วินัย พันธุรักษ์ กับ...ประสบการณ์ถูกรุมยิง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย guawn, 8 มีนาคม 2007.

  1. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=585 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>วินัย พันธุรักษ์ กับ...ประสบการณ์ถูกรุมยิง </TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] "โฉม ยง เจ้าคงไม่รักเราจริง เรา ซิเชื่อทุกสิ่งรักจริงแต่เจ้าแจ่มจันทร์ รู้ ไหม ใครเขาคอยเฝ้าฝัน คิดถึงเจ้าทุกวัน แจ่มจันทร์เจ้าไม่กลับมา..โบย บิน ลืมสิ้น คนท้องนา เดี๋ยวนี้เจ้าเป็นดาราเรียกหาเจ้าไม่ได้ยิน โฉม ยง เจ้าคงจะลืมเราสิ้นค่าของเราเพียงดิน ได้ยินแต่คำนินทาดนตรี ..." นี่เป็นส่วนหนึ่งของบทเพลง สิ้นกลิ่นดิน ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ "วินัย พันธุรักษ์" นายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และอาจารย์สอนร้องเพลงที่โรงเรียนสอนดนตรีมีฟ้า อดีตนักร้องลูกกรุงชื่อดัง ซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตสมาชิกวง ดิ อิม พอสสิเบิ้ล

    ตลอดชีวิตที่ผ่านมาก ๖๐ ปี นั้น วินัย เล่าว่า เคยผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมาหลายครั้ง เหตุการณ์แรกเคยเกิดขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว จำได้ว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลยจากอุบัติเหตุรถชนกัน โดยในครั้งนั้นคนขับเสียชีวิตคาที และที่รุนแรงมากที่สุดน่า คือ เมื่อครั้งไปแสดงดนตรีที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันนั้นไปเจอกับพวกนักเลงเจ้าถิ่นมารุมยิง เชื่อไหมว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลย ถือว่าแคล้วคลาดมาได้อย่างหวุดหวิด
    ส่วนอีกครั้งหนึ่งนั้น เกิดขึ้นระหว่างขับรถไปตามถนนพหลโยธิน เหตุเกิดแถวๆ วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ครั้งนั้นได้ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำตกลงไปในคูน้ำ เรียกว่ารถจมน้ำไปทั้งคันมิดหลังคารถเลย พอได้สติก็พยายามหมุนกระจกแล้วก็ถีบตัวเองออกมา เหตุการณ์ในครั้งนั้นนับเป็นความโชคดีที่รถยังไม่ได้เป็นประตูไฟฟ้า หากเป็นประตูไฟฟ้าเราก็อาจเสียชีวิตไปแล้วก็เป็นได้
    "ชีวิตที่แคล้วคลาดมาได้ความรู้สึกผมคิดว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างคอยคุ้มครองผมอยู่ตลอดเวลา ผมจึงเชื่อว่าการรอดตายน่าจะมาจากบุญกุศลที่เราได้ทำ หรืออีกส่วนหนึ่งของการรอดตายน่าจะมาจากพุทธคุณของพระเครื่องที่เราแขวน เพราะผมยึดมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ และผมเองก็คิดว่าพระทุกองค์ที่คนเราแขวนมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว แขวนพระกันเพื่อให้เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ" วินัยกล่าว
    สำหรับพระเครื่องที่แขวนติดตัวประจำสมัยเป็นเด็กก็จะเป็นเหรียญกรมหลวงชุมพรฯ จากนั้นพอโตขึ้นมาก็จะแขวนพระหลายองค์แล้วส่วนใหญ่จะได้มาจากเพื่อนๆ ประกอบด้วย หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพล ฑิฆัมพร โค้ต ๑๔๔ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน รุ่นหลังเตารีด พระกำแพง หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พระสมเด็จนางพญาเขาโค้ง และพระกำแพง ส่วนพระหลวงพ่อวัดปากน้ำ รุ่น ๑ ใครก็ต้องว่าสวย หรือหลายคนได้บอกมาว่าถ้าส่งประกวดจะต้องได้ที่หนึ่ง ขนาด อ.ธนิต ศรีกลิ่นดี มาถึงบ้านทุกครั้งก็จะรบเร้าขอพระองค์นี้ไปให้ได้
