หลวงปู่สอ พันธุโล วัดป่าบ้านหนองแสง จ.ยโสธร มรณะภาพ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย นิโรธสมาบัติ, 8 พฤศจิกายน 2009.

  1. นิโรธสมาบัติ

    นิโรธสมาบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +2,562
    ได้รับข่าวว่า หลวงปู่สอ พันธุโล วัดป่าบ้านหนองแสง จ.ยโสธร ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น อาพาธด้วยอาการกระแสเลือดติดเชื้อ

    ตอนนี้ได้มรณะภาพแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 8 พฤษจิกายน 2552

    จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ

    กราบหลวงปู่ด้วยความเคารพครับ

    [​IMG]





    กำหนดการบำเพ็ญกุศลและประชุมเพลิงหลวงปู่สอ พนฺธุโล วัดบ้านหนองแสง อ.เมือง ยโสธร 9-16 พฤศจิกายน 2552
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="9%">
    </td><td class="text_green_big" width="79%" valign="top">
    <center> [​IMG] </center>

    <center> กำหนดการบำเพ็ญกุศลและประชุมเพลิงหลวงปู่สอ พนฺธุโล
    วัดบ้านหนองแสง ต.สิงห์ อ.เมือง ยโสธร
    9-16 พฤศจิกายน 2552
    </center>

    วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2552

    13.00 น. สรงน้ำหลวงปู่สอ พนฺธุโล
    16.00 น. บรรจุสรีระหลวงปู่ลง******บทอง
    16.30 น. สวดมาติกา บังสุกุล
    19.00 น.สวดพระอภิธรรม เสร็จแล้วมีแสดงพระธรรมเทศนา ปฏิบัติธรรมจนถึงเวลาอันสมควร
    <bgsound src="http://www.watpa.com/sound/v8_3.mp3" loop="FALSE">
    วันที่ 10-14 พฤศจิกายน 2552
    07.00 น.ทำบุญ-ตักบาตร ถวายสังฆทานอุทิศองค์หลวงปู่
    19.00 น. สวดพระอภิธรรม เสร็จแล้วมีแสดงพระธรรมเทศนา ปฏิบัติธรรมจนถึงเวลาอันสมควร

    วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2552
    07.00 น.ทำบุญ-ตักบาตร ถวายสังฆทานอุทิศองค์หลวงปู่
    10.00 น. เชิญสรีระหลวงปู่ขึ้นสู่เมรุ เปิดโอกาสให้สาธุชนร่วมบำเพ็ญกุศล
    14.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ เสร็จแล้วสวดมาติกาบังสุกุล
    15.30 น. อ่านประวัติหลวงปู่ เสร็จแล้ววางดอกไม้จันทน์
    16.00 น. ประชุมเพลิง

    วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2552
    06.30 น. ทำพิธีเก็บอัฐิ
    07.00 น. พระสงฆ์-สามเณร บิณฑบาต
    07.30 น. ทำบุญ-ตักบาตร ถวายสังฆทานอุทิศองค์หลวงปู่
    09.30 น. อัญเชิญอัฐิหลวงปู่บรรจุในพระสิริสัตราชเจดีย์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เป็นเสร็จพิธี


    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ดิฉันอยู่จังหวัดยโสธร ได้รับข่าวนี้แล้วเช่นกันค่ะ
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
  4. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,683
    ค่าพลัง:
    +9,239
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่เจ้าค่ะ
     
  5. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ข่าวล่าสุดทราบว่า พรุ่งนี้ บ่ายโมงถึงบ่ายสี่โมงเย็น
    สรงน้ำหลวงปู่ค่ะ
     
  6. ฤาษีท้ายเรือ

    ฤาษีท้ายเรือ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +1,991
    จริงครับ..เศร้าตั้งแต่ตอนบ่ายๆ..แล้วครับ..
     
