อ."กษิรา" ตรวจกรรมด้วยญาณผ่านน้ำ

พบกันอีกแล้วครับ กับ "รักไร้พ่าย"

คนมีญาณหลายคนที่ผมได้เคยนำเสนอไปนั้น ล้วนมีรูปแบบการ
ทำนายหรือการตรวจกรรมที่แตกต่างกันไป

แต่คนมีญาณที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ มีวิธีการตรวจกรรมที่แตกต่าง
จากท่านอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด หรือเรียกว่า
เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวเลยก็ได้

เพราะ อ.ท่านนี้ สามารถตรวจกรรมให้กับผู้คน หรือ ดูถึงวิบากกรรม
ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันและอนาคตให้กับผู้คนโดย
เพ่งญาณผ่านวงน้ำ

อ. ท่านนี้เป็นสุภาพสตรีวัยกลางคน มีนามว่า

อ. "กษิรา"

เริ่มต้นในการที่ผมได้รู้จักกับ อ.กษิรา
โดยการกล่าวขานกันในวงการของคนมีญาณ ว่า
มี อ. ผู้หนึ่งได้ตรวจกรรมให้ผู้คนโดยดูผ่านวงน้ำ

ผมได้ยินดังนั้นจึงเกิดความสนเท่ห์ และอยากได้พบ อ. ผู้นี้
เพราะการดูกรรมผ่านน้ำนั้นเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยพบเห็นกันเลย

ผมจึงได้เบอร์โทรติดต่อมาได้ จึงได้โทรไปหา อ. กษิรา

แต่เป็นเลขาของ อ. ซึ่งรู้ภายหลังว่าชื่อคุณบี๋
ได้เป็นคนรับเรื่องและจัดคิวให้

เมื่อผมได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้ารับการตรวจ
กรรมจาก อ. จากคุณบี๋ซึ่งคิวนั้นเป็นอาทิตย์หน้า
ผมก็ตอบตกลงไป

หลังจากที่ผมได้วางสายจากคุณบี๋ไปไม่นาน

เสียงโทรศัพท์มือถือของผมได้ดังขึ้น เมื่อผมรับสาย

เป็นคุณบี๋ได้โทรกลับมา

คุณบี๋บอกผมว่า

"เมื่อสักครู่ อ.กษิราได้ฝากมาถามคุณว่า คุณได้เปลี่ยนชื่อมาใช่ไหม"

ผมก็ตกใจ เพราะนั่นคือความจริง ผมเคยเปลี่ยนชื่อมา

ผมก็ตอบกลับไป ว่า ใช่

และยิ่งไปกว่านั้นคุณบี๋ได้ถามผมอีกว่า อ.กษิรา
ได้ฝากมาถามว่าผมมีรูปร่างหน้าตาอย่างนี้ๆ ใช่ไหม

ผมก็อึ้งไปเลย เพราะความจริงเป็นไปตามที่ อ. บอกมาทุกอย่าง

หลังจากที่ผมอึ้งไปสักครู่ ผมก็ถามกลับไปว่า อ. กษิรา รู้ได้ยังไง

คุณบี๋ได้บอกว่า ตอนที่ผมโทรคุยกับคุณบี๊เพื่อติดต่อจองคิวอยู่นั้น
อ. กษิราก็นั่งตรวจกรรมให้คนอยู่ข้างๆคุณบี๋และ อ. ได้สัมผัสถึงจิตผมได้
จึงอยากมาทักทายผม และ อ. ยังบอกว่า อ.กษิรากับผมมีสาย
เทพองค์เดียวกัน นั่นคือ "พระพิฆเณศ"

เพียงแค่ได้ฟังเท่านี้ผมก็ถือโทรศัพท์ด้วยความอึ้ง และ ทึ่งไปเลย

ความกระวนกระวายใจที่อยากจะได้พบกับ อ.กษิรา จึงมีมากยิ่งขึ้น

เมื่อถึงวันที่ผมจะได้พบกับ อ.กษิรา ผมได้ไปยังบ้านของ อ. ตามที่คูณบี๋
เลขาได้บอกทางผม ซึ่งอยู่แถว ถนน พระราม 5 อยู่ในหมู่บ้านสุชาวลัย

