เรื่องเด่น หนุ่มหัวร้อนโดดชกหน้าพระ ฉุนตีระฆังเสียงดัง อ้างอารมณ์ชั่ววูบ...

เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 9 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระอนุศักดิ์ ฐิตธัมโม อายุ 54 ปี พรรษา 6 พระลูกวัดแม่น้ำ ต.บางขันแตก อ.เมือง จ.สมุทรสงครามว่า ถูกชาวบ้านข้างวัดต่อยใบหน้า สาเหตุเกิดจากการตีระฆังทำวัตรเย็น เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.00น.วันเสาร์ที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา

จากการสอบถาม พระอนุศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุอาตมาได้รับมอบหมายจากพระครูสมุห์คุณากร เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำ ให้มีหน้าที่ตีระฆังมาตลอด 6 ปีที่จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ กระทั่งวันเกิดเหตุ อาตมาไปตีระฆังเพื่อทำวัตรเย็นตามปกติ ซึ่งต้องตี 3 ลา หรือ 3 รอบ เมื่อตีได้สักพัก ได้ยินเสียงดังโวยวายมาจากด้านล่าง อาตมานึกว่าพระล้อเล่นจึงไม่ได้คิดอะไร หลังตีระฆังเสร็จจึงเดินลงมาจากหอระฆัง พบนายพงพัฒน์ เสรีสมนึก อายุ 29 ปี ซึ่งบ้านอยู่ในเขตวัด เลขที่ 94 หมู่ที่1 ต.บางขันแตก เดินตรงเข้ามาชกใบหน้าบริเวณหางคิ้วขวา 3 ครั้ง ทำให้อาตมามึนสายตาพร่ามัว

นอกจากนี้นายพงพัฒน์ ยังขู่ว่ามีปืนอีก 3 วันมาเจอกัน สร้างความหวาดกลัวให้อาตมาและพระทุกรูปในวัดไม่กล้าขึ้นไปตีระฆังอีก จึงปรึกษากันภายในวัดและเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสงครามในวันเดียวกัน พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยสร้างความปลอดภัยให้พระด้วย

ต่อมาเวลา 14.30น. นายสมบัติ พิมพ์สอน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสงครามได้ เดินทางเข้าพบพระครูสมุห์คุณากร เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยายามไกล่เกลี่ยให้วัดกับชาวบ้านอยู่ร่วมกันอย่างสันติโดยมีพระอนุศักดิ์และมารดาของนายพงพัฒน์มาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายสมบัติ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของนายพงพัฒน์ ซึ่งเป็นวัยรุ่น ไม่เข้าใจในวัตรปฏิบัติของคณะสงฆ์จึงเกิดการทำร้ายกัน หลังเกิดเหตุได้เชิญผู้ปกครองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตรปฏิบัติของพระในช่วงเข้าพรรษา ส่วนการทำร้ายร่างกายเป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ทางวัดแม่น้ำมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสงครามเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณรอบวัดที่มีชาวบ้านมาสร้างบ้านในเขตวัดอยู่อาศัย ซึ่งจะตรวจสอบทำให้ถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป มั่นใจว่าผู้ก่อเหตุคงเข้าใจและไม่ก่อเหตุซ้ำอีก และพระสงฆ์สามารถตีระฆังประกอบกิจของสงฆ์ได้ต่อไปตามปกติ

จากนั้นเวลา 15.30น. นายพงพัฒน์ ผู้ก่อเหตุเดินทางเข้าขอขมาพบพระครูสมุห์คุณากร เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำ และพระอนุศักดิ์ พร้อมกล่าวว่า ยอมรับว่าวันเกิดเหตุเข้าใจผิดว่าพระตำหนิตนเอง จึงเกิดอารมณ์ความโมโหชั่ววูบ นอกจากนี้หลังตีระฆังเสร็จตนยังเห็นพระอนุศักดิ์ถือไม้เดินลงมาจากหอระฆังโดยไม่รู้ว่าเป็นไม้ตีระฆัง คิดว่าจะเข้ามาทำร้ายตน จึงชิงลงมือก่อน


ขอขอบคุณที่มา
https://www.matichon.co.th/region/news_1663598