หลักสูตรโหร"เลี่ยมเพชรรัตน์" กศน.ดอนเมืองคนดังเรียนตรึม

หลักสูตรโหร"เลี่ยมเพชรรัตน์" กศน.ดอนเมืองคนดังเรียนตรึม

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [/IMG] " โหราศาสตร์" เป็นวิชาพยากรณ์จากอำนาจของดวงดาวนพเคราะห์ต่างๆ ที่โคจรอยู่รอบจักรราศี เป็นวิชาที่มีหลักฐานและเหตุผล มีมาแต่โบราณสมัย เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับดวงดาวและโลกมนุษย์
กล่าวถึงอำนาจของดาวที่มีต่อสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก ปัจจุบันการทำนายตามหลักโหราศาสตร์กลายเป็นปัจจัยหนึ่งในการดำรงชีวิตทั้งส่วนตัว และหน้าที่การงาน คู่การเดินทางของเส้นทางชีวิตของมนุษย์
โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำคนในสังคมผู้คนหันไปพึ่งศาสตร์ดังกล่าวมากขึ้น ดังนั้นศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนเขตดอนเมือง โดย นายอนันต์ เมาระพงษ์ ผู้อำนวยการ กศน.เขตดอนเมือง จึงได้เปิดสอนหลักสูตรโหราศาสตร์ ป.เลี่ยมเพชรรัตน์ เป็นหลักสูตรระยะสั้น 3 เดือน 100 ชั่วโมง ขึ้นเมื่อปี 2542 โดยมี อาจารย์ ป.เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ หรือ พ่อครูพราหมณ์ ป. หรือท จักรวาล กัณหดุลย์ เป็นผู้สอน
" ครั้งแรกใช้วิธีจับกลุ่มสอน ใครสนใจก็มาเรียน เริ่มตั้งแต่ 20 คน อายุ การศึกษาแตกต่างกันไป ปรากฏว่าเรียนไปเพียง 30 ชั่วโมง พบว่าความคิดคนเรียนเริ่มเปลี่ยนแปลง จากที่เห็นแก่ตัวเริ่มแบ่งปัน ก็เปิดสอนกันเป็นทางการ กำหนดเป็นหลักสูตรในปี 2542 มีกลุ่มครอบครัวทหารอากาศ นักการเมือง ทหารชั้นผู้น้อยมาเรียน จากนั้นในปี 2545 นายพลก็เริ่มมาเรียน " นายอนันต์ กล่าว
สำหรับต้นกำเนิดวิชาโหราศาสตร์ ป.เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ พ่อครูพราหมณ์ ป. เล่าให้ฟังว่า เริ่มจาก คุณทวด ขุนเทพพยากรณ์ ต้นสกุลเลี่ยมเพ็ชรรัตน์ ตำแหน่งปลัดกรมโหร โหรหลัง ในรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 คุณตา โหรแฉล้มเลี่ยมเพ็ชรรัตน์ โหรในสมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่13 เป็น ผู้ถวายคำพยากรณ์แด่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 และเป็นโหรประจำพระองค์ (พระราชครู) ของสุลต่าน ประเทศมาเลเซีย ได้ถวายการพยากรณ์แด่ ไว.ทีเอม. ตนกูกะรานา พระโอรสแห่งกษัตริย์นครสลางอ ว่า ถึงวันที่ 5 เดือนมกราคม พุทธศักราช 2484 จะได้เป็นกษัตริย์แห่งสลางอ ครั้นถึงวันดังกล่าว ตนกูกะรานา ได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์จริงตามคำพยากรณ์ กระทั่งมาถึงปัจจุบัน พ่อครูพราหมณ์ ป.ผู้ก่อตั้ง ศูนย์การเรียนรู้เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ เขียนตำราโหร"เลี่ยมเพ็ชรรัตน์" และอาจารย์ยุ้ย อัจฉรา พรหมสูตร สืบทอดภูมิปัญญาโหราศาสตร์ไทย
