วิญาณสร้างโบสถ์

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย พงษ์ญาดา, 20 ตุลาคม 2010.

  1. พงษ์ญาดา

    พงษ์ญาดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1,871
    วิญญาณสร้างโบสถ์

    [​IMG] [​IMG]


    เรื่องผีเรื่องวิญญาณเป็นเรื่องเร้นลับสำหรับมนุษย์โลกโดยทั่วไป ผีหรือวิญญาณอยู่อาศัยคนละมิติหรือภพภูมิกับโลกมนุษย์ แต่บางครั้งก็เกิดการเหลื่อมซ้อนทางมิติ ทำให้พบเห็นผีได้บางภาวะ หรือผี วิญญาณมีเจตนาแสดงตนให้ผู้หนึ่งผู้ใดรู้เห็นเป็นการเฉพาะตัว

    เรื่องผีที่มาปรากฎเป็นเรื่องราวมีหลักฐานยืนยันได้อย่างชัดเจน มีมากมายหลายรูปแบบ เช่น ผีมาช่วยสร้างวัดสร้างโบสถ์ดังจะเล่าให้ได้รับรู้ดังต่อไปนี้

    ผีที่มาช่วยสร้างวัดเป็นเรื่องของหลวงปู่วงศ์ วัดบ้านค่าย อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เมื่อหลวงปู่วงศ์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านค่ายใหม่ ๆ วัดมีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างยิ่ง ท่านคิดจะบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดให้ดีขึ้นก็ขาดทุนทรัพย์ ครั้นจะออกปากเรี่ยไรขอบริจาคจากศรัทธาญาติโยมโดยตรง ก็มิใช่วิสัยของสมณะ ประกอบกับเวลานั้นชาวบ้านญาติโยมละแวกนั้นทำมาหากินอัตคัต ทางวัดจะไปขอความช่วยเหลือก็กระไรอยู่

    หลวงปู่วงศ์เป็นพระปฏิบัติ ภูมิจิต ภูมิธรรมของท่านสูงยิ่ง กล่าวกันว่าท่านได้อภิญญาจิต สามารถหยั่งรู้ได้ในภาวะที่คนธรรมดาไม่มีทางรู้ได้ หลวงปู่วงศ์รู้ว่ามีสมบัติอันมีค่าของผู้ที่ตายแล้วฝังดินไว้จำนวนมากมาย ในอาณาบิรเวณของวัดบ้านค่าย และวิญญาณเจ้าของทรัพย์ที่ตายไปแล้วก็ยังวนเวียนเฝ้าทรัพย์ของตนอยู่ ดังนั้นท่านจึงติดต่องกับวิญญาณเหล่านั้นขอยืมสมบัติผีมา สร้างวัด เมื่อผีเจ้าของทรัพย์ตนใดตกลงให้ยืม เขาก็จะนำสมบัติอันมีค่ามาวางไว้ให้ในที่ต่าง ๆ วางไว้ใต้ธรรมาสน์ วางไว้หลังพระประธาน และที่อื่น ๆ ซึ่งเป็นที่ลับตา

    หลวงปู่วงศ์ได้นำสมบัติเหล่านั้นไปเปลี่ยนเป็นเงินแล้วใช้เป็นทุนบูรณะวัดขึ้นมาทีละส่วน เมื่อชาวบ้านญาติโยมรู้ว่าผียังช่วยสร้างวัด ต่างก็เกิดจิตศรัทธามาร่วมบริจาคปัจจัยกันเป็นจำนวนมาก ทำให้หลวงปู่วงศ์สามารถปฏิสังขรณ์วัดบ้านค่ายให้มีเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์กระทำศาสนกิจ และชาวบ้านใช้เป็นสถานที่กระทำศาสนพิธีได้ครบถ้วนสมบูรณ์คือมีโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ และกุฏิจำพรรษาของพระเณร

