ว่าด้วย ฌานหนึ่ง>แปด กับ ขณิก-อุปจาร-อัปปนาสมาธิ ต่างกันอย่างไร?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย กล่องไม้ขีดไฟ, 10 กรกฎาคม 2016.

  1. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ใครทราบบ้างว่า มันต่างกัน อย่างไร?

    เชิญแสดงความเห็นตามสบาย....

    (เห็นไม่ค่อยมีกระทู้ใหม่ๆ ครับ)
     
  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ปรางจริตทางสุกขวิปัสสโก ตอนเจริญสติในอิริยาบถต่างๆ สมาธิจะเกิดไม่ต่อเนื่องยาวนาน คือ มีสมาธิเป็นอิริยาบถทีละอิริยาบถไป

    เซน จะมีคำกล่าวว่าจงอยู่กับปัจจุบันขณะด้วยความตื่นรู้ ปรางก้อเอามาใช้ในการปฏิบัติ เวลาสวดมนต์ จิตจะจดจ่อทีละคำสวด ทีละตัวสะกด ถ้าสติเผลอไป เรารู้ตัว เค้าจะกลับมาหาคำสวดเอง

    อย่างเวลาแปรงฟัน ปรางใช่สติกำหนดรู้ทุกสัมผัสของการแปรง ลพ. พุธเรียกว่าเป็นการทำสมาธินอกวิธีการ คือไม่ได้อยู่ในอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ หรือนอนสีหไสยาส
     
  3. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ปรางใช้ขณิกสมาธิที่เกิดจากการสะสมมาต่อเนื่อง ในการเจริญปัญญา ปัจจุบันก้อไม่ได้ก้าวหน้ามาก เพราะ ช่วงนี้ทุ่มเทกับการทำสบู่มากๆ จนละเลยการสวดมนต์ไป
     
  4. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    เล่าจาก ประสบการณ์นะครับ เพราะเคยนั่งได้ถึง 2 ชม. โดยที่ไม่มีอาการปวดเมื่อย แต่พอออกจากสมาธิ ก็เหน็บกินขาทุกที ต่างกันที่ความละเอียดของอารมณ์ ยิ่งเราเข้าถึงสมาธิในระดับสูงๆ ความรู้สึกรับรู้ถึงสิ่งต่างๆภายนอกแทบจะไม่มี แม้แต่ลมหายใจก็หายไปด้วย สมาธิในระดับสูงมีพลังมาก แม้ออกจากสมาธิแล้ว ก็ยังรู้สึกสดชื่น แจ่มใสกระปรี้กระเปร่าไป สองสามวัน ไม่รู้สึกว่าง่วงเหงาหาวนอน หรือ สลึมสลือเลย เหมือนแบตเตอรี่ที่ชาจเต็มที่ มันรู้สึกมีพลัง มีกำลัง สติปัญญาก็ว่องไว แต่เดี๋ยวนี้ ยอมรับว่าห่างหายจากสมาธิในระดับนั้นไปแล้ว อาจเพราะมาเจริญทางวิปัสสนามากขึ้นครับ
     
