวรรค์ชั้นที่ ๔ คือ สวรรค์ชั้นดุสิตตา
    ๒๐. สวรรค์ชั้นที่ ๓ คือ สวรรค์ชั้นยามา
    ๒๑. สวรรค์ชั้นที่ ๒ คือ สวรรค์ชั้นดาวดึงสา
    ๒๒.สวรรค์ชั้นที่ ๑ คือ สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
    ๒๓.สัญลักษณ์ของสวรรค์ดาวดึงส์นั้นตั้งอยู่บนยอดประธาน
    ๒๔.มีสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาอยู่บนยอดรองทั้ง ๔ ยอด ของเขาพระสุเมรุ อันเป็นแกนของจักรวาล
    ภาพมงคลอื่นๆ
    ๑. ภาพพระแสงหอก (สันติ) เปรียบเสมือนพระอรหัตมรรคญาณและพระอรหัตผลญาณที่สามารถกำจัดหมู่มาร คือ กิเลสทั้งปวงได้ เรียกว่า ธรรมรัตนะหรือรัตนมงคล
    ๒. แว่นส่องพระพักตร์ (สิริวัจโฉ) มีความหมายว่า รัตนอุสภราช ซึ่งเป็นสิริมงคลทำให้เจริญได้โดยลำดับ เกิดขึ้นที่ฝ่าพระบาททั้งสอง ของพระพุทธเจ้า
    ๓. ดอกพุดช้อน (นันทิยาวัตตัง) ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปรียบเสมือนพญาราชสีห์ บันลือสีหนาทยิ่งใหญ่ สีหราชนั้นทำพุทธสิริมงคลให้เจริญ
    ๔. สายสร้อย (โสวัตถิกัง) ท่านอธิบายว่า เป็นรัตนะชื่อว่า รัตนโสตถิมงคล กล่าวคือ ผ้ารัตนบังสุกุลสามารถกำจัดเครื่องเศร้าหมองทั้งปวง รัตนโสตถิ มงคลเป็นใยแก้ว สามารถจะให้สำเร็จการชวนดูชวนเห็นแก่เทวดาและมนุษย์ได้ตามสมควร
    ๕. ต่างหู (วัฎฎังสกัง) ได้แก่การแทงตลอดมรรคผลด้วยวชิรญาณดุจการคล้องพวงดอกไม้แก้วให้เป็นสิริมงคลที่บ่า และศีรษะอันทำให้พระพุทธสิริคลเจริญ
    ๖. ถ้วยภาชนะ (วัทธมานัง) ได้แก่ ภาชนะทอง ชื่อว่าของที่รองรับน้ำนม เป็นสิ่งที่ทำให้พระพุทธมงคลเจริญได้ เกิดขึ้นที่ฝ่าพระบาททั้งสอง ของพระพุทธเจ้า
    ๗. ปราสาท (ปาสาโท) ชื่อว่า ปราสาทแก้วเป็นพระมหานิพพานนคร คือ รัตนปราสาท อันทำให้พุทธสิริมงคลเจริญ
    ๘. ขอช้าง (อังสุโส) ได้ชื่อเป็นขอแก้วเป็นอรหัตมรรคญาณและอรหัตผลญาณ ทำให้พุทธสิริมงคลเจริญ
    ๙. ซุ้มประตู (โตรณัง) ได้แก่ ประตูแก้วทั้ง ๒ คือ อรหัตมรรค และอรหัตผล เพื่อปิดประตูเมืองป้องกันกิเลส
    ๑๐. เศวตฉัตร (เสตัจฉัตตัง) เป็นเศวตฉัตรแก้ว อันทำให้พระพุทธสิริมงคลเจริญ
    ๑๑. พระขรรค์แก้ว (รัตนขัคคัง) คือ พระขรรค์แก้ว สามารถกำจัดกิเลสความเศร้าหมอง เป็นพุทธสิริมงคลที่เจริญ
    ๑๒. กำหางนกยูง (โมรหัตถัง) ได้แก่ พัดกำหางนกยูง ที่ตกแต่งสวยงาม ทำให้พระพุทธสิริมงคลเจริญ
    ๑๓. พระแท่นที่ประทับ (ภัททปิฎฐัง) ได้แก่ พระแท่นบัณธุกัมพลรัตนศิลาอาสน์ โคนต้นไม้ปาริฉัตตกะ (ไม้ทองหลาง ทองกวาว) ในภาพดาวดึงส์ เป็นสิริมงคลเจริญ
    ๑๔. พระมงกุฎ (อุณหิสัง) ได้แก่ มงกุฎแก้ว เป็นสิ่งทำให้สิริมงคลเจริญในโลกทั้งสาม
    ๑๕. เถาวัลย์แก้ว (รัตนวัลลี) เป็นพวงมาลัยแก้ว ให้เถาวัลย์ทองร้อยอย่างดีสวยงามมาก เป็นสิ่งที่ทำให้พุทธสิริมงคลเจริญ
    ๑๖. พัดแก้ววาลวิชชนี (มณิกาลวิชชนี) เป็นพัดขนทรายที่ทำด้วยจามรี เป็นของงดงามด้วยรัตนะทั้งปวง ทำให้พระพุทธสิริมงคลเจริญยิ่ง
    ๑๗. พวงดอกมะลิ (สุมนทามัง) พวงดวกมะลิแก้ว ใช้ด้ายทองคำผูกห้อยร้อยรัดอย่างดี เป็นเหมือนพระพุทธผู้ประเสริฐ ทำให้พุทธสิริมงคลเจริญ
    ๑๘. ดอกบัวแดง (รัตตุปปะลัง) ได้แก่ ดอกอุบลแก้วสีแดง ทำให้พุทธสิริมงคลเจริญ อันเกิดขึ้นที่ฝ่าพระบาททั้งสองของพระพุทธเจ้า
    ๑๙. ดอกบัวขาบ (นีลุปปะลัง) ได้แก่ ดอกอุบลแก้วสีเขียว ทำให้พุทธสิริมงคลเจริญ
    ๒๐. ดอกบัวขาว (เสตุปปะลัง) เป็นดอกบัวแก้วสีขาว เหมือนแก้วมณีและแก้วมุกดา ทำให้พุทธสิริมงคลเจริญ
    ๒๑. ดอกบัวหลวงชมพู (ปทุมัง) เป็นดอกบัวหรือปทุมแก้ว สีเหมือนแก้วมณี ทำให้สิริมงคลเจริญ
    ๒๒. ดอกบัวหลวงขาว (ปุณฑริกัง) เป็นดอกปทุมแก้วสีขาวเหมือนแก้วมุกดา ชื่อว่า บุณฑริกา ทำให้พุทธสิริมงคลเจริญ
    ๒๓. กระออมมีน้ำเต็ม (ปุณณมโฎ) หมายความถึง ภาชนะสำหรับรองรับน้ำนม ภาชนะแก้วมณีทำให้พุทธสิริมงคลเจริญ
    ๒๔. ถาดมีน้ำเต็ม (ปุณณจาฏิ) เป็นภาชนะถาดทองคำ สำหรับใส่เครื่องบูชาของเทวดา และมนุษย์ ย่อมเป็นที่พึ่งแห่งตน
    ๒๕. มหาสมุทรทั้ง ๔ (จตุสมุทโท) มีความหมายว่า ศีล ๔ อย่างเป็นสัจธรรม ๔ ประการ ให้สัตว์ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน (อาจสร้างภาพ ๑ ถึง ๔ ภาพ)