    หลังจากบูรณะวัดบ้านค่ายเสร็จเรียบร้อย หลวงปู่วงศ์ก็รวบรวมปัจจัยนำไปซื้อเครื่องประดับอันมีค่าของผีที่มีลักษณะเหมือนกันมีค่ามาคืนกลับไป เวลาเอาคืนท่านก็จะนำไปวางในที่ลับตา จากนั้นเครื่องประดับอันมีค่าก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ผีบางตนก็ไม่เอาสมบัติคืนหากถวายให้กับท่านเพื่อร่วมทำกุศลความดีด้วย

    นี่คือเรื่องผีร่วมสร้างวัดกับหลวงปู่วงศ์ วัดบ้านค่าย จังหวัดระยอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ประมาณปี 2507 - 2508 โบสถ์วัดกลางบางแก้ว (ชาวบ้านเรียกว่า"วัดกลาง") ชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก เพราะสร้างมานานนับ 100 ปีเห็นจะได้ สภาพของโบสถ์แสดงว่าอาจจะถล่มลงมาเมื่อใดก็ได้ กระทั่งพระเณรไม่กล้าเข้าไปทำศาสนกิจภายในโบสถ์ เจ้าอาวาสขณะนั้นมีความวิตกกังวลในเรื่องนี้มาก ท่านต้องการจะสร้างโบสถ์ใหม่เป็นที่สุด แต่ขาดทุนรอนในการสร้าง ปัจจัยซึ่งญาติโยมทำบุญถวายมาได้เก็บออมไว้ส่วนหนึ่ง หากมีจำนวนน้อยไม่พอสร้าง จำเป็นต้องเก็บสะสมอีกเป็นเวลานาน ซึ่งไม่รู้ว่ากี่ปีจึงจะพอค่าก่อสร้าง

    เช้าวันหนึ่ง เจ้าอาวาสได้ยินสุนัขเห่ากระโชกที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่ง คล้ายกับว่ามันพบเห็นอะไรผิดปกติ แล้วสุนัขตัวนั้นก็วิ่งมาตะกายที่เจ้าอาวาสแสดงกิริยาประหนึ่งจะให้ท่านไปดู แต่ท่านเฉยเสีย สุนัขแสดงกิริยาวิ่งไปเห่าไปและวิ่งกลับมาหาเจ้าอาวาสหลายครั้งหลายหนจนท่านสงสัยจึงได้ลุกเดินไปดูที่โคนต้นไม้

    บริเวณที่สุนัขเห่าเป็นเนินดินติดกับโคนต้นไม้มีพงหญ้ารกเรื้อปกคลุมอยู่ด้านบน ที่เนินนั้นมีรอยดินยุบลงไปเป็นโพรง หญ้าคลุมผิวดินเหมือนมีใครเปิดเลิกป่าหญ้าขึ้นไป ในโพรงดินมีไหและโอ่งใบย่อม ๆ อยู่ 2 - 3 ใบ วางระเกะระกะอยู่บนพื้นดินก้นโพรง ไหและโอ่งมีฝาปิดสนิทอยู่ก็มี ฝาเปิดเผยอแง้ม ๆ ก็มี เจ้าอาวาสจึงก้าวลงไปในโพรง ลองเปิดฝาโอ่งที่แง้ม ไ อยู่ก็ถึงกับตกตะลึง เพราะภายในโอ่งนั้นมีเงินโบราณและทองรูปพรรณมีราคาสูงบรรจุอยู่เต็ม ส่วนโอ่งไหใบที่ปิดฝาแน่นสนิทลองขยับดูรู้สึกหนักอึ้ง แสดงว่าต้องมีสิ่งของบรรจุอยู่ หากเป็นสมบัติของมีค่าใส่อยู่ภายในจะต้องมีราคามหาศาล