  7. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    [​IMG]


    สงฆ์ใดสาวกศาสดา...
    (รับพร้อมกัน) รับปฏิบัติมา แต่องค์สมเด็จภควันต์
    เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร- ลุทางที่อัน
    ระงับและดับทุกข์ภัย โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร
    ปัญญาผ่องใส สะอาดและปราศมัวหมอง
    เหินห่างทางข้าศึกปอง บมิลำพอง
    ด้วยกายและวาจาใจ เป็นเนื้อนาบุญอันไพ-
    ศาลแต่โลกัย และเกิดพิบูลย์พูนผล
    สมญาเอารสทศพล มีคุณอนนต์
    อเนกจะนับเหลือครา ข้อขอนบหมู่พระศรา-
    พกทรงคุณา- นุคุณประดุจรำพัน
    ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์ พระไตรรัตน์อัน
    อุดมดิเรกนิรัติสัย จงช่วยขจัดโพยภัย
    อันตรายใดใด จงดับและกลับเสื่อมศูนย์

    กราบนมัสการหลวงปู่ด้วยความเคารพอย่างสูง
     
  8. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    กราบหลวงปู่ด้วยความเคารพค่ะ
     
  9. ตาใน

    ตาใน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +382
    หลวงปู่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงแล้ว ที่เหลือก็แต่เราๆท่านๆที่ต้องเดินตามรอยพระศาสดา ให้ถึงที่สุดแห่งมรรคผลนิพพาน...สาธุ
     
  10. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    <TABLE height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=1003 align=center border=0><TBODY><TR height="100%"><TD vAlign=top align=middle width=823 bgColor=#dacaa8><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="98%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD>
    ประวัติหลวงปู่สอ พันธุโล

    ชีวประวัติ และปฏิปทาของหลวงปู่สอ พันธุโล ( พระครูภาวนากิจโกศล ) วัดป่าบ้านหนองแสง ตำบลสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
    [​IMG]
    ชาติภูมิ
    หลวงปู่สอ พันธุโล นามสกุล ขันเงิน ท่านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 8 ปีระกา ตรงกับวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2464 ที่บ้านทุ่งมน ตำบลทุ่งมน อำเภอลุมพุก ( คำเขื่อนแก้ว ) จังหวัดอุบลราชธานี ( ปัจจุบันคือจังหวัดยโสธร ) บิดาชื่อนายตา ขันเงิน มารดาชื่อนางขอ ขันเงิน มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 2 คน เป็นชายทั้งหมด คนแรกคือ หลวงปู่สอ พันธุโล คนที่สองคือ นายหมอ ขันเงิน ปัจจุบันอยู่ที่บ้านเดื่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย หลวงปู่สอ พันธุโล สมัยที่ท่านเป็นฆราวาสนั้นเป็นคนที่ชอบสนุกสนาน ร่าเริง เข้ากับหมู่คณะได้ทุกคน ขณะเดียวกันก็ยังเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความสามารถในการกล่าวกลอนสด ( ผญา ) ของคนอีสาน เป็นที่ชอบใจของผู้ฟังทำให้คนแปลกใจว่าทำไรหลวงปู่ จึงมีความสามารถมากเช่นนั้นจริงๆ ที่หลวงปู่สอ เรียนจบเพียงชั้น ป.3 แต่ถึงท่านจะชอบสนุกสนานรื่นเริง นิสัยประจำตัวอย่างหนึ่งของท่านที่มีอยู่โดยตลอด คือ ความอดทน ความขยันหมั่นเพียรซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติอันสำคัญยิ่งที่ส่งผลให้การทำความเพียรของท่านในภายหลังจากอุปสมบทแล้วมีความเด็ดเดียวมั่นคงและเจริญก้าวหน้าไปโดยลำดับ

    ครองฆราวาสวิสัย
    เมื่อครั้งที่ใช้ชีวิตฆราวาสอยู่นั้น เมื่ออายุได้ประมาณ 20 ปีเศษ หลวงปู่ได้แต่งงานกับนางบับ ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวบ้านเดียวกันนั่นเอง หลังจากแต่งงานมีครอบครัวแล้วความรับผิดชอบทุกอย่างก็ตกอยู่กับท่าน เพราะท่านเป็นหัวหน้าครอบครัวจะต้องตื่นแต่เช้าขยันทำการงาน หนักเอาเบาสู้โดยหวังจะให้ภรรยา และลูกๆ มีความสุข บางครั้งต้องเดินทางรอนแรมไปต่างจังหวัดเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว หลายครั้งเมื่อกลับมาถึงบ้านก็มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับภรรยาบ้าง ตามประสาของฆราวาสเหมือนลิ้นกับฟันที่ต้องกระทบกันอยู่ทุกวัน
    ในช่วงมีครอบครัวนี้ ท่านมีบุตร 3 คน ดังนี้คือ

