อาหาร ที่ถวายพระป่า

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Monticha, 14 สิงหาคม 2008.

  1. Monticha

    Monticha Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2007
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +74
    ขอความคิดเห็นผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ คือชอบทำอาหารใส่บาตรมาก ตั้งข้อสังเกตการถวายภัตตาหารพระป่าสายหลวงปู่มั่น นอกเหนือจากเรื่องเนื้อที่ห้ามฉันและโภชนะที่ออกชื่อ ดังนี้
    1. ท่านไม่รับของปรุงไม่สุก กึ่งสุกก็ไม่รับ
    2. พระบางรูป ไม่รับเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่
    3. พระบางรูป ไม่รับเนื้อสัตว์ที่เห็นเป็นตัว

    มีข้อสังเกตใดๆที่ท่านผู้รู้ท่านอื่นได้สังเกตเห็นอีกบ้างไหมคะ อีกเรื่องที่สงสัยมาก คือ ไม่ค่อยเห็นคน นำอาหารทะเล ประเภท หอย ทำใส่บาตร เพราะอะไรหรือคะ ที่คิดได้คือ เช่นเวลาเราผัดหอยลาย หอยลายมันตายตอนถูกลวก ทีนี้สมมติว่าเราไปซื้อหอยลายที่เค้าลวกสำเร็จแล้วมาผัด พระท่านจะรับไหมคะ คือมันเป็นของแสลงหรือเปล่า

    ด้วยความเคารพ ถึง พระอาจารย์เปลี่ยน วัดป่าอรัญวิเวก เคยได้รู้มาว่า สำหรับท่าน ท่านไม่ค่อยรับอาหารทะเล เพราะเป็นของแสลง ดังนี้เป็นต้นค่ะ

    ขอความคิดเห็นของคนที่ชอบทำอาหารใส่บาตร ตลอดถึงผู้รู้ทั้งหลาย ช่วยแนะนำเรื่องที่ดิฉันสงสัย ตลอดถึงคำแนะนำ เรื่องอาหารที่ควรทำใส่บาตร เช่นท่านใดที่พอสังเกตเห็นว่า พระท่านมักตักอาหารประเภทใดที่ถูกกับธาตุขันธ์ รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ

    ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ
     
  2. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    มีข้อสังเกตใดๆที่ท่านผู้รู้ท่านอื่นได้สังเกตเห็นอีกบ้างไหมคะ อีกเรื่องที่สงสัยมาก คือ ไม่ค่อยเห็นคน นำอาหารทะเล ประเภท หอย ทำใส่บาตร เพราะอะไรหรือคะ ที่คิดได้คือ เช่นเวลาเราผัดหอยลาย หอยลายมันตายตอนถูกลวก ทีนี้สมมติว่าเราไปซื้อหอยลายที่เค้าลวกสำเร็จแล้วมาผัด พระท่านจะรับไหมคะ คือมันเป็นของแสลงหรือเปล่า

    ท่านไม่รู้ไม่เห็นไม่ยินดีกับการฆ่ามันไม่บาปหรอก ส่วนที่ว่าของทะเล (ตามความเข้าใจส่วนตัว)เนื่องจากอาหารทะเลบ้างประเภททำให้เกิดอาการแพ้ และบางอย่างมีกระดอง มีเปลือกยากต่อการที่จะขบฉัน ท่านจึงหลีกเลี่ยงเพราะมันทำให้ฉันลำบากครับ อย่างเปลือกหอยบางทีไปกระทบบาตรทำให้เกิดเสียงดังและอาจทำให้บาตรเป็นรอยครับ


     
  3. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,667
    ค่าพลัง:
    +9,239
    สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.watpa.com ค่ะ
    ขออนุโมทนาคะ
     
  4. ป.วิเศษ

    ป.วิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    329
    ค่าพลัง:
    +411
    ดิฉันนิมนต์พระคุณเจ้า จากมูลนิธิหลวงปู่มั่น มางานทำบุญที่บ้านเดือนละ ๑ ครั้ง