พ่อครูพราหมณ์ป. เล่าว่า ปัจจุบันวิชาโหราศาสตร์เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่มีนำมาใช้ในทางที่ผิด สวนกระแสกับวิชาโหราศาสตร์ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาลที่นำวิชาความรู้ไปใช้ให้ถูกทาง เพื่อให้คนคนนั้น รู้จักตัวตนตัวเอง ตามแนวทางปรัชญาความพอเพียง กำหนดวิถีชีวิตปกครองอย่างถูกต้องทั้งในครอบครัว และหน้าที่การงาน
โหราศาสตร์ต้องใช้อย่างถูกทางเพราะเป็นดาบ 2 คม บางคนเก่งดูโหราศาสตร์แต่ไร้คุณธรรมศีลธรรม เอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควร เพราะวิชาโหราศาสตร์ที่สอนสามารถบอกเวลาในช่วงๆ นั้นจะเกิดอะไรขึ้น ผลที่ตามมาของการกระทำช่วงนั้นจะเป็นอย่างไร บางคนดูแล้วเอาไปจับยามลักเล็กขโมยน้อย หรือบางคนเอาดวงของคนอื่นมาดูเปิดดวง หากเป็นคนไว้ใจคนง่าย ก็เข้าไปนั่งในใจเขาแล้วหลอกลวงทรัพย์สินก็มีเหมือนกัน ดังนั้น เรื่องศีลธรรม จริยธรรม เป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับลูกศิษย์ของพ่อครูพราหมณ์ป. ที่เคยมาเรียนศาสตร์แขนงนี้มีมากมายหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน อาจารย์พวงทอง สุขสมโภชน์ อาจารย์สมศรี กิจชนะพานิชย์ อดีตนักวิชาการศึกษาระดับ 8 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี นายสัตวแพทย์ ดร.สมพงษ์ วัฒกนารา อดีตอาจารย์คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และพลอากาศตรีอาทิตย์ ปัตตะวงค์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ เป็นต้น ซึ่งบางคนได้เปลี่ยนอาชีพมาเป็นหมอดูเป็นที่เรียบร้อย เพราะหลงใหลในศาสตร์แขนงนี้นั่นเอง
-->
"โหราศาสตร์" เป็นวิชาพยากรณ์จากอำนาจของดวงดาวนพเคราะห์ต่างๆ ที่โคจรอยู่รอบจักรราศี เป็นวิชาที่มีหลักฐานและเหตุผล มีมาแต่โบราณสมัย เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับดวงดาวและโลกมนุษย์
กล่าวถึงอำนาจของดาวที่มีต่อสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก ปัจจุบันการทำนายตามหลักโหราศาสตร์กลายเป็นปัจจัยหนึ่งในการดำรงชีวิตทั้งส่วนตัว และหน้าที่การงาน คู่การเดินทางของเส้นทางชีวิตของมนุษย์
โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำคนในสังคมผู้คนหันไปพึ่งศาสตร์ดังกล่าวมากขึ้น ดังนั้นศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนเขตดอนเมือง โดย นายอนันต์ เมาระพงษ์ ผู้อำนวยการ กศน.เขตดอนเมือง จึงได้เปิดสอนหลักสูตรโหราศาสตร์ ป.เลี่ยมเพชรรัตน์ เป็นหลักสูตรระยะสั้น 3 เดือน 100 ชั่วโมง ขึ้นเมื่อปี 2542 โดยมี อาจารย์ ป.เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ หรือ พ่อครูพราหมณ์ ป. หรือท จักรวาล กัณหดุลย์ เป็นผู้สอน
" ครั้งแรกใช้วิธีจับกลุ่มสอน ใครสนใจก็มาเรียน เริ่มตั้งแต่ 20 คน อายุ การศึกษาแตกต่างกันไป ปรากฏว่าเรียนไปเพียง 30 ชั่วโมง พบว่าความคิดคนเรียนเริ่มเปลี่ยนแปลง จากที่เห็นแก่ตัวเริ่มแบ่งปัน ก็เปิดสอนกันเป็นทางการ กำหนดเป็นหลักสูตรในปี 2542 มีกลุ่มครอบครัวทหารอากาศ นักการเมือง ทหารชั้นผู้น้อยมาเรียน จากนั้นในปี 2545 นายพลก็เริ่มมาเรียน " นายอนันต์ กล่าว
