สายสัญญาบารมี กับสิ่งมหัศจรรย์

หลักปฏิบัติสายสัญญาบารมี คือ

1.ยกขันธ์บารมี คือการบูชา องค์พระผู้สำเร็จ โดยมี ผ้าขาว 4เมตร5เซ็นติเมตร ธูป ห้าห่อ เทียน ห้าห่อ ดอกบัวห้าดอก น้ำหอมน้ำอบ และปัจจัยตามศรัทธา
2.ดับล้าง คือการ เป่าเทียนตามบทดับที่มีมา เช่น บทล้างศีลห้า โปรดญาติ เปิดจักษุทิพย์ ปราบมาร แต่ละบทจะมี คำสั้นๆ เช่น นมลหัง- อ่านว่านะมะลิงะาระหังสลิง มนิลเมฆลิงค์ให้จมอเวจีดับสูญเลยไปตามสัญญา แล้วก้อเป่าเทียนออกจากช่องท้อง เทียนจะมีสีดำ น้ำตาเทียนจะดำสำหรับคนปฏิบัติเริ่มต้น ถ้าปฏิบัติประจำก็จะเป็นสีขาว เป็นการล้างกรรมเก่าที่อยู่ในกายออกมาทางลมช่องท้องหรือปาก เปรียบเสมือนผ้าถูบ้าน คนที่ไม่เคยปฏิบัติก็จะมีฝุ่นเยอะ ผ้าก็จะดำ แต่ถ้าคนถูบ้านบ่อยๆผ้าก็จะไม่ดำ
3.กรวดน้ำ ตั้งแต่เบื่องล่างต่ำสุด จนถึงเบื่องบนสูงสุด
4.การลงองค์พระธรรม องค์พระธรรมคือ องค์เทพที่สำเร็จแล้ว มาบรรหยัดในรูปอักขระ คล้ายอักษรไทย มีตั้งแต่เทพภูมิเทวดา วิมานเทวโลก ชั้นพรหม มาบรรจุเป็นอักษร ที่ลงบริเวณ หัว คอ คาง เปรียบเสมือนบ้านทีสะอาดจากการดับล้างแล้วต้องมีฟอร์นิเจอร์คือการลงองค์พระธรรมเพื่อให้บ้านน่าอยู่

มาดูความเป็นไปของผมและสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น
ผมปฏิบัติมาตั้งแต่ปี 2544 แต่ไม่ได้จริงจังอะไร เริ่มมาจริงจังเมื่อ ปี2552 คือบวชเป็นพระและกลับมาปฏบัติอย่างเคร่งครัด คือดับล้างสองครั้งครั้งละ 2-3 ชม. และลงองค์พระธรรมตลอดเวลาที่ว่าง สิ่งหลังจากสึก มีเรือ่งที่ต้องหยุดไปสามปี และเพิ่งปฏิบัติอีกทีแบบเต็มที่เมื่อสองเดือนก่อนและสิ่งที่เห็นก็คือ

1. สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ได้ด้วยตาเปล่า และสามารถเปิดตาให้ใครที่ไหนในโลกนี้ได้มองอาทิตย์ได้ด้วยตาเปล่า
2. เห็นจุดเล็กๆบนท้องฟ้าสีเงิน ลอยไปมา เต็มท้องฟ้า
3. เห็นแสงคล้ายฟองสบู่ใสๆ ลอยติดตาไปมา คล้ายพญานาค งู กิ่งไม้ และอื่นๆมองฟ้าจะเห็นเยอะและชัดเจนมาก
4. เห็นดวงจันทร์ซ้อนกันเป็นสองวง
5. เห็นออร่าของคน ซึ่งคล้ายรัศมีใสออกจากกาย1-4เซ็นติเมตร
6. เห็นดวงดาวส่องแสงคล้ายไฟฉายออกมาเป็นลำ และมีการเคลื่อนที่เป็นเส้นแสงระหว่างดวงดาวคล้ายใยแมงมุมเป็นเส้นๆ บางดวงมีแสงขึ้นมาแล้วก็ดับไปห้าวินาทีแล้วก็เปล่งแสงออกมา
7. ตอนกลางคืนเห็นเงาดำเป้นเส้นโค้งไปมา เห็นเงาสีเงินเคลื่อนไปมาคิดว่าเป็นพญานาค ร่ายลำบนท้องฟ้า
8.เวลาปฏิบัติธรรม จะเห็นดวงแก้วสีส้ม สีแดง สีเขียว สีเทา ลอยมาในอากาศมองไปทางไหนก็เคลื่อนที่ไปตามการมองของเรา
9.ได้กลิ่นพระศิวะ คือ ไปเทวาลัยศิวะขอนแก่นและบูชาองค์พระศิวะมา จะได้กลิ่นติดรถ ในบ้าน เป็นบ้างช่วงเวลา และมีกลิ่นทุกวันไม่จางหาย
10. นิมิตอดีตชาติได้ และระลึกอนาคตได้ คือจะเป็นนิมิตที่ออกมาจากความคิดโดยที่เราไม่ได้คิด ใครถามไรก็จะมีความคิดและตอบโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องคิด และคุยเป็นเรื่องเป็นราวที่น่าเชื่อถือได้

