อนาคตังสญาณของหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ชนะ สิริไพโรจน์, 23 มิถุนายน 2014.

  1. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    อนาคตังสญาณของหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
    โดย พล.อ.ต.มนูญ ชมภูทีป

    เมื่อประมาณปี พ.ศ.2512 ในวันหนึ่งหลังจากที่หลวงพ่อ
    ฉันอาหารเพลในแพริมแม่น้ำของวัดท่าซุงเสร็จ ก็ชวน
    ข้าพเจ้าและผู้ติดตามเคลื่อนย้ายจากแพไปกุฏิ ระหว่าง...
    ทางหลวงพ่อได้หยุดยืนใต้ร่มไทรต้นหนึ่งริมแม่น้ำ
    แล้วพูดบอกข้าพเจ้าว่า

    “ณ ที่แห่งนี้บริเวณนี้ต่อไปในอนาคตอันใกล้จะมีลูกหลาน
    และญาติสนิทมิตรสหายของฉันในอดีต จะกี่ภพกี่ชาติ
    มาแล้วก็ตามที่มาเกิดทันฉันในชาติปัจจุบัน จะพากันมา
    ชุมนุม ณ ที่แห่งนี้เป็นหมื่นๆ แสนๆ คน”

    ข้าพเจ้าในขณะนั้น ได้ฟังหลวงพ่อพูดแล้วก็ให้นึกสงสาร
    หลวงพ่อสุดหัวใจและรำพึงอยู่ในใจว่า “โถ! จะมีใครมา
    เป็นหมื่นเป็นแสนคน ทุกวันนี้ก็ดูเหมือนจะมีแต่ผู้คนในชุด
    ของข้าพเจ้าเท่านั้นเอง”
    และข้าพเจ้าก็เชื่ออย่างเหลือเกินว่า หากผู้ใดเป็นข้าพเจ้า
    ในขณะนั้นก็คงต้องคิดเช่นเดียวกับข้าพเจ้า เพราะรอบกาย
    ที่ยืนอยู่ไม่ว่าจะเหลียวไปทางด้านใด ก็เห็นแต่ความรกร้าง
    ว่างเปล่า และสิ่งปรักหักพังทั้งสิ้น

    ถาวรวัตถุอันเป็นหลักของวัด อาทิเช่นโบสถ์,วิหารก็ชำรุด
    ทรุดโทรมไปหมดไม่มีแม้แต่หลังคา,ศาลา 1 หลังก็ตั้งอยู่
    บนเสาที่โย้เย้มีสภาพเอียงกระเท่เร่พร้อมที่จะล้มพังเมื่อไร
    ก็ได้ ส่วนหอไตรเล็กๆ อีก 1 หลัง ก็มีแต่โครงส่วนเมรุโบราณ
    ที่เผาศพด้วยฟืนนั่น ก็มีแต่คราบตระไคร่น้ำจับดำไปหมด
    คงมีแต่กุฏิเจ้าอาวาสเก่าๆ 1 หลัง กุฏิเล็กๆของหลวงพ่อ
    อีก 1 หลังและแพริมฝั่งแม่น้ำเท่านั้นที่พอใช้การได้บ้าง

    ทั้งหมดที่กล่าวนี้ก็คือวัดท่าซุงในขณะนั้นจริงๆ ส่วนฝั่งวัด
    ตรงข้ามถนนที่เป็นโบสถ์ใหม่ หรือศาลานวราชก็ดี,ศาลา
    2 ไร่ 4 ไร่ หรืออาคารอื่นใดก็ดีหามีไม่คงมีแต่ป่าไผ่ดงดิบ
    ตลอดแนว สรุปความว่าวัดท่าซุงในตอนที่หลวงพ่อพูด
    กับข้าพเจ้านั้น อยู่ในสภาพของวัดร้างจริงๆ

    หลวงพ่อเห็นอาการอันเงียบสงบและแววตาของข้าพเจ้า
    ก็คงจะทราบว่าในใจข้าพเจ้านึกคิดอย่างไร ท่านก็ได้เมตตา
    พูดต่อไปว่า

    “ฉันนั้นได้เคยปรารถนาพุทธภูมิไว้ แต่หากดำรงเจตนาเดิม
    ก็จะต้องมาเกิดอีก 7 ชาติ จึงจะได้พบและอุปการะลูกหลาน,
    ญาติมิตรที่เคยเกี่ยวข้องผูกพันกับฉันมาแต่ในอดีตชาติ
    ได้ทั้งหมด ซึ่งนับเป็นภาระที่หนักมาก และฉันก็เบื่อหน่าย
    โลกมนุษย์นี้เต็มทน จึงได้ลาพุทธภูมิและได้เอาชาตินี้
    เป็นชาติสุดท้ายของฉัน