    1. นางอ่าง ขันเงิน ปัจจุบันอยู่บ้านหนองแสง ตำบลสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
    2. เป็นผู้ชาย ( ไม่ทราบนาม ) ปัจจุบันได้เสียชีวิตแล้ว
    3. นางนาง ขันเงิน ปัจจุบันอยู่บ้านหนองแสง ตำบลสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

    สาเหตุแห่งการออกบวช
    ความคิดครั้งแรกก่อนแต่งงานท่านคิดว่าชีวิตจะมีความสุขมีความราบรื่น แต่สุดท้ายก็คิดได้ตามหลักสัจจะธรรม ว่าการมีครอบครัวเป็นการทำให้หมดอิสรภาพแทบทุกอย่าง ต้องแบกภาระมากมายจิตใจก็หมกมุ่นอยู่แต่ในเรื่องของฆราวาสวิสัยในกิจการงานจนไม่มีเวลาเป็นของตนเอง ชีวิตมีแต่ความทรมานเร่าร้อนเหมือนนั่งอยู่บนกองไฟ ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับฆราวาสโดยทั่วไปมากนัก นอกจากผู้มีบุญบารมีเก่าที่เคยสั่งสมมาในอดีตชาติเท่านั้น หลวงปู่ได้ตัดสินใจบอกความประสงค์ของท่านต่อภรรยาว่าท่านปรารถนาจะออกบวช เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายต่อการครองเรือนแต่ภรรยาของท่านก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสร้างเนื้อสร้างตัว และลูกก็เล็กอยู่ หลวงปู่ไม่ละความพยายามเมื่อมีโอกาสก็ขออนุญาตออกบวชอยู่เสมอ จนภรรยาของท่านต้องยินยอมแต่มีข้อแม้ว่าต้องออกบวชเพียง 15 วันเท่านั้น
    การบวชครั้งแรก
    ในปี พ.ศ.2496 ขณะอายุของหลวงปู่ได้ 32 ปี ท่านได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นครั้งแรก ณ พัทธสีมา วัดสร่างโศรก ( วัดศรีธรรมาราม ) ตำบลในเมือง อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระครูปลัดบุญสิงห์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสังฆ์รักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาสาย เป็นอนุสาวนจารย์ ได้รับฉายาว่า พันธุโล หลวงปู่สอ พันธุโล ได้เล่าว่าท่านมีความสุขใจ และมีความพอใจมากที่ได้บวชสมความตั้งใจ ทำให้มีความปลอดโปร่ง เหมือนบุคคลที่เป็นโรคแล้วหายจากโรค เหมือนบุคคลที่ถูกขุมขังแล้วหลุดพ้นจากที่คุม ขังจิตใจมีความสงบเยือกเย็น มองเห็นชีวิตแห่งการบวชเป็นทางที่จะแสวงหาความสุขได้อย่างแท้จริง ในการบวชครั้งนี้ หลวงปู่สอ ท่านพยายามที่จะทำตามกำหนดเวลาของภรรยาคือ บวช 15วัน แต่ในขณะที่บวชอยู่นั้นมีความรู้สึกสบายกายสบายจิต คิดว่าจะบวชให้นานที่สุด และท่านก็ได้ขอผัดผ่อนภรรยาเรื่อยมา สุดท้ายเมื่อครบ 15วัน ท่านก็ไม่ได้สึกตามที่ภรรยากำหนดไว้ จึงทำให้ท่านได้อยู่ในเพศพรหมจรรย์ และปฏิบัติธรรมเพื่อความสงบสันติแห่งใจเรื่อยมาถึง 2 พรรษา ในปี พ.ศ.2496 ซึ่งเป็นพรรษาแรก หลวงปู่สอ ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองแสง ตำบลสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ( ปัจจุบันอยู่วัดป่าบ้านนาคูณ ) เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้แนะนำ สั่งสอนข้อวัตรปฏิบัติ ตลอดถึงในการอบรมด้านสมาธิภาวนาครั้นต่อมาในพรรษที่สอง พ.ศ.2497 หลวงปู่สอ ท่านได้ไปจำพรรษา และฝึกภาวนาอยู่กับหลวงปู่ผั่น ปาเรสโก วัดป่าหนองใคร้ ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับวัดบ้านหนองแสง หลวงปู่สอ ท่านเล่าว่าในพรรษานี้ท่านได้ตั้งใจท่องปาฏิโมกข์ และสามารถท่องได้จบภายใน 29 วัน ซึ่งนับว่าเป็นพระผู้มีความเพียร และความจำดีเป็นเลิศผู้หนึ่ง และในขณะที่หลวงปู่สอ กำลังมีความสุขใจอยู่กับการปฏิบัติธรรมในช่วง 2 พรรษานี้ ก็จำต้องมีอุปสรรคเข้ามาขัดขวาง ทำให้ต้องจำใจสละเพศพรหมจรรย์ที่สูงส่งนี้ไป คือในปี พ.ศ.2498 ภรรยาของท่านได้มาขอร้องให้สึกออกเพื่อไปช่วยทำบ้านใหม่ ปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น เพื่อทำให้ครอบครัวได้เกิดความอบอุ่นใจ มีความมั่นคงในเรื่องที่อยู่อาศัย ซึ่งท่านก็จำใจที่จะต้องสึกออกไปด้วยความอาลัยเสียดาย ถึงกระนั้นก็ตามหลวงปู่สอว่า แม้ท่านจะออกไปเป็นฆราวาสแล้วก็ตาม แต่จิตใจยังมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นพระอยู่ และตั้งใจอย่างแน่วแน่ ว่าเมื่อใดหรือวันใดก็ตามที่ทำภารกิจทางครอบครัวเสร็จสิ้นลงแล้ว เมื่อนั้นหรือวันนั้นท่านจะเข้าอุปสมบททันที

