อายุ 120 ปี ทำไมจะทำไม่ได้

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 24 ธันวาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    [​IMG]

    นพ.เฉก ธนะสิริ อายุ 120 ปี ทำไมจะทำไม่ได้

    คอลัมน์ ลายแทงความสุข

    โดย สุพรรณี สมนึก




    แม้การ "เกิด แก่ เจ็บ ตาย" จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
    แต่การมีชีวิตที่ยืนยาวก็เป็นความ ปรารถนาของทุกชีวิต

    ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากที่ใครจะทำได้


    แต่ สำหรับ "นพ.เฉก ธนะสิริ" ประธานมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม
    และ ประธานกิตติมศักดิ์ชมรมอยู่ 100 ปี-ชีวีเป็นสุข
    กล้าที่จะประกาศตน ตั้งแต่เมื่อประมาณ 15 ปีที่ผ่านมาว่า
    "ผมจะอยู่ให้ได้ถึง 120 ปี" ณ ปัจจุบัน คุณหมอมีอายุ 93 ปีแล้ว


    ที่กล้าประกาศตัวเช่นนี้ เป็นเพราะ นพ.เฉกได้ปฏิบัติตัวค่อนข้างเคร่งครัด
    ในเรื่องการออกกำลัง กาย เปลี่ยนแปลงอาหารที่กินและบริหารจิต
    และศึกษาเรื่องนี้ทั้งศาสตร์ ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกมามากพอสมควร
    จึงเห็นว่าการอยู่ดีชีวีมีสุข ถึง 120 ปี เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
    นอกจากนี้ นพ. เฉก ธนะสิริยังเป็นแชมป์โลกกีฬาหลายประเภท
    เช่น ผู้สูงอายุวิ่งทางไกลมาราธอน ว่ายน้ำ และจักรยานทางไกล
    จาก แคนาดา เยอรมัน และ สหรัฐ ปัจจุบันท่านยังว่ายน้ำ วันละกว่า 100 เมตร
    และ ขี่จักรยานคู่ชีพเพื่อเดินทาง และออกกำลังกาย ทุกวัน
    วันละกว่า 30 กม ในช่วงเช้าตรู่ของแต่ละวัน


    เรื่องการจะมีอายุยืนยาวถึง 120 ปีนี้ ในประเทศไทย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
    เป็นท่านแรกในประเทศไทยที่ สนใจศึกษาหาความรู้ ในเรื่องนี้
    ท่านได้เขียนบทความชื่อ "วิธีทำให้อายุยืน 120 ปี"
    เพราะท่านเป็นคนไทยคนแรกๆ ที่นอกจากจะสนใจในเรื่องนี้แล้ว
    ยังได้เดินทางไปเข้าหลักสูตรกับ ดร.อาชลาน
    เพื่อปฏิบัติให้มีอายุยืนยาวแข็งแรงไม่มีโรคภัย ณ ประเทศโรมาเนีย


    "ผมเองก็เคยเดินทางไปศึกษาหาความรู้ที่โรมาเนีย ด้วย
    นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2547 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ได้ตรัสต่อข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จฯ
    เพื่อถวายพระพรในวันเฉลิมพระชนมพรรษาว่า
    พระองค์ ท่านตั้งพระทัยที่จะทรงมีพระชนมพรรษาถึง 120 ปี
    ซึ่งปัจจุบันนี้พระองค์ ท่านทรงมีพระชนมพรรษา 79 พรรษาเต็ม
    กำลังย่างเข้าปีที่ 80 อานาประชาราษฎร์ต่างแซ่ซ้องสาธุการ
    อยากให้พระองค์ท่านทรงบรรลุวัตถุ ประสงค์ตามที่ได้ทรงตั้งพระราชหฤทัย"


