อัศจรรย์พระบรมสารีริกธาตุ ที่ “พิพิธภัณฑ์พุทธธรรมฯ”

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย forest60, 10 พฤษภาคม 2013.

  1. forest60

    forest60 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +4,197
    อัศจรรย์พระบรมสารีริกธาตุ ที่ “พิพิธภัณฑ์พุทธธรรมฯ”
    โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
    ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กันยายน 2554 15:44 น.

    คนไทยเราส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ มีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดา มีพระธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้เป็นหลักคำสอนสำคัญ มีพุทธบริษัทเป็นชุมชนของผู้นับถือศาสนาและศึกษาปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนของพระศาสดา และเพื่อสืบทอดพระธรรมแห่งพุทธศาสนา

    โดยก่อนการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า พระองค์ได้อธิษฐานให้เหลือพระอัฐิไว้หลังจากการถวายพระเพลิงพระสรีระ ณ เมืองกุสินารา ซึ่งพระอัฐิตามส่วนต่างๆของร่างกายเรียกว่า “พระบรมสารีริกธาตุ” ส่วนอัฐิของพระอรหันตสาวกจะเรียกว่า “พระธาตุ”

    ซึ่งในวันนี้ฉันได้มีโอกาสไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ ที่ “พิพิธภัณฑ์พุทธธรรม พระบรมสารีริกธาตุ” (Buddha Dharma Relics Museum) ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ภายในจัดแสดงศิลปวัตถุทางศาสนา พระพุทธรูป เทวรูป และพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอรหันตธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก

    เมื่อมาถึง“พิพิธภัณฑ์ พุทธธรรม พระบรมสารีริกธาตุ” จะต้องถอดรองเท้าไว้ด้านหน้า เมื่อเข้าไปด้านในจะเจอกับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งเราจะต้องแลกบัตรประชาชนเพื่อเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ฟรี เมื่อทำตามขั้นตอนแล้ว ก็เวลาเดินชมภายในพิพิธภัณฑ์

    บนเนื้อที่ทั้งหมด 1,500 ตารางเมตร นั้นจัดแสดงในส่วนของพิพิธภัณฑ์บนชั้นที่ 2 โดยแบ่งส่วนจัดแสดงเป็น 9 ห้องด้วยกัน ซึ่งในแต่ละส่วนก็จะมีเจ้าหน้าที่ค่อยให้เรื่องราว หรือตอบข้อซักถาม และทำพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาในบางจุดอีกด้วย

    เรามาเริ่มกันที่ห้องแรก คือ “ห้องเขมร” ที่จัดให้มีบรรยากาศขรึมขลังคลายปราสาทหิน ผนังทั้งสองข้างเป็นรูปปั้นนูนต่ำรูปนางอัปสร ภายในส่วนนี้มีจัดแสดงแผนที่ของเขมรที่บอกไว้ว่ามีการขุดค้นพบพระบรมสารีริกธาตุที่จุดใดบ้าง และยังมีรูปจำลองการกวนเกษียรสมุทร ห้องนี้ยังแสดงถึงว่าพระพุทธศาสนาได้เดินทางผ่านมาทางเขมรก่อนจะมาถึงประเทศไทย

    ส่วนก่อนที่พระพุทธศาสนาจะเผยแผ่มาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น มีจุดกำเนิดอยู่ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเล่าให้เราฟังในห้องถัดไปคือ “ห้องอินเดีย” ภายในจัดแสดงพุทธศิลปะแบบอินเดีย มีองค์พระตรีมูรติลงทองเป็นองค์ประธานของห้อง นอกจากนี้ยังมีองค์เทพเคารพอีกมากมาย เช่น พระพิฆเนศที่ทำจากลาวาจากประเทศอินโดนิเซีย พระทุรคา พระแม่กาลีเหยียบพระศิวะ พระศิวะ พระขันธกุมารเทพเจ้าแห่งนักรบ พระกฤษณะ พระลักษมี เป็นต้น

    จากนั้นเป็น “ห้องศิลปวัฒนธรรมเอเชีย” จัดแสดงศิลปวัฒนธรรมของเอเชีย ในพุทธศิลปะรูปแบบต่างๆ เช่น เจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้ากวนอู ศิวลึงค์และโยคีที่เป็นหินอ่อนสีขาว นำมาจากอินเดีย ซึ่งในห้องนี้และห้องอินเดียที่ฉันเพิ่งเดินผ่านมานั้นมีพราหมณ์จากอินเดียมาเป็นผู้ทำพิธีทางศาสนาสำหรับผู้ที่สนใจด้วย

