ศาสนธรรมค้ำจุนโลก และ ศิลาแลง

ศาสนธรรมค้ำจุนโลก
ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมนุษย์ การที่โลกยังมีความสงบสุขและร่มเย็นมากกว่าการเข่นฆ่าทำร้ายกัน ก็เพราะมนุษย์ส่วนมากของโลกยังมีศาสนธรรมและยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ซึ่งแต่ละศาสนาต่างก็มีหลักการและหลักธรรมมุ่งสอนและนำทางสาวกให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรมความดีและใฝ่หาความสุขสงบ
ศาสนาสำคัญๆในโลกมีอะไรบ้าง
พุทธศาสนา เป็นศาสนาใหญ่ศาสนาหนึ่งของโลก มีกำเนิดขึ้นในประเทศอินเดีย พระศาสดาคือ พระศากยโคดม หรือพระสิทธัตถะ ซึ่งเป็นโอรสของกษัตริย์อินเดีย ราชวงศ์ศากยะ พุทธศาสนาได้แผ่มาจากอินเดียเข้าสู่อาณาจักรไทยแต่โบราณ ตั้งแต่ยังเป็นอาณาจักรสุวรรณภูมิ ปัจจุบันพระพุทธศาสนาในอินเดียได้ถูกศาสนาอื่นเข้ามาแทนที่ จนสลายตัวจากอินเดียมาเจริญรุ่งเรืองมากในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดของพระบวรพุทธศาสนา ประชากรในประเทศไทยนับถือพุทธศาสนามากกว่าร้อยละ ๘๐ และแม้ชาวตะวันตกก็นิยมเข้ามาศึกษาและนำพุทธศาสนาไปเผยแพร่ในประเทศต่างๆ ประเทศที่ถือพุทธศาสนาเป็นหลักได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น จีน เป็นต้น
พุทธศาสนามีหลักธรรมมุ่งให้ประพฤติปฏิบัติดีทั้งกาย วาจา ใจ และพุทธศาสนิกชน ต้องเข้าถึงหลักธรรมของพุทธศาสนาด้วยตนเอง เพื่อการพ้นทุกข์ และพบสุขจริงแท้ คือ การหลุดพ้น ได้แก่ นิพพาน และมีหลักสัจธรรม คือเกิด แก่ เจ็บ ตาย ส่วนหลักธรรมสำคัญที่ชาวพุทธควรเรียนรู้และปฏิบัติ เช่น อริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ หมายความว่า รู้จักว่าความทุกข์คืออะไร ทุกข์สมุหทัย หมายความว่า รู้เหตุแห่งทุกข์ นิโรธ คือ รู้จักหาทางดับทุกข์ และ มรรค คือ หนทางที่พ้นจากความทุกข์ได้ และชาวพุทธควรศึกษาปฏิบัติเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อให้มีวิถีทางดำรงชีวิตอย่างฉลาดและสามารถพบความสุขได้ เป็นต้น
คริสต์ศาสนา เป็นศาสนาใหญ่มาก มีประชากรในโลกนับถือมากที่สุด พระศาสดา คือ พระเยซู คริสต์ เชื้อชาติยิว หรือฮิบรู ศาสนาคริสต์มีกำเนิดในแถบเยรูซาเล็ม ซึ่งปัจจุบันคือประเทศอิสราเอล คริสต์ศาสนาเกิดภายหลังพุทธศาสนา แต่ได้ขยายแพร่หลายไปทั่วโลกอย่างกว้างขวาง เช่น คาทอลิก โปรเตสแตนท์ ออโธดอกซ์ ฯลฯ
ปรากฏในพระคัมภีร์มาระโกและออกโซโดว่า พระศาสดาทรงสั่งสอนว่าครอบครัวเป็นสถาบันศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนมีฐานะเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้า
