อะไรคือความหมายหลังกึ่งพุทธกาลคะ

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 19 มิถุนายน 2013.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ได้ยินคนเขาว่าหลังกึ่งพุทธกาล จะหาผู้สำเร็จธรรมย่างเข้าประตูนิพพาน ยาก
    อยากสมัยพวกเรานี้ไปยังกึ่งพุทธกาลมันกี่ปีคะ
     
  2. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    วัฏฏะหาต้นและปลายไม่ได้ จะหาตรงกลางได้จากที่ไหน พระพุทธศาสนาเกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย
    มีมากว่า ๒,๕๐๐ ปีแล้ว นั้นสันนิฐานได้ว่าเป็นช่วงต้น การจะหากึ่งพุทธกาลก็ต้องรู้ช่วงปลาย
    แต่พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสว่าศาสนาของพระองค์จะอยู่ได้กีปี ที่บอกว่า ๕,๐๐๐ ปีนั้นเป็นคำคิดกันขึ้นมา
    เมื่อคิดกันขึ้นมาเอง ก็ไม่เป็นคำจริง แต่ก็วิเคาะห์กันตามทิฐิของตน จนลืมไปว่าพระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุที่เป็นอดีตและอนาคต เป็นทุกข์ จะกล่าว ไปไยถึงจักษุที่เป็นปัจจุบันเล่า
    อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ มีเยื่อใยในจักษุที่เป็นอดีตไม่เพลิดเพลินจักษุที่เป็นอนาคต
    ย่อมปฏิบัติเพื่อหน่ายเพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับซึ่งจักษุที่เป็นปัจจุบัน หู จมูก ลิ้น กาย ใจที่เป็น อดีตและอนาคต เป็นทุกข์
    จะกล่าวไปไยถึงใจที่เป็นปัจจุบันเล่า อริยสาวกผู้ได้ สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่มีเยื่อใยในใจที่เป็นอดีต
    ไม่เพลิดเพลินใจที่ เป็นอนาคต ย่อมปฏิบัติเพื่อเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับซึ่งใจที่เป็นปัจจุบัน ฯ"

    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ข้อที่ ๗ - ๘
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    อย่าได้ไปตามสนใจเลยครับว่ากึ่งพุทธกาลจะบรรลุธรรมยากหรือไม่อย่างไร เรามาศึกษาเรื่องราวในคืนปรินิพพานของพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงตอบคำถามของท่านสุภัททะ กันดีกว่า....
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    โลกไม่ว่างจากพระอรหันต์

    [​IMG]

    ใครคืออริยสาวกองค์สุดท้าย ทรงตรัสถึงหลักการสำคัญอะไรที่ทำให้โลกนี้ไม่ว่างเว้นจากพระอรหันต์

    สมัยนั้น ปริพาชกผู้หนึ่ง ชื่อว่า สุภัททะ ชาวเมืองกุสินารา สุภัททปริพาชกนั้นได้ยินข่าวว่า พระสมณโคดมจักปรินิพพานในที่สุดแห่งราตรีนี้แล้ว จึงคิดว่า

    “ความสงสัยของเรามีอยู่ ควรจะรีบออกไปเฝ้าทูลถามให้พระองค์ตรัสบอกบรรเทาความในใจของเรานั้นเสีย”

    แล้วสุภัททปริพาชก ก็ออกจากเมืองกุสินารา เข้าไปพบพระอานนท์ยังอุทยานสาลาวัน เพื่อขอโอกาสได้เข้าเฝ้า

    พระอานนท์เถรเจ้าได้ทัดทานว่า

    “อย่าเลย สุภัททะ ท่านอย่าเบียดเบียนพระตถาคตเจ้าเลย ขณะนี้พระตถาคตเจ้าก็ทรงลำบากพระกายหนักอยู่แล้ว”

    แม้สุภัททปริพาชกจะได้วิงวอนแล้วๆ เล่าๆ อยู่ถึง ๒ ครั้ง ๓ ครั้ง พระอานนท์เถรเจ้าก็ไม่ยอมให้เข้าเฝ้า

    ขณะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้สดับเสียงพระอานนท์และสุภัททปริพาชกเจรจากันอยู่ จึงตรัสเรียกพระอานนท์ว่า

    “อานนท์ อย่าห้ามสุภัททะเลย ให้สุภัททะได้เห็นตถาคตเถิด แม้สุภัททะจะถามปัญหาอันใดกับตถาคต ก็จะไม่เบียดเบียนตถาคตให้ลำบาก สุภัททะจักตรัสรู้ทั่วถึงธรรมในปัญหาทั้งปวงที่ตถาคตได้พยากรณ์แล้ว”

    ลำดับนั้น พระอานนท์จึงบอกปริพาชกว่า

    “สุภัททะ บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระกรุณาประทานโอกาสให้แก่ท่านแล้ว ท่านจงเข้าไปเฝ้าเถิด”

    [​IMG]

    สุภัททปริพาชกมีความเบิกบานใจ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถวายบังคมแล้ว ได้ทูลถามถึงครูทั้ง ๖ ซึ่งเป็นเจ้าลัทธิ มีปูรณกัสสป เป็นต้น ปฏิญญาว่าเป็นผู้วิเศษ ได้ตรัสรู้ยิ่งด้วยปัญญานั้น สมจริงดังคำปฏิญญาหรือไม่ ?

