สายธารแห่งอารมณ์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย wisarn, 14 พฤศจิกายน 2008.

  1. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,505
    สายธารแห่งอารมณ์


    สติ มีไว้ระงับ บังคับกาย วาจา ปัญญาธรรม มีไว้พิจารณา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญเหตุผลทั้งปวง และแก้ปัญหาให้กับชีวิต จิตใจประจำวัน ธาตุรู้ มีไว้ดูความคิด ดูอารมณ์เกิด ดับ กาย ก็มีหน้าที่ มีกรอบ ขอบเขต ในการทำกิจกรรม วาจา ก็มีหน้าที่ พูดไปอย่างมีเหตุมี มีศีลเป็นกรอบ พูดอยู่ในขอบเขตตามภาษาและฐานะทั้งทางโลกและทางธรรม พลังจิต ที่เพียรฝึกให้ดี จะเฉลียวฉลาด อาจหาญ คมกล้า ในการแก้ปัญหาให้แด่ตน และทุกคนในครอบครัวได้ ส่วนชีวิต ร่างกาย ขันธ์ห้า เป็นภาระหนักมหาศาล เพราะเป็นกองโรคาทั้งตัว ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เป็นก้อนทุกข์เคลื่อนที่จนนาทีสุดท้าย เมื่อถึงวันสิ้นลมหายใจ ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่แสนโหด ในเรื่องขันธ์ห้าจึงหมดไป

    ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ สติ..บังคับ สั่งระงับกาย วาจาได้ แต่สั่งระงับความคิดไม่ได้ ยามมีอารมณ์นึกคิด จิตลอยล่องและท่องเที่ยวไปในอดีต อนาคต มีนิมิตต่างๆในใจ ไม่มีอำนาจใดๆมาหักห้ามได้เลย จะเกิดเอง ตั้งอยู่เองและก็ดับเอง

    ธาตุรู้ มีหน้าที่เพียงดู...รู้..รู้..รู้..รู้อาการเกิดดับเท่านั้น
    ห้ามไม่ให้เกิด...ไม่ได้
    ห้ามไม่ให้ดับ...ไม่ได้

    ทุกๆ อารมณ์ไม่ว่าจะเป็นเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา หรือจะเป็นอารมณ์ที่โลภ โกรธ หลง กิน กาม เกียรติ หรือจะเกิดปีติ ยินดี ยินร้าย ดีใจ เสียใจ เศร้าหมอง เบิกบาน อารมณ์ที่มากมายหลากหลายเหลือล้น ที่เกิดผุดๆ โผล่ๆ ผ่านเข้ามาเป็นลักษณะความคิด..ก็ไม่ใช่ เพราะไม่ได้มีกำหนดการที่จะมาทำพิธีคิด..คิดไม่ทัน อารมณ์ทั้งปวง เกิดเอง มาเอง ตั้งอยู่เอง แล้วก็ดับหายไปเอง วุ่นเอง ว่างเอง เป็นดัง สายธารแห่งอารมณ์ อุปมาเสมือนหนึ่ง เป็นแม่คงคา แม่น้ำสายธารใหญ๋แห่งอารมณ์ทางดวงใจ มีหน้าที่ไหล..พัด..ผุด..ผ่าน..เยือกเย็น..หยั่งลึก ถึงก้นบึ้งแห่งเมืองบาดาล ไม่มีกำลังใดๆ จะกางกั้นและต้านทานได้

    ถ้าจะมานั่งเคร่งเครียด ตั้งหลักสู้รบกับอารมณ์..ก็เหนื่อยเปล่า นอกจากให้เพียร เรียนรู้ ดูเห็น ให้เท่าทันในอาการเกิดดับ ผุดขึ้น แล้วก็ผ่านไปเท่านั้น นี้เป็นหน้าที่ตามรอยทางของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ถ้าเราไปคิดจะยก แบก หาบ หิ้ว เอาอารมณ์ทั้งปวง โดยสตัฟฟ์ อารมณ์ที่ยินดี พอใจ ถูกใจ ไว้ให้เป็นของเราอยู่ตราบนานแสนนาน..ก็ทำไม่ได้ เป็นธรรมชาติจิต ธรรมชาติอารมณ์ และเป็นธรรมชาติของกระแสผลแห่งกรรมที่เราสร้างมา ก็จักแสดงผลเป็น อารมณ์แห่งสัญญา

    สัญญาอารมณ์..ที่คอยไหลผัดผ่านให้เห็นในขณะปัจจุบันจิต เป็นต้นทุนและหุ้นส่วนในชีวิตประจำวัน สัญญาอารมณ์..จะแสดงฤทธิ์เดชเภทภัยน้อยใหญ่ปานใด ก็ขึ้นอยู่กับเหตุแห่งกรรม ที่เราได้กระทำมา ทั้งดีและชั่ว ทั้งบุญและบาป ทั้งหยาบและละเอียด บันดาลให้เห็นเป็นไปตามผลของกรรม

