หลวงปู่สอ พันธุโล พระป่าสายหลวงปู่มั่น

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 22 พฤศจิกายน 2011.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    "พระครูภาวนากิจโกศล" หรือ "หลวงปู่สอ พันธุโล" วัดป่าบ้านหนองแสง ต.สิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร พระป่ากัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    มีความเคร่งครัดในการปฏิบัติ จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน

    อัต โนประวัติ เกิดในสกุล ขันเงิน เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 8 ปีระกา ตรงกับวันที่ 7 กรกฎาคม 2464 ที่บ้านทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.ลุมพุก (คำเขื่อนแก้ว) จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันคือจังหวัดยโสธร) โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายตา ขันเงิน และ นางขอ ขันเงิน มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 2 คน เป็นชายทั้งหมด ท่านเป็นบุตรชายคนโต

    ในสมัยหนุ่มเป็นฆราวาสนั้น นายสอเป็นคนที่ชอบสนุกสนานร่าเริง เข้ากับหมู่คณะได้ทุกคน ขณะเดียวกัน ยังเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความสามารถในการกล่าวกลอนสด (ผญา) ของคนอีสาน เป็นที่ชอบใจของผู้ฟัง แม้เรียนจบเพียงแค่ชั้นป.3

    ถึงจะชอบสนุกสนาน รื่นเริง แต่มีนิสัยประจำตัวอย่างหนึ่ง คือ ความอดทน ความขยันหมั่นเพียร นับว่าเป็นคุณสมบัติอันสำคัญยิ่งที่ส่งผลให้การทำความเพียรของท่านในภายหลัง จากอุปสมบทแล้วมีความเด็ดเดี่ยวมั่นคงและเจริญก้าวหน้าไปโดยลำดับ

    กระทั่งอายุได้ประมาณ 20 ปี ได้แต่งงานกับนางบับ หญิงสาวชาวบ้านเดียวกัน

    หลัง จากแต่งงานมีครอบครัว ด้วยความเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำให้ต้องตื่นแต่เช้าขยันทำการงาน หนักเอาเบาสู้ โดยหวังจะให้ภรรยาและลูกๆ มีความสุข บางครั้งต้องเดินทางรอนแรมไปต่างจังหวัด เพื่อหาเงินมาจุนเจือเลี้ยงครอบครัว

    ต่อมา ท่านเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิต ตัดสินใจบอกภรรยาว่าจะขอออกบวช

    ใน ปี พ.ศ.2496 ขณะอายุได้ 32 ปี นายสอได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นครั้งแรก ณ พัทธสีมา วัดสร่างโศรก (วัดศรีธรรมาราม) ต.ในเมือง อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี มีพระครูปลัดบุญสิงห์ เป็นพระอุปัชฌาย์

    ภายหลังอุปสมบท พระสอมีความพอใจมาก มีความปลอดโปร่ง เกิดความสงบเยือกเย็น มองเห็นชีวิตแห่งการบวชเป็นทางที่จะแสวงหาความสุขได้อย่างแท้จริง

    ใน การบวชครั้งนี้ ท่านพยายามที่จะทำตามกำหนดเวลาของภรรยา คือ บวช 15 วัน แต่ในขณะที่บวชอยู่นั้นมีความรู้สึกสบายกายสบายจิต คิดว่าจะบวชให้นานที่สุด และท่านก็ได้ขอผัดผ่อนภรรยาเรื่อยมา

    สุดท้ายเมื่อครบ 15 วัน ท่านก็ไม่ได้สึกตามที่ภรรยากำหนดไว้ จึงทำให้ท่านได้อยู่ในเพศบรรพชิตและปฏิบัติธรรม แสวงหาความสงบ

    พ.ศ.2496 ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองแสง ต.สิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ (ปัจจุบันอยู่วัดป่าบ้าน นาคู) เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้แนะนำสั่งสอนข้อวัตรปฏิบัติ ตลอดถึงในการอบรมด้านสมาธิภาวนา

    แต่ด้วยสาเหตุจากครอบครัวทำให้ท่านจำใจต้องลาสิกขา แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ท่านก็ตั้งใจว่าเมื่อมีโอกาสจะกลับมาบวชอีก

    พ.ศ.2501 หลวงปู่สอ ได้อุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2501 ขณะมีอายุ 37 ปี ณ พัทธสีมา วัดศรีธรรมาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร โดยมีพระครูปลัดบุญสิงห์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสังฆรักษ์ เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ และพระมหาสาย เป็น อนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พันธุโล

    เมื่อ ได้อุปสมบทแล้ว หลวงปู่สอ พยายามฝึกฝนอบรมตัวเอง ด้วยการทำข้อวัตรปฏิบัติ และฝึกสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอ ท่านได้เร่งประกอบความเพียรมากขึ้นโดยลำดับ

    ครั้น มีปัญหาอุปสรรคจากการภาวนา ท่านจะเข้าไปกราบเรียนขอคำแนะนำจากครูบาอาจารย์ผู้ที่เคารพนับถืออยู่เสมอ พระมหาเถระที่หลวงปู่ท่านให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง และไปพักปฏิบัติธรรมรับการแนะนำสั่งสอนจากท่านเป็นประจำ คือ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

    นอกจากนี้ ยังมีครูบาอาจารย์ที่ท่านได้เคยเดินทางไปธุดงค์ด้วยกัน อาทิ หลวงปู่สาม อกิญจโน, หลวงปู่บัวพา วัดป่าพระสถิตย์, หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ และ หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร เป็นต้น

    สุดท้าย หลวงปู่สอ ได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองแสง ต.สิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

    พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูภาวนากิจโกศล

    ด้วย วัยชราภาพ หลวงปู่สอ มีอาการอาพาธเป็นประจำ คณะศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่สอ ได้นิมนต์ท่านไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลยโสธร จนกระทั่ง วันที่ 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา 15.47 น. หลวงปู่สอ ได้มรณภาพด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต สิริอายุ 88 ปี 4 เดือน 4 วัน พรรษา 51

    นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของชาวเมืองยโสธร ที่ได้สูญเสียพระอริยสงฆ์อันเป็นเสาหลักอย่างไม่มีวันกลับคืน

    ที่มา.
     
  2. คุณอัด

    คุณอัด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2011
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +31
    อยากทราบว่าอัฐิของหลวงปู่อยู่ที่วัดไหนครับ ผมอยากไปกราบ ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสไปกราบท่านโดยรู้จักท่านจากเวปบ้านเรือนไทย เป็นที่น่าปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด เพราะเวลาที่ผมเข้าไปเป็นเวลาที่หลวงปู่ท่านจำวัดแล้ว พอเดินขึ้นไปบนบ้านได้สักพักท่านก็ออกมาจากห้องที่ท่านจำวัด เหมือนท่านรอผมไปเลย พอเช่าหลวงพ่อเจ็ดกษัตรแล้วไปให้หลวงปู่ท่านภาวนาให้อีกที่ ท่านทำให้พร้อมรดน้ำมนต์และเป่าคาถาให้และฟังว่าห้ามทำร้ายงูตลอดไป เขียนถึงอยู่นี้ยังดีใจไม่หายเลย พอเสร็จท่านก็กลับเข้าห้องไปเลย
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    [​IMG]
    ดิฉันเคยไปกราบท่าน ๒ ครั้งค่ะ
    ครั้งแรกท่านอาพาธ ไปกับคณะศิษย์ที่มาจากออสเตรเลีย
    ครั้งที่๒ ท่านมรณภาพแล้วค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...