หลวงพ่อเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน (เรื่องจริงนอกตำนาน)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 27 พฤศจิกายน 2008.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,240
    (เล่า 22 เมษายน 2521)เดินทางมาถึงจังหวัดสุพรรณบุรี พอรถเลี้ยวจากฝั่งนี้ข้ามไปฝั่งตะวันตก เห็นวัดพระธาตุแล้ว เห็นวัดป่าเลไลย์ ตอนนี้ใจหายวาบ เพราะ ปรากฏภาพของบุคคล กลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่คนเดียว เป็นคนกลุ่มหญ่ แต่งตัวสวย สดงดงาม มาถึงก็ยกมือไหว้ มองไปเห็นเป็นคนสำคัญคือ ขุนช้าง
    ขุนช้างท่านเป็นเทวดา คือ เจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี จึงถามท่านว่า หน้าตาของท่านเวลานี้สวย แต่ตามนิยายเขาบอกว่า ท่านหัวล้านน่ะ ไม่รู้ว่าหัวใคร แต่หัวผมจริงๆ มันไม่ล้านครับ เป็นหัวเถิกง่ามถ่อ ธรรมดาๆ เท่านั้น ถามท่านว่า สมัยนั้น เป็นมหาเศรษฐีใหญ่ใช่ไหม ท่านบอกว่า ใช่ แล้วก็รับราชทินนาม เป็นขุน ก็เป็นเรื่องน่าแปลก ก็เลยถามว่า เรื่องวันทอง เรื่องขุนแผน กับท่านนี่ ดูแล้วมันเลวจริง ๆ ก็อยากจะทราบว่า เรื่องแห่งความเป็นจริงนั้นมันยังไง เลวทรามขนาดนั้น ก็แสดงว่า บ้านเมือง ไม่มีขื่อไม่มีแปดู เหมือนว่า พระราชาไม่มีความหมาย
    ท่านขุนช้างฟังแล้วท่านก็ยิ้ม บอกว่า มันแย่จริงๆ เรื่องราวในคราวก่อนนี้ ผมกับขุนแผนไม่เคยมีเรื่องร้าย เพราะ เป็นเพื่อนเล่นกันมา ตั้งแต่อยู่วัดเป็นเด็กๆ แล้วต่อมา ก็เป็นเพื่อนร่วมน้ำสาบานกัน ถ้าผมบังเอิญ จะไปแย่งเมียขุนแผนอย่างนั้นผมคิดว่า ผมคงจะตายไม่รู้ว่าแบบไหน จึงถามว่า เป็นเพราะอะไรท่านบอก ว่าขุนแผนนี้ มีความรู้ ร้ายกาจมาก ถ้าปรารถนา จะฆ่าคน อย่างผมนี้ มันไม่ยาก ไม่ต้อง ใช้อาวุธ เป็นแต่ เพียงแกหยิบเอาต้นหญ้าขึ้น มาต้นเดียว ต้องการให้ต้นหญ้านั้นเข่นฆ่าผม ผมก็ตายแล้ว
    ท่านขุนช้างนี่ ท่านเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช ท่านมาให้เห็นไม่ใช่ว่า ผู้เห็นจะใช้ฌานสมาบัติใช้ฌานอะไร เป็นอานุภาพของเทวดาแสดงให้เห็น อย่างที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า ผีหลอก คนถูกผีหลอก เขาเข้าฌานสมาบัติ หรือก็เปล่า
    ถามท่านขุนช้างว่า ก็เมื่อท่านเป็นเพื่อนกับขุนแผน แล้วเรื่องร้ายทั้งหลายแหล่ ที่คนเขียนขึ้นนั้นมันมาได้ยังไง ท่านก็กล่าวว่า เวลานั้นเป็นสมัยราชาธิปไตย คนที่อยู่ในสมัยราชาธิปไตยต้องเป็นคนดี มีจริยาดี ทั้งสองคน เป็นขุน ขุนช้างเป็นมหาเศรษฐี แต่ก็มีความรู้ดี ขุนแผนเป็นคนจนแต่ก็จนอย่างขุนแผน ไม่ใช่จนอย่างยาจก เป็นคนที่มีวิชาความรู้ดี คำว่า จน ก็หมายถึงว่า ไม่ได้มีเงินอย่างเหลือล้นนั่นเอง และขุนแผน เป็นคนมีลูกน้องมาก นอกจากเบี้ยหวัดเงินปี ที่พระราชาให้ ขุนแผนก็ต้องล้วงเงินในกระเป๋าของตนเลี้ยง คนทั้งหลายที่มีกำลังดี เก็บเอาไว้ต่อสู้กับฆ่าศึก ขุนแผนเป็นลูกขุนไกร ท่านบอกว่า ความจริงขุนแผนกับขุนช้างไม่มีเรื่องอะไร มีความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ตอนที่ขุนแผนไปตีเมืองจอมทอง มีคนเขามาแกล้ง แย่งความดีของขุนช้าง คิดจะให้ขุนช้างถูกขุนแผน ฆ่าตาย จึงเอากระดูกคนมาแสดงว่า เวลานี้ขุนแผนตายแล้ว และขุนแผนก็สั่งว่า สำหรับวันทอง ซึ่งเป็นเมียเล็ก เห็นว่า ไม่คู่ควรกับใคร ขอมอบไว้กับขุนช้าง ปกครองด้วย ช่วยรักษาเธอให้มีความสุข