    ๒๖. จักรวาล (จักกวาโฬ) หมายความว่า พระผู้มีคพระภาคเจ้าทรงมีพุทธญาณอันวิเศษ ทรงรู้นิสัยแห่งพระองค์ ชื่อว่าเป็นสัพพัญญุตญาณ
    ๒๗. ป่าหิมพานต์ (หิมวา) ชื่อว่าเป็นพระรูปกายของพระพุทธเจ้าที่มีพระฉวีวรรณดุจทอง สวยงามรุ่งเรืองเกินกว่ามนุษย์เทวดา
    ๒๘. ภูเขาสุเนรุ (สุเนรุ) ชื่อว่าเป็นพระรูปกายของพระพุทธเจ้าที่มิหวั่นไหวด้วยโลกธรรม ๘ ประการ ดังเช่นภูเขาสุเนรุ
    ๒๙. ดวงอาทิตย์ (สุริโย) คำนี้เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ทรงกำจัดความมืดมิด คือ กิเลสทั้งปวง
    ๓๐. ดวงจันทร์ (จันทิมา) เป็นชื่อว่า พระหฤทัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าเย็นฉ่ำยิ่งนักเปรียบดังน้ำในมหาสมุทร ทรงมีเมตตาธรรมและเย็นเยือกดุจพระจันทร์
    ๓๑. ดวงดาว (นักขัตตา) เป็นชื่อว่า พระหฤทัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าที่เย็นฉ่ำ และรุ่งเรืองส่องสว่างกระจ่างแจ้ง เหมือนดวงดาวนักขัตฤกษ์
    ๓๒. ทวีปใหญ่ทั้ง ๔ ประการ (จัตตาโรมหาทีป ๔) ความว่า ทวีปใหญ่ทั้ง ๔ เปรียบเสมือนสัจธรรม ๔ ประการ เป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งปวงดั่งองค์พระผู้มีพระภาคเจ้า (อาจสร้างภาพ ๑ ถึง ๔ ภาพ)
    ๓๓. ทวีปน้อย ๒,๐๐๐ ซึ่งเป็นบริวาร (ทวิสหัสสปริตตทีปปริวารา) มีความหมายถึงทวีปน้อยทั้ง ๒,๐๐๐ ที่เป็นบริวารของทวีปใหญ่ทั้ง ๔ เหมือนเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งปวง
    ๓๔. พระเจ้าจักรพรรดิพร้อมด้วยข้าราชบริพาร (สปริวาโร จักกวัตติราชา) เปรียบเหมือนพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงเป็นใหญ่ในโลกทั้ง ๓ ฉันใด พระเจ้าจักรพรรดิก็ทรงมีบริวารของพระองค์ฉันนั้น
    ๓๕. สังข์ขาวทักษิณาวรรต (ทักขิณาวัฏฏเสตสังโข) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงกุศลธรรมอันบริสุทธิ์แก่ชาวโลกทั้ง ๓ เพื่อให้เว้นจากธรรมที่ไม่บริสุทธิ์ คือ อกุศกรรมบถ ๑๐ ประการ ทรงเป็นผู้รุ่งโรจน์โชติช่วงด้วยพระสุรเสียงกึกก้องของพระองค์ เหมือนเสียงสังข์เสียงจักร เรียกว่า สังข์ขาวทักษิณาวัฎ
    ๓๖. ปลาทองคู่ (สวัณณมัจฉกยุคคะลัง) ความหมายว่า เป็นพระอัครสาวกทั้งสองประดับเบื้องซ้าย เบื้องขวา ที่สมบูรณ์ด้วยปัญญาและฤทธิ์คือ พระสารีบุตรเถระ และพระมหาโมคคัลลานเถระ
    ๓๗. กงจักรคู่ (ยุคคละจักกัง) เป็นจักรแก้วชื่อว่า พุทธรัตนจักร คือ พุทธรัตนจักร สังฆรัตนจักร
    ๓๘. แม่น้ำใหญ่ ๗ สาย (สัตตมหาคังคา) เป็นมหาคงคาทั้ง ๗ หมายถึง สัมโพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้ว ดุจมหาคงคาที่ไหลมาไม่ขาดสาย (อาจสร้างภาพ ๑ ถึง ๗ ภาพ)
    ๓๙. สระใหญ่ ๗ สระ (สัตตมหาสรา) อันเปรียบเสมือนอริยทรัพย์ ๗ ประการ ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้แล้วแก่สัตว์ทั้งปวง (อาจสร้างภาพ ๑ ถึง ๗ ภาพ)
    ๔๐. ภูเขาใหญ่ ๗ เทือก (สัตตมหาเสลา) หมายถึง วิญญาณฐิติ ๗ ประการ ที่พระพุทธองค์ทรงดำรงอยู่ในญาณวิสัยของพระองค์
    (หมายเหตุ แม่น้ำใหญ่ ๗ สาย หรือ มหาคงคา ๗ ได้แก่ ชาติคงคา ยมุนาคงคา สรภูคงคา สุรัสดีคงคา อจิรดีคงคา มหิคงคา และมหานทีคงคา (อาจสร้างภาพ ๑ ถึง ๗ ภาพ)
    ส่วนโพชฌงค์ ๗ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ วิริยสัมโพชฌงค์ ปิติสังโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสังโพชฌงค์ อุเบกขาสัมโพชฌงค์
    สระใหญ่ ๗ สระ คือ สระอโนดาต สระกมัณฑมุณฑะ สระรถกาละ สระกุณาละ สระฉัททันต์ สระมัณฑากินี และสระสีหปปาตะ
    อริยทรัพย์ ๗ ประการ คือ ทรัพย์ คือศรัทธา ทรัพย์คือศีล ทรัพย์คือสุตะ ทรัพย์คือจาคะ ทรัพย์คือปัญญา ทรัพย์คือหิริ และทรัพย์คือโอตตัปปะ
    ภูเขาใหญ่ ๗ เทือก มี ภูเขาคันธร ภูเขาอิสินธร ภูเขากรวิก ภูเขาสุทัสสนะ ภูเขาเนมินธร ภูเขาวินตกะ และภูเขาอัสสกัณณะ
    วิญญาณฐิติ ๗ ประการ คือ อาวัชชนวิญญาณ ฉันนวิญญาณ ทัสสนวิญญาณ สัมปฏิจฉันวิญญาณ โผฏฐัพพนวิญญาณ ชวนะวิญญาณ และอาลัมพนวิญญาณ เรียกว่า วิญญาณฐิติ ๗ อย่าง
    ๔๑. พญาครุฑ (สุปัณณราชา) เป็นความหมายที่ว่า พระพุทธเจ้าทรงใช้พระวชิรญาณกำจัดกิเลส ๑,๕๐๐ เหมือนพญาครุฑกำจัดพญานาค ซึ่งเป็นคู่อริกัน