    ช่วงแรกไม่คอ่ยรู้เรืองอะไร เพราะท่านฉันท์ในบาตร ก็ไปจัดเตรียมโต๊ะอาหารไว้

    ท่านบอกไม่ต้องโยม ท่านนั่งสวดตรงไหนท่านก็ฉันท์ตรงนั้นค่ะ ง่าย ๆ ไม่มีพิธี

    รีตองอะไรเลย ก่อนฉันท์ ท่านก็สวดให้พร

    ส่วนอาหารที่ปรุงไม่สุกที่ท่านไม่ฉันท์ ไช่ข้อห้าม แต่การฉันเพียงมื้อเดียวของ

    ปรุงไม่สุก อาจทำให้ท้องเสียได้ค่ะ จึงต้องขอให้ผู้ทำอาหารถวายปรุงให้สุก เช่น

    ไข่ต้มสุก ไม่ใช่ยางมะตูมค่ะ ส่วนปลาก็แกะก้างสักนิด เพราะท่านฉันท์ในบาตร

    ใช้ช้อนคันเดียว บางท่านใช้มือเปล่าค่ะ เพราะอาหาร ท่านจะตัก และผสมปนกัน

    ในบาตรค่ะ

    ส่วนมากที่บ้านจัดชุดนำพริกกะปิผักต้มค่ะ แล้วก็ผัดผัก ปลาทอด ผลไม้ ๒ อย่าง

    คิดไม่ค่อยออก ทำแค่นี้อ่ะค่ะ


    อนุโมทนา
     
  5. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    มีบัญญัติห้ามพระฉันเนื้อ 10 ชนิด
    เนื้อ 10 ชนิด ได้แก่ มนุษย์ ช้าง ม้า สุนัข งู ราชสีห์ เสือโคร่ง เสือเหลือง หมี และเสือดาว
    ดู ต้นบัญญัติ ได้ที่
    1. อุบาสิกาสุปปิยาถวายเนื้อขา
    http://dharma.school.net.th/cgi-bin/stshow.pl?book=05&lstart=1372&lend=1508
    2. พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒
    http://84000.org/tipitaka/pitaka1/vinai05.html
    3. พระวินัยปิฎก
    http://84000.org/tipitaka/pitaka1/

    มีบัญญัติ

    ห้ามฉันเนื้อสัตว์ที่เจาะจงฆ่าถวาย หรือ ได้ยิน ได้เห็นเขาฆ่าแล้วเอามาถวาย

    ห้ามฉันเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ทำให้สุกก่อน (ฉะนั้นอย่าเอาเนื้อสัตว์ดิบๆไปถวาย ปลาร้าก็ไม่ได้ ปูดองปูเค็มก็ไม่ได้ กะปิก่อนตำน้ำพริกต้องนำไปย่างไฟให้สุกก่อน)

    นอกเหนือจากนี้ก็พิจารณาดูเอา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2008
  6. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    เรื่องการฉันมังสวิรัตก็เป็นข้อถกเถียงตั้งแต่ สมัยพระเทวทัตขอพระพุทธเจ้าไม่ให้พระฉันเนื้อสัตว์แล้ว

    เราบิณฑบาตรขออาหาร ไม่ควรเป็นผู้เลี้ยงยาก ชาวบ้านเขากินอะไรก้กินอย่างนั้น ยกเว้นมีข้อห้ามเพิ่มเติมเนื่องจากเหตุผล เช่น อาหารดิบนั้นอันตรายพยาธิ เชื้อโรค ฯลฯ อีกอย่างความบริสุทธิของคนไม่ได้ขึ้นกับอาหาร

    ความบริสุทธิ์ของคน ขึ้นกับศีล และการปฏิบัติทางจิต ทางใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2008
  7. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ



    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  8. มิตร

    มิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +1,788
    เมื่อวานนี้ (วันพฤหัสบดี) ผมได้บริจาคเพื่อปิดทององค์พระธาตุโดยโอนเข้าบัญชี "วัดพระธาตุหริภุญชัย ลำพูน(เงินปิดทององค์พระธาตุ)" 511-0-48761-8 ธนาคาร กรุงไทย สาขา ลำพูน จำนวน 300 บาท

    อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะ เทวานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลายจงมีความสุข
    อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข


    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ และจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพยดาทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า เทพยดาทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพยดาทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ และจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขอแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่มีชีวิตอยู่ก็ดี ที่ล่วงลับไปแล้วก็ดี ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี ที่เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี อาทิ บิดามารดา เป็นต้น ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ และความสุขเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด และขอถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ทุก ๆ พระองค์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน มีพระราชประสงค์สิ่งใดขอให้สำเร็จตามพระราชประสงค์ทุกประการเทอญ ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด หากไม่สามารถเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ได้ ขอให้คำว่าไม่มี จงอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

    ขอท่านทั้งหลายจงอนุโมทนา เถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...