นี่คือสิ่งที่ปฏิบัติสายสัญญาบารมีแล้วได้มาครับ

การมองพระอาทิตย์ ได้ประโยชน์อะไรบ้าง
1.สามารถฝึกกสินไฟได้สำเร็จโดยเร็ว และกสินอื่นๆด้วย
2.สามารถขอพรจากองค์สุริยะซึ่งท่านเป็นองค์เทพที่เหนือเทพทั้งปวงเพราะเป็นแหล่งพลังงานแก่มนุษย์และสรรพสัตว์มาเป็นระยะเวลายาวนาน
3.ผี ปีศาจ มารร้าย เจ้ากรรมนายเวรจะไม่กล้ามาเผชิญหน้า เขาจะกลัวเราเผาเขาโดยเราจะมีตาไฟ
4.คนที่ผีเข้าเราแค่มองก็จะสามารถไล่ผีไปได้

การขอพร แนะนำให้ทุกคนที่สามารถมองพระอาทิตย์ได้ให้ขอดังนี้
1.ขอให้ในหลวงมีอายุยืนนานสุขภาพแข็งแรง และพระบรมวงศานุวงศ์ให้อยู่อย่างร่มเย็น
2.ขอให้ประเทศชาติพ้นภัยพิบัตินานาประการ
3.ขอให้ศาสนาขององค์ห้าได้ประกาศทั่วกโรทวีป
4.ขอพรให้ตัวเอง ญาติสนิทมิตรสหาย

ถ้าใครสนใจมองพระอาทิตย์ได้ด้วยตาเปล่าก้อสามารถติดต่อเบอร์นี้ครับ
0883104199 คุยได้ทั้งวันทั้งคืนครับ เพราะปฏิบัิตแต่ธรรมะไม่ได้ทำงานอะไร ขอทุกคนจงโชคดีนะครับ

 

ถ้าปฎิบัติธรรมะจริง
มันมีแค่ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณังคัจฉามิ สังฆัง สรณังคัจฉามิ เท่านี้ครับ
สายสัญญาอะไรไม่มีครับ มันไม่อาจหลุดพ้นไปได้ถ้ายังยึด ยังถือครับ
พระพุทธองค์ทรงชี้ทางหลุดพ้นไว้แล้ว ทางที่คุณเลือกนั้นมันเป็นกิเลส
และตัณหาฝ่ายมารที่นำคุณออกห่างจากพระรัตนตรัย
ใช้สติไตร่ตรองครับ อย่าหน้ามืดตามัวหลงพวกนี้ คุณจะไม่ไปไหน
สุดท้ายเป็นทาสรับใช้มันนะครับ สิ่งที่คุณทำได้ไม่ขอกล่าว
แต่มันไม่ได้ทำให้คุณพ้นทุกข์ไปได้ ความอยากได้อยากเป็นนี่คือ
ภวตัญหาตัวนึงครับ ขอบอกคนที่โทรไปอยากได้ อยากเป็นแบบนี้
สุดท้ายมันก็เหมือนการรับขันธ์นะครับ ใช้สติกันนะครับ
อย่าให้ใครมาครอบเรา ให้สติครอบเราพอแล้วครับ
ผมเห็นคุณพยายามบอกเบอร์โทรศัพท์ให้คนโทรมา
ผมว่าแปลกนะครับ ทั้งๆที่มีคนเตือนคุณแล้วเรื่องเบอร์โทรศัพท์
้เพราะคนจะแห่โทรไปหาคุณเพื่อประสงค์ต่างๆ
แต่เหมือนคุณอยากให้คนโทรไปหาและมาตั้งกระทู้นี้ใหม่
ใครโทรไประวังชีวิตเปลื่ยนไปนะครับ คุณอาจจะไม่ใช่ตัวคุณเองอีกต่อไป
พลังหรืออะไรวิเศษนั่นสุดท้ายคุณอาจไม่ต้องการก็ได้ครับ
แต่อยากได้ตัวคุณเองกลับมา
ขอบุญรักษาทุกคนนะครับ

