"วิสุทธิจิต" : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 3 มิถุนายน 2023.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    350943644_608856411196699_2219371593241360082_n.jpg

    #วิสุทธิจิต

    “...วิสุทธิจิต โอ...ลูกมันไม่ใช่ธรรมดานะ กว่าที่จิตจะบริสุทธิ์ได้นั่น กว่าที่ความโกรธกับความรักต่างกันอย่างจริงต่างกันต่างอยู่ของมัน ความบริสุทธิ์ที่เป็นวิสุทธิจิตก็เป็นอิสรภาพอยู่อย่างงั้น ความรักก็ไม่เข้าไปก้าวก่าย ความชังก็ไม่เข้าไปก้าวก่ายอยู่เป็นปกติ รู้ แค่ รู้ สติกั้นหมดเลย รักก็ไม่มี ชังก็ไม่มี เป็นอุเบกขาสง่าผ่าเผยอยู่อย่างงั้นนี่คือความอัศจรรย์ลูก ก็เป็นมาก่อนไม่ใช่ว่าไม่เป็น ถ้าไม่เป็นแล้วจะเอาอะไรมาสอนกันใช่ไหมลูก ความรักเราก็รักสุดๆมาก่อน ความโกรธเราก็โกรธสุดๆมาก่อน ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกัน รักดีกว่าชัง ผลสุดท้ายมันก็เหมือนกัน มันก็กลับหน้ามือเป็นหลังมือ รักกันจะเป็นจะตายหนีตามกัน ผู้หญิงผู้ชายอยู่ด้วยกันกี่วันได้ลูกจะฆ่าแกงกัน ไหนล่ะไหนว่ารักดีกว่าชัง มันอยู่ด้วยกันนะลูกมันเป็นมืออันเดียวกันนี่ อีกอันเป็นหน้ามืออีกอันเป็นหลังมือมันก็เสมอกันของมัน หน้ามือเป็นหลังมืออันที่แท้ก็คือ ตัวโกรธกับตัวรักเป็นอันเดียวกันเมื่อใครทิ้งได้แห่งความโกรธ ความรักก็ทิ้งได้ เมื่อใครทิ้งความรักได้ ความโกรธก็ทิ้งได้ นี่ลูกมหัศจรรย์ที่สุดเลยไง ใจที่มันเร่าร้อนกระเสือกระสนดิ้นรนในรักและในชัง ในการแสวงหายุติความเร่าร้อนยุติมีแต่ความชุ่มเย็นเข้าไปครอบงำแทน ไม่ทราบว่าความเร่าร้อนเป็นยังไง งั้นผู้ที่ทรงมรรคทรงผลขั้นสูงสุดนี่ จึงอยู่อย่างปกติสง่าผ่าเผย

    แม้โลกธรรมแปดจะเข้ากระหน่ำ แต่ละองค์ๆ ก็เฉย อยู่ภายในมีอากัปกิริยาภายนอกบ้าง แต่ว่าภายในไม่สะทกสะท้านเป็นปกติ #ได้มาก็ปกติ #สูญเสียไปก็ปกติ #ถูกนินทาก็ปกติ #ถูกสรรเสริญก็ปกติ เป็นปกติสุขทุกข์เป็นปกติอยู่อย่างงั้น เพราะวิสุทธิจิตไม่ได้ไปยึดไปถือในกิริยาแห่งขันธ์อีก ขันธ์ส่วนขันธ์ ธาตุทั้งสี่ส่วนธาตุทั้งสี่ ส่วนเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณส่วนของมันต่างกันต่างจริงต่างอยู่ แยกกันโดยอิสรภาพ ขันธ์ก็อยู่ อยู่ไป อยู่ไปด้วยสังขารขันธ์แห่งการปรุงการแต่ง อาศัยรูปอยู่ไปของมัน #ไม่พึงพอใจคนนี้ก็ทราบสติกั้นหมด #พอใจคนนี้ก็ทราบสติก็กั้นหมด เพราะวิสุทธิจิตตัวนั้นไม่มีไฟแห่งความรักและความโกรธเข้าไปครอบงำได้เลย #อ๋อ..นี่แลลูกจึงเรียกเมตตาตนเอง รักตนเองอย่างสมบูรณ์บริบูรณ์ ไม่ได้ไปรักคนอื่น ไม่ได้ไปเมตตาคนอื่น ไม่ได้ไปแสวงหาอย่างอื่นอีกเป็นปกติหรือว่าความมหัศจรรย์ก็เกินมหัศจรรย์ มันอยู่ด้วยกันแต่พวกเราไม่รู้ว่ามันคืออะไร มายาก็ต่างมายาส่วนที่เหนือมายาก็อยู่ที่เหนือมายาของมัน อยู่ไป ขันธ์มีอยู่ก็ใช้ไปให้เป็นประโยชน์แก่โลกแก่สงสาร ใช้ไป ถึงกาลเวลาธาตุขันธ์แตกก็แล้วไป นั่น...ลูก ไม่ได้ห่วงอะไร ไม่ได้ห่วงใยใครเพราะตัวบริสุทธิ์ที่เรียกว่า #วิสุทธิจิต