    ๔๒. พญาจระเข้ (สุงสุมารราชา) ในความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงดำรงอยู่ในพระสัพพัญญุตญาณ อันเป็นพระรูปกายของพระองค์เพื่อจะรักษาพระองค์และรักษาชาวโลกทั้ง ๓ ไว้มิให้ไปตกอบายภูมิทั้ง ๔ เหมือนพญาจระเข้ รักษาตนและหมู่ญาติของตนในเภสกลาวัน หรือสระบัวนั่นเอง
    ๔๓. ธงชัยธงแผ่นผ้า (ธชะปฏาณ) คือ ธงชัยแผ่นผ้าทอง ประดับด้วยธรรม คือ อรหัตมรรคญาณ และอรหัตผลญาณ ประดับด้วยเครื่องบูชาพระพุทธเจ้า
    ๔๔. พระเก้าอี้แก้ว (รัตนปาฏังกิ) เป็นความหมายถึงพระที่นั่งรัตนบัลลังก์ของพระพุทธเจ้า ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ที่ทรงตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ
    ๔๕. พัดโบกทอง (สุวัณณจามโร) สุวรรณจามรเป็นพัดโบกทองคำ ประดับด้วยแก้ว ๗ ประการ สุวรรณจามรมี ๒ ชนิด คือ ทำด้วยขนหางจามรีกับทำด้วยผ้าและใบไม้ เป็นต้น
    ๔๖. ภูเขาไกรลาส (เกลาสปัพพโต) เปรียบเป็นภูเขาทองที่งดงามยอดยิ่งกว่าภูเขาใดๆ ดังพระพุทธเจ้าที่ทรงสมบูรณ์งดงามยิ่งนัก
    ๔๗. พญาราชสีห์ (สีหราชา) พระพุทธองค์เปรียบดังพญาราชสีห์ ทรงประกอบด้วย พระเวสารัชชญาณ ๔ ประการ เสด็จเข้าไปกลางบริษัททั้ง ๔ เพื่อทรงแสดงสัจธรรม ๔ ด้วยพระพุทธลีลาอันงดงามยิ่ง เสมือนพญาราชสีห์ที่ประกอบด้วยบันลือสีหนาทของตน
    ในบทสวดที่ว่า นโมตัสสะ เป็นเวสารัชชญาณ ภควโต เป็นเวสารัชชญาณ อรหโต เป็นเวสารัชชญาณ สัมมาสัมพุทธัสสะ เป็นเวสารัชชญาณ ดังนั้น คำว่า นโมพุทธธัสสะ นโมธรรมมัสสะ นโมสังฆฆัสสะ มีประโยชน์เพื่อกำจัดอันตรายทุกอย่าง
    และบทสวดที่ว่า “หูลู หูลู หูลู สวาหายยะ” นั้น จึงมีความหมายว่าอันตรายทุกอย่าง เช่น ความมีโรคมาก มีทุกข์มาก มีความโศกเศร้ามาก มีศัตรูมาก มีความขัดข้องมาก มีภัยมาก เมื่อกล่าวขึ้นอันตรายทุกอย่างเหล่านี้ย่อมพินาศไปสิ้น ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธองค์ ดังเสียงบันลือสีหนาทนั่นเอง
    ๔๘. พญาเสือโคร่ง (พยัคฆราชา) พระผู้มีพระภาคเจ้าเปรียบเหมือนพยัคฆราชทรงประดับด้วยพระสัพพัญญุตญาณ พระองค์ทรงตรัสรู้พระญาณที่ ๑ คือ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ (ระลึกชาติได้) ในปฐมยาม
    ทรงตรัสรู้พระญาณที่ ๒ คือ ทิพพจักขุญาณ (ตาทิพย์) ในมัชฌิมยาม
    ทรงตรัสรู้พระญาณที่ ๓ คือ อาสวักขยญาณ (ทำให้กิเลสหมดไป) ในปัจฉิมยาม
    ญาณทั้ง ๓ อย่างนี้ จึงเป็นพระสัพพัญญุตญาณ
    ๔๙. พญาเสือเหลือง (ทีปิราชา) พระพุทธเจ้าไม่ทรงยินดีในกามคุณทั้ง ๕ อันเป็นวิสัยในโลกทั้ง ๓ คือ พระองค์ไม่ทรงยินดีอะไรที่เกิดขึ้นในโลกทั้ง ๓ นี้ แต่พระองค์ทรงยินดีในนวโลกุตรญาณธรรม คือ พระสัพพัญญุตญาณ เพื่อประโยชน์ด้วยมรรคผลนิพพาน จึงได้รับพระนามว่า ทีปิราชา หรือพญาเสือเหลือง
    ๕๐. พญาม้าพลาหก (พลาหโกอัสสราชา) ม้าพลาหกประกอบด้วยการก้าวเดินที่สง่า สวยงามกว่าสัตว์ชนิดใด พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงประกอบไปด้วยพละกำลังมาก ทรงกำลังกายถึง ๑๐ ประการ สวยงามกว่าสัตว์ใดๆ ทั้งหมด จึงได้รับการถวายพระนามว่า พลาโหอัสสราชา คือ ม้าพลาหกนั่นเอง
    ๕๑. พญาช้างอุโบสถ (อุโปสโต วารณราชา) พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงยินดีในอารมณ์วิสัยกามคุณ ๕ อะไรๆ ตลอดกาล แต่จะทรงยินดีอารมณ์พระนิพพาน อันเป็นนวโลกุตรญาณธรรม จึงได้รับการถวายนามเป็นช้างอุโบสถ หรืออุโบสโถวารณราชา
    ๕๒. พญาช้างฉัททันต์ (ฉัททันโตวารณราชา) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีพระรัศมีมีพรรณ ๖ ประการ ประดับอยู่ทั่วพระวรกายของพระองค์
    ๕๓. พญานาควาสุกรี (วาสุกีอุรคราชา) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประดับด้วยพระสัพพัญญุตญาณ พญากาลนาคราชได้ถวายอาสนะบัลลังก์แก้วของตนแด่พระองค์ ครั้งนั้นพระองค์ประทับนั่งเสวยวิมุติสุขเหนือบัลลังก์นั้น เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแด่พญากาลนาคราช
    วาสุกีอุรคราชา มี ๒ อย่าง คือ โลกิยราชา กับโลกุตรราชา
    ๕๔. พญาหงส์ (หังสราชา) มีความหมายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ไม่ทรงยินดีโลกิยสาระ คือ เงินทองมีแก้ว ๗ ประการ เป็นต้น แต่พระองค์ทรงยินดีในโลกุตรธรรม คือ มรรคผลนิพพานจึงได้รับการถวายพระนามว่า หังสราชา
