ศีล 5 คือศิลของมนุษย์โลกทุกคน

เพทภัยเกิดขึ้นมากมายทั่วโลก มนุษย์ยังมองเห็นแค่ปัญหาการทำลายธรรมชาติ จนเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกกันว่า เอลนิญโญ่ ลานิลญา ซึ่งเป็นสาเหตุเบื้องปลายอยู่นั่นแหละ มนุษย์มีจิตวิญญาณที่มีกระแสเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกับสนามพลังงานแม่เหล็กโลกทุกคน คนที่ประพฤติศีลและภาวนาเมื่อกายใจสะอาดจะเกิดพลังธรรมขาวสะสมในส่วนพลังสนาม ก็จะสามารถสือหรือรับรู้ ถึงพลังสนามนั้นได้บ้างหรือเรียกว่าการเข้าถึงธรรม(ไม่ใช่การเข้าใจธรรมะ) สามารถกำหนดและเลือกชะตาชีวิตของตัวเองได้ตามกำลัง แต่ยังอยู่ภายใต้กฏพลังสนามหลัก(กฏแห่งกรรม)
คนที่ทุศีลคือทุจริตในศีล 5 กระทำแต่กรรมชั่ว กายใจสกปรกพลังธรรมดำสะสมในส่วนพลังสนามมาก ไม่สามารถเลือกหรือกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้เลย ต้องเป็นไปตามกฏพลังสนามเท่านั้น เมื่อมนุษย์กระทำกรรมชั่วช้า เบียดเบียนกันเองมากเท่าใหร่ธรรมดำหรือกรรมชั่วก็สะสมในส่วนพลังสนามมากเท่านั้น เมื่อธรรมดำมีกระแสมากกว่าธรรมขาว จะเกิดการหมุนเวี่ยงพลังแรงขึ้นจนแกว่ง ปลดปล่อยพลัง เพื่อให้เกิดการสมดุลย์ เพื่อรักษาเสถียรภาพของการคงอยู่ของโลกและจักรวาลนั้นๆ ซึ่งโดยปกติก็จะหมุนเวียนปลดปล่อยพลังงานออกมาอยู่สม่ำเสมอตลอดเวลาอยู่แล้ว (นี่คือการเกิด – ดับ + การต้องชดใช้กรรม) ต้องให้โลกเตือนอย่างหนักแค่ใหน?
ศีล 5 ไม่ใช่แค่ศีลในศาสนาพุทธเท่านั้นแต่เป็นศีลของมนุษย์โลกทุกคนที่ต้องสมควรประพฤติปฏิบัติต่อกันfficeffice" /><O></O>

ต้นเหตุคือ มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ประพฤติในศีล 5 ทุจริตในศีล 5 ผิดสัจจะในศีล 5 ความโลภ โกรธ หลง(ซึ่งเป็นหนึ่งในบททดสอบของมนุษย์โลก) จึงเกาะกุมจิตใจได้ง่ายขึ้นแล้วเกิดการเบียดเบียนกันเองและยังเบียดเบียนธรรมชาติที่ให้ทุกอย่างเพื่อการดำรงค์อยู่ของสัตว์โลก เช่น ถ้าจะแก้ปัญหาคอรัปชั่นปลูกฝังให้กับเด็ก ไม่ใช่ให้เด็กท่องจำและทำความเข้าใจกับคำนี้ซึ่งเป็นแค่ส่วนเสริม ส่วนหลักคือ ต้องปลูกฝังให้เด็กรู้จักพฤติปฏิบัติในศีล 5 อย่างเข้มแข็ง และละอายต่อการทำชั่ว
เพราะผู้ประพฤติศีล 5 จะรู้จักพอเพียง มีน้ำใจ รู้สร้างสรรค์อย่างถูกต้อง อย่าประมาทในศีล 5 ข้อ
บางบุคคลมัวแต่คิดว่าตัวมีศีล 227 ข้อ น่าเคารพศัทธาแต่ลืมหันมาดูศีล 5 ข้อของตัวเองที่ยังประพฤติไม่ครบก็มีเยอะ
ศีล 5 คือศีลที่มนุษย์ทุกคนต้องประพฤติ ส่วนจำนวนข้อที่เหลือคือ มารยาทที่ควรทำ คือวินัยที่ต้องปฏิบัติ คือกฏคอยเตือนจิตให้สำรวมขัดเกลากิเลส เพื่อความถูกต้องงดงามในสถานะภาพและฐานะแห่งการเป็นสมณะในพุทธศาสนาเพื่อการสืบทอดเพื่อเป็นตัวอย่าง
อย่าคิดว่าผู้อื่นไม่รู้เห็นความชั่วของตัว ธรรมะมีกฏแห่งกรรมที่มีโปรแกรมบันทึกพฤติกรรมทั้งภายในและภายนอกของสัตว์โลกอย่างละเอียดและชัดเจนไม่ตกหล่น ธรรมะรู้และกำลังจัดการแบบอิงกฏแห่งกรรม เหมือนกับการเขียนคำสั่งเพิ่มแล้วกด Enter ก็ได้นะจ๊ะ นะจ๊ะ<O></O>

