หมอดูเซียนเต่า “แขวนพระพกของขลังนับร้อยชิ้น”

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 6 มิถุนายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    คมชัดลึก : อ.ฉัตรประเสริฐ รวยโภคทรัพย์ ชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่รู้จักและคุ้นหูของคนทั่วๆ ไป ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว เป็นชื่อและนามสกุลจริงของ “หมอดูเซียนเต่า”
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";/* Kom-newdesign338x280story */google_ad_slot = "7614892621";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><IFRAME id=google_ads_frame1 style="LEFT: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&dt=1244273790859&lmt=1244273790&output=html&slotname=7614892621&correlator=1244273790859&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20090606%2F15685%2F%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E2%80%9C%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E2%80%9D.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fsection%2F%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87.html&frm=0&ga_vid=3097059430614307300.1243130352&ga_sid=1244273764&ga_hid=1002259122&ga_fc=true&flash=9.0.47.0&w=336&h=280&u_h=864&u_w=1152&u_ah=834&u_aw=1152&u_cd=32&u_tz=420&u_his=3&u_java=true&dtd=109&xpc=A3PcKwVeqB&p=http%3A//www.komchadluek.net" frameBorder=0 width=336 scrolling=no height=280 allowTransparency></IFRAME></INS></INS>

    นอกจากนี้แล้ว ภาพหนึ่งที่เห็นจนชินตาสาธารณชน คือ หมอดูเซียนเต่าจะแต่งตัวด้วย ชุดขาวแบบจีน จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปแล้ว
    หมอดูเซียนเต่า บอกว่า ปกติแล้วเวลาเมื่อไปดูหมอให้ใครจะใส่สูทผูกเนกไท แต่ตอนนี้เป็นนักบวชในลัทธิเต๋า เลยต้องแต่งตัวด้วยชุดขาวแบบจีน ถือศีล ๘ ประพฤติพรหมจรรย์ ตื่นมาประมาณ ๐๔.๐๐ น. ทุกวัน เพื่อมาสวดมนต์ ไหว้พระ เดินจงกรม เจริญจิต เข้าวิปัสสนา แล้วสวดมนต์แผ่เมตตา ทั้งนี้จะสวดแผ่เมตตาวันละ ๒ ครั้ง คือ ก่อนนอนและตอนเช้า เพื่อแผ่เมตตาให้แก่ลูกศิษย์ทั้งหลาย เพราะเมื่อเขาเชื่อเราแล้ว เราแนะนำให้เขาปฏิบัติแล้ว เราแผ่เมตตาให้เขา เขาก็จะเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น
    ส่วนการเข้าวิปัสสนากรรมฐานจะทำก็ต่อเมื่อทายอะไรออกไปแม่นเกินไป เราต้องรีบไปแก้ เราต้องแก้ในตัวเรา เพราะถ้าไม่ทำ มันจะเข้าตัวเรา เพราะว่าครูบาอาจารย์สายวิปัสสนาสอนมา
    ทั้งนี้ได้ไปศึกษาและฝึกปฏิบัติวัดป่าพระสายธรรมยุต แถว จ.อุดรธานี สกลนคร เป็นพระสายป่าสอนการวิปัสสนา
    อย่างไรก็ตาม ระหว่างการดูดวงนั้น จะพยายามสอดแทรกหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนา เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่างๆ
    และบุญอย่างหนึ่งที่แนะนำให้ลูกศิษย์ไปทำเป็นอันดับแรก คือ ทำบุญกับพ่อแม่ กตัญญูต่อพ่อแม่ รวมทั้งผู้มีคุณ เพราะพ่อแม่ถือว่าเป็นพระอรหันต์ของลูก ไม่มีพรใดประเสริฐ หรือดีเทียบเท่าพรจากปากพ่อแม่ แต่คนส่วนใหญ่มักนึกถึงพระ นึกถึงวัด แท้ที่จริงแล้วเราควรนึกถึงพ่อแม่เป็นอันดับแรก
    ส่วนการทำบุญกับพระที่วัดนั้น ต้องทำหลังจากทำให้พ่อแม่อยู่ดีกินดี จากนั้นก็ค่อยไปทำบุญทำทานทีหลัง หากใครทำได้ชีวิตย่อมดีขึ้นแน่นอน
    ทั้งนี้หมอดูเซียนเต่ายอมรับว่า ก่อนหน้านี้เป็นคนที่โลภมากในการดูดวง เคยได้ค่าดูครั้งละหลายหมื่น ก็ขยับขึ้นเป็นหลักแสน และหลักล้านก็เคยได้มาหลายครั้ง ยิ่งได้ยิ่งทำให้เกิดความโลภ ทั้งๆ ที่เมื่อแรกเริ่มได้ค่าดูเพียง ๕ บาทเท่านั้น