    ๕๕. พญาไก่เถื่อน พญาโคอุสภราช (พลกุกกุฏอุสภราชา) มีความว่าเมื่อครั้งก่อนพระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยพระชาติเป็นโคอุสภราช มีนามว่า สุมังคละ ไม่ทรงสนพระทัยศัตรูที่จะทำให้พระองค์หวั่นไหวกลางคัน คือ ทรงละศัตรูที่จะทำการประทุษร้ายพระองค์เสียแล้ว
    ทรงสนพระทัยจะแสดงธรรมโปรดสัตว์ทั้งหลายเท่านั้น เพราะเหตุนี้พระองค์จึงได้รับการถวายพระนามว่า พลกุกกุฏอุสภราชา
    ๕๖. พญาช้างเอราวัณ (เอราวัณโณนาคราชา) มีความว่า พระพุทธองค์ทรงตั้งอยู่ในอริยธรรม ทรงยินดีในศีลสาระ ดุจพญาช้างที่ตั้งอยู่ในอริยมรรค พระองค์จึงได้รับการถวายพระนามว่า เอราวัณโณนาคราชา คำว่า เอ เป็นการแสวงหา รา เป็นความยินดี เอรา จึงเป็นการค้นหาสาระในอริยธรรมอันยิ่งใหญ่ตลอดกาลเป็นเนืองนิตย์
    ๕๗. มังกรทอง (สุวัณโณมังกโร) เปรียบดังพระพุทธองค์ทรงมีความประพฤติที่กล้าแข็ง ในอรหัตมรรคญาณ และอรหัตผลญาณ คือ วชิรญาณ สามารถตัดกิเลสทั้งปวงได้ ประดุจเลื่อยเพชร จึงได้รับการถวายพระนามว่า สุวัณโณมังกโร
    ๕๘. แมลงภู่ทอง (สุวัณโณภมโร) พระพุทธองค์เปรียบดั่งผึ้ง เคล้าคลึงละอองเกสรใหม่จากดอกไม้ทั้งหลาย โดยไม่ทำลายต้นให้เสียหาย ประดุจที่ทรงคบหาบริษัท ๔ ทรงกำจัดมานะในใจของบริษัทเหล่านั้นให้ขาดได้ จึงได้รับการถวายพระนามว่า สุวัณโณ ภมโร
    ๕๙. ท้าวมหาพรหมสี่พักตร์ (จตุมุโขมหาพรหมา) พระพุทธองค์ทรงประกอบไปด้วยพรหมวิหาร ๔ มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ทรงแสดงพรหมวิหารให้สัตว์ทั้งหลาย จึงได้รับการถวายพระนามว่า จตุมุโข มหาพรมหา
    ๖๐. เรือทอง (สวัณณนาวา) มีความหมายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเปรียบดังเรือทองที่ทรงช่วงสัตว์ทั้งหลายให้ข้ามมหาสมุทรอันลึกล้ำ คือ สงสาร ให้ไปถึงฝั่งคือ นิพพาน เรือทองจึงเป็นอรหัตมรรคญาณและอรหัตผลญาณ ฉะนี้
    ๖๑. บัลลังก์แก้ว ( รันตปัลลังโก) เป็นบัลลังก์แก้ว คือ รัตนบัลลังก์ที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระพุทธเจ้าทรงกำจัดหมู่มารได้ด้วยอานุภาพบารมี ๑๐ ของพระงองค์
    ๖๒. พัดใบตาล (ตาลปัณณัง) ท่านหมายว่า ใบตาลแก้ว คือพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงเมตตาธรรมอันเยือกเย็นไว้ในหัวใจของชาวโลกทั้ง ๓ โลก ด้วยพระมหากรุณาของพระองค์
    ๖๓. เต่าทอง (สุวัณโณกัจฉโป) มีความหมายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตัดกิเลสด้วยวชิรญาณ เพราะเหตุนี้พระองค์จึงได้รับการถวายพระนามว่า สุวัณโณกัจฉโป
    ๖๔. แม่โคลูกอ่อน (สุวัจฉกา คาวี) หมายถึง พระพุทธองค์ทรงแสดงโลกุตตรธรรม ๙ มีชื่อว่า อมตมหานิพพาน แก่ชาวโลกทั้ง ๓ ด้วยพระมหากรุณาของพระองค์ ดุจแม่โคที่มีใจเมตตารักลูกของตน
    ๖๕. กินนร (กินนโร) มีความหมายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงประกอบด้วยพระมหากรุณาของพระองค์ ไม่ทรงเบียดเบียนสัตว์ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงได้รับการถวายพระนามว่า กินนโร
    ๖๖. กินนรี (กินนรี) พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงประกอบด้วยพระมหากรุณาไม่เบียดเบียนสัตว์อื่นๆ ทั้งหมด จึงได้รับการถวายพระนามว่า กินนรี
    ๖๗. นกการเวก (กรวิโก) พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม คือ มรรคผลนิพพาน คือ โลกุตตรธรรม ๙ แก่สัตว์ทั้งหลาย ด้วยพระสุรเสียงที่ไพเราะยิ่งนัก ดังนี้ พระองค์จึงได้รับการถวายพระนามว่า กรวิโก หรือ การะเวก
    ๖๘. พญานกยูง (มยุรราชา) มีความหมายถึง พระพุทธเจ้าทรงประกอบด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ และอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงได้รับการถวายพระนามว่า มยุรราชา
    ๖๙. พญานกกระเรียน (โกญจราชา) หมายถึง การที่พระพุทธองค์ไม่ทรงเยียบถูกพื้นดิน เมื่อคราวเสด็จไปไกลๆ ทรงเหาะไปทางอากาศด้วยฤทธิ์ ดังนั้น จึงได้รับการถวายพระนามว่า โกญจราชา หรือ พญานกกระเรียน
    ๗๐. พญานกจากพราก (จากวากราชา) ด้วยที่พระพุทธเจ้าทรงบันลือสีหนาทใหญ่ที่ประกอบด้วยการแสดงธรรม คือ ทศพลญาณแก่ชาวโลกทั้ง ๓ เพื่อให้บรรลุมรรคผลนิพพาน พระองค์จึงได้รับการถวายพระนามว่า จากวากราชา คือ พญานกจากพราก