    ไม่ห่วงใครไม่มีอะไรเข้าไปแอบแฝงอยู่ในนั้นเลย ไม่ห่วงคนนั้นไม่ห่วงคนนี้ แต่เรื่องธาตุเรื่องขันธ์ก็มีของธรรมดาก็ดั่งที่พูดให้ฟัง มันก็มีบ้างแต่สติกั้นหมด เพราะมันกั้นไม่ให้เข้ากัน รูปอยู่ส่วนรูป เวทนาส่วนเวทนา สัญญาส่วนสัญญา สังขารส่วนสังขาร วิญญาณส่วนวิญญาณ จิตที่เป็นปะภัสชรตัวนั้นหรือเป็นวิสุทธิจิตตัวนั้น ก็อยู่ของมันเป็นปกติเพราะทุกอย่างลงในกรอบของอนัตตาทั้งหมดแม้สติก็ตาม รู้อยู่เห็นอยู่ แต่ก็ไม่ได้ยึดไม่ได้ถือซึ่งกันและกัน ยึดสติก็ไม่ได้อีกเพราะตัวยึดมันถูกทำลายหมด มันไม่ได้ยึดอะไร เป็นปกติก็มันคือรู้ สภาพแห่งความเป็นจริงรู้ว่าเจ็บรู้ว่าปวดรู้ว่าสุขรู้ว่าทุกข์ รู้ว่าเขาติฉินนินทา รู้ว่ามันไม่สบายใจ รู้ว่าไม่สบายกาย รู้เพราะธาตุวิญญาณยังอยู่ยังไม่ดับไปไหน มีฝันมีอะไรเป็นปกติแห่งเรื่องธาตุขันธ์ ฝันบ้า ฝันบอ ฝันดี ฝันไม่ดี ก็เรื่องของมัน ฝันลามกจกเปรตมันก็เรื่องของมัน ก็มันต้องฝันสิก็มันยังอยู่มันมีวิญญาณอยู่ ก็ขันธ์มันยังอยู่มันต้องมีวิญญาณ ถ้าขันธ์ยังอยู่มันไม่มีวิญญาณก็แสดงว่ามันเป็นบ้าเป็นอะไร ขันธ์วิบัติมันวิบัติไปหมดแต่นี้มันไม่ได้วิบัติไงลูกมันเป็นปกติของมัน