บ้านของ อ. ดูจากภายนอกแล้วบ่งบอกได้ว่าเป็นบ้านของเศรษฐีผู้มี
อันจะกินเลยทีเดียว หน้าบ้านมีรถเบนซ์จอดอยู่

เมื่อผมได้เข้าไปในบ้าน บรรยากาศเงียบสงบ มีไอเย็นจากเครื่อง
ปรัยอากาศมากระทบกาย และกลิ่นกาละบูนหอมเย็นชื่นใจ

สตรีผู้หนึ่งได้ยิ้มให้ผมซึ่งผมแน่ใจว่า นี่คือคุณบี๋เลขาของ อ. กษิรา
เพราะจำน้ำเสียงได้
ยังไม่ทันที่ผมจะถามหา อ. คุณเลขาได้ให้ผมหันไปทางขวามือ

ผมจึงได้เห็นสุภาพสตรีอีกท่านหนึ่งกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะ
วงกลมหรูหราตัวหนึ่ง

และผมก็แน่ใจว่าท่านผู้นี้คือ อ. กษิรา โดยที่ผมไม่ต้องเอ่ยถามเลย
เพราะนอกจากท่านจะมีพลังบารมีที่ผมสัมผัสได้จากรอยยิ้ม
ของท่านที่ส่งมาให้ผมด้วยไมตรีจิต
สิ่งที่ยังบ่งบอกว่าเป็นท่าน อ.คือ สิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าของ อ.
นั่นคือ โถแก้วใสเป็นรูปวงกลม ภายในโถแก้วใสนั้นบรรจุน้ำเปล่า
คะเนได้ว่า นี่คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนาของ อ. กษิรา

ผมได้เข้าไปทักทายปราศรัยกับ อ.กษิรา ซึ่งเป็นผู้หญิงวัย 40 กว่า
และ อ. บอกให้ผมนั่งให้หายเหนื่อยก่อน
ใบหน้า อ. เอิบอิ่ม และน้ำเสียงของ อ. นุ่มนวลและอ่อนหวาน
เป็นอย่างยิ่ง

จากนั้นวาระแห่งการตรวจกรรมจึงเริ่มขึ้น
ในใจผมต้องการอยากรู้ถึงวิธีการตรวจกรรมของ อ.
ด้วยน้ำนั้นเป็นเช่นใด

อ.ให้ผมเอานิ้วชี้ มาจุ่มไปในน้ำในโถแก้วใส แล้วอธิษญานจิตขอเปิด
กรรมเพื่อให้ อ กษิราได้สามารถล่วงรู้ถึงกรรมต่างๆของผมได้

หลังจากที่ อ. ได้เพ่งจิตไปในน้ำ และภาพต่างๆที่เป็นเรื่องราวทั้งหมด
ของผมได้ปรากฎขึ้นในน้ำนั้น
คำแรกที่ อ. ได้ทักผมพร้อมกับรอยยิ้ม คือ

"คุณมาที่นี่ไม่ได้มีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรเลย
แต่มาเพื่อต้องการศึกษา เรียนรู้ในเรื่องผู้มีญาณ"

ผมก็พยักหน้าและยิ้มตอบกลับไป พร้อมในใจบอกกับตัวเองว่า
เป๊ะ !! เลย

ผมได้ริ้อความสงสัยก่อนหน้านี้ที่ว่า ทำไม อ.
ถึงสามารถทักผมได้ถูกตอนที่ผมโทรมาจองคิว
แล้วได้ถามในสิ่งที่คิดนี้

อ. ตอบกลับมาว่า ผมกับ อ.มีสายบุญร่วมกันมาและจะต้องมาพบเจอกัน
เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยชี้แนะแนวทางให้กับผม
นั่นคือ พระพิฆเณศ

ผมได้ถามว่า องค์ท่านได้ช่วยเหลือผมอย่างไรบ้าง

อ. ตอบว่า ท่านช่วยผมมาตลอด และให้ผมสังเกตุว่าชีวิตผม
มักจะก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด เรื่องบางอย่างคนอื่นทำไม่ได้
แต่ผมกลับทำได้