    การศึกษาเรื่องอายุยืนยาว นี้ มีทั้งในซีกโลกฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก
    ซึ่งฝากฝั่งนักวิทยา ศาสตร์การแพทย์ตะวันตกได้ศึกษาพบว่า
    คนจะมีชีวิตยืนยาวมีหลักใหญ่ 3 ประการ กล่าวคือ พันธุกรรม 30%
    พฤติกรรม มีความสำคัญมาก 60% ส่วนปัจจัยสิ่งแวดล้อมรอบด้าน
    คือ ปัจจัยทางครอบครัวและสิ่งแวดล้อม เช่น ดินฟ้าอากาศ มีผลเพียง 10%
    แต่ในแนวทางตะวันออก โดยเฉพาะหลักพุทธศาสนาให้ความสำคัญ
    กับ "บุญกรรม" และ "บาปกรรม" ที่กระทำจะเป็นตัวแปรสำคัญอย่างยิ่ง
    แต่แนวความคิดในเรื่อง "กรรม" ตะวันตกไม่ได้กล่าวถึงเลย
    เพราะไม่เข้าใจ ดังนั้น "วัตรปฏิบัติ"
    จะ ต้องประกอบด้วย ทาน ศีล และภาวนา


    นพ.เฉก ได้ศึกษาเปรียบเทียบพระราชวงศ์ที่พระชนมายุใกล้เคียงกัน 2 ราชวงศ์
    คือ ราชวงศ์อังกฤษ สมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธ
    พระชนมายุแก่กว่าพระเจ้าอยู่ หัวประมาณ 1 ปี
    พระราชชนนีของพระนางเจ้าสวรรคต เมื่อ 102 ปี
    พระราช ชนนีของพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต เมื่อ 93 ปี (หมายถึงพันธุกรรม)


    "เมื่อ ประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา ผมเคยได้ยิน
    คนไทยที่เคยศึกษาอยู่ในประเทศอังกฤษ นานพอที่จะรู้ตื้นลึกหนาบาง
    ของราชวงศ์ของอังกฤษกล่าวว่า พระราชินี และพระราชวงศ์อังกฤษ
    ไม่ได้ใช้แพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังดูแลรักษา สุขภาพ
    หากแต่ใช้ "หมอผี" ดูแลรักษา ผมแปลกใจมากจนกระทั่ง พ.ศ.2534
    ผม ได้เดินทางไปเยี่ยมบุตรสาวที่ประเทศอังกฤษ
    เขาได้พาผมไปเที่ยวเมืองเคม บริดจ์ ซึ่งจะต้องผ่านเมืองเล็กๆ
    ชื่อ Heddingham มีปราสาทเก่าแก่ 800 ปี จึงขึ้นไปดูปราสาทเก่า
    ได้พบหนังสือวางขายชื่อ "The Patient Not The Cure"
    (คนไข้ทำให้โรคหายไม่ใช่หมอ)
    คนเขียนเป็น แพทย์ประจำพระราชวงศ์อังกฤษถึง 4 ชั่วอายุ
    นับตั้งแต่พระราชชนนีจนถึง พระราชปนัดดา
    ชื่อ Dr.Margery G.Blackie (ล่วงลับไปนานแล้ว)
    ท่าน เป็นแพทย์ที่จบแพทยศาสตร์ แ
    ต่เรียนและปฏิบัติรักษาแบบทางเลือกด้วยวิธี ใช้พิษถอนพิษ (Homoeopathy)
    คือใช้หลักการรักษาและดูแลสุขภาพตามหลักให้ ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นเอง
    เพื่อสู้กับเชื้อโรค คล้ายวิธี ปลูกฝี หรือฉีดวัคซีน
    แพทย์สาขานี้ จะไม่ยอมใช้ยาที่เป็นสารเคมีอย่างเด็ดขาด
    มัก จะใช้สมุนไพร ถ้าจำเป็นในรูปของทิงเจอร์ต่างๆ ซึ่งแพทย์แบบนี้มีจำนวนน้อยมากๆ"