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    “อย่าเลย สุภัททะ เราจักแสดงธรรมแก่ท่าน ท่านจงตั้งใจฟัง แล้วทำไว้ในใจให้สำเร็จประโยชน์เถิด”

    แล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสอริยมรรค ๘ ประการ ว่าเป็นมรรคาประเสริฐมีอยู่ในธรรมวินัยใดแล้ว สมณะ คือ ท่านผู้สงบระงับดับกิเลสได้จริง ย่อมมีอยู่ในธรรมวินัยนั้น อนึ่ง อริยมรรคทั้ง ๘ นั้น ก็มีอยู่เฉพาะในธรรมวินัยนี้เท่านั้น แม้สมณะดังกล่าวแล้ว ก็มีอยู่แต่ในธรรมวินัยนี้แห่งเดียว

    “สุภัททะ หากภิกษุทั้งหลายจะพึงปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ในธรรมนี้แล้วไซร้ โลกนี้จักไม่พึงว่างเปล่าจากพระอรหันต์”

    เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสแสดงธรรมนี้ สุภัททปริพาชกมีความเชื่อเลื่อมใส ทูลสรรเสริญพระธรรมเทศนา พร้อมกับขอปฏิญญาตนเป็นอุบาสก และทูลขอบรรพชาอุปสมบทในสำนักพระผู้มีพระภาค

    ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสให้พระอานนท์รับธุระจัดให้สุภัททะอุบาสก บรรพชาอุปสมบทตามความปรารถนา เมื่อพระสุภัททะได้อุปสมบทแล้ว หลีกออกไปบำเพ็ญสมณธรรม ก็ได้บรรลุพระอรหัตผลในราตรีวันนั้น ได้เป็นพระอรหันต์ปัจฉิมสาวกของพระผู้มีพระภาค ทันพระชนม์ชีพของพระบรมศาสดา


    คัดมาจาก พุทธประวัติทัศนศึกษา โดย พระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารี)


    ใครคืออริยสาวกองค์สุดท้าย ทรงตรัสถึงหลักการสำคัญอะไรที่ทำให้โลกนี้ไม่ว่างเว้นจากพระอรหันต์-วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2013
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    "พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า อย่าเลย สุภัททะ ที่ข้อถามนั้นงดเสียเถิด
    ดูกรสุภัททะ เราจักแสดงธรรมแก่ท่าน ท่านจงตั้งใจฟังธรรมนั้น จงใส่ใจให้ดี
    เราจักกล่าว สุภัททปริพาชกทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มี-
    พระภาคได้ตรัสว่า ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยใด ไม่มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘
    ในธรรมวินัยนั้น ไม่มีสมณะที่ ๑ สมณะที่ ๒ สมณะที่ ๓ หรือสมณะที่ ๔
    ในธรรมวินัยใด มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ในธรรมวินัยนั้น มีสมณะที่ ๑
    ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔ ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยนี้ มีอริยมรรคประกอบด้วย
    องค์ ๘ ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔ ลัทธิอื่นๆ
    ว่างจากสมณะผู้รู้ทั่วถึง ก็ภิกษุเหล่านี้พึงอยู่โดยชอบ โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย ฯ"


    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒
    ทีฆนิกาย มหาวรรค

    http://www.84000.org/tipitaka/read/?10/138-140
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2013
  6. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ห๊ะ! จิงดิ ไปฟังใครเขามาครับ
    ท่านๆ ทั้งหลายข้างบนให้คำตอบมาแล้ว ยังมีกันครบ ทั้งไตรสรณาคมม์ ทั้งพระอริยะเจ้าทุกระดับ ยังไม่ลดมีแต่เพิ่มด้วยซิ เห็นใน Facebook ยังชื่นใจว่าเด็กสมัยนี้ จำนวนมากกว่าสมัยเราเด็กๆเสียอีก รู้เรื่องนิพพานกันแล้ว ปฏิบัติกันได้เยอะกว่าด้วย ตรงทางด้วย สมดังคำอาจารย์ว่า "จากนี้ไปเป็นช่วง ขาขึ้นของพุทธศาสนา"

    "เห็นทุกข์ อย่าทำใจให้เศร้า ก็เรามันโง่เอง ดันเสือกเกิดมารับทุกข์ ก็เลิกเกิดมันเสีย มันก็จะไม่ทุกข์"
     

แชร์หน้านี้

Loading...