    สำหรับความรู้สึกของการแขวนพระนั้น วินัย บอกว่า เป็นความสุขทางใจมากกว่าแขวนเพื่อหวังพึ่งปาฏิหาริย์ใดๆ มีพระแล้วรู้สึกสบายใจ ปัจจุบันมีพระเครื่องอยู่เป็นจำนวนมากการแขวนติดตัวทั้งหมดก็คงไม่ไหวจึงได้ถอดพระทั้งหมดบูชาไว้ในห้องพระ แล้วก็บูชาองค์ท่านทั้งหมดไว้ในใจ แต่วันไหนนึกอยากแขวนพระองค์ไหนก็ยังจะหยิบขึ้นมาแขวน เวลานี้ก็ใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก จึงไม่ได้มีองค์ไหนแขวนเป็นประจำ
    ส่วนตัวแล้วยังเป็นคนเชื่อในเรื่องของบุญและบาปว่าใครทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว ใครทำไม่ดีก็จะเกิดเป็นนรกในใจ หากเรากระทำแต่ความดีก็จะทำให้เราอิ่มเอิบใจ ชีวิตเราก็จะมีความสุข แต่ถ้าทำชีวิตให้เศร้าหมองก็จะส่งผลให้ร่างกาย สีหน้า แววตาของเราจะเศร้าหมองตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ หากเรามีความดี ความสุขอยู่ในใจก็จะทำให้เราชีวิตเราเปล่งปลั่ง"หลักธรรมของผมที่นำมาใช้ในการทำงานมาตลอดคือ คิดดี พูดดี ทำดี ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ในขณะเดียวกันผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก มันเป็นเหมือนเราได้สร้างกรรมดีเอาไว้ ชีวิตครั้งหนึ่งผมมีชื่อเสียง ตรงนี้ผมไม่ยึดติดอยู่แล้ว ผมยอมรับความจริงได้ว่าทุกอย่างไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนในโลกนี้ เมื่อมาแล้วก็เปลี่ยนไปมันเป็นสัจธรรมที่เราทุกคนจะต้องได้เจอ" นายวินัย กล่าวทิ้งท้าย
    เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง /ภาพ วันชัย ไกรศรขจิต

    -->[​IMG]
    "โฉม ยง เจ้าคงไม่รักเราจริง เรา ซิเชื่อทุกสิ่งรักจริงแต่เจ้าแจ่มจันทร์ รู้ ไหม ใครเขาคอยเฝ้าฝัน คิดถึงเจ้าทุกวัน แจ่มจันทร์เจ้าไม่กลับมา..โบย บิน ลืมสิ้น คนท้องนา เดี๋ยวนี้เจ้าเป็นดาราเรียกหาเจ้าไม่ได้ยิน โฉม ยง เจ้าคงจะลืมเราสิ้นค่าของเราเพียงดิน ได้ยินแต่คำนินทาดนตรี ..." นี่เป็นส่วนหนึ่งของบทเพลง สิ้นกลิ่นดิน ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ "วินัย พันธุรักษ์" นายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และอาจารย์สอนร้องเพลงที่โรงเรียนสอนดนตรีมีฟ้า อดีตนักร้องลูกกรุงชื่อดัง ซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตสมาชิกวง ดิ อิม พอสสิเบิ้ล
    ตลอดชีวิตที่ผ่านมาก ๖๐ ปี นั้น วินัย เล่าว่า เคยผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมาหลายครั้ง เหตุการณ์แรกเคยเกิดขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว จำได้ว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลยจากอุบัติเหตุรถชนกัน โดยในครั้งนั้นคนขับเสียชีวิตคาที และที่รุนแรงมากที่สุดน่า คือ เมื่อครั้งไปแสดงดนตรีที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันนั้นไปเจอกับพวกนักเลงเจ้าถิ่นมารุมยิง เชื่อไหมว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลย ถือว่าแคล้วคลาดมาได้อย่างหวุดหวิด
    ส่วนอีกครั้งหนึ่งนั้น เกิดขึ้นระหว่างขับรถไปตามถนนพหลโยธิน เหตุเกิดแถวๆ วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ครั้งนั้นได้ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำตกลงไปในคูน้ำ เรียกว่ารถจมน้ำไปทั้งคันมิดหลังคารถเลย พอได้สติก็พยายามหมุนกระจกแล้วก็ถีบตัวเองออกมา เหตุการณ์ในครั้งนั้นนับเป็นความโชคดีที่รถยังไม่ได้เป็นประตูไฟฟ้า หากเป็นประตูไฟฟ้าเราก็อาจเสียชีวิตไปแล้วก็เป็นได้ [​IMG]
    "ชีวิตที่แคล้วคลาดมาได้ความรู้สึกผมคิดว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างคอยคุ้มครองผมอยู่ตลอดเวลา ผมจึงเชื่อว่าการรอดตายน่าจะมาจากบุญกุศลที่เราได้ทำ หรืออีกส่วนหนึ่งของการรอดตายน่าจะมาจากพุทธคุณของพระเครื่องที่เราแขวน เพราะผมยึดมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ และผมเองก็คิดว่าพระทุกองค์ที่คนเราแขวนมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว แขวนพระกันเพื่อให้เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ" วินัยกล่าว