    โซนต่อไปเป็น “ห้องบุษบก” ซึ่งตั้งแต่ห้องนี้ไปเป็นโซนพระบรมสารีริกธาตุ ภายในส่วนนี้มีพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนกระดูกหน้าอก พระโลหิต และพระสมอง บรรจุในเจดีย์ทองบนบุษบกจัดแสดงให้เราได้กราบไหว้ขอพร

    จากนั้นไปต่อที่ “ห้องจีน” หรือ “ห้อง 18 อรหันต์” ซึ่งห้องนี้ก็ตกแต่งในสไตล์จีนตามชื่อห้องเช่นกัน ภายในจัดแสดงพระอรหันต์ทั้ง 18 องค์ จากประเทศจีน ที่พระพุทธเจ้าส่งไปเผยแพร่ศาสนา และเท้าจตุโลกบาลทั้ง 4 เจ้าแม่กวนอิม และพระยูไล ซึ่งห้องนี้กล่าวถึงเรื่องราวการเผยแพร่ในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาที่องค์พระศาสดาได้กำหนดพระธรรมคำสอนไว้ในพระไตรปิฎก โดยมีศิษย์ยานุศิษย์หลากหลายกลุ่มที่ยึดมั่นศรัทธาในคำสอนของพระพุทธองค์

    บริเวณส่วนท้ายของห้องจีนจะมีสะพานมงคลให้เราเดินข้ามไป ระหว่างข้ามสะพานด้านข้างจัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้าหลายรูปพรรณสัณฐาน จากนั้นสะพานมงคลพาฉันข้ามไปสู่ “ห้องทิเบต” ซึ่งภายในจำลองคล้ายกับวัดในทิเบต ผนังเจาะเป็นช่องๆแต่ละช่องประดิษฐานพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์กวนอิม

    ภายในห้องทิเบตนี้มีพระโพธิสัตว์กวนอิม ศิลปะแบบทิเบต ทำจากไม้จันทร์ ส่วนพระประธานของห้องนี้คือองค์วัชรคุรุ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่ชาวทิเบตนับถือเสมือนพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังมีองค์ตารา อันเกิดจากน้ำตาของเจ้าแม่กวนอิม และยังมีพระบรมสารีริกธาตุมากกว่า 600 องค์ จัดแสดงให้เราได้เห็นอย่างใกล้ชิด

    ห้องถัดไปคือ “ห้องพระราชวัง” ซึ่งถือเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในพิพิธภัณฑ์ ภายในห้องนี้จะมีการทำพิธีกรรมทางศาสนาสวดมนต์ไหว้พระในทุกวันพระ สิ่งที่จัดแสดงได้แก่ พระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเขี้ยวแก้ว ที่ประดิษฐานอยู่ซุ้ม ยักษ์ 2 ตน ที่เชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา อยู่ระหว่างพระแก้วมรกตทรงชุด 3 ฤดู รอยพระพุทธบาทจำลอง พระพุทธเจ้าปางสุบิน พระธาตุสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต หรหมรังสี วัดระฆัง และหิ้งกษัตริย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

    ติดกันเป็น “ห้องวงมณี” ห้องนี้สำหรับผู้ที่ต้องการให้ประสบความสำเร็จตามสิ่งที่ปรารถนา โดยเดินหมุนวงมณีที่ มีบทสวดภาษาทิเบตอยู่บนเสา 3 รอบ เชื่อว่าจะช่วยในเรื่องของการประสบความสำเร็จ เพื่อให้จิตใจสงบ และมีบุญญานุภาพที่ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไปจากชีวิต

    เดินชมมาจนถึงห้องสุดท้ายคือ “ห้องพระเกศาพระพุทธเจ้า” ภายในส่วนนี้มีการตกแต่งคล้ายพม่า จัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุของพระอรหันตสาวกในส่วนต่างๆและหลากหลายสัณฐานที่รวบรวมไว้มากกว่า 1,000 องค์ อาทิ พระบรมสารีริกธาตุส่วนพระหลอดลม พระอุรังคธาตุ พระเกศาธาตุ และยังมีพระธาตุเสด็จเป็นต้น