ขณะที่ผมกำลังทบทวนเรื่องราวที่ อ. บอกอยู่นั้น

อ. ได้บอกอีกว่า

"ตอนเด็กๆ คุณเคยจะจมน้ำแล้วถึง 2 ครั้งไช่ไหม
แต่องค์ท่านได้มาช่วยคุณไว้"

ผมก็ยอมรับว่า ใช่ ผมเคยไปเล่นน้ำในสระแล้วเคยเกือบจมน้ำ ถึง 2 ครั้ง
แต่เหมือนมีคนหรืออะไรมาฉุดรั้งผมไว้

อ. ยังได้ทำนายเรื่องราวของผมมากมาย ระยะเวลาที่คุยกันนั้น
ประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าให้เล่าก็คงต้องอ่านกันยาวเลย

ขอลัดไปสู่ประเด็นหนึ่งที่ผม ค้างคาใจผมเองมาตลอดว่า
ทำไมผมต้องเที่ยวเสาะหาผู้มีญาณด้วย และผมได้ถามคำถามนี้กับ อ.
ท่านอื่นมาไม่น้อย แต่ก็ยังอยากได้รับคำยืนยันจาก อ. กษิราด้วย

อ. กษิราได้เฉลยว่า ในอดีตนั้นผมเคยเกิดบนสวรรค์และตกสวรรค์ลงมา
แต่การตกนี้ เป็นการตกลงบนฟูก คือ ตกมาในภพภูมิมนุษย์
แต่ก่อนจะจากมา ได้ปฎิญาณตนว่าจะมาขอทำหน้าที่ทาง
จิตวิญญาณเพื่อช่วยเหลือผู้คน

ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ผมคนเดียว แต่มีเทพ เทวดามากมายที่ขันอาสา
จะมาทำหน้าที่นี้ ในยุคที่ผู้คนกำลังหลงในทางวัตถุนิยม

เทพเทวดา ที่มีสายสัญญา คือ ได้ให้สัจจะว่าจะมาทำหน้าที่ร่วมกัน
ในการช่วยเหลือคน ที่เรียกว่า สายสัญญา
และบางท่านเมื่อเกิดมาสักเวลาหนึ่งจึงมีญาณหยั่งรู้กรรมของ
ตนเองและผู้อื่น
เพราะตัวเองได้เคยอธิษฐานเอาไว้ มีญาณเพื่อจะมาช่วยคน

แต่เมื่อมาเกิด แล้ว บางคนอาจหลงอยู่ในโลกวัตถุ จนลืมใน
ภาระกิจของตัวเอง
จึงต้องมีคนผู้หนึ่ง ที่เคยมีสายสัญญาร่วมกัน คือ เป็นผู้ผู้ตรวจการ
เพื่อมาคอยตรวจสอบคนมีญาณต่างๆ ที่เคยได้ขันอาสามาช่วยคน
ว่าคนเหล่านั้นได้ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเหมาะสมหรือไม่
คือ ได้ช่วยเหลือคนด้วยความบริสุทธิใจหรือไม่ หรือช่วยเหลือคนเพราะ
หวังในลาภ ยศ โดยการเรียกเก็บเงินคนแพงๆเกินความจำเป็น
ต่ออัตภาพความเป็นอยู่ของตัวเอง

และเพื่อที่ผู้ตรวจการจะได้นำมาเผยแพร่ว่าคนมีญาณที่ช่วยคนกับคนที่เอาญาณมา
หาผลประโยชน์จากคนอื่นนั้นเป็นอย่างไร

อ.เปรียบเทียบว่า หากมี ตำรวจก็ต้องมีจเรตำรวจ

ซึ่งผมก็คือ จเรตำรวจ หรือผู้ตรวจการให้กับคนมีญาณนั่นเอง
เพื่อที่จะเสาะหาคนมีญาณตามสายสัญญาที่มีต่อกันมา

และหนึ่งในผู้ที่ผมจะต้องตามหาก็คือ อ.กษิรา ผู้นี้

ตามประวัติของ อ. กษิรา

ท่านเป็นนักธุรกิจ เป็นผู้บริหารธุรกิจหลายอย่าง
แต่เมื่อถึงวาระแห่งสัญญากรรมที่เคยให้ไว้ต่อเบื้องบนที่ต้อง
มาทำหน้าที่ช่วยเหลือคนและชี้แนะทางสว่างให้กับผู้มีทุกข์