    นี่เห็นไหม เห็นว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขียนกันไปน่ะ มันลอกเปลือกกันมาก
    ถามท่านขุนช้างว่า เวลาท่านตายทำไมจึงไม่ไปเป็นสัตว์นรก ท่านก็ยิ้มแล้วชี้หน้าว่า ท่านล่ะตัวท่านเองทำไม จึงไม่ไปเป็นสัตว์นรก ก็เลยบอกว่า ฉันระลึกชาติไม่ออกนี่ ท่านเป็นเทวดา ท่านรู้ก็บอกซี ท่านบอกว่า สมัยนั้น ท่านขุนช้างก็ดี ขุนแผนก็ดี (พระบำราบอรินทร์ก็ดี พระยากาญจนบุรีก็ดี สามชื่อนี้ ได้แก่ ขุนแผน คือ พลายแก้ว) คนสมัยนั้นทั้งหมด เขาเป็นนักบุญกัน ท่านก็ชี้จุดต่าง ๆ ให้ดูว่า เมืองสุพรรณ มันดาดาษไปด้วยวัดวาอาราม กรุงศรีอยุธยาก็ดาดาษไปด้วยวัดวาอาราม วัดติดๆ กัน นั่นแสดงว่า คนสมัยนั้นจิตเขา เป็นมหากุศล ทำบุญ ทำกุศล สวดมนต์ ใส่บาตรไหว้พระ เจริญสมถะวิปัสสนากันเป็นปกติ
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับขุนแผน ถามขุนช้างว่า จริง ๆ ราชทินนามของท่านก่อนที่ท่านจะตายน่ะ มีราชทินนามว่ายังไง บรรดาศักดิ์น่ะ ท่านบอก ว่าบรรดาศักดิ์ของผมจริง ๆ ก็เป็นพระยา มีนามว่า พระยาภานุมาศ เอ๊ะ ภานุมาศ ก็ช้างซี ? ใช่แล้วพระยาภานุมาศอยู่กับเมืองหลวง มีหน้าที่ควบคุมช้างสำหรับขุนแผนนั้น ได้แก่ พระยากาญจนบุรี แต่เนื้อแท้ จริง ๆ เป็น เจ้าพระยา ในตอนสุดท้าย แต่ทว่า ประวัติศาสตร์หายไป ทั้งสองคน เวลาที่รับราชการอยู่ก็ชอบทำบุญ ตอนพ้น จากราชการก็ไปจำศีลกันในเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งขุนแผน ไปอยู่ที่เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนท่านขุนช้าง ปรากฏว่า หลบไปอยู่ทางเขาราวเทียนภูเขาราว เทียนนี่อยู่ทางหลังอำเภอหันคา สองคนจำศีลภาวนาได้ ฌานสมาบัติ ตายจากความเป็นคน ขุนช้างไปเกิด เป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช แต่สำหรับขุนแผน เวลาตายก็เข้า ฌานตาย เพราะมีกำลังใจใหญ่ ตายแล้วไป เกิดเป็นพรหม แล้วท่านก็บอกว่า ขุนแผนขยันเกิด เพราะมีนิสัย ชอบยุ่ง เขาถือว่า คนไทยที่มีน้ำใจดี เป็นคนของเขา เขาถือว่า เป็นพี่เป็นน้องเขา ตายจากสมัยนั้น แล้ว ก็มาเกิดในสมัย พระนารายณ์มหาราช มี นามว่า นายเหล็ก สมัยรัตนโกสินทร์ก็มาเกิดอีก แล้วก็ชอบยุ่งตามเคย อย่ารู้เลย ว่าเป็นใคร
    นี่เป็นเรื่องของขุนช้างขุนแผน ตามที่เทวดาขุนช้างท่านเล่า จริงเท็จอยู่กับท่าน ท่านแถมท้ายว่า อย่าเชื่อ ประวัติว่า ขุนช้างเป็นคนหัวล้าน นั่นไม่ใช่ประวัติศาสตร์ เป็นนิยายที่เขาเขียนขึ้นมาว่า ขุนช้างเป็นคนเลว ความจริงขุนช้างก็ดีขุนแผนก็ดีเป็นคนที่มีระเบียบวินัย เวลานั้นท่านบอกว่า เป็นสมัยพระเจ้าพันวัสสาหรือ ที่เรียกกันว่า พระเจ้าสามพระยานั่นเอง ขุนแผนนั้น ถ้าจะเอาความร่ำรวยกันจริง ๆ แล้ว มันก็รวยกว่าผม แต่ว่า เงินที่มันสะสมไว้มีน้อย ก็เพราะว่า มันแจกเขามาก ขุนแผนจึงรู้สึกว่า ทรัพย์สินที่มีอยู่ในตนจนจริง ความจริงคำว่า ขุนแผนนี้ ไม่มีในทำเนียบของราชการ ชาวบ้านเขาตั้ง ขุนแผนก็ดีขุนช้างก็ดี ชาวบ้านเขาตั้ง ที่เรียกว่า คนเผ่านี้ว่า เผ่าขุนช้าง สำหรับ ขุนแผน ก็เหมือนกัน ที่เรียกว่า ขุนแผน ก็เพราะ มันเป็นคน ออกแบบออกแผนจู้จี้จุกจิก เห็นอะไรไม่ดี ก็จัดสรร กราบบังคมทูลพระเจ้าพันวัสสา พระองค์ก็เห็นด้วยทุก ประการ อาศัยที่มัน เป็นคนวางแผน ชอบเปลี่ยนแปลง ชอบจัดระบบให้สมดุลย์อยู่เสมอ ชาวบ้านจึงเรียกว่า ขุนแผน
