อานิสงส์จากการแผ่เมตตา

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย piyaa, 21 มกราคม 2013.

  1. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    วันที่ 19 มกราคม 2556
    เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2503 พี่สาวของฉันได้เสียชีวิตเพราะ ไทรอยด์เป็นพิษ เพราะว่าสมัยก่อน พี่สาวฉันไม่ได้รับการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน เค้ารักษาแบบแพทย์แผนโบราณ และรักษาแบบถูกคุณไสย์ เช่น รดน้ำมนต์ เคี้ยวหมากแล้วพ่น ตีด้วยหวายลงอาคม พี่สาวฉันเค้าเป็นไทรอยด์แบบตาโปน ตาถลน และ คอพอก หน้าเค้าก็เปลี่ยน อารมณ์ก็เปลี่ยน ก่อนที่เค้าจะเสียชีวิต เค้ามีอาการมือสั่น ตัวสั่น หมอที่รักษาคุณไสย ได้ที่ก็พูดว่า แหม พอมึงเห็นกู ก็กลัวจนตัวสั่นเลยนะ ฉันนึกว่าชักไปกันใหญ่ ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก ช่วยเหลืออะไรก็ไม่ได้ ได้แต่นั่งฟัง นั่งมอง เวลามองเค้าทำการรักษา นั่งมองด้วยความห่วงใย มีอยู่วันหนึ่ง ตอนบ่ายๆ พี่สาวบอกฉันว่า อยากกินขนมจีน ให้ฉันช่วยไปตามเจ้าขาประจำ ที่เค้าหาบขายตามบ้านมาให้หน่อย ฉันขี่จักรยาน ตามหาแม่ค้าขนมจีน จนเจอ แล้วก็เรียกเค้ามาที่บ้าน พี่สาวกินขนมจีนอย่างเอร็ดอร่อย พอกินเสร็จแม่เค้ายังไม่ทันจะไปเลย พี่สาวฉันก็เป็นลม ตกเก้าอี้ ที่นั่งกินขนมจีนอยู่ ฉันตกใจ วิ่งไปตาม พี่เขยมา อุ้มพี่สาวไปขึ้นรถส่งโรงพยาบาล พอถึงโรงพยาบาล หมอก็ให้น้ำเกลือ ตัวฉันเองก็ต้องเฝ้าที่โรงพยาบาล ส่วนพี่เขยก็กลับบ้าน พอซักสามทุ่ม พี่สาวก็พูดกับฉันว่า ปวดท้องฉี่ ให้เอากระโถนมาให้ หน่อย ฉันหยิบกระโถน มาให้พี่สาวฉี่ แต่พี่สาวฉันฉี่ไม่ออก เค้าก็เลยพยายามฉี่ พอสักครู่ เมื่อฉี่ไม่ออก พี่สาวฉันก็มีอาการชัก น่ากลัวมาก ฉันก็วิ่งไปตามพยาบาลมา งัดปาก เอายางใส่ กันพี่สาวกัดลิ้นตัวเอง ต่อมาก็ชักบ่อยขึ้น จนกระทังตีห้า พี่สาวฉันก็จากไป อย่างสงบ ทิ้งภาระไว้ คือลูกหกคน ซึ่งยังเล็กอยู่ ต่อมารุ่นลูกของพี่สาว ลูกสาวคนโต เป็นไทรอยด์ตาโปนคอพอกแบบแม่ แต่เค่าก็รักษาหายที่โรงพยาบาลจุฬาฯ คนที่สองก็เป็นไทยรอยด์ต่ำ แต่ก็รักษาหายที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด ลูกคนที่สาม ก็คอโต ตาโปน แต่ก็รักษาหายที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด ส่วนตัวฉันเองเป็นไทรอยด์ต่ำ รักษาที่โรงพยาบาลรามาฯ หาหมอทุกสามเดือน เป็นเวลาเกือบยี่สิบปีแล้ว และยังมีคนอื่น ที่เป็นโรคไทรอยด์ อีกหลายคน สงสัยจะเป็นโรคกรรมพันธุ์มากกว่า แต่พวกเรายังโชคดี ที่รักษา หมอแผนปัจจุบันจนหายกันหลายคน สงสารพี่สาว ที่หลงงมงาย รักษาแบบ เวทย์มนต์ คาถา รดน้ำมนต์เคี่ยนด้วยหวายอาคม เคี้ยวหมากพ่นที่บนหัว มีแต่น้ำหมากแดงไปหมด ทุกสิ่ง ทุกอย่าง มันก็จบ และก็ผ่านไป