อ. จึงต้องผันตัวเองมาทำหน้าที่นี้ ควบคู่กับงานทางโลก
คือการทำธุรกิจ

ในช่วงแรกๆนั้น อ. กษิรา อยากจะทำธุรกิจมากกว่าจะมานั่งช่วยเหลือ
คนด้วยการตรวจกรรมผ่านน้ำ จึงได้หาทางที่จะบ่ายเบี่ยงในงานทางจิตวิญญาณ
มาตลอด

แต่เบื้องบนท่านได้กีดกั้นงานทางโลกของ อ. กษิรา ให้พบกับความ
ล้มเหลว และอุปสรรคทางธุรกิจเพื่อเตือนให้ อ. ระลึกสัญญาของตัวเอง

จน อ.จำยอมในที่สุด และได้ช่วยเหลือผู้คนมาตลอดระยะวลา 20 กว่าปี
และได้เคร่งครัดในการทำหน้าที่นี้ด้วยจิตที่เป็นเมตตา
นอกจากนี้ อ. ยังทานมังสวิรัติ กินเจ และไม่ได้นำเงินทีได้จากการตรวจ
กรรมไปใช้ส่วนตัวแม้แต่บาทเดียว

และด้วยผลแห่งบุญนี้ ที่ส่งผลให้ชีวิต และ อาชีพการงาน
ทางโลกของ .อ ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดมาจน
ถึงปัจจุบัน (ดูได้จากบ้านหรู และรถเบนซ์ของ อ.)

แต่ตลอดระยะเวลาของการตรวจกรรมของ อ. กษิรา ยังช่วย
คนในวงจำกัด คือจะดูให้เฉพาะคนรู้จัก หรือเพื่อนทางธุรกิจ
เช่น เจ้าของบริษัท นายธนาคาร

และ อ. เองไม่ได้กว้างขวางเรื่องคนมีญาณมากนัก
( ผมเอ่ยชื่อคนมีญาณดังๆ อ. ไม่รู้จักสักคน )

แต่เมื่อถึงวาระที่ อ.กษิราจะต้องออกมาเปิดเผยตัวเองสู่วงกว้าง
เพื่อให้ผู้คนที่มีทุกข์ สามารถที่จะไปหา อ.กษิราเพื่อรับการช่วยเหลือได้

แต่ตัว อ. เอง ยังหาผู้ที่จะมาทำหน้าที่เผยแพร่เรื่องราวของ อ. ซึ่ง
ยังไม่พบคนที่เหมาะสม เพราะก่อนหน้านี้ มีสื่อทีวี หนังสือ
นิตยสารมากมาย ต่างมาขอลงเรื่องของ อ. กษิรา
แต่ อ ปฎิเสธมาตลอดเพราะสื่อเหล่านั้นอาจไม่ใช่ทำหน้าที่เผยแพร่
ด้วยจิตวิญญาณของเขา หรือไม่ได้มีสายสัญญาร่วมกันมาก่อน
อ. จึงเก็บตัวเองและช่วยคนแบบไม่เปิดผยต่อสื่อเรื่อยมา

จนวันหนึ่ง เมื่อวาระแห่งการเผยแพร่ได้มาถึง ชายผู้หนึ่งได้
เข้ามาเติมรอยโหว่ทางด้านนี้ ด้วยการขันอาสาที่จะเผยแพร่เรื่องของ
อ.กษิรา และป่าวประกาศเพื่อให้ผู้มีทุกข์ได้รับการชี้แนะที่ถูกทางได้
ชายผู้นี่ได้ใช้นามปากกว่า "รักไร้พ่าย"

อ. กษิราจึงยินดีที่จะให้ผู้ตรวจการผู้นี้ได้ทำหน้าที่ตามสาย
สัญญาของตัวเองเพื่อเผยแพร่เรื่องราวของ อ.

