หลวงพ่อทวด-พ่อท่านเขียว 'กิตติคุโณ 82'

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 16 มกราคม 2010.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    [​IMG]

    สืบสานตำนานพระเครื่องดังวัดห้วยเงาะ

    วัดห้วยเงาะ หรือวัดหลวงพ่อศรีแก้ว เป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๒๐๐ สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของไทย ได้รับ วิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๙ มีชื่อเป็นทางการว่า “วัดอรัญวาสิการาม” ตั้งอยู่หมู่ ๔ ตำบลทุ่งพลา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ปัจจุบันมีพระปลัดอุดม อริโย เป็นเจ้าอาวาส

    อย่างไรก็ดี หากกล่าวถึงวัดห้วยเงาะในยุคปัจจุบัน พุทธศาสนิกชนย่อมต้องนึกถึงนามของ “พระครูอนุศาสน์กิจจาทร” หรือ “พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ” หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ดัง ที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้พุทธศาสนิกชนชาวใต้ได้กราบไหว้พึ่งพาบารมี ที่สำคัญ ท่านเป็นสหธรรมิกกับ “พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้” ได้ร่วมสังฆกรรม สนทนาธรรมร่วมพิธีกรรมต่าง ๆกันเสมอ โดยเฉพาะเมื่อคราวที่พระอาจารย์ทิม สร้างพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี ๒๔๙๗ เพื่อแจกแก่ผู้ที่ร่วมสร้างอุโบสถวัดช้างไห้ พ่อท่านเขียว เป็นผู้หนึ่งที่คลุกเนื้อผสมว่าน และร่วมอยู่ในพิธีกรรมเจริญพุทธมนต์ ในระหว่างที่พระอาจารย์ทิมอัญเชิญดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดเพื่อปลุกเสกพระเครื่องเนื้อว่านในครั้งนั้น และร่วมพิธีกรรมปลุกเสกอีกหลายวาระ ๒๔๙๗ และร่วมพิธีกรรมปลุกเสกอีกหลายวาระ

    พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ ปัจจุบันท่านมีอายุ ๘๐ ปี พรรษา ๖๐ พื้นเพเป็นชาวจังหวัดยะลา เกิดเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ ณ ตำบลหน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา เป็นบุตรคนที่ ๓ ในจำนวนพี่น้อง ๗ คนของนายทอง เพ็ชร ภักดี และ นางกิ๊ม นวลศรี ซึ่งประกอบอาชีพทำนาทำไร่ ช่วงชีวิตในวัยเด็กของ พ่อท่านเขียว ท่านก็เหมือนเด็กชาวบ้านในต่างจังหวัดทั่วไป หลังจากเรียนจบ ป.๔ บิดาได้ถึงแก่กรรม ท่านจึงต้องออกมาทำงานช่วยครอบครัว เพื่อเลี้ยงแม่และน้อง ๆ ซึ่งในเวลานั้นท่านก็สู้อดทนรับจ้างทำงานทุกอย่าง

    จนกระทั่งอายุได้ ๒๐ ปี จึงตัดสินใจบวชตามประเพณีนิยม ณ วัดนางโอ (ปัจจุบันคือวัดบุพนิมิตร) อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๒ โดยมี พระครูมนูญ สมณการ วัดพลานุภาพ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแดง ธมฺมโชโต วัดนาประดู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทอง จนฺทโชโต วัดภมรคติวัน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอธิการดำ ติสสโร เจ้าอาวาส วัดนางโอในขณะนั้น เป็นประธานสงฆ์ พระสงฆ์หัตถบาส เป็นพระอาจารย์ ผู้ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ ให้พ่อท่านเขียวมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นฆราวาส

    หลังจากครองผ้าเหลือง พ่อท่านเขียวได้จำพรรษาอยู่วัดนางโอ ศึกษาพระปริยัติธรรมและนักธรรม รวมทั้งในด้านการสวดมนต์พิธี รวมถึงการสวดภาณยักษ์ แบบฉบับของภาคใต้ กระทั่งพรรษา ๒ ท่านได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดสุนทรบัญชาราม อ.รามัญ จ.ยะลา ครั้นถึงพรรษาที่ ๓ ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดนางโออีกครั้ง ได้ศึกษาวิชาอาคมต่าง ๆ กับ “ตาเลี่ยม” ฆราวาสที่เชี่ยวชาญ ด้านวิปัสสนา รวมทั้งศึกษาสรรพวิชาต่าง ๆ จากผู้เรืองพระเวทย์วิทยาคมอีกหลายท่าน นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาในทางธรรม ท่านปฏิบัติเคร่งครัด ศึกษาด้านปริยัติธรรมบาลีไวยากรณ์และนักธรรม รวมถึงการสวดมนต์ สาธยายธรรม จนกระทั่งสามารถสวดปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่ในพรรษาที่ ๕ และสอบได้นักธรรมโท ต่อมาก็ได้รับตำแหน่ง รักษาการเจ้าอาวาส วัดนางโอ จนกระทั่งได้เป็นเจ้าอาวาสในลำดับต่อมา ซึ่งในช่วงนี้เองที่ท่านได้รู้จักและสนิทสนมกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้

    ประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านได้ตรวจสอบธรณีสงฆ์รอบวัดนางโอ พบการรุกล้ำที่วัดของชาวบ้านละแวกวัด ทำให้ชาวบ้านเหล่านั้นไม่พอใจ เกิดกระทบกระทั่งกันหลายวาระ ในที่สุด ท่านจึงตัดสินใจออกไปจำพรรษาที่วัดภมรคติวัน ปรากฏว่าก็มีปัญหาเดียวกันกับวัดนางโออีก จึงย้ายวัดไปจำพรรษาที่วัดนาประดู่อีกครั้งและ ในระหว่างนี้ เจ้าอาวาส วัดห้วยเงาะ ในเวลานั้นได้มานิมนต์ให้ท่านไปอยู่ด้วย เนื่องด้วยพรรษาท่านมากจะได้ดูแลและไม่ต้องพบกับภาระเหนื่อยหนักอีก

    พ่อท่านเขียว หรือที่ชาวบ้าน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ขนานนามว่า เทพ เจ้าฝ่ายบู๊แห่งเมืองลังกาสุกะ ท่านเป็นพระสมถะ ไม่สะสมทรัพย์ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร ฉันก็ฉันง่าย ๆ บางทีก็แบ่งข้าวที่ท่านกำลังฉันให้สุนัขที่ท่านเลี้ยงกินด้วยกันท่าน มีเมตตากับทุก ๆ คน เดือดร้อนอะไรมาท่านก็ช่วยไม่เว้นแม้สุนัขที่ถูกทอดทิ้งท่าน ก็รับมาเลี้ยงอย่างดี ท่านชอบสอนทุก ๆ คนที่ไปหาท่านให้ทำดี ละเว้นชั่ว ตั้งมั่นในความซื่อสัตย์กตัญญู อดออมทรัพย์สิน ใช้จ่ายอย่างประหยัด

    สำหรับที่มาของฉายา “เทพเจ้าฝ่ายบู๊” นั้น เพราะท่านได้ทำนายเหตุการณ์ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้ก่อนล่วงหน้า พร้อมกับสร้าง ตะกรุดพิศมรหลวงปู่ทวด แจกพี่น้อง ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนมีเหตุการณ์ และตั้งแต่มีเหตุการณ์ยังไม่มีผู้ใดแขวน เครื่องรางของขลังของพ่อท่านเขียวแล้วสังเวยชีวิต ให้กับเหตุการณ์ความไม่สงบเลย จึงเป็นที่มาของ “เทพเจ้าฝ่ายบู๊แห่งเมืองลังกาสุกะ”

    แม้เหตุการณ์ความไม่สงบใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะยังไม่น่าไว้วางใจ แต่ท่านตั้งปฏิปทามั่นในการอยู่ในพื้นที่อันตราย จ.ปัตตานีไม่คิดย้ายที่อยู่ไปแห่งใหม่ที่ปลอดภัยกว่า เพราะต้องการอยู่เป็นขวัญกำลังใจของทหารหาญ และพลเรือนในพื้นที่ รวมทั้งสั่งสอนธรรมะของพระพุทธองค์สืบไป

    พ่อท่านเขียวท่านเป็นพระสงฆ์ที่มัธยัสถ์อดออมและรักสันโดษ ชอบการอ่านหมั่นศึกษาหาความรู้ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎ หมายบ้านเมือง การเกษตรกรรม โหราศาสตร์ สมุนไพรกลางบ้าน รวมถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในอันที่จะนำไปสงเคราะห์ผู้อื่นได้ ท่านมีเมตตาสูงกับเหล่าศิษย์ และผู้ที่ไปขอให้ท่านเสกเป่าบรรเทาทุกข์ แก้ไขสิ่งที่ขัดข้องในชีวิต โดยให้ความเมตตาเสมอเหมือนกันหมดโดยไม่แบ่งแยกไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด ที่สำคัญ ท่านไม่จับ หรือรับเงินที่ถวาย

