เงื่อนไขประกันสุขภาพเพิ่มเติมที่เราควรรู้ก่อนซื้อประกันฉบับแรก

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย Kendojame, 26 มกราคม 2024.

  1. Kendojame

    Kendojame สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2018
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +2
    ประกันสุขภาพ กรมธรรม์.png


    หากพูดถึงเรื่องของ ประกันสุขภาพฉบับแรก ซึ่งหลายคนได้เริ่มต้นเลือกประกันสุขภาพเอาไว้เเล้ว เพื่อรองรับในยามป่วยหนักเเล้วจะได้มีประกันคอยดูแลค่ารักษาให้ ซึ่งเวลาที่เราจะมองหาความคุ้มครองของประกันสุขภาพสักฉบับนั้น ไม่ว่าเราจะไปเลือกประกันที่ไหนก็ตาม ทุกเเห่งล้วนต้องมี กรมธรรม์ ( policy ) ซึ่งเป็นเอกสารสัญญาสำคัญสำหรับการถือครองกรมธรรม์ของผู้ซื้อประกัน โดยจะระบุถึง
    รายละเอียดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประกันสุขภาพฉบับนั้นๆ เช่น ข้อมูลของผู้ทำประกัน สิทธิความคุ้มครองสุขภาพเเละผลประโยชน์ที่ได้รับ เงื่อนไขของประกันสุขภาพที่คุ้มครองเเละไม่คุ้มครอง ช่วงระยะเวลารอคอย ตารางจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ เเละการต่อประกันสุขภาพตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ที่ ซื้อประกันสุขภาพ จำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้ตั้งเเต่ต้นก่อน เพื่อจะได้เลือกประกันสุขภาพที่ใช่สำหรับเรามากที่สุด เพราะหากเราไม่เข้าใจกรมธรรม์หรือเข้าใจผิดก็ตาม อาจเสียผลประโยชน์ที่ได้รับก็เป็นได้

    ปัญหาความไม่เข้าใจกรมธรรม์ประกันสุขภาพก่อนซื้อนั้นก็ยังมีอยู่มาก เเละนี่ก็คือ 5 เรื่องที่ผู้ซื้อประกันเจอปัญหาบ่อยครั้ง มีดังต่อไปนี้

    1.ช่วงระยะเวลารอคอย ของประกันสุขภาพที่ทำไป

    เพราะความคุ้มครองของ ประกันสุขภาพ ทุกฉบับเเละทุกกรมธรรม์ ล้วนต้องระบุถึงเงื่อนไข '' ช่วงระยะเวลารอคอย '' เอาไว้ข้างในกรมธรรม์ประกันที่เราซื้ออยู่เเล้ว ช่วงระยะเวลารอคอย คือช่วงเวลาที่ประกันสุขภาพจะยังไม่มีผลคุ้มครองโดยทันที ซึ่งผู้ซื้อจะไม่สามารถเคลมประกันในช่วงนี้ได้ ต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงระยะเวลารอคอยไปก่อน ถึงประกันจะมีผลคุ้มครองให้กับเรา ใช้สิทธิเคลมประกันได้ โดยส่วนใหญ่เเล้วบริษัทประกันจะกำหนดเงื่อนไขช่วงระยะเวลารอคอยเอาไว้หลายช่วงเวลาเช่น 30 วัน , 60 วัน , 120 วัน ,180 วัน ยิ่งเป็นในโรคร้ายแรงที่ค่ารักษาสูงหลายแสน-หลายล้านบาท ช่วงระยะเวลารอคอยก็ต้องรอนานขึ้นด้วย เพราะเหตุนี้ผู้ซื้อประกันจึงควรเข้าใจเรื่องนี้ก่อนซื้อประกันด้วย เพื่อไม่ให้พลาดในช่วงที่เราจะเคลมประกันสุขภาพได้ถูกต้องตามช่วงเวลานั่นเอง

    2.วงเงินคุ้มครองค่าห้องรักษาของผู้ป่วยที่ประกันสุขภาพระบุไว้


    ค่าห้องโรงพยาบาล เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่เวลาเราเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจะต้องเสียเงินจ่ายด้วย ไม่ใช่เเค่เฉพาะค่ารักษาโรคเพียงอย่างเดียว โดยเเต่ละโรงพยาบาลก็มีค่าห้องที่เเตกต่างกันด้วย บางโรงพยาบาลค่าห้องถูก แต่บางโรงพยาบาลค่าห้องแพงมาก ซึ่งประกันสุขภาพแต่ละฉบับก็จะมีการระบุถึงความคุ้มครองวงเงินค่าห้องเอาไว้เป็นจำนวนเงินชัดเจน อาทิ ค่าห้องรักษา 2,000-5,000 บาท / วัน เเล้วแต่บริษัทประกันจะระบุไว้ ถ้าหากเราเข้าห้องพักรักษาที่ค่าห้องแพงกว่าวงเงินคุ้มครองค่าห้องที่ระบุไว้ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เหลือผู้ซื้อประกันต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วย