  5. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +470
    มารเอย เธอเกิดจากการดำริของเรา เธอจะเกิดกับเราไม่ได้อีก
    อันนั้นเพราะพระพุทธองค์ ท่านตรัสว่าจิตที่บริสุทธิ์แล้วมันเป็นเช่นนั้นๆ
    คนที่เขาฝึกยิงธนู เขาง้างแล้วยิงๆ ลงเป็นปัจจุบันลงไป มันแกว่งไปซ้ายที ขวาที ตึงบ้าง หย่อนบ้าง ตามกำลังของเขา
    แต่อันนี้ เล็งอยู่นั่นหละ ละล้าละลังๆ ท่านี้ดีไหมหนอ ท่าไหนดีที่สุด ไวที่สุด ลัดสั้นที่สุด ไม่ยิงสักที
    นู่น แล้วบอกว่าจะไปยิง เสือ ก็โดนเสือคาบไป
    โดนความคิดมันหลอกไปไหนต่อไหนแล้ว มารมันเอาไปกิน
    แล้วก็จะไปว่า ต้องเป็นแบบนั้น ศีลรักษากี่ข้อ แบบไหนดีที่สุด สมาธิขั้นไหนดีสุด ปัญญาเดินทางไหนสั้นสุด เชื่อมันไปหมดหน้าตัก มันบอกให้ไป ตัดราคะ ตัดปฏิฆะ เดี๋ยวสักพักก็จะไป เป็นเซน ปฏิเสธหมด ไอ้นั่นก็ไม่ใช่ ไอ้นี่ก็ไม่ใช่ ไม่มีอะไรแล้ว ราคะก็ไม่มี อวิชชาก็ไม่มี ว่างๆ อรหันต์แล้วมั้ง สุขวิปัสสโกแล้วกัน
    ไม่รู้ทันตอนนี้ ต่อให้ไปพบพระพุทธเจ้า ก็ยังง้างอยู่นั่นหละ ไม่ยิงหรอก
    ที่หลวงพ่อพุธท่านให้ทำ เราทำได้ทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอน เราเอาสติ เป็นตัวรู้จิตที่มันไหลออก
    รู้ไม่ทัน มันก็ไปโดนหลอก ให้จมความคิดอย่างที่เป็นอยู่
    แล้วเราไม่ได้เอาผลว่าจะ ก้าวหน้า หรือถอยหลัง ให้มีสติลงปัจจุบันลงไป
    เพราะที่แนะนำไปแล้วสองครั้ง ก็ยังเป็นอยู่แบบเดิม
    ง้างอยู่นั่นละ ไม่ยิงสักที รอคนมาเชียร์ ขอกำลังใจ
    ถ้ายิงเมื่อไร แล้วมันเบี้ยวไป เฉไป ซ้ายที ขวาที มีเหตุมีผล ค่อยว่ากัน
     
  6. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ชอบใจอ่ะค่ะ ชอบคนพูดตรงๆ บางทีดิฉันก้อเหมือนดัดจริตตอแหลอ่ะค่ะ กิเลสมารยาอยากได้ความเห็นใจ
     
  7. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ไม่สมกับเป็นบุตรพระพุทธเจ้า ลูกศิษย์ลพ. พุธกับครูอ้อยเลยเนอะ แหลไปเรื่อยๆ
     
  8. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ธรรมต้องการบุคคลผู้องอาจ คนจริง.. ไม่ใช่คนโลเล สับปลับ ใช่มิใช่?
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    สาธุครับทุกท่าน

    พูดถึงหลวงพ่อพุทธ เราเคยไปวัดท่านนะ

    ไปได้หนังสือมาห้าเล่ม...

    ท่านเน้นการเจริญสติในชีวิตประจำวัน..

    ผมชอบที่ท่านสอนการสังเกตุความคิด

    เห็นความคิด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
    เราไม่ไป ดีใจ เสียใจ กับความคิด

    มันแปลกอย่าง นักปฏิบัติ ชอบปฏิเสธความคิด

    มักเข้าใจว่า ถ้าปิฏิบัติภาวนาแล้วไม่ให้คิดอะไร...

    เห็นความคิดเป็นตัวอันตราย แล้วพยายามหยุดคิด

    ยิ่งพยายาม มันยิ่งคิด...

    ....
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ตอนที่ องคุลีมาน ฆ่าคนไป 999 ศพ

    ไปเจอพระพุทธองค์ ตรัสเรื่อง " เราหยุดแล้ว "

    องคุลีมาน ก็ปรารภว่า " ตนนั้นฆ่าคนมาเยอะ คงเอาดีทางธรรมไม่ได้ "

    พระพุทธองค์ ก็ ตรัสตอบไปว่า

    ทันทีที่ รู้ว่า สิ่งนั้นมัวหมอง ก็จิตที่กำหนดรู้ได้อย่างนั้น นั่นแหละ
    เจริญแล้ว หยุดแล้ว

    สามารถ พ้นได้ด้วยการ กำหนดรู้ สภาวะหมองๆของใจ ได้เลย

    การฆ่า ของ องคุลีมาน จึงไม่มีอีก พ้นวิเศษ กำหนดรู้ แล อยู่

    [ ไม่ต้องใช้ สภาวะที่ดีๆ เพื่อการเจริญสติ สำเร็จ นิพพาน ก็ได้ ]
     
