ปิดรับบริจาค อัพเดทรายงานภาพถวายพระประจำวันทั้ง 10 ปาง ถวายวัดศรีพัฒนาราม จ.ยะลา*หน้า 4**

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างมหากุศล
เป็นเจ้าภาพสร้างถวายพระพุทธเจ้าประจำวันเกิด
ณ วัดศรีพัฒนาราม 70 หมู่ 1 ต.ตาแซะ อ.เมือง จ.ยะลา


เนื่องด้วยทางวัดศรีพัฒนาราม ต.ตาแซะ อ.เมือง จ.ยะลา มีดำริจะจัดสร้างพระพุทธเจ้าประจำวันเกิด ทั้ง 7 วัน หน้าตัก 9 นิ้ว 9 ปาง
ตามวันในสัปดาห์ คือ วันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และเสาร์ และเพิ่มปางวันพุธกลางคืน กับ พระเกตุ
รวมทั้งหมด 9 องค์ ๆ ละ 3,000 บาท เพื่อให้ชาวบ้านที่ศรัทธาในศาสนาพุทธได้เคารพกราบไหว้
แต่ยังขาดเจ้าภาพถวายไว้เป็นศาสนสมบัติทางพระพุทธศาสนาเพื่อสืบทอดอายุพระศาสนาตลอดไป

จึงขอเชิญท่านสาธุชนทั้งผู้เป็นเนื้อนาบุญทั้งหลาย ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างถวายพระพุทธเจ้าประจำวันเกิดแต่ละวันของตนเอง
เพื่อค้ำชูดวงชะตาราศี หนุนดวงชีวิต ที่ได้เกิดมาครั้งหนึ่งได้พบพระพุทธศาสนา เป็นสะพานบุญในภายภาคหน้า จักอยู่เย็นเป็นสุข
ไม่มีคำว่าเจ็บ จน เกิดในตระกูลอริยทรัพย์ มีสติปัญญาเฉียบแหลม

สามารถรับเป็นเจ้าภาพพระองค์ละ 3,000 บาท หรือ ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาในแต่ละวัน

fb: บุญทาน มาบอก [/COLOR][/B][/SIZE]

 

สร้างถวายพระพุทธเจ้าประจำวันเกิด

1.)วันอาทิตย์ ปางถวายเนตร
2.)วันจันทร์ ปางห้ามญาติ
3.)วันอังคาร ปางไสยาส์น
4.) วันพุธ ปางอุ้มบาตร
5.)วันพุธกลางคืน ปางป่าเลไลย์
6.) วันพฤหัสบดี ปางสมาธิ
7.)วันศุกร์ ปางรำพึง
8.)วันศุกร์ พระเกตุ ปางสะดุ้งมารหรือปางชนะมาร
9.)วันเสาร์ ปางนาคปรก

ท้ายนี้ขออำนาจบุญบารมีของข้าพเจ้าจงช่วยดลบันดาลให้ทุกๆท่านจงมีแต่ความสุข ความเจริญ
ด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ด้วยเทอญ

วันอาทิตย์ ปางถวายเนตร
ลักษณะพระพุทธรูป
พระ พุทธรูปปางนี้อยู่ในพระอิริยาบถยืน ลืมพระเนตรทั้งสองข้างเพ่งไปข้างหน้าทอดพระเนตรต้นศรีโพธิ์พฤกษ์
พระหัตถ์ทั้งสองลงมาประสานกันอยู่ข้าง หน้าระหว่างพระเพลา พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย อยู่ในอาการสังวร.
ประวัติย่อ
ประวัติย่อ … (อาทิตย์)
เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้ว จึงประทับยับยั้งเสวยวิมุตติสุข อยู่ใต้ร่มโพธิ์เป็นเวลา 7 วัน
จากนั้นจึงเสด็จออกไปจากภายใต้ร่มโพธิ์ไปประทับยืนอยู่ทางทิศตะวัน ออกเฉียงเหนือ (อีสาน)
ทอดพระเนตรพระศรีมหาโพธิ์ โดยไม่กระพริบพระเนตรเป็นเวลา 7 วัน เพื่อรำลึกถึงคุณประโยชน์ของต้นมหาโพธิ์
ที่แผ่ กิ่งก้านประทานร่มเงา ให้ความชุ่มเย็น เป็นการอำนวยช่วยพระองค์จนได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า