    แต่ที่เขียนเล่าเรื่องนี้มามันมีเหตุผล ดังที่ฉันจะเล่าต่อไปนี้ คือหลานกำพร้าทั้งหกคน ก็ช่วยกันดูแล จนกระทั่งช่วยเหลือตัวเองได้ และแต่งงานกันมีครอบครัวไป ส่วนหลานชายสองคน ก็แยกไปทำงาน ส่วนอีกหนึ่งคนอยู่กับฉัน สมัยนั้นฉันยังไม่แต่งงาน สองคนน้าหลาน ไปใหนไปด้วยกัน ไปค้าขาย ต่างจังหวัด ทุก สุข ลำบาก ด้วยกัน ถามว่าหลานคนอื่นรักไหม รักทุกคนแต่หลานคนนี้มันผูกพัน ต่อมาเค้าก็แต่งงานไปอยู่กับแฟนเขาที่ภาคเหนือ มีลูกเป็นหัวหน้าครอบครัว นานๆเค้าจะกลับมาเยี่ยมซักครั้ง ระยะหลังนี้ หลานชายหายไปเกือบสิบปี ไม่เคยติดต่อมาเลย จนะกระทั่งวันหนึ่ง หลานชายมาหาที่บ้าน ที่กรุงเทพฯ มาอยู่เป็นเดือน ช่วยขับรถ ส่งไปทำธุระ ที่นู่น ที่นี่ ได้คุยกันบ่อย วันหนึ่ง มีเพื่อนมาขายประกันชีวิตที่บ้าน ฉันชวนหลานชายทำประกันชีวิตไหม น้าจะทำให้ หลานชายบอกว่า ทำที่ต่างจังหวัดตั้งหลายครั้งแต่แล้วไม่ผ่าน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันก็นึกสงสัย จึงพูดว่าพรุ่งนี้เอ็งไปตรวจเลือด ตรงเสาวภา ตรงที่เค้าเลี้ยงงูแถวๆนั้นแล่ะ เอ็งลองไปถามเค้าดูก็แล้วกัน หลานชายบอกว่า น้าไปด้วยกันซิ ไปคนเดียวผมไม่อยากไป ฉันก็บอกลุกชาย หลานชาย คนอื่นๆ ชวนกันไปทีเดียวหลายๆคนเลย วันรุ่งขึ้นฉันก็ไปนั่งลุ้นผลเลือด กับเค้าด้วย ปรากฏว่าลูกหลานที่กรุงเทพฯสอบผ่านทุกคนเหลือแต่หลานชาย ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา คนเดียว ที่เป็นเลือดบวก ฉันสงสารหลานมากก็เลยเข้าไปคุยกับคุณหมอ คุณหมอพูดว่า อย่าพึ่งเครียด ลองมาเช็คอีกที เลือดบวก บางทีมันอาจจะเป็นหนองใน ฟิสิลิกส์ โลโนเลีย ก็เป็นเลือดบวกได้ อย่าคิดมาก คุณหมอนัดให้มาอีกหนึ่งครั้งมาตรวจให้แน่นอน หลานชายกลับมาบ้าน ซึม บอกว่า จะกลับบ้านที่เหนือ ฉันบอกว่า อย่าพึ่งกลับเลย พบหมออีกครั้งก่อน หลานชายไม่ฟัง กลัวทำใจไม่ได้ ไม่อยากรู้ เก็บเอาไว้ เผื่อว่าจะเป็นคนโชคดี หนึ่งในร้อย เหมอืนคุณหมอบอกก็ได้ พอรุ่งขึ้นกลับบ้านไป ก็หายเงียบไม่ติดต่อกลับมาเลยเกือบสิบปี อยู่ๆหลานสาวคนโตก็โทรมา บอกกับฉันว่า หลานชายเป็นโรคเอสด์ขั้นสุดท้าย อยู่โรงพยาบาลต่างจังหวัดชวนกันลงไปเยี่ยม พอไปเห็นหลานชาย ฉันน้ำตาร่วง เพราะความสงสาร ร่างกายผ่ายผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก จึงปรึกษากันว่า