    อ่านบทความเพิ่มเติม คลิก >>
    กรมธรรม์ประกันสุขภาพ

    เปรียบเทียบประกันสุขภาพ

    3.เงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อน

    เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในกรณีที่เราป่วยหนักในช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านพ้นระยะเวลารอคอยของประกันสุขภาพไปไม่นาน เช่น ผ่านไป 1 ปี เเล้วเราเกิดป่วยเป็นโรคร้ายแรงเเล้วไปเคลมประกัน เช่น โรคมะเร็ง , โรคหัวใจ ,โรคเนื้องอกในสมอง ซึ่งส่งผลให้บริษัทประกันมีสิทธิที่จะกำหนดให้เราต้องสำรองจ่ายเองไปก่อน เเล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง เพราะบริษัทจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลของผู้ทำประกันย้อนหลังก่อนทำการเคลมประกันได้ ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นต่อผู้ซื้อประกันสุขภาพหลายคนเจอปัญหานี้ก็รู้สึกเเย่มากที่เคลมประกันไม่ได้ แต่เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงจะพบว่า เงื่อนไขการสำรองจ่ายก่อนมักจะกำหนดในเคสที่ประกันสุขภาพที่ทำนั้น อายุกรมธรรม์ยังน้อยเกินไป หรือ อายุกรมธรรม์ยังไม่ถึง 2 ปี ซึ่งบริษัทประกันก็จำเป็นต้องเช็คข้อมูลประวัติสุขภาพย้อนหลังของผู้ซื้อประกันก่อน ใช้ระยะเวลาตรวจสอบข้อมูลไม่เกิน 90 วัน ถ้าไม่มีปัญหาใดๆในการเคลม บริษัทประกันก็จะอนุมัติการเคลมประกันสุขภาพให้ในที่สุดครับ

    **คำแนะนำ ผู้ซื้อประกันสุขภาพควรเข้าใจในเงื่อนไขสำรองจ่ายก่อนซื้อประกัน โดยเเนะนำว่าช่วงแรกๆที่กรมธรรม์อายุยังน้อยอยู่ หรือ อายุประกันยังไม่ถึง 2 ปี อย่าเพิ่งเคลมประกันสุขภาพบ่อยนัก ป่วยเล็กน้อยก็ไม่ควรเคลมประกันสุขภาพช่วงนี้มาก เพื่อเก็บสิทธิไว้ใช้ประกันสุขภาพ
    รอเคลมประกันช่วงที่เราป่วยหนักจากโรคร้ายแรงในอนาคตจะโอเคกว่า


    4.ไม่เข้าใจเรื่องโรงพยาบาลคู่สัญญา

    เนื่องจากบริษัทประกันแต่ละแห่งจะมีการระบุถึง โรงพยาบาลคู่สัญญาของบริษัทประกันที่แตกต่างกันไป ในกรณีที่เราไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่ใช่คู่สัญญา ส่งผลเสียเราต้องจ่ายเงินค่ารักษาเองไปก่อน เเล้วค่อยมาเคลมประกันในภายหลัง แนะนำว่าให้ผู้ซื้อประกันควรเช็คข้อมูลโรงพยาบาลคู่สัญญาก่อนซื้อประกันเลย ดูตรงที่โรงพยาบาลคู่สัญญาที่ '' แฟลกเคลมได้ ไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน '' เพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อประกันได้อย่างหมดห่วง

    5.เงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคร้ายแรง ที่ประกันสุขภาพระบุไว้

    ส่วนใหญ่เเล้วประกันสุขภาพลายฉบับมีการระบุถึง เงื่อนไขโรคร้ายแรงในระยะต่างๆด้วย เช่น ประกันสุขภาพตัวนี้คุ้มครองโรคมะเร็งเฉพาะระยะลุกลามเท่านั้น ถ้าเราดันป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะแรกขึ้นมา ประกันที่ทำอยู่ก็ไม่คุ้มครองให้เพราะไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขที่ระบุไว้ ดังนั้นเราจึงควรเลือกประกันสุขภาพที่คุ้มครองครอบคลุมทุกระยะของโรคร้ายไว้จะดีกว่า เพื่อที่หากป่วยขึ้นมาจะได้ไม่มีปัญหาในการเคลมประกัน


    6.เลือกการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพไม่เกินกำลังซื้อของตัวเอง

    หลายคนพลาดพลั้งต่อปัญหาเบี้ยประกันสุขภาพเเพง เพราะซื้อประกันสุขภาพที่เเพงเกินกำลังซื้อของเราไปมากโข แนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพ
    ไม่ควรเกิน 15% ของรายได้เราในเเต่ละเดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจ่ายเบี้ยไม่ไหว ส่วนจะเลือกจ่ายเบี้ยประกันแบบรายปี หรือจ่ายเบี้ย
    ประกันแบบรายเดือนก็ตาม เราควรคิดให้รอบคอบเเละวางแผนการเงินล่วงหน้าเอาไว้ให้ดีด้วยนะ


    ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยให้ผู้ซื้อประกันสุขภาพฉบับแรกสามารถเข้าใจก่อนซื้อประกัน เพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อประกันให้เหมาะสมกับเรา
    ส่งเบี้ยประกันสุขภาพไหว ใช้สิทธิเคลมประกันได้อย่างถูกช่วงเวลาตามเงื่อนไขกรมธรรม์นั่นเอง '' ประกันสวัสดีดอทคอม '' เรามีครบทั้งประกันสุขภาพหลากหลายกรมธรรม์ให้เพื่อนๆได้เลือกชม สามารถเปรียบเทียบประกันสุขภาพแต่ละแห่งได้อีกด้วย พร้อมรับสิทธิพิเศษเมื่อซื้อประกันสุขภาพผ่านสวัสดีดอทคอม สามารถเข้าไปชมได้ที่หน้าเว็บไซต์ได้เลยครับ

    ทำเรื่องประกันสุขภาพให้เป็นเรื่องง่ายๆ คลิก ประกันสวัสดีดอทคอม ประกันสุขภาพออนไลน์ คุ้มครองครบ จบที่เดียว สวัสดีดอทคอม โทร 02 098 599


    understand_health_insurance_policy_bef2b94eb9.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...