    [​IMG]
    บวชครั้งสุดท้าย
    หลวงปู่สอ เล่าว่าการที่ท่านต้องจำใจสึกออกไปนั้น เนื่องจากบ้านเรือนที่ทำไว้ก่อนหน้านี้อยู่ในสภาพไม่ดี เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ท่านจะต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก ปรากฏว่าในช่วงนี้หลวงปู่ต้องทำงานทุกอย่างชนิดหามรุ่งหามค่ำไม่มีเวลาที่จะไปเที่ยวเตร่หรือสนุกสนานกับใคร มุมานะทำงานทุกอย่างด้วยตนเองอย่างอดทน ใช้เวลาอยู่ประมาณ 2 ปี งานต่างๆ จึงเสร็จเรียบร้อย

    ในตอนเย็นวันหนึ่งหลวงปู่สอ ท่านได้บอกความประสงค์ของท่านให้ภรรยาทราบว่า ท่านปรารถนาจะเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในครั้งนี้ภรรยาท่านไม่ห้าม แต่กลับอนุโมทนาในความตั้งใจดีของท่าน เมื่อตัดสินใจแน่วแน่เช่นนั้น ท่านจึงเดินทางลงไปภาคใต้เพื่อทำงานรับจ้างหาเงินมาซื้อเครื่องบริขารและจัดงานบวชของท่านเอง มีอยู่ครั้งหนึ่งซึ่งควรบันทึกไว้เพื่อแสดงถึงสัจจะบารมี และอธิษฐานบารมีของท่านก็คือครั้งนั้นขณะลงเรือไปในทะเลเพื่อข้ามฟากไปทำงานซึ่งอยู่จังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ เรือเกิดเครื่องเสียอยู่หลายวัน ช่างเครื่องพยายามแก้ไขอย่างไรก็แก้ไม่ได้ ในช่วงที่มีอุปสรรคเช่นนี้ หลวงปู่สอ ซึ่งขณะนั้นคือนายสอ ได้นั่งสมาธิแล้วตั้งจิตอธิฐานว่า " ข้าพเจ้ามาครั้งนี้ก็หวังที่จะหาเงินไปจัดงานบวชของตัวเอง ถ้าหากบุญที่ข้าพเจ้าจะได้บวชในพระพุทธศาสนามีอยู่ ขอให้เครื่องนี้ติด และใช้งานได้ดีดังเดิม " ปรากฏว่าเครื่องเรือเกิดติดขึ้นจริงๆ และเข้าสู่ฝั่งได้ ท่านทำงานได้เงินพอสมควรแล้วก็กลับบ้านหนองแสง เพื่อจัดงานบวชตามความตั้งใจ
    ในปีพ.ศ.2501 หลวงปู่สอ ท่านจึงได้อุปสมบทอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2501 ในขณะที่มีอายุ 37 ปี ณ พัทธสีมาวัดศรีธรรมาราม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร โดยมีพระอุปัชฌาย์ และพระอาจารย์สวดชุดเดิม เมื่อได้อุปสมบทแล้ว หลวงปู่สอ ท่านพยายามฝึกฝนอบรมตัวเอง ด้วยการทำข้อวัตรปฎิบัติ และฝึกสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอ ท่านได้เร่งประกอบความเพียรมากขึ้นโดยลำดับ เพราะท่านตั้งใจไว้อย่างแรงกล้าว่า ในการบวชครั้งนี้จะต้องให้รู้ธรรมให้เห็นธรรมให้ได้ ถ้าไม่รู้ไม่เห็นธรรมถึงจะตายก็ยอมตายไม่เสียดายชีวิต เพราะฉะนั้นหลวงปู่สอ ท่านจึงมีลักษณะเด็ดเดี่ยว