    ขุนแผนหรือไอ้แก้ว ที่มันมีเมีย เป็นปี๊บ ๆ น่ะ ความจริงไม่ใช่ว่า มันจะเป็นคนเจ้าชู้วิ่งหาผู้หญิง แต่ความจริงเจ้าแก้วกับผม ลักษณะมันต่างกัน นี่ผมยืนให้ท่านดู ดูมาดนายช้างเสียบ้าง นายช้างน่ะ เป็นคนมาดดี สง่าผ่าเผย ตาผ่องใส แล้วก็หน้ารูปไข่นิด ๆ แต่ว่า หน้าเป็นหน้าของผู้ชาย ไม่ใช่รูปไข่ของผู้หญิง ลักษณะ ท่าท่างองอาจ นี่ท่านจะว่า ละซีว่า หน้าตาคงเหมือนช้าง ซึ่งเป็น สัตว์เดียรัจฉาน ? ท่านอย่าว่า ซิ นี่คนคุมช้าง มันก็ต้องสง่าผ่าเผย มีกำลังเหมือนช้าง แต่ว่า ช้างตัวนี้ มันเป็นตัวที่มีศักดิ์ศรี แต่ว่า เจ้าแก้วมันมีรูปร่างอีกอย่างหนึ่ง เจ้าแก้วนี่ถ้าจะ ดูลักษณะจริง ๆ มันก็เป็นคนสมส่วนสมสัด ท่าทางทะมัดทะแมง แต่ผิวเจ้าแก้ว มันขาวกว่าผม ผมเป็นค่อนข้างขาว อย่างที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า เป็นคนขาว แต่ว่า เวลาเดินเดินแรง เพราะ คุมช้างนี่ ต้องเดินแรง เวลาทำงานผมช้าไม่ได้ ไอ้แก้ว มันเรียกผมว่า ไอ้โคล้ง ๆ ชื่อจริง ๆ มันก็ไม่เรียก ผมชื่อ ศรี นะ ชื่อผมจริง ๆ ว่า ศรี เขาแปลว่า มิ่งขวัญ ไอ้แก้วน่ะชื่อจริง ๆ เขาว่า พลายแก้ว พลายแก้ว คือ ช้างแก้ว ช้างที่มีกำลังใหญ่ ช้างตัวประเสริฐของพระเจ้าจักรพรรดิ ที่เขาให้ชื่อว่า พลายแก้ว ก็เพราะ มันออกมาฤกษ์ดี โหรพยากรณ์ว่า เจ้าเด็กคนนี้จะมีอำนาจมาก สามารถจะปราบปราม ข้าศึกได้ทุกทิศ โดยที่จะใช้กำลังคน เข้าประชิดกับข้าศึก ด้วยกำลังไม่มาก
    ผมสวยสู้ไอ้แก้วมันไม่ได้ ไอ้แก้วมันสวยมาก ท่าทางมันดี กิริยาก็แช่มช้อยกว่า ผู้หญิงปัจจุบัน ผู้หญิงสมัยนี้น่ะ มันเป็นผู้ชายเสียมากกว่าผู้หญิง ผู้หญิงสมัยโน้นน่ะ เขาเป็นคนเก็บตัว มีจริยามารยาทดีพูดน้อย เห็นผู้ชายไม่ใช่ว่าจะวิ่งเข้าไปคุยจะไปควงกับผู้ชาย มีแต่จะเก็บตัวตามจารีตประเพณี เป็นคนน่ารัก แต่ลักษณะการย่อง ๆ หนีไปหาคู่รัก เวลาพ่อแม่เผลอ มันก็มีเป็นของธรรมดา แต่ว่า จริยาท่าทาง หน้าบ้านเขาดี ที่เจ้าแก้วมันมีเมียมากเพราะ
    1.รูปร่างหน้าตามันดี สวยเก๋ มีเสน่ห์
    2.เป็นคนอ่อนโยน
    3.เป็นคนกตัญญูรู้คุณ
    4.มีจิตใจเผื่อแผ่ มันไม่ค่อยเก็บสตางค์ ไปที่ไหน มันก็จ่าย ให้ลูกน้องดะ เห็นคนยากจน เข็ญใจ มันก็สง เคราะห์ให้ตามสมควร มีอะไรพอที่มันจะช่วยเหลือได้ มันช่วยทุกอย่าง
    เวลานั้นบ้านเมืองมันกว้าง คนก็น้อย การทำไร่ไถนาก็เป็นของไม่ยาก เหมือนกับชาวเขาเวลานี้ อยากจะไปฟันป่าตรงไหนก็ไปกัน ทำกันได้ตามชอบใจ ใครไม่มีทุน ไม่มีรอน เจ้าแก้วมันก็ให้ ความจริงผมก็ไม่ ยอมแพ้มันนะ ใครมาขอ ผมก็ให้เหมือนกัน แต่ว่า สู้มันไม่ได้ มันเที่ยวเก่ง มันพูดเก่งกว่า มีคนรู้จักมากกว่า ก็เลยมีคนมาไถมันมาก ในเมื่อมีคนมาไถมันมาก ผมมีคนมาไถน้อยกว่า ลูกไอ้แก้วก็เลย มาไถผม ต่อไปขึ้นมาบนบ้านบอก คุณพ่อไอ้นี่ดี คุณพ่อไอ้นั่นดี มันอยากว่าดีผมก็เลยให้มัน ลูกไอ้แก้วมันเรียกผม ว่าพ่อทุกคนแหละ มันรักผมเหมือนพ่อ ผมก็รักมันเหมือนลูก ฉะนั้นตามนิยายปรัมปราที่เล่ากันมา มันทำเสียไปหมด คนขนาดเป็นขุนน้ำขุนนางเป็นพระยาแบบนั้น ใครจะเลวแบบนั้น เลิกพูดกันทีนะเรื่องไอ้แก้วกับไอ้ช้าง