    ๗๑. พญานกพริก (ชีวัญชีวกราชา) หมายความถึง การที่พระพุทธเจ้าทรงปลดเปลื้องสัตว์ให้พ้นไปจากมิจฉาชีพ ให้เลี้ยงตนด้วยสัมมาชีพ พระองค์จึงได้รับการถวายพระนามว่า ชีวัญชีวกราชา คือ พญานกพริก นั่นเอง
    มิจฉาชีวัง หมายความว่า สัตว์ทั้งหมดในโลกนี้ที่จะต้องไปอบายนรก ย่อมกระทำเวรกรรม ๕ ประการ คือ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ ดื่มสุราเมรัย เวรกรรมทั้ง ๕ ประการ ที่สัตว์ทั้งหลายกระทำในโลกนี้ เรียกว่า มิจฉาชีพ
    สำหรับสัมมาชีวัง หมายถึง สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ที่จะได้ไปสวรรค์ คือ ย่อมไม่ทำเวรกรรม ๕ ประการ คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดเท็จ ไม่ดื่มสุราเมรัย เวรกรรมทั้ง ๕ ประการนี้ ถ้าสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ไม่กระทำ เรียกว่า สัมมาชีพ
    หากนำจำนวน ๒๔ มาบวกกับ ๗๑ จะได้เพียง ๙๕ ภาพ ยังขาดไป ๑๓ ภาพ จึงจะครบ ๑๐๘ แต่ความจริงแล้วหากนับรวมภาพทวีป มหาสมุทร สระใหญ่ ภูเขาใหญ่ ก็จะได้ครบ ๑๐๘ ภาพแล้วครับ http://palungjit.org/threads/เล่าเรื่องภาพมงคล-๑๐๘-ประการในรอยพระพุทธบาทจำลอง.275272/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 มกราคม 2013
  2. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    รายนามผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพเป็นกองบุญ
    1.คุณกานต์ระวี สมาทิน 1 กองบุญ 1,000 บาท(โอนเเล้ว ธ.ไทยพานิช//ก่อสร้าง)
    2.คุณกษิดิศ พลทองวิจิตร1 กองบุญ 1,000 บาท (โอนเเล้ว)
    3.คุณฐิติ ชลแสนเจริญ คุณชินา โอฬารรัตนพันธ์ และครอบครัว1 กองบุญ 1,000 บาท(โอนเเล้ว ธ.ไทยพานิช//ก่อสร้าง)
    4.คุณธมกร พนัสดิษฐ์ 1 กองบุญ 1,000 บาท(โอนเเล้ว)
    5.คุณจิตนภา เหล่ากุลวานิช 1 กองบุญ 1,000 บาท(โอนเเล้ว)
    6.คุณจุฑาทิพย์ สิมกิ่ง และครอบครัว1 กองบุญ 1,000 บาท(โอนเเล้ว)
    7.คุณเบนตัน คุณชลดา เด็กชายซันนี่ แดเนียล 1 กองบุญ 1,000 บาท (โอนเเล้ว)
    8.คุณวิยดา วงค์จินะ1 กองบุญ 1,000 บาท (โอนเเล้ว)
    9.คุณชัยวัฒน์ พุกชาญค้า.1 กองบุญ 1,000 บาท (โอนเเล้ว ธ.ไทยพานิช//ก่อสร้าง)
    10.คุณธนิตศักดิ์ นาราช1 กองบุญ 1,000 บาท (โอนเเล้ว)
    11.คุณณัฐณิชาต์ - ธีรศักดิ์ อภิรมย์วรการ และครอบครัว 1 กองบุญ 1,000 บาท (โอนเเล้ว)
    12.คุณกรวัฒน์ ทองทิพย์นาคา 1 กองบุญ 1000 บาท (โอนเเล้ว)
    13..คุณวันนิภา คำฟู1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    14.คุณพงษ์ คุณสุดา มุ่งทวีสินสุข1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    15.คุณปรมา คุณสหัสพล ปัญญาเสน1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    16.คุณพงศ์ฤทธิ์ วัฒนะศิริสุนทร คุณสรวิศา ชีวะธรรม 1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    17.คุณนวีรชัย ชื่นเกษม1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    18.คุณสุขเเก้ว ขันเเก้ว1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    19.คุณสมบูรณ์ งามสามโสดเเละครอบครัว1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    20.คุณทิพย์สิตา บุญยพงษ์หิรัญเเละครอบครัว1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    21.คุณวีระชัย ชื่นเกษม1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    22.คุณโสพิชา ชื่นเกษม1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    23.คุณชัยอนันต์ ชื่นเกษม1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    24.คุณศิริชัย ฟุ้งสมุทร1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    25.คณะศิษย์พระราชพรหมยานเถระ 1 กองบุญ (โอนเเล้ว)
    26.คุณกัณฐิชา โกมลวานิช 1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    27.มูลนิธิบารมีหลวงปู่เทพโลกอุดร 1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    28.คุณนรานิษฐ์. มีสมบัติพงศ์1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    29. คุณธญาธรณ์. ธนาพงศ์กาญจน์1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    30. คุณเหลียง. ศรีพัฒนา1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    31.ร.ต.เสวียน - นางเพียงใจ ปิ่นแก้ว และ บุตรหลาน1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    32.คุณอภินันท์ ดญ เนาวรัตน์ ดญ ภัณฑิรา มณีโชติ1 กองบุญ