เอาหลานชาย ไปอยู่กับพี่สาว ที่บ้านเกิด อาจจะดีกว่า มีอะไรก็ยังดูแลกันได้ ฉันถามหลานชายฉันว่า อยากกลับไปบ้านเกิดไหม หลานชายบอกว่าอยากไป ก็เลยจัดการให้เค้ามาอยู่กับพี่สาว คนโต และอยู่ใกล้โรงพยาบาล ระหว่างนั้นก็เข้าๆออกๆโรงพยาบาลเป็นประจำ ตอนหลังมานี้ จะเป็นตุ่มทั้งตัว แต่ยังดี ไม่มีน้ำเหลือง เป็นอย่างแห้ง หมอบอกว่ามันลงปอดแล้ว คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน สุดท้ายเค้าก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังจากทรมาน มานานพอสมควร ฉันรู้สึกเสียใจ อาลัยอาวรณ์มาก หลังจากจัดการงานศพเรียบร้อยแล้ว ฉันก็กลับกรุงเทพฯแต่ฉันยังจำภาพหลานชาย มีแต่หนังหุ้มกระดูก ผอม ดำ ก่อนตาย พูดไม่ได้ แต่น้ำตาไหลตลอดเวลา ฉันถามว่า จำน้าได้ไหม ถ้ารู้เรื่องให้กระพริบตาสามครั้ง หลานชายก็กระพริบตาสามครั้ง บอกให้กระพริบตาสองครั้ง เค้าก็กระพริบสองครั้ง แต่ที่พูดไม่ได้ เพราะพยาบาลเอาท่อยาง เครื่องช่วยหายใจ เสียบเข้าไปในลำคอ จึงพูดไม่ได้ ตอนหลานชายเสียชีวิต อายุ สี่สิบเก้าปี ปัจจุบันรวมแล้ว เสียชีวิตไปประมาณหกปี
    หลานชายเกิดมา ไม่เคยไหว้พระ สวดมนต์ บุญทานไม่รู้จัก เกิดมาทั้งที ที่เป็นลูกผู้ชายก็ไม่ได้บวช หลังจาก หลานเสียชีวิตแล้ว ฉันก็ทำบุญไปให้บ่อย แต่ไม่เคยฝันเห็นหลานชายเลย แต่ตอนหลังเรี่มมานั่งสมาธิ ฉันก็แผ่บุญกุศล ไปทุกวันเช้าเย็น อยู่หลายปีเหมือนกัน แล้วก็อธิษฐานจิต ว่าขอให้เค้ามีความสุข ปราศจากทุกข์ ไปสู่ภพภูมิที่ดี แต่เมื่อประมาณเดือน สองเดือนที่ผ่านมา ฉันนั่งสมาธิอยู่ ฉันนิมิตเห็น หลานชายคนนี้ ยืนอยู่ เค้าใส่เสื้อยึด คอกลมสีขาว กางเกงสีขาว ที่ผู้ชายเค้าใส่ไปปฏิบัติธรรมที่วัด ตัดผมรองทรง ร่างกายอ้วนถ้วนสมบูรณ์ผิวพรรณผ่องใส เค้ายืนเฉยๆไม่ได้พูดอะไรท่าทาง เค้ามีความสุข แค่นี้ น้าก็พอใจแล้ว และจะทำต่อไปเรื่อยๆ ฉะนั้นการทำบุญตักบาตร กับการทำเจริญสมาธิ ภาวนา อานิสงส์จะมากกว่ากัน ถ้าทำควบคู่กันไป ก็จะดีมาก บางคนบอกว่าทำบุญมาตั้งเยอะแล้ว ทำไมไม่เห็นผล อย่าพึ่งท้อ ทำไปเรื่อยๆ สักวัน ถ้าบุญเต็มเมื่อไหร่ เมื่อนั้น บุญกุศลจะส่งผลให้เราเอง “สำรวมกาย สำรวมใจ ทำสิ่งที่ถูกต้อง “
    อาจารย์เสาวนีย์ สวัสดิภักดิ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2013
  2. พุธทสิณ

    พุธทสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +404
    อ่านดูแล้วน่าสงสารจริงๆ,เวลาทําบุญแล้วผมจะชอบแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลให้แก่ทุกๆคนทั้งผู้ที่เป็นญาติและไม่ใช่ก้อตามแต่.../\..
     
  3. ทอฝันรัก

    ทอฝันรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +175
    คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว การทำสมาธิเป็นบุญสูงสุดที่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และเจ้ากรรมนายเวรทุกคนอยากได้ รองลงมาก็คือการรักษาศีลให้บริสุทธิ์และอุทิศให้ การให้ทานที่ทุกคนส่วนใหญ่ให้กันก็เป็นบุญแต่ระดับต่ำกว่าที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ผลบุญจะได้แก่ผู้ทำ คือทำให้มีกินมีใช้ ไม่ขาดมือ ซึ่งผลบุญที่ได้ก็แตกต่างกันไป ดิฉันคิดว่าหลานชายของคุณคงได้รับผลบุญที่สูงสุดและบริสุทธิ์ที่สุดเพราะการทำสมาธิเป็นการทำบุญที่บริสุทธิ์ และไม่ต้องลงทุนอะไร แต่ได้บุญสูงสุด ขอโมทนาบุญกับคุณด้วยค่ะ
     
  4. liquidpaper

    liquidpaper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,423
    ......
     
  5. talkjoss

    talkjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +2,252
    อนุโมทนาสาธุครับ (^_^)
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Q7Or4U4wrXA]บทแผ่พลังเมตตาทั่วทั้งสามโลก - YouTube[/ame]

    บทอัญเชิญเทวดา+บทสวดพุทธบารมี 30 ทัศ+บทแผ่เมตตาทั่วทั้งสามโลก
    ข้าพเจ้าได้ทำการรวบรวมไว้เป็นไฟล์เดียวเพื่อความสะดวกในการเจริญเมตตาขอให้ทุกๆท่าน ผู้ที่มีจิตเมตตาช่วยกันสวดบทนี้ที่ข้าพเจ้าได้จัดทำขึ้น ทุกเช้าและก่อนนอน เพื่อประโยชน์แก่ดวงจิตของสรรพสัตว์ทั้งสามโลก และเจ้ากรรมนายเวร ทุกๆดวงวิญญาณ
    เมตตาสามารถแผ่กระจายออกไปได้ทุกทิศทาง ไม่มีขอบเขต ไม่กำหนดสถานที่ กาลเวลา เมตตาเป็นเรื่องของจิตใจ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยทรัพย์สิ่งของ ไม่ต้องลงทุนลงแรงแต่อย่างใด และเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรมพึงให้ความสำคัญ และน้อมนำมายืดถือปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของตนเองและผู้อื่นต่อไป

    >โหลดไฟล์ได้ที่ > http://palungjit.org/threads/บทแผ่เมตตาสามโลก-อธิษฐานบารมี-and-เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น.5849/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2013
  6. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    ปกติไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญ แต่
    พอมารดาเสียเมื่อ 8 ปีก่อน ก็เลยใส่บาตรให้ท่านทุกเช้า และก็หันมา
    นั่งสวดมนต์ทำสมาธิ อุทิศผลบุญให้แก่ญาติมิตรผู้ล่วงลับ...
     
  7. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    เรามีชมรมแผ่เมตตานะคะ.....
    สนใจแวะมาร่วมแผ่เมตตาด้วยกันได้
    ทุกวันเวลา 21.00-21.30 น โดยประมาณค่ะ

    ปณิธานชมรมแผ่เมตตา

    ชมรมแผ่เมตตาเป็นการรวมตัวกันเพื่อเจริญพรหมวิหาร ๔ กล่าวคือ

    เมตตา ความรัก มีไมตรีจิตกับทุกคน ไม่มีความเกลียดใคร เป็นมิตรกับทุกดวงจิต

    กรุณา ความสงสาร ช่วยเหลือเขาได้ก็ช่วย ไม่ว่าจะเป็นทางกำลังทรัพย์ กำลังกาย กำลังปัญญา

    มุทิตา มีใจยินดี ไม่อิจฉาเขา ถ้าเขาได้ดี มีความสุข ก็พลอยยินดีไปกับเขา

    อุเบกขา หากว่าสิ่งไหนเกินกฏแห่งกรรม เราไม่สามารถทำอะไรที่จะช่วยเหลือเขาได้ก็วางใจสบายๆเพื่อให้เกิดความสุขเบิกบาน