    ดังนั้นภาระในชาตินี้ของฉันจึงมีมากเพราะจะต้องอยู่ช่วย
    ลูกหลาน ญาติมิตร ที่เคยเกิดร่วมภพร่วมชาติกับฉันมา
    ในอดีตชาติ และมาเกิดทันฉันในชาตินี้ทั้งหมด ให้พ้น
    จากอบายภูมิด้วย หากผู้ใดมีบุญบารมีก็จะไปถึงพระนิพพาน
    หากผู้ใดบุญบารมียังน้อยก็จะพยายามให้สร้างบุญกุศลเพื่อ
    ไปพักในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ไว้ก่อนเมื่อพระศรีอาริย์มาตรัสรู้
    ก็จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์ในสมัยของพระศรีอาริย์พอดี
    ด้วยวิธีนี้จะช่วยให้เขาเหล่านั้นพ้นจากอบายภูมิไปได้

    แต่กุศลผลบุญหลักที่จะช่วยให้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก็คือ
    การถวายสังฆทานและการสร้างวิหารทานนั่นเอง ดังนั้น
    ต่อไปในอนาคตที่นี่จะมีการก่อสร้างวิหารทานมาก
    บริเวณวัดท่าซุงในขณะนี้จะไม่พอ จะต้องขยายวัด
    ไปทางดงไผ่ฝั่งตรงข้ามวัดท่าซุงด้วย”

    ในขณะนั้น แม้หลวงพ่อจะได้เมตตาบอกข้าพเจ้า
    โดยละเอียดแล้ว เช่นไรก็ตาม ข้าพเจ้าหาได้เข้าใจไม่
    ด้วยไร้ปัญญา คงคิดอยู่แต่ในใจว่าคนจะมาเป็นหมื่น
    เป็นแสนคนได้อย่างไร? และการก่อสร้างที่จะต้องขยาย
    ไปถึงดงไผ่ฝั่งตรงข้ามยิงไม่น่าจะเป็นไปได้ใหญ่
    เพราะเอาแต่บูรณะโบสถ์,วิหาร,ศาลา,หอไตร และกุฏิเดิม
    ในวัดเก่า ที่มีอยู่ก็ใช้เงินมากมหาศาลอยู่แล้ว จะทำได้อย่างไร

    “แต่ท่านผู้อ่านทั้งหลายในปัจจุบันนี้ที่วัดท่าซุงก็เป็นไปตาม
    ที่หลวงพ่อบอกข้าพเจ้าไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2512
    แล้วทุกประการ ในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร และพิธีตางๆ
    ผู้คนก็พากันไปเป็นหมื่นเป็นแสนจริงๆ และการก่อสร้าง
    วิหารทานก็ได้กระทำกันเกินกว่าที่ข้าพเจ้าวาดภาพ
    เอาไว้เสียอีก และดูเหมือนจะไม่มีการจบสิ้นด้วย

    ดังนั้น หากข้าพเจ้าจะคิดวาหลวงพ่อระลึกชาติ
    ในกาลก่อนได้(ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ)รู้ที่มา
    ของคนและสัตว์ที่มาเกิดว่ามาจากที่ใด
    (จุตูปปาตญาณ)และรู้เหตุการณ์ต่อไปในอนาคต
    ของคน,สัตว์,สิ่งของ และสถานที่ได้(อนาคตังสญาณ)
    ก็คงไม่มีผู้ใดว่าใช่ไหมครับ”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2014
  2. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,631
    ขอให้ข้าพเจ้าได้ติดตามหลวงปู่ไปพระนิพพานได้โดยเร็วด้วยเถิด

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  3. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ขอแชร์ค่ะ
     
  4. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    สาธุ สาธุ สาธุ ขอกราบในบารมีของหลวงพ่อฤาษีด้วยจิตเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง
     
  5. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    กราบอนุโมทนา สาธุการในคำสอนของหลวงพ่อ ขอให้พบพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเถิด
     
  6. masshi

    masshi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +553
    สาธุ สาธุ สาธุ กราบหลวงพ่อด้วยเศียรเกล้า
    ผมว่า น้อยคนนักในประเทศนี้ ไม่เคยไปกราบ องค์ท่าน หรือสังขารขององค์ท่าน
    และคนที่ไปแล้ว ก็จะน้อยนักที่จะไปเพียงครั้งเดียว
     

แชร์หน้านี้

Loading...