หนุ่มอุดรฯรอดปาฏิหาริย์ พายุถล่มเสาไฟทับรถ-เชื่อบารมีหลวงปู่ทวด

วันพุธ ที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2563, 19.49 น.


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเรื่องราวเหนือปาฏิหาริย์ หนุ่มวัย 25 ปีทีจ.อุดรธานี เผยภาพนาทีรอดจากไฟฟ้าแรงสูงล้มทับรถยนต์ รอดตายได้เพราะบารมีหลวงปู่ทวดแขวนอยู่ในกระจกหน้ารถ ส่วนความช่วยเหลือชาวบ้าน ทางปลัดอำเภอและทหารเร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัย พบกระจายไปหลายอำเภอเสียหายกว่า 1,000 หลังคาเรือนเศษ คนอุดรลุ้นพายุจ่อเข้าอีกลูกในคืนนี้วันสุดท้ายตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา



หนุ่มวัยเบญจเพสชาวอุดรรอดตายหลังโดนพายุถล่มโค่นเสาไฟฟ้าทับรถยนต์ต่อหน้าต่อตา เชื่อบารมีหลวงปู่ทวดที่แขวนอยู่ในรถ โดยวันนี้ (4 มี.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่จ.อุดรธานีตั้งแต่คืนวันที่ 2 มี.ค.และช่วงเย็นวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายทั้งบ้านเรือนประชาชนพังพายุถล่มเสียหายเป็นจำนวนมาก กระจายไปในหลายอำเภอ รวมแล้วบ้านเรือนประชาชนเสียหายเป็นพันๆ หลังคาเรือน โดยเฉพาะในพื้นที่อ.เมือง, อ.หนองหาน อ.กุมภวาปี, อ.ศรีธาตุ, อ.กู่แก้ว, อ.เพ็ญ อ.บ้านผือ นอกจากนี้ยังมีป้ายขนาดใหญ่ล้มทับ รถนต์เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นเป็นร้อยๆ ต้น



และมีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับหนุ่มวัย 25 ปีแรงพายุทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นทับรถยนต์คนขับรอดตายราวปาฏิหาริย์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือนายกิตติชัย สมมี อายุ 25 ปี ชาวบ้านบ้านดอนหวาย หมู่ 8 ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.วานนี้ (3 มี.ค.63) โดยขณะที่นายกิตติชัยกำลังขับรถยนต์ปิคอัพยี่ห้ออีซูซู สีฟ้าอ่อน หมายเลขทะเบียน ผต 728 อุดรธานี กำลังจะขับเข้าหมู่บ้าน เกิดพายุฤดูร้อนทั้งฝนและลมแรงอย่างมากพัดผ่านพอดี จนทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ข้างถนนล้มทับรถยนต์ของนายกิตติชัยบริเวณกระโปรงหน้ารถ แต่นายกิตติชัยรอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเจ้าตัวเชื่อว่ารอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์เพราะบารมีของหลวงปู่ทวดที่แขวนเอาไว้บริเวณกระจกส่องหลัง โดยคนขับไม่เป็นไร แต่หน้ารถพังยับเยิน



ในส่วนของความเสียหายจากแรงพายุต่อบ้านเรือนประชาชน โดยวันนี้ (4 มี.ค.63) นายเฉลิมศักดิ์ อินทร์หา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยนายสมดี ธรรมโกลัง นาย กอบ ต.กุดสระ, นายสุชาติ ซุยใจทัด กำนัน ต.กุดสระ ได้ออกสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จากรายงานพบว่าบ้านเรือนเสียหายในพื้นที่ต.หมูม่นและต.กุดสระ รวม 100 หลังคาเรือน หนักสุดรายแรกเห็นจะเป็นบ้านของนางพยอม ดอกบัวหลวง อายุ 79 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 8 บ้านดอนหวาย บ้านหลังนี้พายุหอบเอาหลังคาบ้านชั้น 2 ไปทั้งชั้น รายที่ 2 เป็นบ้านของนายขันตี ธรรมโกลัว อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 87 หมู่ 8 ก็ถูกพายุหมุนพัดเอาบ้านไปทั้งยวง เหลือแต่เสาบ้านเอาไว้ให้ดูต่างหน้า โดยเจ้าของบ้านบอกว่าตอนพายุมาพากันกับลูกๆ กอดคอกันอยู่ใต้ถุนบ้านน่ากลัวอย่างมาก ส่วนที่โรงสีของนางลุนดี บุญเสนา อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 225 หมู่ 8 ก็ถูกต้นมะขามยักษ์อายุ 100 ปีล้มทับโรงสีเสียหายหนักเช่นกัน ส่วนที่วัดศรีสว่าง บ้านดอนหวาย พายุถล่มกระเบื้องหลังคาโบสถ์ของวัดตกลงมาเป็นพันๆ ชิ้น และต้นไม้ใหญ่รอบๆ บริเวณหักโค่นเป็นสิบๆ ต้น พระสามเณรและทหารจากมทบ.24 ต้องช่วยกันตัดไม้และเก็บเศษกระเบื้องที่ตกเกลื่อนข้างโบสถ์ สำหรับโบสถ์หลังนี้เจ้าอาวาสบอกว่าเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ยังไม่ได้ฉลองก็มาเจอพายุเสียก่อน





ส่วนความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยพายุในพื้นที่ อ.หนองหาน ในวันนี้ พล.ต. วินัย เจริญศิลป์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่24 ได้มอบหมายให้พันเอก พิทักษ์ จันทร์เขียว รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 พร้อมคณะ เป็นตัวแทน เดินทางไปมอบถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย ในพื้นที่ ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พร้อมจัดกำลังพล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนจิตอาสา ช่วยรื้อถอนทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย พร้อมจัดรถครัวสนามไปประกอบอาหารให้กับผู้ประสบภัยอีก โดย 2 วันที่ผ่านมา จ.อุดรธานีเจอพายุฤดูร้อนถล่มหนัก 2 ระลอกแล้ว คืนนี้ลุ้นอีกในช่วงกลางดึกว่าจะหนักแค่ไหนหลังพบกลุ่มฝนและพายุขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนผ่านตัวจังหวัดอุดรธานีในอีกไม่กี่ชม.ข้างหน้านี้





ขอบคุณที่มา
https://www.banmuang.co.th/news/region/182691