    ผู้ที่ไปกราบ พ่อท่านเขียว มักจะได้รับวัตถุมงคล จากมือพ่อท่านเขียว ส่วนใหญ่จะเป็น ปลัดขิก ผ้ายันต์รับทรัพย์ ตะกรุดนิมิตพิสมร และหลวงพ่อทวดรุ่นต่าง ๆ รวมถึงข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง จะได้รับพร้อมกับคำสอนให้รักแผ่นดิน จากมือพ่อท่านเขียวนั่นคือ “วัตถุมงคล” ด้วยเหตุผลที่ต้องการให้ผู้รับได้มีกำลังใจ และเป็นเครื่องสร้างขวัญที่จะร่วมกันสู้ต่อเพื่อรอวันคืนอันเป็นปกติปรากฏขึ้นอีกครั้ง จึงมีคำกล่าวขานกันอย่างเซ็งแซ่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ว่า “ใครก็ตามได้รับเมตตาจากมือท่าน หากพูดถึงเรื่องบู๊แมลงวันไม่ได้กินเลือด หากพูดถึงเสน่ห์ก็หายห่วงค้าขายทำมาหากินคล่อง”

    ในส่วนของพระเครื่องนั้น ส่วนใหญ่จะไม่มีการเช่าหาแต่อย่างใด ๆ จะมีก็แต่พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ทางวัดสร้าง หรือลูกศิษย์สร้างขึ้นให้เช่าบูชา ซึ่งพระเครื่องและวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมของพ่อท่านเขียวก็คือ ผ้ายันต์รับทรัพย์ ยันต์รับทรัพย์ และ ยันต์เพิ่มทรัพย์, ขุนช้างเจ้าทรัพย์, พระราหู, ปลัดขิก, หน้ากากพรานบุญ

    ล่าสุด ทางคณะศิษย์ได้จัดสร้างวัตถุมงคล หลวงพ่อทวด พ่อท่านเขียว รุ่น “กิตติ คุโณ ๘๒” เพื่อนำรายได้บูรณะวิหารและเสนาสนะต่าง ๆ ซึ่งเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกที่พ่อท่านลงนามให้จัดสร้าง และอนุญาตให้ใช้นามฉายา “กิตติคุโณ” ของเป็นชื่อวัตถุมงคลในรุ่นนี้ และทางวัดอนุญาตให้จัดสร้างตามขั้นตอนสมบูรณ์ทุกประการ รูปแบบที่สร้างประกอบด้วย เหรียญกลมหลวงพ่อทวด-พ่อท่านเขียว, เหรียญเสมาธรรมจักรหน้าหลวงพ่อทวด-หลังพ่อท่านเขียว, รูปหล่อลอยองค์ปั๊มหลวงพ่อทวด, กริ่งบัวรอบก้นลายเซ็นรุ่นแรกหลวงพ่อทวด ทั้งนี้ กำหนดพิธีพุทธาภิเษกวาระที่ ๑ ในวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๓ และวาระที่ ๒ ในวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ณ อุโบสถ วัดห้วยเงาะ ศิษยานุศิษย์และผู้ที่สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. ๐๘-๑๔๗๘-๘๘๖๓, ๐๘-๙๗๗๓-๔๑๒๑, ๐๘-๖๔๘๘-๕๒๘๑.
    [​IMG]
    [​IMG]


    นพปฏล รัตนพันธ์ ข้อมูล-ภาพ/ อาธาธนายัง รายงานDaily News Online > เสาร์สปอร์ต > พระเครื่อง > เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน > หลวงพ่อทวด-พ่อท่านเขียว 'กิตติ
     
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ขอบอกว่าพ่อท่านเขียวนี่ท่านเก่งมาก ๆ นะค่ะ รุ่นนี้น้ำก็จองมาทั้งช่อ รวมทั้งชุดกรรมการอีก 2 ชุดค่ะ สนใจแจ้งได้ค่ะ
     
  3. Thanaphats

    Thanaphats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +349
    สวัสดีครับ มีความสนใจจองวัตถุมงคลหลวงพ่อทวด - พ่อท่านเขียว รุ่นกิตติคุโณ 82 และจะติดต่อทางโทร อีกครั้งครับ
     
  4. ตรี นครชุม

    ตรี นครชุม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +16
    ได้อ่านข้อความเป็นการเริ่มต้นและก้าวต่อไปที่ดีครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...