    ถ้าจะพูดถึงหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าถ้าเรานำมาประพฤติปฏิบัติใจมันก็ชุ่มเย็น ลูก ใจมันไม่เร่าร้อน แต่ใครจะทำได้ล่ะลูก #เชื่อความคิดตัวเองหลงในความคิดตัวเอง ไม่รักตนเองไปรักความโกรธ ไปรักความรักคนอื่นเข้าให้มันก็เป็นอย่างงั้นก็มีความทุกข์ต่อไป ยากนะลูกนะ คนเรานี่มองไม่เห็นความเป็นจริง มองไม่เห็นสิ่งที่มันชุ่มเย็น มองเห็นสิ่งที่เร้าร้อน ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า #เห็นกงจักรเป็นดอกบัวนั่นแหละ นึกว่าเป็นดอกบัวสิใช่ไหมล่ะ พอจับกงจักรมันหมุนตัดแขนตัดคอตัดขา ที่คนพิการร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญก็ยังไม่ทราบว่าโดนอะไรตัดโดนอะไรทิ่มโดนอะไรแทง เอ้า...ก็ดอกบัวเราถืออยู่นี่ มันคือความเห็นผิดของสัตว์โลกไง มันก็ยากมากอีกนะลูกนะ ยาก ถ้ามายามันยังอยู่มันก็ยาก ยากยากที่สุดนั่นแหละ ถ้าไม่อบรมบ่มนิสัยตนเองฝืนอดฝืนทนจริงๆ เมื่อมันแรงหลบ หลบซ้าย หลบขวาเอา สู้ยังไม่ได้หลบ ผู้หญิงเห็นผู้ชายไม่สามารถที่จะทำให้สติกำลังปัญญาเป็นปกติได้มันหวั่นไหวอยู่หลบ

    พ่อพูดถึงนักปฏิบัติธรรม ผู้ชายเห็นผู้หญิงไม่ได้สะทกสะท้านหวั่นไหวด้วยขันธ์กระเพื่อมวูบวาบไปตามขันธ์ของมันเพราะมีวิญญาณรับตอบอยู่ ด้วยเชื้อแห่งกามที่มันถูกแต่งตั้งหรือถูกปั้นขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง มันก็มีทั้งหญิงทั้งชาย สู้ไม่ได้หลบ อย่าไปปะทะ พักผ่อนสักนิดอย่าหลบเลย หลบเลยก็ไม่เห็นมัน ออกมาสู้สู้แล้วมันยังกระเพื่อมอีกหลบ

    ความโกรธเหมือนกัน ความรักเหมือนกันมันก็อยู่ด้วยกันนั่นผู้มีปัญญาลูก ไม่ใช่ว่าหลบเลยหรือสู้เลย เมื่อกำลังเราไม่พอต้องหลบนั่น เมื่อกำลังเราพอแล้วเต็มที่เอาที่ไหนมันก็ไม่เสื่อมอีก สมัยก่อนกำลังพ่อยังไม่พอลูกเห็นพ่อไหมละ ๑๐ ปีเราอยู่ป่านี่ แม้กำลังเราพอแล้วเราก็ยังหลบหลบซ่อนซ่อนของเรา เพราะเป็นอุปนิสัยเรา พอหรือไม่พอรู้ได้ยังไง รู้ได้คำว่าพอคือตัวพอดีนั่นแหละ แต่เมื่อพอดีตัวนั้นออกมาสงเคราะห์โลกคนละแบบความพอดีทางธรรมที่สุดของมันอยู่จุดนั้นคือความพอดีทราบ แต่ความพอดีทางโลกเรายังไม่ทราบไงลูก การออกสงเคราะห์โลกนี่ความพอดีทางโลกเรายังไม่ทราบว่าเป็นยังไงเมื่อออกมาสงเคราะห์โลกเราจึงทราบว่าความพอดีทางโลกอยู่ที่ไหน นี่เราจึงทราบไงมันสมเหตุสมผลพ่อจึงพูดให้ฟัง ไม่ใช่ว่าพอดีทางธรรมแล้วยุติเข้าสู่ทางโลกอย่างสบาย ยังลูกนั่น เพราะส่วนนั้นเป็นส่วนวิสุทธิจิต ส่วนนี้เป็นส่วนหยาบคนละอย่างเมื่อวิสุทธิจิตเกิดลูกจะคิดว่าออกสงเคราะห์สงหาโลกได้อย่างสบาย สติกำลังปัญญานี่ต้องอาศัยขันธ์ ขันธ์นี้มันพอที่จะใช้งานได้ไหมเวลาถูกโลกธรรมแปดความหวั่นไหวของใจธรรมชาติ ธรรมดาที่เป็นใจใจใจที่เราเรียกว่าใจ มันต้านทานได้ไหม มันไม่เข้ากันนะลูกมันคนละอย่าง...”

    โอวาทธรรม: องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    ๔ ตุลาคม ๒๕๖๑
     

แชร์หน้านี้

Loading...