คาถาสวดบูชา
อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง เย พราหะมะณา เวทะคุ
สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม
วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสนา ฯ

 

วันจันทร์พระปางห้ามญาติ
ลักษณะพระพุทธรูป

พระพุทธรูปปางนี้อยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองข้างยกขึ้นเสมอพระอุระ ตั้งฝ่าพระหัตถ์ ยื่นออกไปข้างหน้า
เป็นกิริยาทรงห้าม เป็นแบบทรงเครื่องก็มี
ประวัติย่อ...(จันทร์)
ครั้งหนึ่ง ได้เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ขึ้นในเมืองไพศาลี มีประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมาก กษัตริย์ลิจฉวี
เจ้าผู้ครองเมืองจึงได้กราบบังคมทูลอาราธนาพระพุทธองค์ ให้เสด็จมาโปรดชาวเมือง
พระพุทธองค์ทรงรับสั่งให้พระอานนท์ เจริญรัตนสูตรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์รอบพระนคร
จนต่อมาภายหลังโรคร้ายก็หายสิ้นจากพระนครด้วยพุทธานุภาพ

คาถาสวดบูชา
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห
ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห
ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห
ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสเมนตุ ฯ

 

วันอังคารพระปางไสยาสน์
ลักษณะพระพุทธรูป

พระ พุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถบรรทมตะแคงขวา เมื่อคราวจะปรินิพพานหลับพระเนตรพระเศียรหนุนพระเขนย
พระหัตถ์ซ้ายทอดทายไปตามพระวรกายเบื้องซ้าย พระหัตถ์ขวาหงายวางอยู่ที่พื้นข้างพระวรกาย
พระบาทซ้าย ทับพระบาทขวาลักษณะตั้งซ้อนกัน
ประวัติย่อ...(อังคาร)
สมัยหนึ่ง เมื่อพระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ วัดเชตวัน ในพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นอสุรินทราหูจอมอสูร
ซึ่งสำคัญว่ามีร่างโตใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า จึงไม่ยอมแสดงความอ่อนน้อม พระพุทธองค์ทรงประสงค์จะลดทิฐิ
ของจอมอสูร จึงทรงเนรมิตกายให้ใหญ่โตกว่าจอมอสูร จอมอสูรจึงละทิฐิยอมอ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์

คาถาสวดบูชา
ยัสสานุภาวะโต ยักขา เนวะ ทัสเสนติ ภิงสะนัง ยัมหิ เจวานุยุญชันโต รัตตินทิวะมะตันทิโต สุขัง
สุปะติ สุตโต จะ ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติ เอวะมาทิคุณูเปตัง ปะริตตันตัมภะณามะ เส ฯ

 

วันพุธกลางวันพระปางอุ้มบาตร
ลักษณะพระพุทธรูป

พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถยืน ส้นพระบาททั้งสองชิดติดกัน พระหัตถ์ทั้งสองข้างชิดกัน พระหัตถ์ทั้งสองยกประคองบาตรราวสะเอว มีบาตรอยู่ฝ่าพระหัตถ์ในท่าประคอง

ประวัติย่อ...(พุธกลางวัน)
ครั้งหนึ่ง หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมเวสสันดรชาดก
โปรดพระพุทธบิดาและหมู่พระญาติทั้งหลายบรรดาพระประยูรญาติ
ต่างมีความแช่มชื่นโสมนัสจนลืมกราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์
ให้มารับภัตตาหารเช้าในพระราชวัง ดังนั้น ในวันรุ่งขึ้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงเสด็จออกรับบิณฑบาตจากประชาชนทั่วไปในกรุงกบิลพัสดิ์

คาถาสวดบูชา
สัพพาสีวะชาตีนัง ทิพพะมันตาทะคัง วิยะ ยันนาเสติ วิสังโฆรัง
เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง
อาณักเขตตัมหิ สัพพัตถะ สัพพะทา สัพพะปาณิณัง
สัพพะโสปิ นิวาเรติ ปะริตตันตัมภะณามะเส ฯ

 