    (เพิ่มเติมที่ไทรงาม อำเภอพิมาย เมื่อ 21 มีนาคม 2522 คัดเอาแต่ใจความ)
    รุกขเทวดา แสดงภาพเป็นหญิง แต่งชุดเขียว ๆ มาเล่าว่า ตนเองชื่อบัวคลี่ ตายตั้งแต่สมัยขุนช้างขุนแผน แล้วมาเป็นรุกขเทวดาอยู่ที่นั่น รู้สึกเสียดาย ที่เป็นพระอริยะเบื้องต้น หากได้รับการสั่งสอนทีดี ก็คงจะบำเพ็ญไปนิพพาน เสียตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์
    ในการตอบคำถาม ปรากฏว่า บัวคลี่ไม่ได้ตาย เพราะถูกขุนแผนผ่าท้องเอาลูกไปทำลูกกรอก ความจริงลูกกรอกเขาเกิดมา เพื่อให้คุณแก่พ่อแม่ และมีลักษณะพิเศษ คือ เวลาท้องนั้น ท้องโตได้ยุบได้ บัวคลี่คลอด ลูกออกมาเป็นลูกกรอก แล้วต่อมาอีก 3-4 เดือน จึงได้ตายด้วยโรคภัยธรรมดา
    ที่มา http://www.firstbuddha.com/Real/kunchan.html
     