 

ใครที่อ่านแล้วดูจิตดูใจด้วยนะครับ กระทู้นี้มีแรงดึงดูดให้เราติดต่อหรือโทรไปหาเค้านะครับ

ลองสังเกตุดูนะครับ

 

เป็นไง.....กระทู้ที่แล้วเจอเเค่กลเม็ดเราแค่นั้นน๊ะ

ยังไม่ได้ใส่เคล็ดลับเลยเเค่นี้ก็เสร็จเรา...ฮ่า..ๆ..ๆ...เหอออ..ๆ . (deejai)

ผ่านมาแถวนี้ต้องติดเครื่องทุ่นแรง

 

อาการทางตาที่มองเห็นนั้น แพทย์ทางตาเค้าเรียกว่าวุ้นในตาเสื่อมครับ

 

รายการตีสิบ เรียกเจ้าของกระทู้ไปแสดงหรือยังครับ

 

เห็นกิเลส บ้าง มั้ยครับ ..

 

สิ่งที่น่าจะได้มาเพียบ นอกจากได้กิเลส ความอยากเป็น อยากมีฤทธิ์ อยากวิเศษกว่าคนอื่น ก็คือ สัมภเวสี

 

พอเข้าใจบางอย่างแต่อยากบอกว่าอย่าไปยึดติดเลยค่ะมันจะเป็นวิปัสนูปกิเลส
หลงไปเปล่าเราเคยเข้าไปศึกษาแต่ปัจจุบันก็หันไปแนวสมาธิแล้วล่ะ
ก็ยังมีร่องรอยอยู่แต่ไม่ยึดที่อย่างที่เล่ามาก็เห็นอยู่น่ะ
แต่ไม่สนใจกลัววุ้นในลูกตาเสื่อมอย่างว่าน่ะ
ทุกวันนี้ยังต้องเผชิญกับความรู้สึกรับรู้ได้ถึงพลังงานของวิญญาณ
ก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าดีไม่ดีเพราะบางทีก็ร้องเพลงบางทีก็ร้องไห้
บางทีก็อยากร้องโหยหวล
ขอบอกว่าไม่อยากเป็นตัวประหลาดเราก็สติครบถ้วน
รู้สึกตัวตลอดก็ยังมีอาการแบบนี้มาบ่อยๆก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้

 

ขอพิสูจได้ไหมครับ ถ้าได้เดียวผมโทรหา ผมไม่ได้ลบหลู่นะ แต่อยากพิสูจว่าเรื่องพวกนี้มีจริง และถ้าพิสูจแล้ว ผมขอฝากตัวด้วย ขอบคุณครับ

 

เอาแค่ว่า แนวนี้ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ ยังอ้อมไปอ้อมมาอีกไกล แต่ถ้าใครสนใจ ใครชอบ นั่นก็เป็นจริตส่วนตัว เป็นเรื่องของแต่ละคน ก็ว่ากันไป ขอเป็นคนนอก ยืนดูอยู่เฉยๆ

 