อ.ได้ตั้งจิตว่า หากผู้ใดที่มีทุกข์และสิ่งศักดิ์สืทธิ์เบิ้องบนเห็น
สมควรว่าจะให้คนเหล่านั้นมาพบ อ. ก็ขอให้องค์ท่านดลใจผู้นั้นมาหา
และ อ.จะช่วยเขาอย่างเต็มที่

การตรวจกรรมของ อ. กษิรา ท่านยึดคติประจำใจว่า

จะไม่พูดเท็จ เป็นอันขาด เพราะไม่ต้องการสร้างบาปกรรมให้ตัวเอง
สิ่งที่ อ. ได้คิด พูด และทำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมเฝ้ามองอยู่

อ.จะพูดตามสิ่งที่ได้เห็นจากญาณผ่านน้ำหรือจากเบื้องบนจะสื่อ
ถึงคนผู้นั้นโดยผ่าน อ. กษิราเท่านั้น

ที่สำคัญ อ.กษิราจะช่วยคนอย่างเต็มที่ เพราะคนที่มีทุกข์นั้น
ต้องการคนที่จริงใจ และไว้วางใจที่สุด

อ. จึงใช้เวลาในการตรวจกรรมให้คนอย่างเต็มที่ เฉลี่ยคนละประมาณ 3
ชั่วโมงขึ้นไป
หรือแล้วแต่คนผู้นั้นจะมีทุกข์มากน้อยหรือ
ต้องการเวลามากน้อยเท่าใดเพื่อเยียวยาปัญหาชีวิตตัวเอง

เมื่อเขียนมาถึงตรงนี้ หลายคนก็ได้รับความกระจ่างเกี่ยวกับ อ.แล้ว
แต่เชื่อว่าหลายคนอาจไม่กระจ่างในเรื่องราคาค่าดู

ขอชี้แจงว่า ก่อนหน้าที่คุณ รักไร้พ่ายจะได้ไปพบ อ.กษิรา
อ.ได้แต่ตรวจกรรมให้เฉพาะคนรู้จัก และคุณเลขาของ อ.
ได้กำหนดค่าครูไว้จำนวนหนึ่งเพื่อเป็นการสกรีนคน
เพราะไม่อยากให้คนมาหากันเยอะเกินไป

แต่เมื่อ คุณรักไร้พ่าย ได้ไปพบ อ. และปรึกษาร่วมกันกับ อ.
ที่แต่ใจเดิมของ อ.อยากจะช่วยเหลือคนให้กว้างขึ้นอยู่แล้ว

ดังนั้นนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อ. กษิรา จะตรวจกรรมด้วยญาณผ่านน้ำ
ให้กับผู้คนโดยไม่กำหนดค่าครู
สุดแล้วแต่จะคนผู้นั้นให้มาตามศรัทธา

ที่สำคัญ อ. กษิรา ไม่ได้นำเงินที่ได้จากการดูดวง
ตรวจกรรมไปใช้ส่วนตัว
เพราะ อ. มีรายได้จากธุรกิจของตัวเอง และฐานะความเป็น
อยู่ที่สุขสบายอยู่แล้ว

ยิ่งการได้ช่วยคนในวงกว้างขึ้นและไม่เรียกร้องค่าดูนี้เอง
ผลบุญนี้เองจะยิ่งอำนวยให้ อ.ประสบความสำเร็จในเรื่องเงินทอง
ฐานะความเป็นอยู่ที่เกิดจากการทางโลกได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ดังนั้นเรื่องเงินค่าครู จะให้เท่าไหร่ก็ได้ ซึ่ง อ. จะนำเงินนั้นไปทำบุญทั้งหมด
ขอให้สบายใจได้ บางคนที่มาพบ อ. เขาก็ให้ค่าครู 9 บาท 12 บาท
ก็มีเยอะแยะ

ส่วนคนมีปัญหาเรื่องเงิน อ. กษิราจะดูให้ฟรี ครับ


ดังนั้น หากท่านผู้ใดที่อยากจะตรวจกรรมกับ อ. กษิรา
ก็เชิญโทรไปจองคิวได้ผ่าน เลขา อ.คือ คุณ บี๋ ได้ทุกวัน