    33.คุณประสงค์ คุณอาภรณ์ มณีโชติ1 กองบุญ
    34.คุณ ณพล เลิศสุมิตรกุล และ ครอบครัว1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    35.คุณธรรมพล ศรีสุวรรณ พรชฎาธร 1 กองบุญ (ไม่ประสงค์จารึก)
    36.คุณศิรภัสสร ลิมปิติเกียรติเเจ้งร่วมบุญ 1 (โอนเเล้ว)
    37."ครอบครัวผลานุกูลถาวร" เเจ้งร่วมบุญ 1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    38.คุณระพีศักดิ์ มาลัยรุ่งสกุล และครอบครัวเเจ้งร่วมบุญ 1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    39.คุณทรินทร์ ทาเอื้อเเละครอบครัว1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    40.คุณสามารถ คุณรัชนี สถิรรัตน์และครอบครัว โอนเเล้ว
    41.คุณวัฒนพัชร เลิศธนหิรัญคุญ(ถวายเเล้ว)
    42.คุณสุภานัน มะโน(ถวายเเล้ว)
    43.คุณบัวเเก้ว มะโน(ถวายเเล้ว)
    44.คุณธัญญรัศม์ เลิศธนหิรัญคุญ(ถวายเเล้ว)
    45.พ.ต.ท.เฉลิม ปะภูสะโร(ถวายเเล้ว)
    46.คุณปราณี ปะภูสะโร(ถวายเเล้ว)
    47.คุณวัชราภรณ์ ปะภูสะโร(ถวายเเล้ว)
    48.คุณวีระชัย ฟุ้งสมุทร(ถวายเเล้ว)
    49.คุณศิริจันทร์ ฟุ้งสมุทร(ถวายเเล้ว)
    50.คุณศุภฤกษ์ เกษสงคราม(ถวายเเล้ว)
    51.คุณเเม่สา คำฟู(ถวายเเล้ว)
    52.คุณสมบูรณ์ คำฟู(ถวายเเล้ว)
    53.คุณสุกิจ นราธนากร (ถวายเเล้ว)
    54.คุณรัชนุต แซ่ชิ่น(ถวายเเล้ว)
    55.คุณรติพล นุชประโคนและครอบครัว1 กองบุญ(โอนเเล้ว)
    56.คุณพ่อตั๋น มะโน 1 กองบุญ(ถวายเเล้ว)
    57.คุณอนันตภัทร เสริฐจำเริญ 1 กองบุญ 1,000 บาท(โอนเเล้ว)
    58.คุณพิมพ์สุภัชญา คิ้วงาม 1 กองบุญ 1,000 บาท(โอนเเล้ว)
    59.คุณจิรานุวัฒน์ ศิริสุนทรินท์ 1,000 บาท(ถวายเเล้ว)
    60.คุณพ่อวรุตม์ คุณเเม่สุรางค์ วุฒิรัตน์1,000 บาท(ถวายเเล้ว)
    61.คุณเเม่บรรจง นิ้มเจริญสุข1,000 บาท(ถวายเเล้ว)
    62.คุณธีรพล เทียมสุวรรณพร้อมครอบครัว1,000 บาท(ถวายเเล้ว)
    63.คุณอิ่มทิพย์(กฤชวรรณ) เทียมสุวรรณพร้อมบนสวรรค์1,000 บาท(ถวายเเล้ว)
    64.คุณวุฒิพร เเตงเติมผล1,000 บาท(ถวายเเล้ว)
    65.คุณปรียาภรณ์ คุณภูรินท์ สิมกิ่ง1,000 บาท(โอนเเล้ว)
    ุุ66."ครอบครัวโกมลศิริสุข" ร่วมบุญ 1 กองบุญ 1,000บาท (โอนเเล้ว)
    67.คุณคณิต คุณจันทรา คณะโตเเละครอบครัว ร่วมบุญ 1 กองบุญ 1,000บาท (ถวายเเล้ว)
    68.คุณดนัย ประกอบวรการร่วมบุญ 1 กองบุญ 1,000บาท(โอนเเล้ว)
    69.คุณสุวิชัย ธุระกิจถาวรและครอบครัว1 กองบุญ 1,000บาท(โอนเเล้ว)
    70.คุณรังสิมา แสงทรัพย์ และครอบครัว1 กองบุญ 1,000บาท(โอนเเล้ว)
    71.จ.ส.อ.สวัสดิ์ ปิ่นแก้ว และครอบครัว1 กองบุญ 1,000บาท (โอนเเล้ว)
    72. คุณธัญธิตา คุณจิรายุ ธนาธีรวัชร1 กองบุญ 1,000บาท(โอนเเล้ว)
    73.คุณวิชิตบูรณ์เเก้วธนะสินเเละครอบครัว1 กองบุญ 1,000บาท(โอนเเล้ว)
    74.คุณบทมากร ตั๋นเปี้ย และคณะ 1 กองบุญ 1,000บาท (โอนเเล้ว)
    75.คุณฉลอง นิ้มเจริญสุข1 กองบุญ 1,000บาท (ถวายเเล้ว)
    76.คุณณัฐพัชร บุลเสฏฐ์กุลเดชา เเละครอบครัว1 กองบุญ 1,000บาท (ถวายเเล้ว)
    77.คุณณัฐมณ ชนิดาภาพงศ์1 กองบุญ 1,000บาท(ถวายเเล้ว)
    78."ครอบครัวฉัตรศิริวัฒน์"1 กองบุญ 1,000บาท (โอนเเล้ว)
    79.คุณพ่อกิมหยู เเซ่เฮ้ง เเม่กุ่ยเอ็ง เเซ่ตั้ง1 กองบุญ 1,000บาท (ถวายเเล้ว)
    80.คุณโสภณ พัฒน์เลื่อน 1 กองบุญ 1,000บาท (โอนเเล้ว)
    81.คุณเเม่จิตาดา ลิมปาภินันท์เเละครอบครัว 1 กองบุญ 1,000บาท (ถวายเเล้ว)
    81.คุณสมชาย คุณบรรจง เเพนพันธุ์อ้วนพร้อมครอบครัว1 กองบุญ 1,000บาท (ถวายเเล้ว)
    82.คุณวรรณา ศรีเอี่ยมพร้อมครอบครัว 1 กองบุญ 1,000บาท (ถวายเเล้ว)
    83.คุณดำรงศักดิ์ คุณสมพิศ โพธิ์ทอง 1 กองบุญ 1,000บาท (ถวายเเล้ว)
    84.คุณธนัชชา คุณไพรัช ผาสุขพร้อมบุตรธิดา1 กองบุญ 1,000บาท (ถวายเเล้ว)
    85.คุณอาทิตย์ นิลวัฒน์ พร้อมครอบครัวและคณะ ร่วมบุญ 1,200 บาท (โอนเเล้ว)
    86.คุณพัทธยา ยะวงศ์ ร่วมบุญด้วย 1000บาท(โอนเเล้ว)



