หลวงปู่ม่วง นาคเสโน

วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5624​

หลวงปู่ม่วง นาคเสโน เกจิดังลุ่มน้ำแม่กลอง

คอลัมน์ มงคลข่าวสด

พระเกจิคณาจารย์เรืองวิทยาคมชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง แม้จะมีจำนวนไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่ล้วนแต่ถึงมรณภาพกันไปหลายรูปหลายองค์ เป็นเวลานานปี คงเหลือเพียงแต่ชื่อเสียงเกียรติคุณอันเลื่องลือ ที่ยังคงเป็นที่ยอมรับนับถือกันมาจนตราบทุกวันนี้

แต่ในเขตจังหวัดราชบุรี ยังปรากฏนาม พระครูสุนทรจริยาวัตร (ม่วง นาคเสโน) หรือที่รู้จักกันดีในนาม หลวงปู่ม่วง แห่งวัดยางงาม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

อาจกล่าวได้ว่า หลวงปู่ม่วง เป็นพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลองรูปสุดท้ายแล้วก็ว่าได้

ปัจจุบัน หลวงปู่ม่วง สิริอายุ 95 พรรษา 75 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปากท่อ จ.ราชบุรี และเจ้าอาวาสวัดยางงาม



อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ม่วง พุ่มโรจน์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2455 ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ปีชวด ณ บ้านหมู่ที่ 5 ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

ครั้นอายุ 20 ปีถึงวัยเกณฑ์ทหาร นายม่วงได้เข้ารับการคัดเลือกเกณฑ์ทหาร ปรากฏว่าจับได้ใบดำ จึงตัดสินใจอุปสมบท

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2474 ณ พัทธสีมาวัดปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยมีพระครูอินทเขมาจารย์ (พระราชเขมาจารย์) วัดช่องลม อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการเทียน วัดป่าไก่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาสุข (พระราชธรรมเสนานี) วัดปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ พระม่วงได้มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ในทางพระปริยัติธรรม จนเป็นที่ยอมรับของพระอาจารย์และพระภิกษุรุ่นราวคราวเดียวกัน พ.ศ.2476 สามารถสอบได้ นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนวัดปากท่อ พ.ศ.2478 สอบได้นักธรรมชั้นโท และ พ.ศ.2480 จบพระปาฏิโมกข์

แม้ในชั้นแรก ตั้งใจบวชเรียนเพียง 2-3 พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาร่ำเรียนพระปริยัติธรรม เกิดความซาบซึ้งในรสพระธรรมคำสอน จนไม่คิดอยากลาสิกขา

ท่านตัดสินใจเดินทางมาอยู่ที่วัดยางงาม ร่วมกับพระลูกวัดและชาวบ้านพัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง จัดสอนธรรมะ เปิดโรงเรียนสอนพระอภิธรรม มีชาวบ้านมาเรียนมากมาย

ต่อมาได้จัดให้มีการบวชชีพราหมณ์ ในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมกันอย่างมากและยังมีบวชสามเณรภาคฤดูร้อน

งานด้านการศึกษา พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม พ.ศ.2501 เป็นเจ้าสำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดยางงามและเป็นผู้อุปการะโรงเรียนประชาบาลวัดยางงาม

ในการส่งเสริมการศึกษาหรือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หลวงปู่ม่วงยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จัดอบรมศีลธรรมจริยธรรมแก่ประชาชนทั่วไป จัดให้มีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน อบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานทุกปี จัดสวดพระปาฏิโมกข์และฟังอ่านพระปาฏิโมกข์แปล ทุกวันพระ 14-15 ค่ำ กลางเดือนและสิ้นเดือน

จัดให้มีการพิมพ์หนังสือ บทความธรรมะ แจกจ่ายแก่พระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป รวมทั้งจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาในเขตโรงเรียนประถมศึกษาต่างๆ และการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์

งานสาธารณูปการ จัดการบูรณะและพัฒนากุฏิสงฆ์ทรงไทยเรือนไม้ ศาลาหอฉัน สร้างสะพานข้ามคลองยาว 15 เมตร กว้าง 2 เมตร เพื่อประโยชน์ส่วนรวม จัดสร้างถาวรวัตถุอีกมากมายให้วัดและประชาชน