    หน้าที่ที่ดีที่สุด ในทุกขณะจิตของเราในวันนี้ คือ ตั้งจิตรวมพลังสติ เพียรรู้ พิจารณา ดูการเกิดเห็นการดับสลับกันไป ถ้าเราเพียรพิจารณาดูอย่างเป็นผู้รู้ยิ่ง ก็จักยิ้ม อิ่มเย็นได้จริง อารมณ์ ที่เกิดดับนี้ จะตามไปเกิดดับ ทุกขณะจิต ห้ามไม่ได้
    ..
    ห้ามอารมณ์ไม่ให้เกิด... ก็เหนื่อยเปล่า

    ห้ามอารมณ์ไม่ให้ดับ... ก็เหนื่อยตาย..

    ณ วันนี้ ถ้าเราต้องการพันทุกข์ทางใจ เป็นไททางจิต เป็นอิสระต่อสภาวะอารมณ์ที่พัดผ่านเข้ามาสู่ภายในอย่างมากมายมหาศาล ให้ดูดังภาพเงาประจำชีวิตที่เฝ้าตามติด ด้วยความว่าง โปร่ง เบา ไม่เอาตัวมาแบกหนัก เงาทิพย์ ท่านติดตาม เฝ้าดู รู้เจ้าของ คือชีวิต คิดทำอะไร ที่ใดๆ จะขาดทุน มีกำไรหรือไม่เพียงใด ..

    เงาท่านตามได้ ดูเป็นทุกมุมมอง ดูเจ้าของอย่างรู้กรรม ท่านรู้และดูอย่างสงบเงียบ ไร้เสียง ไร้กลิ่น ไร้การปรุงแต่ง เงาทิพย์ ติดตามเฝ้าดู อย่างไม่ผวา ไม่สะดุ้งกลัว ในทุกที่ ทุกสถาน ในทุกเหตุการณ์ของผัสสะ ท่านรู้ ดูแบบเบาบาง จึงสว่าง ว่างจริง

    หรือ จะดูแม่น้ำสายใหญ่ บางวัน บางครั้ง บางโอกาสก็จักมี เศษ ซาก ขยะมูลฝอย มากน้อย พัด โผล่ โชว์เด่นผ่านมา บ้างก็มีกองขยะ ซากศพ ทั้งคนและสัตว์ ที่เน่าเปื่อยนานา อีกทั้งซาก หมู หมา กา ไก่ ไหลมา ...ก็เพื่อไหลผ่านไป และผ่านไป.. ผ่านไปตลอดเวลา ดูแม่น้ำสายใหญ่ ก็มิได้หวั่นไหว หรือสนใจ มิได้ให้ความสำคัญมั่นหมาย ในแห่งสรรพชีวิต และซากแห่งสรรพสิ่ง ที่ไหลมา ไหลมา เพื่อผ่านไปในที่สุดแต่อย่างใด

    แม่คงคาท่านยังคงทำหน้าที่ประดุจดั่ง และเสมือนหนึ่ง เป็นผู้มีญาณบารมีธรรม เมตตา อุเบกขา อุเบกขา..ดุจมีตาทิพย์ สงบเย็นเห็นสกุลธรรมต่อผัสสะที่ผ่านมา เพื่อผ่านไป ว่าวันนี้มีอาสวะ ขยะมาร หรือ สภาวะอารมณ์ ทั้งฝ่ายบุญ ฝ่ายบาป ทั้งหยาบและละเอียด ไหลมาเพื่อผ่านไป ล้วนแต่เป็นสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
    แม่คงคา ไม่มีหน้าที่เก็บและกักตุน ขยะน้อยใหญ่ ที่ไหลพัดผ่าน ไว้ในมหาอาณาจักรแห่งสายธารเลยฉันใด มหาปัญญา มหาปฎิปทาของเผ่าพันธ์บัณฑิตพิชิตชัยทั้งหลาย ท่านก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นในสัญญาและอารมณ์ ที่เกิดดับทั้งปวงฉันนั้น
    ต้องฝึกจิต ..ให้หย่าขาด

    ไม่ให้อารมณ์..มาเป็นของเรา ไม่ให้เรา..เป็นของอารมณ์
    ไม่ยึดมั่นอารมณ์..เป็นเรา เรา..ก็ไม่เป็นของอารมณ์


    ( ตัดตอน มาจาก สายธารแห่งอารมณ์ / แดนมหามงคล - อุบาสิกา บงกช สิทธิผล )
     

แชร์หน้านี้

Loading...