"วาสนา" กับการเลือกคบคน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Komodo, 11 พฤษภาคม 2012.

  1. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    [​IMG]

    "...วาสนา นั้นเป็นไปตามอัธยาศัย
    คนที่มีวาสนาในทางที่ดีมาแล้ว
    แต่คบคนพาล วาสนาก็อาจเป็นคนพาลได้

    บางคนวาสนายังอ่อน เมื่อคบบัณฑิต
    วาสนาก็เลื่อนขึ้นเป็นบัณฑิต
    ฉะนั้น บุคคลควรพยายามคบแต่บัณฑิต
    เพื่อเลื่อนภูมิวาสนาของตนให้สูงขึ้น..."

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ที่มา : FB ธรรมโอสถ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2012
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    คำว่า"วาสนา" หมายถึงอะไรคะ
     
  3. หนีนรก

    หนีนรก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +666
    คำนี้มาจากหนังสือพจนานุกรรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ซึ่งอธิบายคำว่าวาสนาดังนี้คือ

    "วาสนา : อาการกายวาจา ที่เป็นลักษณะพิเศษของบุคคล ซึ่งเกิดจากกิเลสบางอย่าง และได้สั่งสมอบรมเป็นเวลานานจนเคยชินติดเป็นพื้นประจำตัว แม้จะละกิเลสนั้นได้แล้ว แต่ก็อาจจะละอาการกายวาจาที่เคยชินไม่ได้ เช่น คำพูดติดปาก อาการเดินที่เร็วหรือเดินต้วมเตี้ยม เป็นต้น ท่านขยายความว่าวาสนาที่เป็นกุศลก็มี เป็นอกุศลก็มี เป็นอัพยากฤต คือเป็นกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่วก็มี ที่เป็นกุศลกับอัพยากฤตนั้น ไม่ต้องละ แต่ที่เป็นอกุศลซึ่งควรจะละนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่จะเป็นเหตุให้เข้าถึงอบายกับส่วนที่เป็นเหตุให้เกิดอาการแสดงออกทางกายวาจาแปลกๆ ต่างๆ ส่วนแรก พระอรหันต์ทุกองค์ละได้ แต่ส่วนหลัง พระพุทธเจ้าเท่านั้นละได้ พระอรหันต์อื่นละไม่ได้ จึงมีคำกล่าวว่า พระพุทธเจ้าเท่านั้นละกิเลสทั้งหมดได้พร้อมทั้งวาสนา; ในภาษาไทยคำว่า วาสนา มีความหมายเพี้ยนไปกลายเป็นอำนาจบุญเก่า หรือกุศลที่ทำให้ได้รับลาภยศ"
     
  4. korea_me

    korea_me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +154
    สาธุ ข้าพเจ้าขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง

    ด้วยกุศลผลบุญการอนุโมทนาบุญในค<wbr>รั้งนี้
    ขอให้ข้าพเจ้าได้มีดวงตาเห็นธรร<wbr>มและปัญญาเห็นธรรมโดยฉับพลัน
    ด้วยกุศลผลบุญนี้ขอจงเป็นปัจจัย<wbr>ให้ข้าพเจ้าเข้าสู่พระนิพพานในช<wbr>าติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด
    ภพภูมิอื่นใด ไม่ว่าจะเป็น อบายภูมิ โลกมนุษย์ สวรรค์ พรหม หรืออรูปพรหมก็ตาม ข้าพเจ้าไม่ปรารถนา... ข้าพเจ้าปรารถนาเพียงพระนิพพานเ<wbr>ป็นที่สุด..>>
    ตายเมื่อไหร่ขอไปพระนิพพานเมื่อ<wbr>นั้น..>>
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ>>
    อิทัง ปุญญะผะลังผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล<wbr>้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศ<wbr>ลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้<wbr>งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ<wbr> และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุ<wbr>ศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รั<wbr>บ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เถิด ตราบใดที่ข้าพเจ้ายังมิได้ซึ่งพ<wbr>ระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่มี จงอย่าปรากฏแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ<wbr>เทอญ.>>
     

แชร์หน้านี้

Loading...