  11. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ปรางไม่ได้ว่าประชดใครหรือจะด่าตัวเองนะคะ แต่ปรางเห็นสภาวะของตัวเองจริงๆว่ามันเป็นอย่างเงี้ย ถ้าเราหลงโลกไปดัดแปลงปรับปรุงนิสัย ไม่ยอมกำหนดรู้ มันก้อเป็นการติดดีอีกเช่นกัน

    ไม่มีอะไรดีเท่า การรักษาใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว แล้วกำหนดสติรู้สภาวะจิตไปซื่อๆตรงๆเลย
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ยกตัวอย่าง พระโสดาบัน ท่านหนึ่ง ด้วย กรรมจำแนกสัตว์ให้มาเกิด

    กรรมจำแนก องคุลีมาน ให้มาเกิด เป็น ดาวเพชรฆาติ ก็อาศัย กำหนดรู้ วาระกรรม
    ที่พามาเกิด กรรมที่พามาเกิดเป็นมะนุดเพชรฆาติ นั่นแหละ มากำหนดรู้ " หยุด "

    วางจิตให้ถูก ก็สำเร็จธรรม ด้วย วาระกรรมใหญ่ของตนนั่นแหละ เป็นทุนในการภาวนา


    ทีนี้ พระโสดาบันท่านหนึ่ง วาระกรรมของท่าน คือ ต้องไปเป็น ภรรยาโจร ( นาย
    พราณมาปล้นบ้าน จริงๆ มาเอา ทรัพย์อื่น แต่ โสดาบันท่านนั้น เห็น หน้าโจรหนุ่ม
    ก็ ฟ้าผ่า หอบผ้าหอบผ่อน หนีตามโจรไปทันที )

    ทีนี้ กรรมมันชักพาท่านไปอย่างนั้น โจรก็หนีตนจนมาอยู่ป่าลึกแล้ว จะกลับบ้านก็
    กลับไม่ถูกแล้ว อยู่ไปหลายวันเกิ๊น ก็เกิดมีลูกชายกับโจรเสียแล้ว ก็เลย
    ตกกระไดผลอยโจน มีหน้าที ทำลูกดอกอาบยาพิษอย่างดี ชนิด โดนปั๊ป
    สลบตายทันที

    ก็โสดาบันท่านนั้น ก็อาศัย การวางจิตให้ถูก อาศัย อกุศลกรรมตักเตือน
    (คือ หน้าทีจริงๆ คือ ต้องมาทำ ศาสตราลุกดอกอาบยาพิษ สีสวยกว่าสบู่
    หลายเท่า) ก็ทำลูกดอกให้สามีทุกวัน ทำงานตามหน้าที ก็ภาวนาจน
    ถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้


    ปล. ตามท้องเรื่องๆ เรื่องโสดาบันแฟนนายพราณ อันนี้ ตอนหลัง โจร กับ บุตร
    โจรอันเกิดแต่โสดาบัน มีวาระจะสำเร็จธรรม พระพุทธองค์ก็เสด็จเข้าป่าไปโปรด
    นายพราณ และ บุตร จนสำเร็จอรหันต์ ณ ราวป่านั้น คือ จบลงด้วยการพ้นเกิดพ้นตาย
    พ้นวัฏสงสาร ไม่ใช่เรื่อง สำเร็จโสดาบันแล้ว7มันกว่าเดิม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2016
  13. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เออ นั่นดิ ถามไรหน่อยนะคะ คือชอบเจ้าที่มากเลย กลิ่นโคตรหอม มีกลิ่นให้ดมทุกวัน จนได้เสียกันในฝัน และมาจบที่ร่ำไห้ เพราะตื่นมาก้อไม่เห็นหน้า เห็นแต่หน้าพระมาบิณฑบาตร คิดถึงสามีทีไร หน้าพระลอยมาทุกที นี่หลบหน้าไม่ออกไปหน้าร้านเลยนะ บอกทีทำไง

    ไหนจะกลั้นใจไม่ดมกลิ่น ไหนจะกลั้นใจไม่คิดอกุศล
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    กามใน พุทธศาสนา หมายเอาเรื่อง การพอใจที่ได้กลิ่น