และอาจหาญ ในการประกอบความเพียร และมีลักษณะนิสัยอย่างหนึ่งของท่าน ก็คือท่านไม่ชอบคลุกคลีกับหมู่คณะหรือกับญาติโยม หากมีธุระจำเป็นใดที่จะต้องเกี่ยวข้อง ก็จะทำหรือพูดแต่พอประมาณเท่านั้นเอง เพราะเหตุนี้เองเมื่อท่านยังอยู่ในวัยหนุ่มท่านจึงชอบเที่ยววิเวกไปตามสถานที่ต่างๆ ฝึกฝนอบรมจิตใจจนแข็งแกร่ง แม้เมื่อมีปัญหาอุปสรรคใดๆ เกิดขึ้นจากการภาวนาท่านจะรีบเข้าไปกราบเรียนขอคำแนะนำจากครูบาอาจารย์ผู้ที่เคารพนับถืออยู่เสมอ พระมหาเถระที่หลวงปู่ท่านให้เคารพนับถืออย่างยิ่ง และไปพักปฏิบัติธรรมรับการแนะนำสั่งสอนจากท่านเป็นประจำ คือ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน และหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีครูบาจารย์ที่ท่านได้เคยเดินทางไปธุดงค์ด้วยกัน เช่นหลวงปู่สาม อกิญจโณ หลวงปู่บัวพา วัดป่าพระสถิตย์ หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ และหลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร เป็นต้น
    ในพรรษาแรกนี้ หลวงปู่สอ ท่านได้จำพรรษาอยู่วัดบ้านหนองแสง ศึกษาอบรมข้อปฎิบัติอยู่กับหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ( ปัจจุบันอยู่วัดป่าบ้านนาคูณ อำเภอบ้านผือ ) พอออกจากพรรษาแล้วท่านจึงเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี เพื่อศึกษาข้อวัตรปฎิบัติกับหลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งในครั้งนั้น ท่านต้องเดินทางธุดงค์รอนแรมพักภาวนาไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้เร่งรีบอะไร กว่าจะถึงจังหวัดอุดรธานีก็ใช้เวลาหลายวัน และเมื่อเข้าสู่วัดป่าบ้านตาดอันเป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงที่ท่านปรารถนาแล้ว ก็เข้าถวายสักการะหลวงปู่บัว ญาณสัมปันโน มอบถวายกายใจให้ท่านอบรมสั่งสอน และทำให้การปฏิบัติธรรมของท่านก้าวหน้าไปโดยลำดับ
    ในปีพ.ศ.2502 ซึ่งเป็นพรรษาที่สองของหลวงปู่สอ พันธุโล ท่านได้จำพรรษาอยู่วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ในพรรษานี้ท่านได้เร่งความเพียร เพราะเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ศึกษาอบรมกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรม และในพรรษานี้เองที่หลวงปู่สอ ท่านได้นิมิตเห็นงูใหญ่ ตัวสีทอง เลื้อยเข้ามาหาในกุฎิในขณะนั่งสมาธิอยู่แล้วดันตัวท่านขึ้นขนดลำตัวเป็นวงกลมให้ท่านนั่ง ( ความละเอียดตอนนี้อ่านได้ในประวัติหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ ) ซึ่งนิมิตอันนี้เองเป็นจุดที่เริ่มต้นที่จะให้ได้มาซึ่งพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ " หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ " อันเป็นพระพุทธรูปคู่บุญบารมีหลวงปู่สอ ท่านเล่าว่าเมื่อปรากฏนิมิตเช่นนั้นแล้ว ท่านได้เล่าถวายหลวงปู่บุญมีฟัง ต่อมาเมื่อหลวงปู่มหาบัว ทราบ จึงได้เรียกท่านไปสอบถามความเป็นไปต่างๆ ในขณะเกิดนิมิต และสุดท้ายหลวงปู่มหาบัว ท่านได้สั่งกำชับไม่ให้พูดให้ใครฟังอีก มันจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่างไปสนใจให้พิจารณาลงสู่ไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพราะหากเราส่งใจหลงใหลได้ปลื้มไปกับนิมิตที่ปรากฏ จะทำให้การปฏิบัติธรรมเนิ่นช้า และอาจเกิดวิปลาส ได้ง่าย หลวงปู่สอ เอง ท่านก็รับฟังคำแนะนำ ตักเตือนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยดี
    พอถึงฤดูกาลออกพรรษา ซึ่งเริ่มย่างเข้าฤดูหนาวหลวงปู่สอ ได้กราบลาพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน ไปเที่ยวธุดงค์ แถวจังหวัดหนองคาย และจังหวัดเลยเพื่อหาประสบการณ์ ในสมัยนั้นเมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว ทั้งสองจังหวัดนี้ป่าเขายังอยู่อุดมสมบูรณ์มาก อาจเรียกได้ว่าเป็นลักษณะป่าช้าดงเสือ เมื่อเดินทางผ่านไปพบสถานที่ใดเหมาะแก่การเจริญจิตภาวนาท่านก็จะหยุดพักภาวนา 7 วันบ้าง 15 วันบ้าง บางแห่งพักนานเป็นเดือนๆ ก็มี และมีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านไปพักอยู่บ้านนาบะฮี มีอาชีพเป็นชาวไร่ทำมาหากินกันอยู่ 3 ครอบครัว ท่านได้อาศัยญาติโยมทั้ง 3 ครอบครัวนี้ในการบิณฑบาต บางวันก็ได้ข้าวกับเม็ดกะบก บางวันก็ข้าวกับพริก และปลาร้า ท่านบอกว่าแม้อาหารการฉันจะอัตคัดขัดสน แต่การทำความพากเพียรทำสมาธิภาวนาดีมาก จิตใจมีความปลอดโปร่งสบายไม่เป็นทุกข์ไม่เป็นกังวลกับสิ่งใดๆ ตรงที่หลวงปู่สอ พักภาวนานี้ เป็นถ้ำที่ชาวบ้านเรียกว่า " ถ้ำพระ " ถ้ำแห่งนี้สมชื่อสมนามจริงๆ เพราะคนจะอยู่ได้ต้องมีจิตใจเป็นพระ คือ ต้องมีความอดทนเข้มแข็งจริงๆ ถ้าใครอยากจะเป็นพระให้มาภาวนาที่ถ้ำนี้ เมื่อเที่ยวธุดงค์ แสวงหาความสงบเย็นใจไปตามจังหวัดต่างๆพอสมควรแล้ว หลวงปู่สอ จึงวกกลับมาทางจังหวัดอุดรธานีอีก