เมื่อเปิดตาให้เห็นพระอาทิตย์แล้ว ท่านจะสามารถเรียนรู้อภิญญาด้านอื่นๆไปได้ไวโดยขอพรจากดวงอาทิตย์ ซึ่งสิ่งที่จะสำเร็จไวที่สุดคือกสินไฟ ถ้าสำเร็จแล้วสามารถจุดไฟติดมือได้ สามารถทำให้พระอาทิตย์ทรงกลดเวลาใดก็ได้ ซึ่งผมยังไม่สามารถทำได้เพราะยังเป็นเด็กอ่อนหัดเพิ่งฝึกกสินได้ไม่นานแต่จะศึกษาสายสัญญาบารมีมานานพอสมควรแต่การปฏิบัตินี้ยังไม่ถือว่าทำได้มากมายครับ ดีที่มีบุญบารมีเก่าไว้เยอะเลยสำเร็จเร็วกว่าคนอื่นๆ

แต่คนอื่นๆที่อ่านกระทู้ไม่ต้องกังวล่ใจไป เราสามารถทำได้ แต่อาศัยเวลาครับ แล้วแต่บุญพาวาสนาส่ง ขอให้สำเร็จมรรคผลด้วยกันทั้งหมดทั้งมวลนะครับ

 

องค์พระธรรมไม่มีหรอกครับ มีแต่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์เท่านั้น และไม่ใช่องค์เทพอะไรด้วย เทพเทวายังจะต้องอาศัยพระพุทธองค์และพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์เพื่อบรรลุเลย

 

อยากบอกว่า เคยไปเปิดพระโอษฐ์ นะ 6ปีมาแล้ว กะคุณอากบแก่ (น่าจะรู้จักกันนะ)
ตอนนั้นมี คนอื่นๆ ที่ไปลอง ไปบ้านแกเพื่อเปิดพระโอษฐ์ด้วย

...โหย ...แต่ละคน เทพลงหมดเรยยย ...พูดภาษาเทพกัน ฉอดๆๆๆ
มีผมคนเดียวแหละ ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นน พยายาม อยู่ 3 ชม. สุดท้ายล้มเลิกก
55555

 

..... ไม่รู้จะบอกน้องยังไงดีนะคะ ...

1. นี้เป็นเว็ปธรรมมะนะคะไม่ใช่เว็ป ร่างทรงองค์เทพ น้องมาโพสผิดที่แล้วคะ น้องก็บวชเรียนมาแล้วนะคะ น่าจะพอรู้อะไรมาบ้างคะ พี่ก็ขอให้ตอนที่น้องบวชไม่ได้เข้าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้ในตอนนั้นนะ เพราะผ้าเหลืองนั้นศักดิ์สิทธิ์มากมิควรเอาไปลงองค์เพราะศีลต่างกัน .. และ องค์เทพยิ่งท่านสูงแค่ไหนท่านยิ่งไม่ประสงค์ลงร่างมนุษย์ขี้เหม็นอย่างเราหรอกนะคะ อย่างมากก็แค่ยืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วแต่กรณี ที่ลงมาเข้าร่างเรามีแต่พวกชั้นล่าง ๆ จนถึงพวก ผี อสุรกาย เปรต .. ที่มาลวงเราว่าเขา คือ เทพชั้นสูง เพื่ออาศัยหาผลประโยชน์จากเรา

.. การรับขันธ์ คือ การยอมให้สิ่งอื่นมีอำนาจเหนือความเป็นตัวเอง ยอมให้เขาใช้ขันธ์ 5 ของเราทำสิ่งใดก็ได้ตามเขาปราถนา .. ซึ่งไม่ใช่วิถีทางของเว็ปนี้นะคะ

2. การฝึกมองพระอาทิตย์ด้วยตาเปล่าจะเป็นอันตรายต่อประสาทตานะคะ และ อีกอย่างมันเป็นวิธีทรมานตนของฤษีคะ พี่ไม่รู้ใครแนะนำให้ทำแบบนี้นะคะ แต่ก็แล้วแต่ความเชื่อน้องคะ

3. สิ่งที่น้องเห็นบางทีมันก็ไม่ใช่ นิมิต แต่เป็นเพราะประสาทตาน้องเริ่มมีปัญหาก็ได้คะ ต้องใช้สติ สมาธิ และ ปัญญา คิดไตรตรองให้ดีก่อนดีกว่านะคะ