ความว่างมีพลังมหาศาลfficeffice" /><O></O>
ใจกลางโลกของเรา มีความว่างควมคุมอยู่<O></O>
ใจกลางจักรวาลก็มีความว่างควบคุมอยู่<O></O>
ท่ามกลางสหจักรวาล ก็มีความว่างควบคุมอยู่<O></O>
ใจมนุษย์ก็มีความว่างควบคุมอยู่<O></O>
ความว่างมีพลังอันมหาศาลเหลือคณณา<O></O>
คือผู้คอยกำหนดสร้าง_ล้างทำลาย_บัญญัติกฏฯ<O></O>
คอยควบคุมความคงอยู่และความสมดุลของจักวาลทั้งหลาย<O></O>
มนุษย์จะเข้าถึงความว่างด้วยวิทยาการแห่งวัตถุไม่ได้แน่นอน<O></O>
ผู้ใดคิดว่าจะเข้าถึงความว่างด้วยวัตถุ จงรู้ซะ ว่านั่นคือมหันตภัยครั้งใหญ่<O></O>
ยิ่งกว่านั้นความว่างยังมีความว่างอย่างยิ่งควบคุมอยู่<O></O>

 

ศาสนา - นิกาย – เรา – เขา fficeffice" /><O></O>
ต่างชาติต่างสายพันธุ ก็เป็นชาติเขาชาติเรา<O></O>
ต่างศาสนาต่างความเชื่อ ก็เป็นลัทธิศาสนาของเขาของเรา <O></O>
ศาสนาเดียวกันต่างนิกายต่างความเห็น<O></O>
ก็นิกายเขานิกายเรา <O></O>
ความคิดแบบแผนทัศนคติไม่ตรงกัน ก็พวกเขาพวกเรา<O></O>
ทำไมไม่คิดถึงความเป็นมนุษย์เหมือนกัน<O></O>
เราทุกคนต่างก็เกิดเป็นมนุษย์บนโลกเล็กๆใบนี้<O></O>
-ศาสนาอิสลามเขามีพระเจ้าที่ไม่มีตัวตนเป็นความหวัง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเขาก็ เชื่อในอานุภาพความดี มันสำคัญอยู่ที่ผู้นำทางจิตวิญญาณของเขาจะนำไปถูกหรือผิดเท่านั้นเอง<O></O>
-ศาสนาคริสเขาก็มีพระเจ้า เขารู้ว่ามีแม่มีพ่อรออยู่ที่เบื้องบน เขาเอาสมมุติของแม่พ่อเป็นตัวตนและไม่รู้วิถีทางกลับบ้านเท่านั้นเองแต่ก็เชื่อในอานุภาพความดีเช่นกัน<O></O>
-ศาสนาพุทธ รู้วิถีทางกลับบ้านแต่ไม่รู้ว่าแม่พ่อรออยู่เท่านั้นเอง<O></O>
จนถึงในที่สุดของการสะสมบ่มคุณธรรมของจิตวิญญาณหลายภพชาติ สุดท้ายจะต้องมาพบเจอและเข้าใจในพุทธศาสนาทุกจิตวิญญาณ อย่าลืมว่าในสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเป็นเพียงใบไม้ในกำมือเท่านั้น ใบไม้ในกำมือคือหัวใจของการพ้นทุกข์จากวัฏฏะ ในส่วนนอกเหนือจากนั้น ถ้าผู้รู้แต่ไม่รอบแจ้งชัด รู้ไปก็ทำลายตัวเองและผู้อื่น หาประโยชน์ได้น้อย จะรู้ชัดแจ้งก็ต่อเมื่อเป็นพระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมแล้วเท่านั้น<O></O>
ผู้ที่พ้นทุกข์หลุดจากวัฏฏะ ผู้นั้นจะรู้ว่าไม่มีการแยกเขา-เรา จะหลุดจากธรรมคู่ เป็นอิสระ(แต่ไม่ใช่อัพยากฤตธรรม) ผู้นั้นจะรู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมเดียวกัน รู้สึกถึงการเป็นองค์รวมแห่งกระแสละเอียดการที่จะเข้าถึงตรงนี้ได้ต้องประพฤติศีล 5 ภาวนาสมาธิ หมั่นขัดเกลาสมาธิหมั่นขัดเกลากิเลสออกจากกายใจนั่นเอง<O></O>