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><!--<tr height="10"><td></td></tr>--></TBODY></TABLE>
    <SCRIPT> function callfrm(dest){ frmConsole.target = "_self" frmConsole.action = dest frmConsole.method = "POST" frmConsole.submit() } </SCRIPT></TD></TR><TR bgColor=#45342a height=20><TD style="FONT-SIZE: 12px; COLOR: #b8a37e" align=middle colSpan=2>Copyright by luangphorjedkasatra</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    หลวงปู่สอ พันธุโล เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านหนองแสง จังหวัดยโสธร ได้มรณภาพอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2552 เวลาประมาณ. 15.50น.

    ขณะนี้ตั้งศพอยู่ที่ วันป่าบ้านหนองแสง จังหวัดยโสธร กำหนดรดน้ำศพตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 เป็นต้นไป

    กำหนดการประชุมเพลิงศพ

    - วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2552


    หมายเหตุ - หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

    Link ที่เกี่ยวข้อง - -:-
     
  12. ณ.วชิรา

    ณ.วชิรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +422
    ที่สุดแห่งทุกข์ คือ พระนิพพาน

    ที่สุดแห่งขันธ์ คือ ความตาย

    ท่านพระอาจารย์สอ พันธุโล

    ถึงแล้วซึ่งอนุปาทิเสสนิพพาน อันเป็นบรมสุข

    คือพระอริยะบุคคลสูงสุดในบวรพุทธศาสนา
     
  13. อคติ

    อคติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +395
    สาธุธรรม บทสุดท้าย

    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. ligore

    ligore เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +5,807
    กราบหลวงปู่ด้วยเศียรเกล้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • dscn6245.jpg
      dscn6245.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.6 KB
      เปิดดู:
      207
    • dscn6250.jpg
      dscn6250.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.4 KB
      เปิดดู:
      233
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  15. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    กราบหลวงปู่ด้วยเศียรเกล้าครับ ยังไม่เคยกราบท่านเลย TT
     
  16. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    กราบนมัสการหลวงปู่สอ พันธุโล น้อมส่งหลวงปู่สู่พระนิพพาน
    พระอริยเจ้าผูทรงศ๊ลบริสุทธิ์


    เมื่อวานหลวงปู่บุญมีท่านได้กำหนดวันประชุมเพลิง ลป.สอแล้ว คือวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2552
    จึงขอแจ้งมายังสมาชิกทุกท่านทราบ
    พี่ที่ร่วมขบวนเคลื่อนศพไปยังวัดเล่าให้ฟังว่า
    เมื่อวานเกิดเหตุอัศจรรย์ หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ที่ศาลาหลั่งน้ำตา
    โดยเห็นเป็นคราบน้ำตาคล้ายคนร้องไห้ครับ
    อันนี้ผมรับฟังมาอีกที โปรดใช้วิจารณญาณนะครับ
    สาธุ ลูกหลานขอกราบนมัสการหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ด้วยความเคารพ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • img_2546.jpg
      img_2546.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.1 KB
      เปิดดู:
      398
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  17. ผงธุลี

    ผงธุลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    476
    ค่าพลัง:
    +2,494
    กราบนมัสการหลวงปู่

    ขอหลวงปู่สู่แดนนิพพาน
     
  18. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]

    [​IMG]



    หลวงปู่ท่อน ญาณธโร มาเยี่ยม หลวงปู่สอ พันธุโล
     
  19. apholpra

    apholpra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +947
    กราบนมัสการหลวงปู่สอ พันธุโล
    ข้าน้อยขอร่วมส่งหลวงปู่สู่แดนพระนิพพานครับ
     
  20. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]




    นโมฯ
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ
    พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติดีแล้ว ข้าพเจ้าขอบนอบน้อมพระสงฆ์<O:p</O:p

    กราบน้อมนมัสการพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระอริยสงฆเจ้า ขออารธนาพระเดชพระคุณอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าสิ้นกาลทุกเมื่อสิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าหามิได้ถ้าเว้นไว้แต่พระอริยสงฆ์เจ้าป็นที่พึ่งแก่ข้าฯ เที่ยงแท้นักหนาชัยมงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดมีแก่ข้าฯ ด้วยคำสัจนี้เถิด สาธุ สาธุ สาธุ





    [​IMG]





    น้ำจิตเมตตากรุณา ของหลวงปู่ฯ


    ลูกหลานกราบขมาฯ หลวงปู่ฯ เจ้าค่ะ ...
    เมื่อเดือนที่แล้ว วันอาทิตย์ที่ ๑๘ ต.ค. ลูกมีโอกาสได้เข้าเยี่ยมกราบ - บำรุงธาตุขันธ์หลวงปู่ฯ ขณะเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ที่ รพ. วิชัยยุทธ ก่อนแพทย์แจ้งว่า อาการหลวงปู่ดีขึ้น จะกลับยโสธรได้ในวันพฤหัสฯ

    .... จำประทับใจ ติดตา ขณะที่หลวงปู่ฯ มองด้วยความเมตตา กรุณา ใจนึกน้อมคุณ ฯ ....
    มาวันนี้ รับรู้พระคุณท่านฯ คนเราตายแทนกันได้ ด้วยความกตัญญูตาสูงสุด.


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.752230/[/MUSIC]​




    <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...