และ อะแอ้ม หากใครโทรไป ช่วยบอกว่ารู้จัก อ. จาก รักไร้พ่าย นะครับ
เพราะคนที่รับสาย คือ คุณบี๋เขากลัวจะมีคนโทรไปป่วน หรือไปลองของ
ดังนั้นช่วยอ้างชื่อผมนิดนึง

อ. กษิรา เปิดตรวจกรรมให้คนทุกวัน
และคนที่จะตรวจกรรมต้องไปพบ อ. ด้วยตัวเองนะครับ
อ.ไม่รับดูทางโทรศัพท์

โทรได้ที่เบอร์

0814986968

0846779544

 

มาอีกแล้วคุณรักผู้ไม่เคยทำให้คนมีปัญหาชีวิตผิดหวังเลย
เคสอ.กษิรา น่าสนใจค่ะ ขอบคุณค่ะที่นำแต่สิ่งดีๆมาให้ชาวเว็ปพลังจิต
ไม่ผิดหวังเลยที่รอ จเรตรวจกรรม

 

ขอบคุณ คุณรักไร้พ่ายมาก ๆ นะคะ สำหรับข้อมูล ;aa42
เมื่อไหร่สิ่งที่คุณคิดจะทำ จะสำเร็จคะ
จะอุดหนุนเป็นคนแรกเลย ขอให้สิ่งที่คุณคิดจะทำ
ประสบความสำเร็จ ในเร็ววันค่ะ

 

สาธุ สาธุ ขอโมทนา(อ่านเสร็จก็โทรเลยแต่ไม่มีคนรับสายครับ)
อิทัง ปุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี ตั้งแต่ปฐมชาติ อดีตชาติ ปัจจุบันวันนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็น มหาธรรมทาน เพื่ออบรมหนทางความดับ ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
<O</O
ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้ อุทิศให้ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา พ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีคุณผู้สูงชาติ ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ตลอดจน เจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าเกณฑ์ชะตา เจ้าการบัญชี ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง ขอจงได้รับขมากรรม และอโหสิกรรมอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า และกรรมอันใดที่ท่านทั้งหลายได้ทำไว้กับข้าพเจ้าทุกภพทุกชาตินั้น ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมเช่นกัน พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ
<O</O
สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง

 

อยากรู้ค่ะ

แล้ว อ.กษิรา แนะนำชีวิตปัจจุบันให้มั้ยคะ

 

ขอบคุณ คุณรักไร้พ่ายมากครับ ที่นำเหนอแต่สิ่งที่ดี ผมได้ติดตาม อ่านบทความของคุณรักไร้พ่ายมาพอสมควร มีแต่ประโยชน์ ก็ขออนุโมทนาบุญ นะครับ

 

ขอบคุณครับ คุณรักไร้พ่าย ที่ช่วยแนะนำในสิ่งดี
ๆ ให้กับเพื่อนมนุษย์
ทางผมได้โทรนัดแล้ว คุณบี๋พูดจาเพราะมาก
อัทธยาศัยเยี่ยม ได้คิว วันพุธนี้
ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างครับ บ้าน อ.จ กษิรา อยู่สะพานพระราม 5 ลงสะพาน
แล้วยูเทินกลับปากทางมีร้านขายจักนยานยนต์ ม.สุชาวลัย (ฝั่งธน)

 

สุดยอดครับท่าน รักไร้พ่าย ข้าน้อยขอคารวะ

 

ขอบคุณครับ..ท่านผู้ตรวจการ
ดูขึงขังชอบกล!?

 

ต้องไปดูด้วยตัวเองหรือเปล่าครับ หรืออาจารย์ดูให้ทางโทรศัพท์ สำหรับผู้ที่อยู่ไกลๆน่ะครับ

 

ได้คิว พุธนี้ ได้เรื่องยังไงจะมารายงานผลให้ทราบกัน

 

อยากไปดูแต่ว่าไกลไปไม่ถูก ... งั้นรออ่านแทนละกันค่ะ

 

ต้องไปดูด้วยตัวเองนะครับ

อ. จะดูด้วยญาณผ่านน้ำ

 

โพสเพื่อดันกะทู้น่ะค่ะ...อยากให้คนที่ทุกข์ใจจริง ๆ ได้เห็น และมีช่องทางเลือก
หลาย ๆ อาจารย์