    พรหมวิหาร๔ นั้นเป็นธรรมที่พระโพธิสัตว์บำเพ็ญมาเป็นเวลาช้านานเอนกอนันต์ชาติ

    การ เจริญพรหมวิหารทำให้ดวงจิตวิญญาณทั่วสากลพิภพเกิดความ สว่างไสว เพื่อมุ่งสู่จุดหมายสูงสุดคือพระนิพพาน การช่วยแผ่เมตตาอุทิศบุญให้กับสรรพสัตว์ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่พวกเราชาวชมรม แผ่เมตตาได้ทำเป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นคนตาย สัตว์ตาย หรือดวงจิตวิญญาณที่ได้รับทุกข์ที่ไหน เราก็มีใจเบิกบานที่จะแผ่เมตตาให้พวกเขาเสมอกันหมด ไม่แยกว่าเป็นชาติใด ศาสนาใด เป็นสัตว์ชั้นต่ำ สัตว์ชั้นสูง ทุกระดับดวงจิตวิญญาณทั่วสากลพิภพเราจะแผ่เมตตาให้ทั่วถึงกัน เพื่อให้ทุกสรรพสัตว์มีความสุขตามกำลังบุญของแต่ละท่าน ให้เกิดความสุขสงบร่มเย็นทั่วทั้งจักรวาล

    กติกาของชมรมแผ่เมตตา

    1.ผู้มีสิทธิ์โพสข้อความต้องมีคุณสมบัติดังนี้
    1.1 เคยเป็นผู้ที่แนะนำตัวทักทายเพื่อนใหม่ เวลามีเพื่อนสมาชิกใหม่เข้ามา ควรทำเป็นประจำ
    1.2 เคยได้กล่าวโมทนา หรือแสดงความเห็นในข้อความอื่นๆ ของเพื่อนสมาชิก ไม่เกิน สองวันก่อนหน้านี้
    1.3 เคยได้ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมของชมรมแผ่เมตตา
    2. ข้อความและภาพต่อไปนี้จะถูกลบทิ้ง
    2.1.ข้อความที่โพสเหมือนกันทุกวัน ซ้ำๆเดิม หากไม่อยากให้ซ้ำเดิมและถูกลบทิ้งควรหาวิธีการที่ไม่ให้ซ้ำเดิมมา เช่นบอกวันที่ เวลา สถานที่เข้าไป
    ข้อความที่คัดลอกมาโพสเหมือนกับข้อความวันก่อน ทุกประการถือว่าซ้ำ จะถูกลบทิ้ง
    2.2 โพสที่ซ้ำกันเหมือนกันทุกประการจะถูกลบทิ้งเหลือไว้อันเดียว
    2.3 ข้อความและภาพจากศาสนาอื่นๆ ไม่อนุญาตให้โพสในชมรมแผ่เมตตา เพื่อป้องกันความขัดแย้งในเรื่องศาสนา
    2.4 ข้อความจากผู้ไม่มีสิทธิ์โพสข้อความเนื่องจากขาดคุณสมบัติจากข้อ 1

    Twitter : @piakgear24
    Twitter : @dhammanirvana
    Camfrog : DhammaNirvana
    Website : http://www.cosmicnirvana.com/
    Youtube : ชมรมแผ่เมตตา - YouTube
    Mana Khamyang - YouTube
    GoogleGroup : https://groups.google.com/group/Pae_mettra
    แฟนเพจ Facebook : https://www.facebook.com/cosmicnirvana
    แฟนเพจ Facebook: https://www.facebook.com/Manakhamyang
    กรุ๊ป Facebook : http://www.facebook.com/groups/cosmicnirvana
     
  8. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    เราร่วมกันแผ่เมตตาที่ Camfrog

    Downlaod Program Camfrog สมัครสมาชิก
    แล้วค้นหาห้อง DhammaNirvana
    password เข้าห้องคือ voice

    Camfrog สามารถ online ได้ทางโทรศัพท์มือถือค่ะ.... ^_^
     
  9. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    ตัวอย่าง..การแผ่เมตตา วันที่ 23 มค. 56