    นอกจากนี้ด้านในสุดของห้องยังประดิษฐานพระมหามัยมุนีจำลอง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพม่า ที่เปิดให้ผู้เข้าชมร่วมสักการะด้วยเช่นกัน และภายในห้องนี้ยังบอกเล่าประวัติพระพุทธศาสนาให้เรารู้ซึ้งกันอย่างจุใจ ส่วนด้านนอกอาคารได้ประดิษฐานเทวรูปพระพิฆเนศองค์ใหญ่ให้ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้ขอพร หรืออยากจะทำพิธีก็มีพราหมณ์จากอินเดียทำพิธีให้ได้อีกด้วย

    วันนี้ฉันได้เต็มอิ่มกับการชมและสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุอย่างใกล้ชิดที่ “พิพิธภัณฑ์ พุทธธรรม พระบรมสารีริกธาตุ” แห่งนี้ ซึ่งถือเป็นบุญของชาวพุทธอย่างเราๆยิ่ง และนอกจากการบูชาองค์พระบรมสารีริกธาตุด้วยดอกไม้ธูปเทียนแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะบูชาด้วยการปฏิบัติบูชาอันได้แก่การบูชาด้วยศีล สมาธิ และปัญญา ก็จะยิ่งดีขึ้นๆไปอีก

    “พิพิธภัณฑ์ พุทธธรรม พระบรมสารีริกธาตุ” ตั้งอยู่ภายในบางกอกสแควร์ ถ.พระราม 3 กรุงเทพฯ เปิดให้เข้าชมฟรี(เพียงแสดงบัตรประชาชนหรือใบขับขี่) ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. และโปรดแต่งกายสุภาพ

    [​IMG]

    พระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานบนบุษบก

    [​IMG]

    ห้องพระราชวังประดิษฐานพระแก้วมรกต

    [​IMG]

    พระอุรังคธาตุ

    [​IMG]

    พระบรมสารีริกธาตุจัดแสดง ณ ห้องพระเกศา

    [​IMG]
    ด้านในสุดของห้องพระเกศาประดิษฐานพระมหามัยมุนีจำลอง

    [​IMG]
    องค์พระเขี้ยวแก้วและองค์วัชรคุรุ

    [​IMG]
    พระบรมสารีริกธาตุในห้องทิเบต

    “พิพิธภัณฑ์ พุทธธรรม พระบรมสารีริกธาตุ” ตั้งอยู่ภายในบางกอกสแควร์ ถ.พระราม 3 กรุงเทพฯ เปิดให้เข้าชมฟรี(เพียงแสดงบัตรประชาชนหรือใบขับขี่) ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. และโปรดแต่งกายสุภาพ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2013
  2. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    นี่อีกหนึ่งที่ครับ :

    มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดโครงการ “พุทธชยันตี 2600 ปี พระบรมสารีริกธาตุ 9 ประเทศ สู่แผ่นดินอีสาน มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น” ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหัตธาตุ 80 พระอรหัตธาตุพระอสีติมหาสาวก จาก 9 ประเทศ ประกอบด้วย อินเดีย เนปาล ศรีลังกา จีน พม่า อินโดนีเซีย มาเลเซีย และลาว กว่าหนึ่งพันพระองค์ มาประดิษฐาน ณ อาคารหอประชุมเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จึงขอเชิญ พุทธศาสนิกชน ร่วมสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหัตธาตุ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2555-5 พฤษภาคม 2556 โดยสามารถกราบสักการบูชาได้ทุกวัน โดยเฉพาะวันอาทิตย์และวันพระสามารถกราบสักการบูชาได้ ณ พระแท่นบุษบก เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันรำลึกถึง พระบรมคุณาธิการอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า เนื่องในโอกาสมหาอุดมมงคล 26 พุทธศตวรรษ พุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าโดยทั่วกัน

    http://www.mcukk.com/budh2600.html


    -----------------------------------------------------------------------

    ผมไปกราบสักการะมาเมื่อ 6 พค 56 และได้สอบถามว่าจะเปิดให้กราบไหว้ถึงเมื่อไร คำตอบคือ ยังไม่แน่ จะขยายเวลาออกไปก่อน สมาชิกท่านใดที่อยู่ในพื้นที่ถ้าทราบข้อมูล ว่ายังเปิดให้กราบไหว้สักการะอยู่ ช่วยแจ้งให้ทราบก้อดีนะครับ เผื่อจะมีท่านที่อยู่ใกล้ๆและอยากไปกราบสักการะ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหัตธาตุ บ้าง

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2013
  3. Thammasawasdee

    Thammasawasdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +869
    ขอบคุณมากค่ะที่นำมาแจ้งให้ทราบ

    ธรรมะสวัสดี ^-^

    ขออนุโมทนา สาธุจร้า

    สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...