    รายนามผู้ร่วมบุญเเล้วเเต่จิตศรัทธา
    1. คุณrehacked 50 บาท โอนเเล้ว
    2.คุณอรรัมภา วรรธนะภูติ 200 บาทโอนเเล้ว
    3.คุณohm0444 59 บาท โอนเเล้ว
    4.คุณthananut 100 บาทโอนเเล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กุมภาพันธ์ 2013
  3. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    ความหมาย ความสำคัญของรอยพระพุทธบาท​

    รอยพระพุทธบาทเป็นสัญลักษณ์แทนองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งการเสด็จเข้ามาบำเพ็ญพุทธกิจ และเครื่องหมายแห่งการเสด็จเข้ามา ส่วนวงกลมในรอยพระบาท คือ ธรรมจักร นั้นอาจเป็นเครื่องหมายแห่งคำสอนที่ประทานไว้ เปรียบได้กับล้อหมุนพาเข้าไปหาความเจริญ การเคารพบูชาสถานที่ และวัตถุอันมีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าเป็นส่วนพระองค์นั้น คงเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ ครั้งที่พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ สถานที่หลายแห่งในอินเดียซึ่งมีความเชื่อกัน ว่าพระพุทธองค์เคยเสด็จไปนั้น ได้กลายเป็นปูชนียสถาน ที่มีผู้คนไปนมัสการ บูชาแทนตัวพระพุทธเจ้า ในขณะที่ไม่ได้ประทับอยู่ ณ ที่นั้น ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อว่า มีร่องรอยการสัมผัสของพระพุทธองค์อยู่อย่างถาวร เป็นสักขีพยานถึงการได้เสด็จมา และเป็นที่ระลึกถึงพระองค์ และพระธรรมซึ่งพระองค์ได้ประทานไว้แก่โลก ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า รอยพระบาทของพระพุทธเจ้า เป็นปูชนียวัตถุที่ชาวพุทธได้กราบไหว้บูชา มาตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนปัจจุบัน รองจากพระพุทธรูปและพระสถูปเจดีย์แล้ว รูปและรอยพระพุทธบาท ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระพุทธเจ้าที่ บูชากันโดยแพร่หลายที่สุด ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ในสมัยโบราณยังไม่มีการสร้างรูปเคารพ หรือตัวแทนของพระพุทธเจ้า จึงทำให้มีการสร้างสัญลักษณ์ต่างๆ แทน เช่น ถ้าจะกล่าวถึงตอนที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้น จะสลักเป็นภาพต้นโพธิ์ และมีพุทธบัลลังก์อยู่ใต้ต้นโพธิ์ มีการสร้างธรรมจักร ซึ่งหมายถึง ตอนที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม เป็นต้น ต่อมาจึงมีการสร้างรอยพระพุทธบาทเป็นเจติยสถานเกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากคติ 2 คติ คือ คติของชาวอินเดียและคติของชาวลังกา และได้มีการแพร่หลายไปยังดินแดนใกล้เคียงที่มีการนับถือพุทธศาสนา