... ที่พี่พูดไม่ได้หมายความว่าน้องไม่มีความสามารถอะไรนะคะ แต่แค่มันไม่เหมาะกับเว็ปนี้ในบางหัวข้อคะ .. มันจะทำให้น้องมาเสียกำลังใจเวลาที่มีคนมาทักท้วงเอาได้ .. ที่พี่บอกเพราะไงเราก็คนทางเดียวกันบ้านน้องบ้านพี่ไม่ไกลกันมากเท่าไหร่ .. ไม่ใช่ว่า เทวดา ไม่มีจริง หรือ พลังพิเศษต่าง ๆ ไม่มีจริง แต่มันไม่ใช่แนวทางของคนในเว็ปนี้เท่านั้นเองคะ ที่นี้เขาเน้นเรื่อง คำสอน การปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้น บุญ กฏแห่งกรรม ฯ ขอให้ระวังนิดหนึ่งแค่นั้นคะ จะได้อยู่แบบสบายใจ ถ้าอยากโพสเรื่อง องค์เทพ ต่าง ๆ แนะนำว่า เว็ปอื่นจะเหมาะกว่านะคะ จะได้ไม่เสียกำลังใจ ...

... คนเราจริง ๆ ถ้าจะฝึกจิตไม่ต้องรับขันธ์ก็ได้นะคะ แต่ถ้าการยกพานไหว้ครูเพื่อการเป็นศิษท์มันคนละเรื่องกัน แต่ขันธ์ที่น้องเขียนมามันเป็นการ รับขันธ์ เพื่อมอบขันธ์ห้าให้กายละเอียดใช้ผ่านร่างคะ .. ซึ่งอันตรายเป็นอย่างมากเมื่อน้องกระทำการอันใดที่ ผิดครู ผลเสียจะตามมาจนมิอาจแก้ไขได้คะ .. น้องปราถนาสิ่งใดคะ อิทธิ์ฤทธิ์ สุขคติภูมิ หรือ นิพพาน อันนี้ก็ตามใจน้องนะคะ .. หนทางในนี้ยังอีกยาวไกลยังไงก็ขอให้โชคดี ค้นพบทางที่ตนเองอยากเดินจริง ๆ ละกันคะ

 

..... คงจะเหมือนเราละมั้ง . โดนทักเยอะเหมือนกัน.. และ เคยไปมาหลายที่เหมือนกัน แม้แต่เขาไหว้ครูกัน บางคนรำ บางคนเต้นแร้งเต้นกา เราไม่เคยจะอะไรกับเขาเลย .. มีแต่ นิ่ง ๆ สงบ ว่างเปล่า มองดูคนอื่นเขาทำกัน หรือ แม้แต่เชิญองค์ให้ลงเราเองก็ยังไม่เคยเข้า มีแค่ความรู้สึกว่ามีคนมายืนชิดเาทางด้านขวา และ ไม่ค่อยสบอารม์ที่มีคนมาเอามือกุมหัวเราไว้แค่นั้น ภาษาเทพอะไรเราก็ไม่เคยจะฟังรู้เรื่องเห็นคนอื่นเขาพูดกัน เราก็ได้แค่มองหน้า ... อะจ๊ากกกกกกกก พูดภาษาไทยได้ไหม๊ ช้านฟังไม่รู้เรื่อง 5555555

 

อีกนิดเดียวก็เพี้ยนแล้วครับ ระวังหน่อย พูดอ้อมๆไม่ได้ ต้องเตือนตรงๆ เพราะผมมีเพื่อนเพี้ยนเพราะเรื่องอย่างนี้มาแล้ว แต่ตอนนี้หายแล้ว บวชเป็นพระไม่สึกเลย

 

ผมสายสัญญาบารมี สาย อาจารย์กบ ผมเคยเจอแกอยู่แกก็ถือว่าชัวร์อยู่

แต่ท่านทั้งหลายสายพวกนี้แค่ วิชาชีพหนึ่ง ไม่ใช่ทางหลุดพ้น

มีค่าเทียบได้ดั่งช่างยนต์ ไม่ใช่ทางหลุดพ้น แต่เอามาซ่อมรถยนต์ได้

โดยส่วนตัวสายนี้ถือว่า ก็ชัวร์นะ ครูบาอาจารย์เขาแรง

แต่ที่ จขกท โพสต์ มาต้องให้ความกระจ่างหน่อย ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรนักของหลักศาสนาพุทธ

 

จะไปกันใหญ่ จขกท ก็ยังไม่เข้าใจสายสัญญาที่ตัวเองทำอยู่

สายสัญญาเป็นสายปฏิบัติอย่างหนึ่งที่หวังให้ผู้ปฏิบัติได้หลุดพ้น ไม่ต้องการให้มาติดฤทธิ์ติดเดช ความสามารถบางอย่างได้มาตามบุญบารมี ไม่ได้มีไว้เพื่ออวด ไม่ได้มีไว้ให้ใครอยากได้ตาม เคยสร้างไว้เมื่อมาทำต่อถึงเวลาก็ได้รับ กรรมเก่ามาถึงก็โดนทั้งนั้น เจ้ากรรมกลัวอันนี้ไม่เคยได้ยิน ถ้าผีเข้าแล้วทำให้ไปได้อันนั้นมันคนละเรื่อง ถ้าติดฤทธิ์ปฏิบัติแบบไหนก็ไปไม่ได้ คนจะปฏิบัติก็ต้องพยายามถือศีลห้าให้ได้

หลักปฏิบัติมี 1. ดับล้าง ทำให้ภายในสะอาด 2. ลงองค์ธรรม เริ่มสะอาดก็เอาองค์ธรรมไปแทรกภายในพยายามไม่ให้มีที่ว่างที่อกุศลจะแทรกได้ ฤทธิ์องค์ธรรมแสดงเหตุได้ก็คอยกล่อมเกลาจิตใจให้อยู้ในศีลในธรรม คิดดีทำดี 3. ทำสังฆทานกับครูบาอาจารย์ที่มีสิทธิ์หรือกับพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ให้เกิดลุกรรมลุเวรกับเจ้ากรรม ฯลฯ และสร้างบุญบารมีต่อไป

เวลาถูกทดสอบจากโลกทิพย์ถ้าปัญญาเกิดก็ผ่านไปได้ ก็ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จริตใครก็จริตมันแต่อย่าบอกว่าหลุดพ้นไม่ได้ คุณยังทำไม่ถึงที่สุดไม่ใช่ทางคุณ ก็ไปทำอะไรที่มันถูกจริตคุณก็เท่านั้น คนจริงในสายนี้ก็ทำตามหลักพุทธศาสนาบวกกับอีกสามข้อซึ่งข้อสามพุทธศาสนิกชนทั่วไปก็ทำอยู่แล้ว

ตอนดับล้างกับลงองค์ธรรมสมาธิมาเป็นของแถมอยู่แล้วเพราะจิตนิ่งอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งตอนลงองค์ธรรม หรือวิ่งจับที่คำดับล้าง มาตะเกียงไฟ และเป่าดับขณะดับล้าง วนอยู่เท่านี้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ฟุ้งบางคนก็ยังฟุ้งได้

ที่สำคัญให้ดูที่ผลทำแล้วจิตใจดีขึ้นไหม อยู่ในศีลในธรรมได้มากขึ้นไหม ยังติดในฤทธิ์ที่ได้ไหม สุขกายสุขใจที่ได้ทำไหม ยังติฉินนินทาชาวบ้านไหม อารมณ์แบบว่าของฉันดีของแกไม่ได้เรื่องยังมีไหม ถ้ายังมีแสดงว่าที่ทำยังไม่ได้เรื่อง พยายามอีกหน่อยหาครูบาอาจารย์ที่ถือปฏิบัติแบบเดียวกันแนะนำ หรือไม่ก็เปลี่ยนไปทำแบบอื่นอาจจะถูกจริตมากกว่าก็ได้ครับ

การปฏิบัติไม่มีแบบไหนดีกว่าอีกแบบหรอก มีแต่แบบไหนถูกจริตก็ขยันหมั่นเพียรก็ก้าวหน้าเร็วกว่าแบบที่ไม่ถูกจริตอ่ะครับ

 

แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนแล้วละครับ