ศาสนาอิสลาม ถือกำเนิดในเมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาราเบีย มีพระมะหะหมัด ซึ่งเป็นชาวอาหรับเป็นพระศาสดา นับถือพระเป็นเจ้า คือ พระอัลเลาะห์ ศาสนานี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.๑๑๓๓ มีศูนย์กลางอยู่ที่นครเมกกะ ซึ่งถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อิสลามิกชน หรือชาวมุสลิมจะหาทางจาริกไปแสวงบุญที่นครเมกกะ เพื่อสักการะหินกานะห์อันศักดิ์สิทธิ์ อย่างน้อยก็สักครั้งหนึ่งในชีวิต อิสลามิกชนชายสามารถมีภรรยาได้ถูกต้องตามกฎหมายถึง ๔ คน และหลักธรรมของศาสนาเน้นความซื่อสัตย์สุจริตของสามีภรรยา ผู้นำครอบครัวตั้งตนเป็นตัวอย่างที่ดีของทายาทผู้สืบตระกูล ต้องเลี้ยงดูทายาทให้สมกับเป็นผู้ที่พระเจ้าประทานมา
ประเทศที่ประชาชนนับถือศาสนาอิสลามเป็นหลักมีมาก เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปากีสถาน ลิเบีย อาหรับ โซเวียต ซาอุดิอาราเบีย เป็นต้น
ศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เป็นศาสนาที่เกิดในประเทศอินเดียก่อนพุทธศาสนา นับถือเทพเจ้า ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้บันดาลทุกข์สุขหรือความดีงาม ความยุ่งยากแก่มนุษย์ จึงมีการบูชาเทพเจ้า เทพเจ้าที่สำคัญ เช่น พระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม พระวิษณุ ผู้สืบศาสนาเรียกว่า พราหมณ์นุ่งห่มขาว ในประเทศไทยก็ยึดถือพิธีกรรมตามศาสนาพราหมณ์ทั้งในราชสำนักและในหมู่ประชาชน เช่น การกำหนดฤกษ์ยามการบูชา เซ่นสรวงพระเป็นเจ้า การประกอบพิธีพราหมณ์ เช่น การโกนจุก ศาสนาพราหมณ์เน้นหลักการที่ชายหญิงมีคู่ต้องได้รับความเห็นชอบจากบิดามารดา
ในประเทศไทย มีเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ที่เสาชิงช้า และมีประเพณีที่มีพราหมณ์ดำรงตำแหน่ง พระมหาราชครูพราหมณ์ รับราชการในการประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์ของราชสำนักด้วย
ส่วนศาสนาอื่นๆเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือไม่มากเท่าศาสนาที่กล่าวแล้วได้แก่
ศาสนาซิกข์ แยกจากฮินดู มีหลักการที่สามีภรรยาต้องดื่มน้ำสาบานร่วมกัน มุ่งให้ชายให้เกียรติหญิง หญิงชายต้องมีธรรมะที่จะเป็นพ่อแม่ที่ดี ครอบครัวต้องยึดมั่นในศาสนา และสามีต้องรับผิดชอบครอบครัว
ศาสนาขงจื๊อ ขงฟูจื๊อเป็นศาสดา เกิดขึ้นในประเทศจีน มีแนวคำสอนเน้นหนักในทางสังคม ให้ครอบครัวและชาติบ้านเมืองสงบสุข มุ่งเรื่องความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ พ่อแม่ ญาติ พี่น้อง และผู้มีพระคุณ