    การแผ่เมตตา วันที่ 23 มกราคม 2556 เวลา 21.00 น. ในห้อง DhammaNirvana มีผู้ร่วมแผ่เมตตาทั้งหมด 5 ท่าน ได้แก่ น้องเปี๊ยก (piakgear24), น้องแนน (deejaimark), น้องตูน (cartoonwalk), (Supansawalk), พี่ฝน (orwanv) โดยวันนี้ พี่ฝน (orwanv) ได้เป็นผู้นำแผ่เมตตาทั่วจักรวาลค่ะ และน้องแนน (deejaimark) เป็นผู้นำแผ่เมตตาแบบเจาะจงทั้งหมด 18 ท่าน ได้แก่
    1. นายสุรวิทย์ วิวัฒนวานิช อายุ 58 ปี เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตเมื่อ 21/10/54
    2. นายไพรินทร์ เจริญสุข อายุ 61 ปี เสียชีวิตด้วยโรคความดันโลหิตสูง เสียชีวิตเมื่อ 11/7/34
    3. นายจรัล วิวัฒนวานิช อายุ 72 ปี เสียชีวิตด้วยโรคถุงลมโป่งพอง เสียชีวิตเมื่อ 13/6/36
    4. นางยุพา วิวัฒนวานิช อายุ 63 ปี เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เสียชีวิตเมื่อ 11/4/38
    5. นายมนู วิวัฒนวานิช อายุ 60 ปี เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่คอ เสียชีวิตเมื่อ 28/7/55
    6. นาง มอร์รีน คอสโกรฟ อายุ 65 ปี
    7. นางสาว โซฟี เอลลีเอิร์ท อายุ 22 ปี
    8. นาย ประกิจ ปานนาค อายุ 36 ปี
    9. นายวิรัตน คำมะยางค์
    10. นายเสนอ กุลาศาสตร์
    11. นายคำสิงห์ กุลาศาสตร์
    12. นายอดุลย์ ทิพย์ทอง
    13. น้องฌอน กุลาศาตร์
    14. น้องเต็ม กุลาศาตร์
    15. นางภัคจิรา ชนะวง 37 ปี
    16. แกะ 3 ตัวที่ถูกฆ่าทำอาหาร ที่ ออ อิน... อะบู ดาบี เมื่อ 12 มกราคม 2556
    17. ยุง 1 ตัว ที่ถูกฆ่าตาย เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2556
    18. ลูกแกะ 10 ตัว ที่ป่วยตาย

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านที่ได้มาร่วมกันแผ่เมตตาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    หลังจากแผ่เมตตาเสร็จ น้องตูนได้จับไมค์ร้องเพลงธรรมะของชมรมแผ่เมตตา หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันไปทำภารกิจตามสมควรค่ะ

    ขอเชิญร่วมแผ่เมตตาที่ห้องแคมฟรอก เวลา 21.00 น. ของทุกวันที่ห้อง DhammaNirvana นะคะ
     
  10. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    ตัวอย่างการแผ่เมตตาวันที่ 24 มค. 56

    การแผ่เมตตา วันที่ 24 มกราคม 2556 เวลา 21.00 น. ในห้อง DhammaNirvana มีผู้ร่วมแผ่เมตตาทั้งหมด 6 ท่าน ได้แก่ น้องเปี๊ยก (piakgear24), น้องแนน (deejaimark), น้องตูน (cartoonwalk),(Supansawalk), น้องเล็ก (Pie_Bao), พี่ฝน (orwanv) โดยวันนี้ พี่ฝน (orwanv) ได้เป็นผู้นำแผ่เมตตาทั่วจักรวาลค่ะ และน้องแนน (deejaimark) เป็นผู้นำแผ่เมตตาแบบเจาะจงทั้งหมด 5 ท่าน ได้แก่
    1.นาย ชอว์ เดวิด อายุ 23 ปี ทหารเสียชีวิตที่ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อ 16/01/2556
    2.นาย ริชาร์ด วอร์คเกอร์ อายุ 23 ปี ทหารเสียชีวิตที่ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อ 07/01/2556
    3.นาย เบอรี่ วอล์เตอร์ อายุ 41 ปี ทหารเสียชีวิตที่ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อ 11/11/2555
    4.นาย ดรัมมอนด์ แบ๊กเซอร์ เอ็ดเวิร์ด อายุ 29 ปี ทหารเสียชีวิตที่ประเทศอัฟกานิสถาน เสียชีวิตเมื่อ 30/10/2555
    5. นายสุรวิทย์ วิวัฒนวานิช อายุ 58 ปี เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตเมื่อ 21/10/54
    และวันนี้น้องแนนได้นำแผ่เมตตาให้แก่สัตว์ทั้งหลาย ดังนี้
    หากว่าข้าพเจ้าเคยทำร้าย ทั้งทางกาย วาจา ใจ เคยฆ่าให้ตาย ทรมาน กักขัง ทำให้เจ็บปวด กับสัตว์เหล่านี้ ข้าพเจ้าสำนึกในบาปกรรมนั้นแล้ว ขอให้ดวงจิตวิญญาณสัตว์ทั้งหลายเหล่านี้จงอโหสิกรรมให้ข้าเจ้าด้วยเทอญ