วันพุธกลางคืนพระปางป่าเลไลย์
ลักษณะพระพุทธรูป
พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถประทับนั่งบนก้อนศิลา ห้อยพระบาททั้งสองข้างลง
ทอดพระบาทเล็กน้อย พระหัตถ์ซ้ายคว่ำวางบนพระชานุซ้าย พระหัตถ์ขวาหงายวางบนพระชานุขวาเป็นกิริยาทรงรับ
มีช้างหมอบถือน้ำยื่นถวาย และมีลิงหมอบถือรวงผึ้งถวายอยู่ข้างหน้า

ประวัติย่อ...(พุธกลางคืน)
ครั้งหนึ่ง พระภิกษุในวัดโฆสิตาราม เมืองโกสัมพีทะเลาะกันด้วยเรื่องพระวินัย
พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้สามัคคีกันเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเชื่อเพราะต่างฝ่าย
ต่างยึดถือในความคิดของตนเป็นใหญ่ พระพุทธองค์ทรงเสด็จหนีไปจำพรรษา
อยู่ในป่ารักขิตวันแถบหมู่บ้านปาลิเลยยกะ ณ ที่นั่นมีช้างชื่อปาลิเลยยะและลิงตัวหนึ่ง
คอยอุปัฏฐากอยู่

คาถาสวดบูชา
สัพพาสีวะชาตีนัง ทิพพะมันตาทะคัง วิยะ ยันนาเสติ วิสังโฆรัง
เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง
อาณักเขตตัมหิ สัพพัตถะ สัพพะทา สัพพะปาณิณัง สัพพะโสปิ
นิวาเรติ ปะริตตันตัมภะณามะเส ฯ

 

วันพฤหัสบดีพระปางสมาธิ
ลักษณะพระพุทธรูป

พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ทั้งสองหงาย
วางซ้อนกันบนพระเพลา คือพระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย พระชงฆ์ขาวทับพระชงฆ์
ซ้าย


ประวัติย่อ...(พฤหัสบดี)
ภายหลังจากที่พระมหาบุรุษได้กำราบพรยามารลงได้แล้ว พระองค์จึงได้ตั้งพระทัย
เจริญสมาธิจนได้ญาณขั้นต่างๆและในที่สุดก็ได้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเวลาเช้าตรู่ของวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖
(วันวิสาขบูชา)

คาถาสวดบูชา
ปูเรนตัมโพธิสัมภาเร นิพพัตตัง โมระโยนิยัง เยนะ สังวิหิตารักขัง
มหาสัตตัง วเนจรา จิรัสสัง วายะมันตาปิ เนวะ สักขิงสุ คัณหิตุง ฯ

 

วันศุกร์พระปางรำพึง
ลักษณะพระพุทธรูป

พระ พุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสาน
ยกขึ้นประทับที่พระอุระ พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย พระบาททั้งสองประทับ
ยืนชิดติดกัน

ประวัติย่อ...(ศุกร์)
ภายหลังจากที่ตรัสรู้ได้ไม่นาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งประทับอยู่ภายใต้ต้นไทร
(อชปาลนโครธ) ก็ได้ทรงรำพึงถึงธรรมที่ได้ตรัสรู้นั้นว่าเป็นธรรมที่ละเอียดลึกซึ้ง
ยากแก่การเข้าใจจึงทรงรู้สึกอ่อนพระทัยในการที่จะนำออกแสดงโปรดสัตว์
แต่เพราะพระมหากรุณาคุณของพระองค์ ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าสรรพสัตว์มีภูมิต่างกัน
จึงทรงพระดำริที่จะแสดงธรรมตามภูมิชั้นแห่งปัญญาสรรพสัตว์นั้นๆ

คาถาสวดบูชา
อัปปะสันเนหิ นาถัสสะ สาสะเน สาธุ สัมมะเต อะมะนุสเนหิ
จัณเฑหิ สะทา กิพพิ
สะการิภิ ปะริสานัญจะ ตัสสันนัง มะหิงสายะ จะ คุตติยา
ยันเทเสหิ มะหาวีโร ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ

 

