วัดเศวตฉัตร- สร้างพร้อมเสก หลวงพ่อโบสถ์บนรุ่นฉัตรมงคล

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย อดุลย์ เมธีกุล, 25 มิถุนายน 2008.

  1. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    วัดเศวตฉัตร-สร้างพร้อมเสก หลวงพ่อโบสถ์บนรุ่นฉัตรมงคล

    สดหน้าพระ

    อนุชา ทรงศิริ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>พระพุทธรูปปางสมาธิ ที่มีพระนามว่า "พระพุทธสมาธิคุณสุนทรสมาทานบุราณสุคต" หรือที่ชาวบ้านเรียกจนติดปากว่า "หลวงพ่อโบสถ์บน วัดเศวตฉัตร" นั้น ถูกเล่าขานกันมาถึงความศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปสานด้วยไม้ไผ่ แล้วปั้นด้วยปูนมีอายุเก่าแก่เป็นพระประธานคู่กับพระอุโบสถ สันนิษฐานว่าสร้างในราวปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สร้าง เป็นพระพุทธรูปที่มีศรัทธาสาธุชนมาสักการบูชากราบไหว้ขอพร ได้สมความปรารถนา

    "วัดเศวตฉัตร" นั้น เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2359 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2360 สถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง ปี พ.ศ.2393 พระเจ้าอัยกาเธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ (พระองค์เจ้าฉัตร ต้นสกุลฉัตรกุล) ทรงสร้างในระหว่าง พ.ศ.2359-2372 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ทรงปฏิสังขรณ์ และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามว่า "วัดเศวตฉัตร" เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์เจ้าฉัตร ผู้ทรงสถาปนาวัด <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เดิมเป็นวัดโบราณ ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่มีพระอุโบสถเก่าเป็นหลักฐาน ชาวบ้านเรียกกันหลายชื่อ อาทิ วัดแมลงภู่ทอง, วัดบางลำภูใน, วัดกัมพูฉัตร, วัดบางลำภูล่าง

    ด้านหน้าวัดมีเนื้อที่งอกออกไปริมแม่น้ำเจ้าพระยา จนตื้นเขินห่างจากวัดเดิมมาก "พระเจ้า-อัยกาเธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์" จึงได้ทรงยกวัดออกไปสร้างใหม่โดยใช้ชื่อ วัดบางลำภูล่าง โดยโปรดให้รื้อพระตำหนักของพระองค์ไปสร้างเป็นกุฏิหลังใหม่ 5 ห้อง (คือกุฏิเจ้าอาวาสปัจจุบัน) สร้างพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ และพระปรางค์ เป็นต้น ในปลายรัชกาลที่ 2 และต้นรัชกาลที่ 3 ต่อกัน

    ภายหลังถวายเป็นพระอารามหลวง ดังปรากฏในจดหมายเหตุรัชกาลที่ 3 ตอนที่ว่าด้วยการปฏิสังขรณ์ และสร้างพระอาราม พ.ศ.2393 ว่า "วัดเจ้าและวัดขุนนางสร้างถวายเป็นวัดหลวงก็มี ไม่ได้ถวายก็มี กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ สร้างวัดหนึ่ง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อว่า วัดเศวตฉัตร และพระราชทานเงินทรงช่วยปฏิสังขรณ์ปูชนียวัตถุสำคัญที่โดดเด่นคือ พระพุทธรูปบางสมาธิ พระนามว่า "พระพุทธสมาธิคุณสุนทรสมาทานบุราณสุคต" พระพุทธรูปพระนาคปรก พระนามว่า "พระพุทธอังคีรสมุนีนารถอุรคอาสน์อำไพ" พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระนามว่า "พระพุทธมารวิชัยอภัยปรปักษ์อัครวิบูล" พระพุทธไสยาสน์ พระนามว่า "พระพุทธบัณฑูรมูลประดิษฐสถิตไสยาสน์"

    รูปหล่อเหมือนบูรพาจารย์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จรพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) พระศาสนุเทศาจารย์ (บุญ ปริปุณฺณสีโล) อดีตเจ้าอาวาส พระธรรมญาณมุนี (บุญนาค ชินวังโส ป.ธ.9) อดีตเจ้าอาวาส คณะศิษย์สร้างไว้ประดิษฐาน ณ ศาลาบูรพาจารย์ และที่สำคัญสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จรพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) เป็นพระมหาเถระชาวบางลำภูล่าง พระองค์ทรงได้รับบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดเศวตฉัตร วรวิหาร ทรงเป็นที่เคารพนับถือของชาวบางลำภูล่าง ศิษยานุศิษย์จึงได้หล่อพระรูปเหมือนไว้ประดิษฐานที่วัดเศวตฉัตร ส่วนเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ พระราชวิจิตรการ (ภักดิ์ อตฺถกาโม ป.ธ.8)

    ที่สำคัญช่วงนี้กระแสการบูชาวัตถุมงคล ถึงแม้จะเงียบไปบ้าง แต่ถ้าวัดไหนมีวัตถุประสงค์ดี นักสะสมจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ โดยฉพาะที่วัดเศวตฉัตร ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก

    ล่าสุดได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคล "หลวงพ่อโบสถ์บน รุ่นฉัตรมงคล" เนื้อผงและเนื้อโลหะ มีมวลสารเก่าแก่มากมาย เข้มไปด้วยพุทธคุณ ที่ล้วนดังขลังดี มีคุณค่าแก่การบูชาไว้ติดกาย

    อีกทั้งจะนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกสมโภชใหญ่ในวันที่ 29 มิ.ย. 2551 เวลา 15.39 น. นำโดยพระคณาจารย์ชื่อดัง หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา ประธานจุดเทียนชัย นั่งปรกอธิษฐานจิต พร้อมกับพระคณาจารย์ชื่อดังจำนวนมาก

    สนใจบูชาได้หลังเสร็จพิธี ณ วัดเศวตฉัตรวรวิหาร (โบสถ์บน) สอบถามโทร. 0-2437-8680, พระมหาพิษณุ โทร. 08-6100-6056 รายได้นำไปบูรณปฏิสังขรณ์กุฏิสงฆ์ เสนาสนะที่ทรุดโทรม บูรณะพระพุทธไสยาสน์มีอายุมากกว่าร้อยปี จัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาพระสงฆ์-สามเณร และจัดตั้งกองทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน


    ที่มา ข่าวสด
     

แชร์หน้านี้

Loading...