    และขอให้ท่านทั้งหลาย จงโมทนาบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ทาน ศีล ภาวนา ตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบัน ให้ท่านไปสู่ภพภูมิที่ดี ณ กาลบัดนี้เถิด

    จตุรบาท
    ช้าง เสือโคร่ง ควาย กวาง หมู หมา เสือดาว ฟาน เสือปลา แรด ม้า วัว หมี เม่น สมัน ทราย เก้ง จามรี เลียงผา แมว ชะมด ลิงอุรุงอุตัง ลิงหน้าดำ กระรอก หนู กระรอกบิน(บ่าง) นาก กระต่าย อีเห็น หมาป่า หมูป่า กระทิง ละอง ละมั่ง ตุ่น หนูพุก หนูนา หนูซิง หนูงวงช้าง กรูปี ลา แกะ สิงห์โต ควายป่า ยีราฟ ฮิปโป จิงโจ้ หมีแพนด้า หมีขาว สิงห์โตทะเล แมวน้ำ กวางเรนเดียร์ สมเสร็จ

    สัตว์ปีก
    เหยี่ยวรุ้ง เหยี่ยวดำ (เหยี่ยวตะไกร) นกพิราบ เป็ด ไก่ หงส์ นกแร้ง นกแร้งใหญ่ นกตะกรุมหัวล้าน กา นกสาลิกา นกเค้าแมว นกฮูก นกฮูกใหญ่ทืดทือ) นกกระเรียน นกกระทุง ห่าน นกยาง นกกระสา นกกาน้ำ นกช้อนหอย เป็ดหงส์ นกงั่ว นกอีโก้ง นกเป็ดน้ำ นกนางนวล นกตะขาบ (นกกระเต็น) นกกาบบัวขาว นกยูง นกแพนกวิน นกพญาลอ(ไก่ฟ้า) นกอีงาก นกเงือก นกแก้ว นกกระทา นกเขา นกกางเขน ค้างคาว นกกระจอกเทศ นกเอี้ยง นกกาเหว่า นกกระปูด นกโดนดก นกแตดแต้ นกหัวขวาน นกแซว นกกดฮ่อน นกนางแอ่น นกจิบ นกขุ่ม นกขอด นกอีรุม นกแซ่ว นกกระบา นกแทด นกกระจอก นกขมิ้น นกเจ้าฟาน นกเป็ดน้ำ นกขี้กระเดียน นกถัวหัวหงอก

    สัตว์เลื้อยคลาน
    จระเข้ จระเข้บก ตะกวด ตุ๊กแก จิ้งจก กิ้งก่า กิ้งก่าบิน(มังกร) งูหลาม จิ้งเหลน งูงวงช้าง งูเห่า งูเห่าไฟ งูสามเหลี่ยม งูหงอน งูแสงตะวัน งูเขียว กบ เขียด อึ่งอ่าง คางคก เขียดทราย เขียดอีโม่ เขียดขาคำ แย้ แลน งูเหลือม ซาลามานเตอร์ อีกัวน่า อีฮวกกบ อีฮวกเขียด แมงลิ้นหมา เขียดอีแอะ เขียดบักจิก เขียดตะปาด งูไซ งูปลา งูแม่ซ่อย งูสา งูขา ขี้เกี้ยมตอง งูสิง งูจงอาง อนาคอนดา งูกะปะ งูก้านปล้อง งูหางกระดิ่ง งูลอกเชียก งูเขียวหางไหม้ งูดิน งูเขียวแซก