  2. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    อ่านแล้วมันแปลกๆนะ
     
  3. ตักศิลา

    ตักศิลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +440
    ผมเป็นคนชอบเรื่องแบบนี่เอามาลงกันอีกนะครับ
    อนุโมทนาสาธุ
     
  4. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,240
    อิทังปุญญะผะลังผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้าและเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราชขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดีเสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าสาธุๆๆ
     
  5. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    ความรู้ใหม่ครับ

    อนุโมทนาครับ
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    "จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครไหนมาช่วยเจ้า"
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    ขอเชิญบริจาค โครงการสร้างทรัพยากรมนุษย์ผู้ด้อยโอกาส กับ หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=151788
    ร่วมสร้าง " อุโบสถเงิน" วิหารทานที่ในครั้งนึงในชีวิตไม่ควรพลาดครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=140433
    ร่วมสร้าง พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง พระธาตุประจำปีจอ ตามคติทางล้านนา
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=160823
    ขอความเมตตา สร้างชีวิตใหม่ ช่วยน้องผ่าตัดใบหน้า ให้สดใสเหมือนเดิม
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1440317
    มาลองทำสังฆทานอย่างง่ายๆ ด้วยตนเองกันครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=144881
     
  6. sean2738

    sean2738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2008
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +1,754
    สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก 10 วา
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=65729


    ร่วมสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ "สมเด็จองค์ปฐม" ก้บวัดธรรมยาน

    http://palungjit.org/showthread.php?t=119095
    <!-- google_ad_section_end -->
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>เวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด<O:p</O:p<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  7. chai8383

    chai8383 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +6,348
    อนุโมทนาด้วยครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ฝากลิงค์ธรรมะในเว็บต่างๆของหลวงพ่อครับ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...