วันเสาร์พระปางนาคปรก
ลักษณะพระพุทธรูป
พระพุทธรูปปางนี้อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิราบทรงหงายพระหัตถ์ทั้งสองแบวาง ซ้อนกัน
บนพระเพลาพระหัตถ์ขวาซ้อนทับพระหัตถ์ซ้าย มีพญานาคแผ่พังพานปกคลุมเบื้องพระเศียร

ประวัติย่อ...(เสาร์)
ครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับเสวยวิมุตติสุขอยู่ใต้ต้นจิก (มุจจลินท์)
บังเอิญในช่วงนั้นมีฝนตกพรำๆ ตลอด ๗ วัน พระยานาคมุจลินท์ได้เลื้อยมา
ทำขนดล้อม พระวรกายของพระพุทธองค์ ๗ ชั้นแล้วแผ่พังพานปกไว้ในเบื้องบน
เหมือนกั้นฉัตร ด้วยประสงค์จะกำบังลมฝนมิให้ต้องพระวรกาย

คาถาสวดบูชา
ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ
ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตน สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ คัพภัสสะ ฯ

 

พระเกตุเสวยอายุ
"ปางสมาธิเพชร"
พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิไขว้พระชงฆ์ (แข้ง) หงายฝ่าพระบาททั้งสองข้าง พระหัตถ์วางซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนทับพระหัตถ์ซ้าย
ประวัติย่อ...
หลังจากที่พระมหาบุรุษรับหญ้าคาจากนายโสตถิยะแล้ว ทรงปูลาดที่โคนต้นโพธิ์แล้วประทับนั่งพร้อมอธิฐานความเพียรครั้งสำคัญว่า "หากไม่ตรัสรู้ก็ไม่ลุกจากที่นี่ ไม่ว่าเลือดและเนื้อในกายจะเหี่ยวแห้งจนถึงสิ้นชีวิตก็ตาม" ด้วยพระทัยที่แน่วแน่และมั่นคงพระองค์จึงชนะอุปสรรค และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในเวลาต่อมา
บทสวดมนต์บูชาเมื่อพระเกตุเสวยอายุ..
ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน
เอวัง ตวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร
อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ
สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง
สุกขะโณ สุมุตหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ
ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง
ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา
ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ

 

อานิสงส์การสร้างพระ

คติความเชื่อของพุทธศาสนิกชนเชื่อว่าอานิสงส์สร้างพระได้ชื่อว่าเจริญกรรมฐานข้อพุทธานุสติ
และเป็นการบูชาพระรัตนตรัยสร้างบุญกุศลที่มั่นคงถาวรชั่วนิจนิรันดร์กาลทั้งแก่ตนและแก่บุคคล
ผู้ร่วมอนุโมทนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แผ่ไพศาลไปได้ไกลได้ร่วมกิจกรรมอันจักนำประโยชน์สุขสู่ตน
และสู่สังคมฯลฯนอกจากนี้พระสงฆ์ทั้งในอดีตและปัจจุบันแสดงธรรมเทศน์เกี่ยวกับกับอานิสงส์สร้างพระเช่น
1. หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญวัดสะแกจ.พระนครศรีอยุธยาแสดงธรรมไว้ว่าสร้างพระ๑องค์ได้อานิสงส์๕กัป
ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่สร้างด้วยอะไรก็ตามหมายความว่าบุญกุศลจะตามหนุนส่งท่านไปทุกภพทุกชาตินานถึง5กัปป์

2. หลวงพ่อพระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง จ.อุทัยธานีกล่าวว่า
"การสร้างสมเด็จองค์ปฐมทำได้ยากคือว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด
การสร้างองค์ปฐมนี้ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่โดยใช้บัญชีสีทองเป็นทองคำล้วนทั้งเล่มจดบันทึก
(เป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่จดธรรมดา)ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี้
ต้องเป็นคนมีบุญมากและไปนิพพานได้เร็วมาก"

3.หลวงพ่อขอมวัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี เคยแสดงธรรมไว้ว่าผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้าจะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี
ใหญ่กว่าต้นคาก็ดีผู้นั้นจะได้เป็นพรหมเป็นอินทร์หมื่นชาติแสนชาติถ้าเป็นมนุษย์จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติแสนชาติ
จะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลยตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน

4. พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์หรือครูบาชัยยะวงศาพัฒนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้มจ.ลำพูนเคยแสดงธรรมไว้ว่า
การสร้างพระเปรียบได้กับธนาคารบุญซึ่งจะเกิดบุญกุศลกับผู้ที่มีส่วนในการสร้างโดยบุญกุศลนั้นจะเกิดขึ้นทุกครั้ง
ที่มีผู้มากราบไหว้สักการบูชาเท่ากับจำนวนคนและจำนวนครั้ง

5. พระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เคยแสดงธรรมไว้ว่า
การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปเกิดศรัทธาจนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปได้และออกมาทำทาน
ในงานฉลองพระพุทธรูปได้ชื่อว่าเป็นผู้มี "ความเห็นตรงเห็นถูกแท้" เพราะเป็นบุญของตนเองไม่ใช่บุญของใครเลย
ผู้สร้างพระพุทธรูปชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาทชื่อว่าเป็นผู้เตรียมตัวก่อนตาย

 

ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ร่วมบริจาค 40 บาท ขออนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ภาพล่าสุด การสร้างศาลาวิปัสสนากรรมฐาน ณ วัดศรีพัฒนาราม 70 หมู่ 1 ต.ตาแซะ อ.เมือง จ.ยะลา
วันพระ ขึ้น๘ค่ำเดือน๙ เวลา๐๙:๓๗ น.

 

รายนามผู้ร่วมบุญพระประจำวันเกิด
1. ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ร่วมบริจาค 40 บาท
2. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 5 บาท
3. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 18 บาท
4. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 59 บาท

 

ประเพณีชักพระของภาคใต้
เรือพระปีทีแล้ว เคลื่อนย้ายเตรียมทำใหม่เพื่อใช้ในวันหลังออกพรรษา๑วัน
ให้ประชาชนได้ชักหรือรากเรือพระโดยบนยอดเรือจะประดิษฐานพระพุทธรูป
ไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ในระหว่างการชักเรือพระตามถนนหนทาง

 

รายนามผู้ร่วมบุญพระประจำวันเกิด
1. ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ร่วมบริจาค 40 บาท
2. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 5 บาท
3. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 18 บาท
4. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม 59 บาท


อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุ ขอให้อานิสงค์ผลบุญในครั้งนี้ จงเป็นผลสำเร็จ
ตามที่ตั้งจิตอธิฐาน ปราถนา จงทุกประการเทอญ

 

ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพสร้างถวายพระประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน หน้าตัก 9 นิ้ว 9 ปาง ตามวันในสัปดาห์ คือ วันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และเสาร์ และเพิ่มปางวันพุธกลางคืน กับ พระเกตุ รวมทั้งหมด 9 องค์ ณ วัดศรีพัฒนาราม อ.เมือง จ.ยะลา จำนวน 40 บาท

เวลาที่สั่งทำรายการ : 04/08/2014 17:23
วันที่ทำการโอนเงิน : 4/8/2014
หมายเลขอ้างอิง : 2718227756201484
บัญชีที่โอน : KTB
บัญชีผู้รับโอน : น.ส.จิดาภา พงษ์ปลัด A/C No. : 1440XXXXX1
จำนวนเงินที่โอน : THB 40.00
ค่าธรรมเนียม : THB 0.00

 

Lek2010และเพื่อนๆร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพสร้างถวายพระประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน หน้าตัก 9 นิ้ว 9 ปาง ตามวันในสัปดาห์ คือ วันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และเสาร์ และเพิ่มปางวันพุธกลางคืน กับ พระเกตุ รวมทั้งหมด 9 องค์ ณ วัดศรีพัฒนาราม อ.เมือง จ.ยะลา

จำนวน 49 บาท

ผลการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลอื่น : รายการโอนเงินของท่านสำเร็จแล้ว
สถานะการโอน สำเร็จ
วัน/เวลาการทำรายการ 05-08-2014 01:19:04
เลขที่อ้างอิงการทำรายการ 2718725218201485
บัญชีผู้โอน
บัญชีผู้รับโอน 144-0-35604-1
จำนวนเงิน 49.00 บาท

ประเภทการโอนเงิน ทันที

 

ขออนุโมทนาสาธุกับน้อง Aki_p ด้วยนะคะ