    แมลง
    ตะขาบ แมงป่อง แมลงสาบ มดดำ มดแดง มดตะนอย ปลวก แมงมัน แมงเม่า หิ่งห้อย แมงกินูน กุดจี่ ด้วง กว่าง แมงทับ ตั๊กแตนปีกแดง ตั๊กแตน ตั๊กแตนตำข้าว แมงกระชอน แมงดา แมงตับเต่า ไหม ผีเสื้อ จิ้งหรีด กี่โป่ม แมงแคง แมงสีเสียด ยุง เห็บ เหลือบ ฮิ้น หนอนไม้ไผ่ ไข่มดแดง มิ้ม ผึ้ง ต่อ แตน หมัด ไรไก่ แมลงวัน แมลงหวี่ ไข่แมงมัน ตั๊กแตนโม ตั๊กแตนเขียว ตั๊กแตนแมงมัน ตั๊กแตนข้าวจ้าว ตั๊กแตนเสือ ตั๊กแตนขี้หมา แมงข้าวสาร แมงงอดน้ำ แมงหน้างำ แมงหัวควาย ดักแด้ไหม แมงกูรูนางอั้ว แมงบ่งโก่ แมงบ่งขน แมงบ่งหาน แมงบ่งคืบ แมงบ่งกิเลน ด้วงมะพร้าว ด้วงต้นงิ้ว ด้วงใบไม้ แมงกอก แมงเงา บึ้ง แมงย่างชิ้น แมงมุม แมงคับหอยแข็ง

    สัตว์น้ำ
    เต่าแคระ เต่าญี่ปุ่น เต่า เต่าดำ กระ(เต่าทะเล) เต่านา ปลาวาฬ ปลาทู ปลาโลมา ปลานกกระจอก ปลาฉนาก ปลาโอ ปลาดาบลาว ปลากระเบน ปลาจะละเม็ด ปลาแซลมอน กุ้งทะเล ปูทะเล ปูนา กั้ง ปลิง ปลิงทะเล ปลากะโห้ ปลากราย(ปลาตอง) ปลาแมลงพู่ ปลาปักเป้า ปลาช่อน ปลาดุก ปลาหมอ ปลาตะเพียน ปลาลิ้นหมา กุ้งก้ามกราม ปลาไหล กุ้งฝอย หอย หอยแมลงภู่ หอยอีรม หอยเบี้ย หอยมือเสือ หอยมุก หอยสังข์ กุ้งแม่น้ำ เพรียง ปลาเนื้ออ่อน ปลากด ปลาเค้า ปลาหลด ตะพาบน้ำ ปลานิล ปลากระแยง ปลาบึก ปลาหมึก ปลาซิว ปลารากกล้วย ปลาบักแปบ หอยโข่ง หอยขม หอยทราย หอยเชอรี่ หอยนา หอยจิบจี้ หอยเล็บม้า หอยเวียน หอยเดื่อ หอยคัน หอยทาก หอยทากกลม ปลาค่อกั้ง ปลาซิวอ้าว ปลาหมู ปลากระทิง ปลาสร้อย ปลาสลิด ปลากัด ปลาหางนกยูง ปลาขาวนา ปลาขาวสร้อย
    ปลาไน ปลายี่สก ปลาจีน ปลาทับทิม ปลาทอง ปลาดุกอุย ปลาดุกรัสเซีย ปลาดุกเอ็น ปลาดูด กุ้งดอย ปลาเพี้ย ปลาไหล ปลากระพง ปลาชะโด ปลาแรด ปลาแขยง ปลาคาร์ฟ ปลาบอลลูน ปลามังกร ปลาทูน่า ปลาซาบะ ปลาโอ ปลาอะโรวานา ปลาหมอ ปลาหมอสี

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านที่ได้มาร่วมกันแผ่เมตตา และขออนุโมทนาบุญกับน้องเปี๊ยก (มานะ คำยัง) ที่ส่งรายชื่อสัตว์ทั้งหลายมาให้พวกเราได้ร่วมกันแผ่เมตตา ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    หลังจากแผ่เมตตาเสร็จ น้องเปี๊ยกได้จับไมค์สนทนาเรื่องที่แจ้งให้ทราบคือ เรื่องการขังบอทในห้องแคมฟรอกเวลาที่เราร่วมกันแผ่เมตตา และการจัดทำหนังสือเพลงธรรรมะของชมรมแผ่เมตตา ซึ่งได้ให้น้องปูเป็นผู้จัดทำ ขออนุโมทนาบุญกับน้องปูด้วยค่ะ หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันไปทำภารกิจตามสมควรค่ะ

    ขอเชิญร่วมแผ่เมตตาที่ห้องแคมฟรอก เวลา 21.00 น. ของทุกวันที่ห้อง DhammaNirvana นะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...