สำหรับต้นกำเนิดวิชาโหราศาสตร์ ป.เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ พ่อครูพราหมณ์ ป. เล่าให้ฟังว่า เริ่มจาก คุณทวด ขุนเทพพยากรณ์ ต้นสกุลเลี่ยมเพ็ชรรัตน์ ตำแหน่งปลัดกรมโหร โหรหลัง ในรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 คุณตา โหรแฉล้มเลี่ยมเพ็ชรรัตน์ โหรในสมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่13 เป็น ผู้ถวายคำพยากรณ์แด่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 และเป็นโหรประจำพระองค์ (พระราชครู) ของสุลต่าน ประเทศมาเลเซีย ได้ถวายการพยากรณ์แด่ ไว.ทีเอม. ตนกูกะรานา พระโอรสแห่งกษัตริย์นครสลางอ ว่า ถึงวันที่ 5 เดือนมกราคม พุทธศักราช 2484 จะได้เป็นกษัตริย์แห่งสลางอ ครั้นถึงวันดังกล่าว ตนกูกะรานา ได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์จริงตามคำพยากรณ์ กระทั่งมาถึงปัจจุบัน พ่อครูพราหมณ์ ป.ผู้ก่อตั้ง ศูนย์การเรียนรู้เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ เขียนตำราโหร"เลี่ยมเพ็ชรรัตน์" และอาจารย์ยุ้ย อัจฉรา พรหมสูตร สืบทอดภูมิปัญญาโหราศาสตร์ไทย
พ่อครูพราหมณ์ป. เล่าว่า ปัจจุบันวิชาโหราศาสตร์เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่มีนำมาใช้ในทางที่ผิด สวนกระแสกับวิชาโหราศาสตร์ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาลที่นำวิชาความรู้ไปใช้ให้ถูกทาง เพื่อให้คนคนนั้น รู้จักตัวตนตัวเอง ตามแนวทางปรัชญาความพอเพียง กำหนดวิถีชีวิตปกครองอย่างถูกต้องทั้งในครอบครัว และหน้าที่การงาน โหราศาสตร์ต้องใช้อย่างถูกทางเพราะเป็นดาบ 2 คม บางคนเก่งดูโหราศาสตร์แต่ไร้คุณธรรมศีลธรรม เอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควร เพราะวิชาโหราศาสตร์ที่สอนสามารถบอกเวลาในช่วงๆ นั้นจะเกิดอะไรขึ้น ผลที่ตามมาของการกระทำช่วงนั้นจะเป็นอย่างไร บางคนดูแล้วเอาไปจับยามลักเล็กขโมยน้อย หรือบางคนเอาดวงของคนอื่นมาดูเปิดดวง หากเป็นคนไว้ใจคนง่าย ก็เข้าไปนั่งในใจเขาแล้วหลอกลวงทรัพย์สินก็มีเหมือนกัน ดังนั้น เรื่องศีลธรรม จริยธรรม เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับลูกศิษย์ของพ่อครูพราหมณ์ป. ที่เคยมาเรียนศาสตร์แขนงนี้มีมากมายหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน อาจารย์พวงทอง สุขสมโภชน์ อาจารย์สมศรี กิจชนะพานิชย์ อดีตนักวิชาการศึกษาระดับ 8 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี นายสัตวแพทย์ ดร.สมพงษ์ วัฒกนารา อดีตอาจารย์คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และพลอากาศตรีอาทิตย์ ปัตตะวงค์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ เป็นต้น ซึ่งบางคนได้เปลี่ยนอาชีพมาเป็นหมอดูเป็นที่เรียบร้อย เพราะหลงใหลในศาสตร์แขนงนี้นั่นเอง

จาก : คม ชัด ลึก
8 มกราคม 2551 15:58 น.
http://www.komchadluek.net/2008/01/09/e001_184724.php?news_id=184724
<TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

น่าสนใจค่ะ