    ทันทีที่ ได้กลิ่นแล้วความ พอใจ ก็กุมจิต ในทางธรรม เขาเรียกว่า เสพกาม

    และ ทันทีที่ จิตได้กลิ่นแล้วพอใจ ไม่รู้ทันว่า เดี๋ยวความพอใจ มันจะเกิด
    เราก็เรียกว่า หลงลืมสติ .....และ การไป ประชุมเรื่องราว หลังจากนั้น
    กลายเป็นเรื่อง โรแมนติคแบบโลกๆเขาจะรำพันกัน อันนี้เรียกว่า การประชุม
    ของกาย กาย(ประชุมกัน)ปรากฏด้วยเรื่องกาม ก็เรียกว่า ไม่มีสัมปชัญญะ

    ดังนั้น

    เวลา จิตสัมผัส กลิ่น ให้กำหนดรู้ว่า ความพอใจ มันจะต้องเกิด ห้ามไม่ได้

    แล้วให้ตามเห็น ความพอใจนั้น เดี๋ยวก็เกิด เดี๋ยวก็ดับ เป็นหนทาง ตามเห็น
    การ สิ้นไปของการประชุมกันของ กาย อันเกิดจาก กาม

    พอกำหนดรู้ได้ จิตจะห่างจาก กาม จะเกิดสติ มีสัมปชญญะ มีจิตไม่ห่างจากปฐมฌาณ

    เพราะ จิตที่ไม่เผลอเสพกาม อันนั้น จัดว่าเป็น จิตที่ไม่ห่างจาก ปฐมฌาณ

    บัญฑิต จะโอน โน้มจิตไปเห็น การเกิดของ ปฐมฌาณ เป็นกุศลที่ ห่างออกจากกาม
    จิตจึงบันเทิง มีปิติ (เพราะเห็น จิตไม่เป็น ทาสของกาม กายอันเกิดจากกาม
    ไม่ปรากฏ มีแต่กายอันเกิดจาก ปฐมฌาณ เนืองๆ )

    แล้วกำหนดรู้อย่างเดิมว่า เดี๋ยวความพอใจใน ปฐมฌาณ ก็เกิด แล้วก็ ดับ เป็นธรรมดา

    ฌาณอะไร ชขณิกะ อุปจาร อัปปปนา มันก็เกิด ดับ เป็น นามรูป เป็นธรรมดา

    สิ่งใดเกิดแต่เหตุ เหตุนั้นดับ ธรรมนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา
     
  15. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    สาธุ วันนี้คุณนิวรณ์เทศน์ดี
     
  16. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    เหมือนตอนกระผมปฎิบัติใหม่ๆ ก็อยากให้มันไม่คิดอะไร อยากให้หัวมันโล่งๆ ว่างๆ เวลานั่งสมาธิก็อยากให้มันสงบ จนจิตฟุ้งซ่านวุ่นวายสับสน เที่ยวค้นหาธรรมคำสอนต่างๆมาปฎิบัติ กลายเป็นว่ายิ่งหนักกว่าเดิม ยิ่งอยากไม่ให้มันคิด มันยิ่งฟุ้งซ่าน เพราะตอนนั้นเรามันโง่ โง่จนถึงขนาดไม่รู้ว่า ไอ้ความที่เราอยาก หรือไม่อยากให้มันคิด มันเป็นตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา นั้นและถึงได้มารู้เข้าทีหลัง :cool:
     
  17. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    สาธุครับ คุณXtrem

    ผมก็ไง่เหมือนกันแหละตอนเรื่มใหม่
    คุณจับตัว ตัณหา ได้ ไม่ธรรมดาเลยนะครับ

    อย่างว่านักภาวนา มีทางเดินเป็นของตนเอง...

    .....
     
  18. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ตั้งกระทู้นี้ ไว้ระบายความรู้สึกกัน...