เพราะแต่ละอาจารย์ที่พี่รัก(ไร้พ่าย) แนะนำมาคือสุดยอดทั้งนั้นแล้วค่ะ

สำหรับผู้ที่ทุกข์ใจจริง ๆ ก็สามารถเลือกสรร ดูตรงกะทู้ของคุณรักไร้พ่าย
เผื่อว่าอาจารย์ท่านไหนที่ติดต่อยังไม่ได้ ก็ติดต่ออาจารย์ท่านอื่นได้ค่ะ

ขอบอกว่าทุกคนที่พี่รักเสนอมา...ไม่ผิดหวังค่ะ

........................

 

ต้องขอบคุณจเรคนตรวจกรรมครับ
สำหรับข้อมูลดีๆ ที่นำมาแบ่งปันเรื่อยมา
อยากไปดูมากๆ ครับ

 

คนอยู่ไกลก็หมดสิทธิ์ ใช่มั้ยค่ะ

 

ได้คิววันพฤหัสนี้ค่ะ ดีใจมากเลยที่จองคิวได้ เพราะที่คุณรักไร้พ่ายแนะนำมา
เพิ่งได้คิว อ.กษิรา ท่านแรกเลย สำหรับอ.ท่านอื่นสงสัยคงจะงานเยอะ
หรือว่าเราไม่มีบุญได้พบก็ไม่รู้นะ
รอ รอ รอ ให้ถึงวันพฤหัส แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ

 

อ.เน้นที่ปัจจุบันเลยครับ เน้นมากๆ

ตลอดระยะเวลาที่คุยกับ อ. 3 ชั่วโมง จะคุยถึงปัจจุบัน 2 ชั่วโมง

ตัวอย่างเช่น อ. บอกว่า ผมเป็นคนมีความมุ่งมั่นแต่ยังลังเลใจในหลายเรื่อง
เพราะเป็นคนอ่อนไหวง่าย ไม่เชื่อมั่นในตัวเองทั้งๆที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยชี้แนะอยู่แล้ว แต่เหมือน แสงอาทิตย์ที่ถูกเมฆหมอกมาบดบัง

เมฆนั้นคือกิเลสและความโลเลในใจผม

อ.ให้ผมเชื่อมั่นในจิตแวบแรก เพราะนั่นคือคำตอบที่ถูกที่สุดของทุกเรื่อง

อ.ยังบอกว่าผมต้องมาอยู่ในสายปฎิบัติ คือต้องงดทานเนื้อสัตว์
ไม่งั้นงานการต่างๆก็จะมีอุปสรรค
แต่ผมยังติดสบายอยู่ จึงกินตามใจปาก ดังนั้นหลายๆสิ่งที่มุ่งมั่น จึงต้องสะดุด
ลงเหมือนขับรถไปบนถนนลูกรัง ก็ย่อมเจอทางขรุขระและไปถึงจุดหมายช้า

อ.บอกว่าทุกอย่างอยู่ที่ผมจะเลือกเอง
จะสุขสบายทางโลกแต่ทางธรรมไม่ก้าวหน้า ทำให้ทางในการ
สร้างบุญในชาตนี้ก็ลดน้อยไปด้วย

เพราะไม่มีคำว่าสุขสบายจริงสำหรับผู้มาสร้างบารมี

หรือหากผมจะมุ่งทางธรรมด้วย กายใจสะอาด เมื่อนั้นทั้ง
ทางโลกและทางธรรมจะก้าวหน้าพร้อมกัน

เหมือนที่ อ. กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้

 

ไกลนี่ ไกลแค่ไหนเหรอครับ

อยุธยา ราชบุรี หรือว่า หาดใหญ่

ผมว่าถ้ามีโอกาสก็มาได้นะครับ เดี๋ยวนี้ระยะทางไม่ใช่อุปสรรค อิอิ

 

ขออนุโมทนา..สาธุ
ที่คุณรักไร้พ่าย นำข่าวสารดี ๆ มาบอกกล่าวให้สมาชิก Palungjit ได้รับทราบ
โดยทั่วกัน