    ขณะเดียวกันก็นำเงินที่ได้ไปเล่นหุ้น ซื้อทองคำ รวมทั้งซื้อที่ดิน ในที่สุด ทุกอย่างก็ต้องเริ่มที่ศูนย์ใหม่ แต่หลังจากถือบวชและปฏิบัติธรรม ความโลภไม่ได้หมดลงเสียเลยทีเดียว ยังมีอยู่บ้าง ส่วนเงินที่ได้จะนำส่วนหนึ่งไปสร้างวัดบางสนามดิน อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด โดยตั้งใจว่าจะสร้างโบสถ์ และพระมหาเจดีย์อยู่บนหลังเต่ายักษ์ ขณะเดียวกัน ก็จะไปทำบุญกับวัดสายป่าเป็นประจำ
    นอกจากอุปกรณ์ในการดูหมอ ซึ่งอาจจะเรียกว่า เครื่องมือหากิน ที่หมอดูเซียนเต่าบอกว่า ขาดไม่ได้ แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่หมอดูเซียนเต่าบอกว่าขาดไม่ได้ และสำคัญพอๆ กับเครื่องมือหากิน คือ พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง รวมทั้งวัตถุมงคล ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยอาจจะคิดไม่ถึงว่า หมอดูเซียนเต่าแขวนพระเครื่อง พกเครื่องรางของขลังนับร้อยๆ ชิ้น ทั้งที่แขวนไว้ในคอ ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ในย่ามสะพายติดตัวไว้ตลอดเวลา
    สำหรับพระเครื่องที่แขวนติดตัวเป็นประจำ เป็นพระที่ได้จากเซียนพระทั้งสิ้น โดยแต่ละท่านให้มาด้วยความเมตตา เช่น บอย ท่าพระจันทร์ ป๋อง สุพรรณ ต๋อย เมืองนนท์ หมู วิเชียรบุรี รวมทั้งองค์พ่อจตุคามรามเทพ
    ส่วนเครื่องรางของขลังนั้น จะเน้นไปทางเมตตามหานิยมเป็นหลัก เช่น ปลัดขิก จากฆราวาส และพระเกจิหลายสำนัก ตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี อิ้น และที่ขาดเสียไม่ได้ คือ อีเป๋อ ที่ได้รับมอบจากอาจารย์ชาวเขมร
    “พระเครื่อง และเครื่องรางของขลังนับร้อยๆ ที่ผมแขวน ล้วนเป็นของดีทั้งนั้น ดีคนละแบบ ที่สำคัญคือ ผมได้สัมผัสเห็นประสบการณ์มาด้วยตัวเอง เมื่อเป็นของดีผมจึงพกของดีติดตัวไว้ตลอด นอกจากนี้แล้ว ทุกครั้งหลังดูหมอให้เพื่อความเป็นสิริมงคล ผมจะใช้มีสีผึ้งว่านเสน่ห์จันทร์ ที่ได้จากอาจารย์ชาวลาวท่านหนึ่ง ทั้งนี้จะเจิมหน้าผากให้ลูกศิษย์ทุกคน“ นี่คือคำยืนยันของหมอดูเซียนเต่า
    พร้อมกันนี้ หมอดูเซียนเต่ายังบอกด้วยว่า ในจำนวนเครื่องรางทั้งหมด ประคำของ อาจารย์หลี่ เทียนเต๊ก ผู้เป็นอาจารย์สอนวิชาหมอดู ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องรางที่ใช้สำหรับเตือนสติตนเองได้เป็นอย่างดี
    ซึ่งครั้งหนึ่งอาจารย์หลี่มาเข้าฝัน พร้อมกับบอกว่า วิชาที่สอนให้ผมนั้น มันเป็นวิชาฟ้าและดิน เป็นวิชาสูงส่ง ต้องการให้ไว้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่ใช่ให้เอามาขูดรีดเอากับชาวบ้านกิน
    หลังจากอาจารย์มาเข้าฝัน ดูดวงให้ใครไม่ได้เลย มันมืดไปหมดเลยครับ ไม่ว่าจะแก้ไขอย่างไรก็ไม่เป็นผล เมื่อทำบุญสุนทานแก้กรรม สามารถดูดวงได้เหมือนเดิม
    ส่วนค่าดูดวงไม่ได้เรียกร้องเหมือนก่อนแล้ว ลูกศิษย์จะให้เท่าไรก็ใส่ซองมา ซองเหล่านั้น อาจารย์เอาไปทำบุญตามวัดต่างๆ ส่วนคนจนนั้น ถ้าจนจริงๆ ก็ดูให้ฟรี
    เมื่อถามถึงการดูดวงให้ตัวเอง หมอดูเซียนเต่า ตอบว่า “อายุประมาณ ๔๘ ปี ผมจะตาย คนที่รู้ปีตายอาจจะเลือกทำประกันชีวิต เพื่อคนข้างหลัง โดยลืมเรื่องสำคัญไปอย่างสนิท ตอนนี้ผมอายุ ๓๔ ปี ซึ่งหมายความว่า นับจากปีนี้เป็นต้นไป ผมมีเวลาอีกประมาณ ๑๔ ปี สำหรับสร้างบุญบารมี ผมว่าบุญบารมีสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ซึ่งอาจจะช่วยยืดเวลาตายให้ยาวขึ้นได้ แต่ที่สุดแล้วไม่มีใครหนีความตายไปได้ เมื่อรู้ว่าต้องตาย ก็ต้องรีบทำบุญเพื่อเป็นเสบียงสะสมไปใช้ในชาติภพหน้า ”

    เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"
     
  2. เบนนี่ เทพพงศ์

    เบนนี่ เทพพงศ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +28
    อึม ของขลังก็คงช่วยไม่ได้ถ้าจะตายซะอย่าง อย่างนี้มีไว้ทําไม อยากรู้เหมือนกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...