    ประเภทของรอยพระพุทธบาท​

    รอยพระพุทธบาทที่พบในดินแดนต่างๆนั้น มีลักษณะที่แตกต่างกันมีทั้งรอยที่เกิดจากธรรมชาติที่มีพบอยู่บนภูเขา หินหรือพื้นที่อื่นๆหลายต่อหลายรอย มีผู้เชื่อว่าคือรอยพระบาทที่พระพุทธองค์ได้ประทับไว้เมื่อเสด็จมา ณ ที่นั้น นอกจากรอยที่ถือว่าเป็นรอยพระบาทอันแท้จริง เหล่านั้นแล้ว ยังมีรูปรอยอันมนุษย์ได้ทำขึ้น โดยวัสดุต่างๆ เพื่อเลียนแบบรอยพระบาท อันเชื่อว่าพระพุทธองค์ได้ประทับประทานไว้ ซึ่งรอยพระบาทจำลองเหล่านี้ อาจจัดได้ว่าเป็นปูชนียวัตถุประเภท ?บริโภคเจดีย์โดยสมมติ? คือถึงแม้ว่าจะทำขึ้นโดยมือมนุษย์แต่โดยเจตนานั้น สมมติให้เป็นรอยพระบาทอันแท้จริงของพระพุทธองค์ อีกทั้งยังมีที่ใกล้เคียงกับรอยพระบาท แต่ไม่เหมือนกันทีเดียว คือรูปพระบาท อันแสดงถึงฝ่าเท้าของพระพุทธเจ้า และเป็นสัญลักษณ์ที่เคยใช้กัน เพื่อแทนพระพุทธเจ้า ในสมัยที่ยังไม่มีการทำรูปพระพุทธเจ้า


    คำบูชารอยพระพุทธบาท​

    " อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง
    ทุติยัมปิ อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง
    ตะติยัมปิ อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง "

    http://www.wattrimacaram.com/รอยพระพุทธบาทจำลอง.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 พฤศจิกายน 2012
  4. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    ญาติธรรมทั้งสามท่านเเจ้งร่วมบุญสร้างรอยพระพุทธบาทมาครับ

    คุณกานต์ระวี สมาทิน 1 กองบุญ 1,000 บาท
    คุณกษิดิศ พลทองวิจิตร1 กองบุญ 1,000 บาท
    คุณฐิติ ชลแสนเจริญ คุณชินา โอฬารรัตนพันธ์ และครอบครัว1 กองบุญ 1,000 บาท
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ:cool:
     
  5. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    คำบูชารอยพระพุทธบาท​

    " อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง
    ทุติยัมปิ อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง
    ตะติยัมปิ อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง "
    ขอพุทธานุภาพเเห่งรอยพระุทธบาท อันเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธคุณเเห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้มีผู้มีจิตศรัทธามาร่วมบุญให้โครงการนี้สำเร็จโดยเร็ววัน ฉับพลันเฉียวฉินเทอญ
     
  6. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    คุณธมกร พนัสดิษฐ์ 1 กองบุญ 1,000 บาท
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤศจิกายน 2012
  7. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    คุณกษิดิศ พลทองวิจิตร เเจ้งโอนร่วมบุญเเล้วครับ:cool:
     
  8. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    คุณจิตนภา เหล่ากุลวานิช 1 กองบุณ 1,000 บาท อนุโมทนาครับ:cool:
     
  9. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    บุญใหญ่หาได้ยาก สร้างรอยพระพุทธบาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สาธุๆ
     
  10. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    คุณฐิติ ชลแสนเจริญ คุณชินา โอฬารรัตนพันธ์ และครอบครัว1 กองบุญ 1,000 บาท โอนเเล้วครับ:cool:
     
  11. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    :cool::cool::cool::cool::cool:
     
  12. rehacked

    rehacked เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,191
    ค่าพลัง:
    +8,013
    อนุโมทนากับทุกท่านครับ คุณตา คุณแม่ ผมและน้องชาย ร่วมบุญ 50 บาท


    บัญชีผู้รับโอน KTB*สร้างรอยพระพุทธบาท*359-0-13922-6
    ชื่อบัญชีผู้รับโอน พระธนพล ธนพโล
    จำนวนเงิน 50.00 บาท
    ค่าธรรมเนียม 10.00 บาท (เก็บ ณ วันเกิดรายการ)
    รวมจำนวนเงิน 60.00 บาท
    ประเภทการโอนเงิน ทันที
     
  13. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ:cool::cool::cool:
     
  14. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    คุณจุฑาทิพย์ สิมกิ่ง และครอบครัว1 กองบุญ 1,000 บาท ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ:cool::cool::cool:
     
  15. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    นายเบนตัน นางชลดา เด็กชายซันนี่ แดเนียล1 กองบุญ 1,000 บาท ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ:cool::cool::cool:
     
  16. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    คุณวิยดา วงค์จินะ1 กองบุญ 1,000 บาท ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ:cool:
     
  17. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    คุณชัยวัฒน์ พุกชาญค้า.1 กองบุญ 1,000 บาท ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ:cool:
     
  18. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    คุณอรรัมภา วรรธนะภูติ 200 บาท ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ:cool:
     
  19. notton

    notton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +124
    ขอร่วมเป็นเจ้าภาพด้วยครับ 1000 บาท
     
  20. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ:cool::cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...