    ความเห็นส่วนตัวผม

    มันต่างกันมากเลย

    ดูจากประวัติของพระพุทธองค์

    ท่านฝึกได้ถึงฌานแปด จนชำนาญ
    ท่านบอกว่าไม่ใช้ทางทำลายอาสวะกิเลส

    ตอนนั้งใต้ต้นโพธ์
    ท่านกำหนดวิถีจิตใหม่
    ทำจิตให้ปราศจากนิวรณ์ ด้วยการดูลมหายใจ
    จากเข้าขณิก-อุปจาร-อัปปนา สมาธิ
    ตามกำลังของสติ
    จนจิตตั้งมั่นเหมาะแก่งาน....
    จนหาเจอพระนิพพาน

    ผมเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ...

    การใช้ ฌาน ตามหาพระนิพพาน
    ไม่รู้ว่าเจอพระนิพพานแบบไหน?...

    .....
     
  19. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    การตัดสังโยชน์ ตัดในฌานค่ะ อย่างน้อยต้องได้กำลังของปฐมฌาน(สำหรับสุกขวิปัสโส)

    และการเสวยวิมุตติสุข จะเกิดไม่ได้ ถ้าไม่ใช้กำลังของฌานเพื่ิอระงับนิวรณ์

    ฌานเป็นฐานจากนั้นจึงต่อด้วยวิปัสสนา คืิอ พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

    จิตหมดข้อกังขา พิจารณาเห็นไตรลักษณ์แจ่มแจ้ง

    ขั้นตอนแต่ละขั้นเหมือนง่าย แต่ถ้าปฏิบัติจริงๆ ต้องถวายชีวิตยอมตายนะคะ อันนี้คือเคสปราง ปรางเคยทำถึงขั้นอุกฤษ์จริงๆมาแล้ว แต่หลังจากนั้นครูบาอาจารย์มาโปรด ว่าให้ปฏิบัติแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่ะ

    ตอนตัดสังโยชน์ดูว่ายาก แต่เสวยวิมุตติสุขยากกว่า เพราะเราต้องหมั่นพิจารณาจิตตัวเองให้แจ่มแจ้งในสภาวะธรรม พูดง่ายๆคือจิตต้องอยู่ในฌานต้น และแทงอริยสัจให้แจ้ง ที่คุณนิวรณ์บอกว่า ให้ปรางกำหนดรู้ทุกขสัจนั่นแหลค่ะ

    แค่นี้ไม่พอค่ะ ต้องฉลาดในการพิจารณาตัดกิเลส อุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ท้อ ทุกคนคิดว่ามีแค่มาร แต่จริงๆคือรวมวิบากกรรมในอดีตด้วย

    สรุป ไม่ว่าจะเกิดอะไร ก้อต้องปฏิบัตืจริงค่ะ หนีไม่ได้เลย
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ขนแขน แสตนอัพ !!!

    ธรรมะของพระพุทธองค์ เป็น ของรู้เร็ว ไม่ใช่รู้ช้า

    นางปฏาจาราาเถรี วิ่งเข้ามาท่ามกลางหมู่บัณฑิตสงฆ์ ด้วยอาการผ้าผ่อน
    ไม่มีปิดร่างกาย เพราะ สามีไม่เที่ยง ลูกไม่เที่ยง พ่อแม่ก็ไม่เที่ยง แล้วไม่ได้
    กำหนดรู้ ทุกขสัจจ จึงพร่ำพรรณาเหมือนคนสติไม่ดี ไม่มีธรรม ขนาด
    "มางเดินดิน" ที่ปรารภจะเพียรธรรม ยังเข้าใจผิด

    แต่ ธรรมย่อมรักษา ผู้กำหนดรู้ทุกขสัจจธรรม วินาทีเดียว ก็อาจจะโน้มไปสู่..........


    ประมาทไม่ได้

    ธรรมของพระพุทธองค์ อัศจรรย์ เกินกว่า จะมา มารเดินคว้า จะมา ทำหล่อ
    เปิดกระทู้ใหม่เองด้วยอาการ อยากสอน โดนไม่มีเหตุให้สอน ธรรมลามกเรียกพี่

    สู้ ผู้หญิงที่เขา อดทน มีขันติ มีขัตติยมานะ ในการโน้มไป เฝ้นธรรมของคนรู้เร็ว
    ไม่ใช่รู้ช้า ไม่ได้

    มารเดินคว้า...เอ๋ย.... จงไสห...หลบไป !!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...