    จึงไม่แปลกอะไรที่หนังสือของ "หมอผี" ของราชตระกูลประเทศอังกฤษ
    จึงไม่ได้ระบุถึงการป่วยเจ็บของ ราชวงศ์อังกฤษทั้ง 4 ชั่วอายุ
    สมเด็จพระราชชนนีก็สวรรคตโดยไม่มีโรคและ ไม่ต้องใช้ยาในการรักษา
    สมมุติว่าถ้าไม่ทรงอ้วน นพ.เฉกเชื่อว่าจะทรงมีพระชนมายุถึง 110 ปี ได้สบายๆ


    นพ.เฉก เล่าถึงเรื่องบังเอิญที่สหรัฐอเมริกาก็มี "หมอผี" ชื่อ Dr..Andrew Weil
    เขียน หนังสือขายดีมากหลายเล่ม เล่มหนึ่งชื่อ "Spontaneous Healing"
    แปลเป็น ภาษาไทยชื่อ "พลังบำบัด ร่างกายคุณรักษาตัวเองได้" พิมพ์ถึง 4 ครั้งแล้ว


    "หมอ ผีอเมริกาผู้นี้สำเร็จวิชาแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
    แต่ใช้ วิธีรักษาคนไข้ที่ป่วยจากโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค
    เช่น เบาหวาน ความดัน ข้ออักเสบ หัวใจ และหลอดเลือดตีบสมองเสื่อม
    อ่อนเปลี้ยเพลียแรง โดยไม่ใช้ยา
    แต่จะให้คนไข้ที่มารักษากับเขาทิ้งยาที่เคยกินทั้งหมด
    แล้ว ให้ปฏิบัติตามที่เขาแนะนำอย่างเคร่งครัดด้วยการกินอาหารออกกำลังกาย
    ตาม ความเหมาะสมแต่ละคน
    และที่สำคัญยิ่ง เขาให้คนไข้นั่งสมาธิ เป็นประจำ 10 วัน เท่านั้น
    อาการเริ่มเห็นผลเป็นที่น่าพอใจมาก"


    ในเมื่อ มี "หมอผี" ที่ประเทศอังกฤษแล้ว
    ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ก็มี "หมอเทวดา" ได้เช่นกัน


    เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2537 นพ.เฉกได้เดินทางไปสังเกตการณ์
    และดูงานการแพทย์สาขาใหม่ คือ Bio-Molecular-cell therapy
    และ Rejuvunation Therapy
    คือการใช้ เซลล์ของแกะรักษาโรคที่เป็น
    กับอวัยวะใดก็ใช้อวัยวะของแกะอวัยวะนั้น รักษา คือตับรักษาตับ ไตรักษาไต
    และใช้เซลล์ทำให้เป็นหนุ่มสาวกระชุ่ม กระชวยอายุยืนยาว


    นพ.เฉก มีโอกาสไปดูที่สถานพยาบาลของ Dr.S.Brock
    ที่เมือง Lingrguiss,Munchen ประเทศเยอรมนี
    โดย อ.พรรณทิพา วัชโรบล ผู้ซึ่งศึกษาวิชานี้เป็นผู้นำไปพบว่า
    สถาบันแห่งนี้ ในอดีตมีบุคคลสำคัญของโลก เคยเดินทางมาชุบตัว
    เพื่อให้เป็นหนุ่มเป็นสาว บ้างก็มารักษาโรค อาทิ จักรพรรดิฮิโรฮิโต
    ชาลี แชปปลิน โป๊ป องค์ก่อนๆ
    อดีตประธานาธิบดีเยอรมนีและเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล เป็นต้น
    ประเทศ เยอรมนีดำเนินการศึกษาค้นคว้ามานานนับ 70-80 ปีมาแล้ว
    ประเทศสหรัฐ อเมริกาเพิ่งจะมาตื่นเต้นเมื่อไม่เกิน 20 ปีมานี้เอง
    เรื่องการบำบัด รักษาและการยืดอายุให้ยืนยาวนี้ในอนาคต
    วิชา Cell Therapy จะมีบทบาทอย่างสูง
    หากแต่ค่ารักษาแพงมากๆ อย่างไรก็ดี วงการแพทย์ของประเทศไทย
    ได้อาศัยการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาเป็นหลักเกณฑ์
    จึง ยากที่จะเข้าใจหลักเกณฑ์การแพทย์เยอรมนี


    จากการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง นพ.เฉกระบุว่า
    สำหรับ คนที่ต้องการมีอายุยืนยาวอย่างมีพฤฒิพลังถึง 120 ปี นั้น
    จะต้องปฏิบัติ ให้ได้ 5 ข้อ ต่อไปนี้


    [​IMG] 1.ต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ
    หนัก เบาตามอายุ แต่การออกกำลังต้องให้ได้ออกซิเจนสม่ำเสมอ
    คือเพื่อให้เกิด พลังชีวิต หรือพลังแอโรบิคไปจนตายนั้น
    คือ ใช้หลักที่ว่า อยากมีแรงต้องออกแรง หรือต้องทำงานกลางแจ้งจนตลอดชีวิต


    [​IMG] 2.ต้องกินอาหารธรรมชาติ
    คือ พืชพรรณธัญญาหาร เช่น แป้งเชิงซ้อนได้แก่ เมล็ดธัญพืช ถั่ว งา
    ข้าวซ้อม มือ ข้าวโพด เผือก มัน และผลไม้ และผักหลากสี หลากรส
    งดเนื้อสัตว์ ทุกชนิด วันหนึ่งกิน 2 มื้อ ก็พอแล้ว
    งดมื้อเย็นใช้หลักที่ว่า กินน้อย-ตายยาก กินมาก-ตายเร็ว อาหารอายุสั้น
    เช่น ผักสด ผลไม้สด ทำให้อายุยืน อาหารอายุยืน
    เช่น อาหารกระป๋อง ซอง แฮม ไส้กรอก แหนม กุนเชียง ทำให้อายุสั้น


    [​IMG] 3.ต้องดื่มน้ำสะอาด
    น้ำ เปล่าๆ วันละ 10-12 แก้ว งดน้ำอัดลมทุกชนิด
    และเครื่องดื่มชาเขียว ยาบำรุงกำลัง


    [​IMG] 4.ต้องพักผ่อนนอนให้หลับสนิท
    ภูมิ ต้านทานในตัวจะสูงมาก เชื้อโรคแพ้ราบคาบและทำจิตใจให้สงบเป็นสมาธิ
    ไม่ สร้างปัญหาชีวิตให้แก่ตน ครอบครัวและสังคม
    หากเป็นไปได้ให้ฝึกเจริญ สมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน เป็นนิจศีล
    ดำเนินชีวิตทุกๆ อย่างด้วย ไตรสิกขา คือศีล-สมาธิ-ปัญญา
    จงมั่นใจว่า การฝึกจิตให้นิ่งเป็นจิตที่มีพลังสูง


    [​IMG] 5.หมั่นสร้างแต่กรรมดี
    สร้าง บุญสร้างกุศล ละเว้นความชั่วทุกชนิด
    และตั้งโปรแกรมจิตของตนทุกวันเวลา ที่จะมีชีวิตยืนยาว 120 ปี อย่างมีคุณภาพ
    โดยพิจารณาให้เห็นชัดว่าร่าง กาย
    คือฮาร์ดแวร์ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่จะต้องดูแลระมัดระวังให้ทำหน้าที่อย่างดีอยู่เสมอ
    ส่วนโปรแกรมที่จะ ป้อนเข้าไป เพื่อให้ได้ข้อมูลนั้นก็คือ "จิต" ของเรานั้นเอง
    การจะ ตั้งใจให้ผลออกมาดีนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้าให้ใช้หลัก อิทธิบาท 4
    หมาย ถึง สิ่งที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ 4 อย่าง คือฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา


    นอก จากนั้น การจะใช้อาหารเสริม วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ
    รวมทั้งการใช้ เซลล์บำบัดจึงกลายเป็นเรื่องรองลงไปจากการปฏิบัติตัวด้วยตนเอง
    ทั้งหมด นี้เป็นคำแนะนำจาก นพ.เฉก "หมอผี" ของประเทศไทย



    www.kondee.com/
     

แชร์หน้านี้

Loading...