ศาสนาชินโต เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น มุ่งสอนให้นับถือธรรมชาติ เช่น ดวงอาทิตย์ ภูเขาไฟ เป็นประดุจเทพเจ้า เน้นให้ยึดมั่นในความสะอาด ความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และความรักคุณธรรมต่างๆ
ศาสนาเต๋า หรือลัทธิเต๋า คล้ายคลึงกับพุทธศาสนา เกิดขึ้นในประเทศจีน ก่อนพุทธศาสนาประมาณ ๖๐ ปี
ศาสนาเชน เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย มีมหาวีระ หรือชินวรรธมาน เป็นศาสดา เชนเป็นศาสนาที่เกิดขึ้นก่อนพุทธศาสนา
ศิลาแลง
ศิลาแลงหรือดินแลง (Laterlite) คือดินที่มีส่วนประกอบของสารสำคัญคือ เหล็กออกไซด์กับอะลูมิเนียมออกไซด์ จึงมีสีเป็นสีสนิมเหล็กและมีรูพรุนอยู่ทั่ว ดินแลงนี้มักจะก่อตัวเป็นพืดใหญ่อยู่ใต้หน้าดินธรรมดา เมื่อขุดเปิดลงไปถึงดินแลงจะพบว่า มีลักษณะอ่อนตัว ใช้ขวานหรือเหล็กสกัดหรือเครื่องมือขุด ขุดเซาะให้เป็นร่อง แล้วงัดออกมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยมใหญ่ๆได้ เมื่อนำแลงออกจากใต้ดินระยะหนึ่ง แลงถูกอากาศจะแข็งตัว ดังนั้น หากจะตัดแต่งหรือทำให้เป็นรูปร่าง ต้องรีบดำเนินการ มิฉะนั้นแลงจะแข็งตัว ยิ่งถ้าทิ้งไว้นานถึงเดือน ก็จะแข็งตัวขึ้นกว่าเดิม จึงนิยมนำไปใช้เป็นอิฐปูทางเดิน ใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง เช่น กำแพงบ้าน และในสมัยโบราณใช้ก่อสร้างอาคาร ปรางค์ ทำเป็นผนัง กำแพง พื้นลาน รูปแกะสลักประดับโบราณสถาน เช่นที่ปราสาทหินทางภาคอีสาน เป็นต้น
เนื่องจากศิลาแลงมีสารประกอบที่สำคัญคือ เหล็กออกไซด์กับอะลูมิเนียมออกไซด์ ถ้ามีเหล็กเป็นสารประกอบในปริมาณมากพอ ก็อาจจะนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตถลุงเอาเหล็กออกมา หรือถ้ามีอะลูมิเนียมเป็นสารประกอบมาก ก็นำไปเป็นวัตถุดิบถลุงเอาอะลูมิเนียม
ศิลาแลงจะมีรูพรุนเป็นลักษณะเฉพาะประจำตัว ลักษณะดังกล่าวเกิดเฉพาะในท้องที่ที่มีฝนมาก แต่มีระยะแล้งนานพอๆกัน ในหน้าฝนน้ำใต้ดินมีระดับสูง ก็จะท่วมท้นตอนบนของชั้นดินที่ต่อไปจะกลายเป็นศิลาแลง น้ำฝนจะละลายสารอะลูมิเนียมเข้ามารวมตัวไว้ พอหน้าแล้ง น้ำใต้ดินแห้งลดระดับลง ก็พาเอาสารอะลูมิเนียมไหลซึมลงสู่ที่ต่ำด้วย นานเข้าจะเหลือเหล็กออกไซด์อยู่ในตอนบนมากเข้า และอยู่ในสภาพเป็นวุ้น วุ้นเหล็กออกไซด์มักดึงตัวมารวมเป็นกลุ่มๆหย่อมๆ จึงทำให้เนื้อดินเกิดเป็นโพรงพรุนให้น้ำใต้ดินซึมผ่านได้ง่าย สารอะลูมิเนียมออกไซด์จึงยิ่งถูกละลายหลุดไปได้เร็วขึ้น ลักษณะเป็นรูพรุนนับเป็นลักษณะเด่นเฉพาะของศิลาแลง
ศิลาแลง หรือดินแลง นี้ ถ้าถูกฝนชะหรือลมพัดผิวหน้าดิน และเกิดเปื่อยยุ่ยกระจายตัว กลายเป็นดินลูกรัง ซึ่งมีสีแดง เนื้อลูกรังนี้จับตัวกันแน่นดีกว่าดินหรือทราย จึงนิยมใช้ทำถนน
http://www.sakulthai.com/