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม ณ สำนักเรียนวัดยางงาม พ.ศ.2488 เป็นเจ้าคณะตำบลจอมประทัด

พ.ศ.2501 เป็นเจ้าอาวาสวัดยางงามและเจ้าคณะตำบลปากท่อ

พ.ศ.2508 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2540 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอปากท่อ

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2501 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูสุนทรจริยาวัตร

พ.ศ.2521 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม

หลวงปู่ม่วง เป็นพระที่มีความเมตตา ไม่เคยดุด่าว่าใคร ทำให้ชาวบ้านต่างเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ท่านเคยปรารภว่า อยากให้ทุกคนมีความเมตตา ด้วยมีเมตตาแล้ว สิ่งดีจะบังเกิดผลตามมา

นอกจากนี้ มีคำร่ำลือกันว่าหลวงปู่ม่วงมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ พูดสิ่งใด มักจะเป็นอย่างที่พูดเสมอ

ส่วนคณะศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือมีทุกชนชั้น ตั้งแต่ ข้าราชการ นักการเมือง พ่อค้าประชาชน ไปจนถึงประชาชนระดับรากหญ้า

ด้านวัตถุมงคลชื่อดังที่หลวงปู่ม่วงได้จัดสร้าง เป็นที่ปรารถนาของบรรดาศิษยานุศิษย์ ด้วยแสดงอิทธิฤทธิ์มากมาย วัตถุมงคลที่เคยทำออกมา อาทิ เหรียญหลวงปู่ม่วง จัดสร้างปี พ.ศ.2528 ในงานปิดทองฝังลูกนิมิต เป็นเหรียญรุ่น 1 ต่อมา ได้จัดทำเชือกมงคลด้าย 7 สี รูปหล่อลิงคู่ พระปิดตา 5 เหลี่ยม เหรียญลงยา พระปิดตา แต่ละรุ่นมีประวัติไม่ซ้ำ

สำหรับวัตถุมงคลของหลวงปู่ม่วงที่ลูกศิษย์ได้ไปบูชานั้น ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า โดดเด่นในด้านเมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพัน

เคยมีผู้ที่มีประสบการณ์จากอุบัติเหตุ แต่รอดพ้นภยันตราย แคล้วคลาดไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทำให้เชื่อมั่นถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ม่วง คอยคุ้มครองปกปักรักษาอย่างปลอดภัย

ทำให้ประชาชนชาวจังหวัดราชบุรีและประชาชนทั่วประเทศ มุ่งหน้าเดินทางมาที่วัดยางงาม เพื่อขอพรและให้หลวงปู่เสกเป่ากระหม่อม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตอีกด้วย

ชาวบ้านที่เดินทางมาเข้าร่วมพิธีอุปสมบทหรือบวชชีพราหมณ์ หลวงปู่ม่วงจะเป็นผู้ที่สั่งสอนด้วยตนเอง โดยจะเน้นให้ทุกคนปฏิบัติตนให้เป็นคนดีและให้มีจิตใจเมตา เมื่อมีความเมตตาแล้วทุกอย่างจะตามมาและประสบความสำเร็จ

สิ่งที่หลวงปู่ม่วงได้กล่าวย้ำให้ทุกคนฟังและจำให้ขึ้นใจว่า "ขอให้ทุกคนจงรักษาศีล ทำแต่ความดี เมตตาเขาเขาเมตตาเรา ธรรมะจะรักษาคน ธรรมะจะรักษาตัว ธรรมะจะรักษาใจ ทั้งหมดจะรวมไว้ในเมตตาธรรม แจกธรรมะดีกว่าแจกพระเครื่อง" ถึงแม้อายุขัยจะล่วงเข้าสู่วัย 95 ปี แต่ด้วยความมีเมตตาเป็นที่ตั้ง หลวงปู่ม่วง มักจะถูกนิมนต์ให้ไปนั่งร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอยู่เป็นเนืองนิตย์ ประกอบกับมีร่างกายที่ยังแข็งแรง มีความคิดมุ่งมั่นพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

สิ่งเหล่านี้ ทำให้ท่านมุ่งมั่นทำงานเผยแผ่พระธรรมอย่างต่อเนื่อง ยึดมั่นที่จะเดินหน้าให้ทุกคนได้รับความรู้สัจธรรมแห่งชีวิต

สมกับฉายานาม พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง!!