    ท่านเจ้าอาวาสตระหนักว่า ตัวท่านเป็นพระภิกษุไม่อาจจะแตะต้องสมบัติอันล้ำค่าเหล่านี้ได้ เพราะเจ้าของเขาไม่ได้ถวายหรือยกให้ท่านจึงเกลี่ยดินข้าง ๆ ลงมาปิดและใช้เศษหญ้าใบไม้วางปิดทับเอาไว้ให้ลับตาคน จากนั้นก็กลับกุฏิไม่บอกกล่าวเล่าให้ใครฟัง

    เงินทองของมีค่าที่ใส่ไหใส่โอ่งเหล่านั้น น่าจะมีคนเก่าแก่แต่โบราณเอามาฝังดินซุกซ่อนไว้ ณ ที่ตรงนั้น และเจ้าของคงเสียชีวิตไปนานแล้ว การที่อยู่ดี ๆ เกิดดินยุบ เป็นโพรงและสุนัขไปพบเห็น เป็นเรื่องที่อาจจะเกิดจากความบังเอิญก็ได้ หรือมีอื่นใดแอบแฝงอยู่ก็ยากจะหยั่งรู้ได้

    วันนั้น พอถึงช่วงบ่าย ไม่มีแขกหรือญาติโยมมาสนทนาปราศรัยอีก เจ้าอาวาสจึงเอนกายจำวัดพักผ่อน หลับสนิทจิตเข้าสู่ภวังค์ ท่านเจ้าอาวาสได้เกิดสุบินฝันไปว่า มีชายผู้หนึ่ง แต่งกายแบบคนโบราณมาพบท่านแล้วนมัสการบอกกล่าวว่า เขาเป็นเจ้าของสมบัติในโอ่งในไหเหล่านั้น และเขาได้ฝันดูท่านอยู่นาน รู้ว่าท่านมีจิตศรัทธาต้องการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ แต่เนื่องจากญาติโยมชาวบ้านอัตคัตขัดสน ท่านจึงสร้างไม่ได้ สำหรับทรัพย์สมบัติที่ท่านเห็นอยู่เมื่อเช้านั้น เขาได้ฝังไว้นานแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ก็ไร้ประโยชน์ จึงขอถวายท่านเพื่อให้ท่านนำไปใช้จ่ายในการสร้างพระอุโบสถ คืนนี้เมื่อปลอดคนแล้วขอให้ท่านนำพระลูกวัดไปขุดเอาสมบัติเหล่านั้นขึ้นมาเถิด เขาขอถวายให้เป็นสมบัติของสงฆ์ทั้งหมดเพื่อบำรุงพระศาสนาต่อไป แล้วบุรุษลึกลับในฝันก็หายไป

    เจ้าอาวาสวัดตื่นนอนแล้ว ทบทวนความฝันที่ผ่านมาเชื่อว่าเจ้าของทรัพย์ที่แท้จริงคงมาอนุญาตและถวายทรัพย์ทั้งหมดให้เป็นสมบัติของสงฆ์จริง ดังนั้นพอถึงกลางคืนสงัดคนแล้ว ท่านจึงนำพระลูกวัดไปขุดเอาโอ่งและไหใส่สมบัติขึ้นมา แล้วขนมาไว้ในกุฏิ

    จากทรัพย์สมบัติของผี ทำให้การก่อสร้างพระอุโบสถวัดกลางบางแก้ว เริ่มต้นดำเนินงานได้และสามารถก่อสร้างจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ในวันต่อมา นี่คือเรื่องผีช่วยสร้างพระอุโบสถวัดกลางบางแล้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ดังที่ได้พรรณามาตั้งแต่ต้น