    สำหรับพระเครื่องที่แขวนติดตัวประจำสมัยเป็นเด็กก็จะเป็นเหรียญกรมหลวงชุมพรฯ จากนั้นพอโตขึ้นมาก็จะแขวนพระหลายองค์แล้วส่วนใหญ่จะได้มาจากเพื่อนๆ ประกอบด้วย หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพล ฑิฆัมพร โค้ต ๑๔๔ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน รุ่นหลังเตารีด พระกำแพง หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พระสมเด็จนางพญาเขาโค้ง และพระกำแพง ส่วนพระหลวงพ่อวัดปากน้ำ รุ่น ๑ ใครก็ต้องว่าสวย หรือหลายคนได้บอกมาว่าถ้าส่งประกวดจะต้องได้ที่หนึ่ง ขนาด อ.ธนิต ศรีกลิ่นดี มาถึงบ้านทุกครั้งก็จะรบเร้าขอพระองค์นี้ไปให้ได้
    สำหรับความรู้สึกของการแขวนพระนั้น วินัย บอกว่า เป็นความสุขทางใจมากกว่าแขวนเพื่อหวังพึ่งปาฏิหาริย์ใดๆ มีพระแล้วรู้สึกสบายใจ ปัจจุบันมีพระเครื่องอยู่เป็นจำนวนมากการแขวนติดตัวทั้งหมดก็คงไม่ไหวจึงได้ถอดพระทั้งหมดบูชาไว้ในห้องพระ แล้วก็บูชาองค์ท่านทั้งหมดไว้ในใจ แต่วันไหนนึกอยากแขวนพระองค์ไหนก็ยังจะหยิบขึ้นมาแขวน เวลานี้ก็ใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก จึงไม่ได้มีองค์ไหนแขวนเป็นประจำ [​IMG]
    ส่วนตัวแล้วยังเป็นคนเชื่อในเรื่องของบุญและบาปว่าใครทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว ใครทำไม่ดีก็จะเกิดเป็นนรกในใจ หากเรากระทำแต่ความดีก็จะทำให้เราอิ่มเอิบใจ ชีวิตเราก็จะมีความสุข แต่ถ้าทำชีวิตให้เศร้าหมองก็จะส่งผลให้ร่างกาย สีหน้า แววตาของเราจะเศร้าหมองตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ หากเรามีความดี ความสุขอยู่ในใจก็จะทำให้เราชีวิตเราเปล่งปลั่ง
    "หลักธรรมของผมที่นำมาใช้ในการทำงานมาตลอดคือ คิดดี พูดดี ทำดี ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ในขณะเดียวกันผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก มันเป็นเหมือนเราได้สร้างกรรมดีเอาไว้ ชีวิตครั้งหนึ่งผมมีชื่อเสียง ตรงนี้ผมไม่ยึดติดอยู่แล้ว ผมยอมรับความจริงได้ว่าทุกอย่างไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนในโลกนี้ เมื่อมาแล้วก็เปลี่ยนไปมันเป็นสัจธรรมที่เราทุกคนจะต้องได้เจอ" นายวินัย กล่าวทิ้งท้าย เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง /ภาพ วันชัย ไกรศรขจิต [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=567 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=20></TD></TR><TR><TD><!---------------------------------open คุณคิดอย่างไรกับข่าวนี้-------------------------------------------><!---------------------------------close คุณคิดอย่างไรกับข่าวนี้-------------------------------------------></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><!-- open banner center 1 --><!-- <OBJECT classid="clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000" codebase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,0,0" WIDTH="468" HEIGHT="60" id="perfect.swf" ALIGN="">


    <EMBED src="/imgs/ads/propertyperfect/perfect.swf" quality=high bgcolor=#FFFFFF WIDTH="468" HEIGHT="60" NAME="propertyperfect" ALIGN="" TYPE="application/x-shockwave-flash" PLUGINSPAGE="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer"></EMBED> </OBJECT> --><!-- open banner center 2 --></TD></TR></TBODY></TABLE></P>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...