    สมบัติผีหรือทรัพย์สมบัติที่มีเจ้าของ แต่เจ้าของได้เสียชีวิตตาไปนานแล้ว มักจะกล่าวกันว่าเป็นสมบัติอาถรรพ์ ผู้ใดไปพบเห็นแล้วไม่ขออนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของ ถือสิทธิ์ยึดครองนำมาเป็นของตนเอง มักจะพบกับความน่ากลัวต่าง ๆ หรือเกิดความวิบัติในภายหลัง เรื่องเช่นนี้มีส่วนความเป็นจริงอยู่มาก เพราะสมบัติอันมีค่าทั้งหลายที่เจ้าของนำไปฝังดินซุกซ่อนไว้ เนื่องมาจากเหตุหลายประการ เช่น เจ้าของทรัพย์กลัวโจรผู้ร้ายจะมาปล้นแย่งชิงไป ไม่มีที่ใดจะซุกซอนได้อย่างปลอดภัยเท่ากับฝังดิน จึงได้นำทรัพย์สมบัติไปซ่อนไว้ หรือเกิดศึกสงครามตนเองจำเป็นต้องอพยพหลบหนีภัยสงคราม ไม่มีปัญญาขนทรัพย์สมบัติเอาไปได้ทั้งหมด จึงได้นำไปฝังดินซุกซ่อนไว้ ตั้งใจว่าถ้าศึกสงครามยุติลงเมื่อใดก็จะย้อนกลับมาขุดเอาสมบัติอีกครั้ง แต่ตนเองเกิดล้มตายไปเสียก่อนทรัพย์สมบัติจึงถูกฝังดินไว้ต่อไปโดยไม่มีใครขุดขึ้นมา อีกประการหนึ่งในสมัยโบราณไม่มีสถาบันการเงินรับฝากเงินเช่นปัจจุบัน วิธีเก็บงำทรัพย์สินเงินทองจำนวนมาก ๆ ไม่มีวิธีไหนปลอกภัยเท่ากับเอาใส่โอ่งใส่ไหฝังดินไว้ในที่เร้นลับ ไม่ให้ผู้อื่นรู้เห็น แม้แต่ลูกเมียก็ไม่ยอมบอกที่ซ่อน ครั้นเมื่อตนเองเจ็บไข้ตายไป ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นจึงกลายเป็นความลับตายตามไปด้วย

    เจ้าของทรัพย์ที่นำสมบัติอันมีค่าไปฝังดินไว้ แล้วตัวเองตายไปจิตของผู้ตายจะยึดเหนี่ยวอยู่กับทรัพย์สมบัติของตนอย่างเหนี่ยวแน่น เป็นกิเลสความโลภอันแรงกล้า แม้จะตายแล้วแต่จิตวิญญาณมักไม่ยอมจากไปไหน ยังคงหลงติดวนเวียนอยู่กับสมบัติเหล่านั้น หากมีใครมาละเมิดขุดเอาทรัพย์ของตนไปก็เกิดความโกรธแค้น และจะแสดงฤทธิ์ทำอันตรายต่อผู้ที่มาเอาสมบัติไปต่าง ๆ นานา

    ดังนั้น สมบัติผีจึงไม่มีใครกล้าไปขุดค้นเสาะหา เว้นแต่ว่าเจ้าของทรัพย์อนุญาตยกให้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง







     
  2. Graceii3

    Graceii3 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +36
    อนุโมทนาบุญกับวิญญาณตนนั้นด้วยนะคะ

    เราก็ไม่คิดเอาของใครอยู่ แล้ว กลัวเขาตามมาทวงคืน บรึ๋ย~
     
  3. pagorn

    pagorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +2,848
    อนุโมทนาทั้งหมดทั้งมวลค่ะเรื่องกฏแห่งกรรมแบบนี้มีเยอะ ลองเข้าไปดูน๊ะค่ะ

     
  4. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    อนุโมทนาสาธุค่ะ แต่ก็น่าสงสาร ตายแล้วก็ยังไม่ละ ยังเฝ้าสมบัติอยู่
     
  5. tinsanez

    tinsanez สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +10
    สมควรรับกุศลอันแรงกล้า เพื่อไปเกิดในภพภูมิที่ดีต่อไป
     
  6. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    บุญกุศลมากมายเลยทีเดียวค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...