วัดพุทธ ที่สถิต แห่งเทพเจ้า ต่างๆ นัยยะ แห่งความอ่อนแอของ พุทธศาสนา

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย sayan2519, 5 เมษายน 2011.

  1. sayan2519

    sayan2519 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +2
    ที่ผมจั่วหัวเรื่องมานี้ ดูรุนแรง น่าตกใจ แต่ริงๆแล้วไม่ต้องตกใจ เพราัะเป็นอย่างนี้
    มาตั้งนานแล้วครับ เพียงแต่เราไม่สังเกตเท่านั้นเอง ที่ผมพูดอย่างนี้ บางท่านอาจ
    จะว่าผมทางเสียหายก็ได้ หรือเห็นด้วยก็มี แต่นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของ
    มนุษย์คนหนึ่งเท่านั้นเอง
    ทำไมผมถึงคิดอย่างนั้น หากท่านที่ไปเที่ยวตามวัดต่างๆ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยว
    ไปทัวร์เป็นหมู่คณะ เช่นวัดชื่อดังใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอ่างทอง
    เป็นต้น นี่่แค่ยกตัวอย่างมาเท่านั้นเอง จริงๆแล้วมีอีกเยอะไม่เชื่อไปดูเถอะ
    ที่เทพเจ้า ของศาสนาฮินดูเข้านั่ง เข้าไปยืน แทรกซึมในเขตวัดวาอารามต่างๆ

    อ้าวแล้วเทพเจ้าที่ว่านี้ มีอะไรบ้างหละ บางคนอาจจะเริ่มสนใจมากขึ้นกับ
    เรื่องนี้แล้ว ผมมีความรู้น้อยและพูดที่รู้ และจะกล่าวที่เห็นกันบ่อยๆจนชินตา ดังนี้

    1.พระพิฆเนศ
    2.พระวิษณุ
    3.พระศิวะ
    4.พระแม่กาลี
    5.พระแม่อุมาเทวี

    จริงๆแล้ว มีเยอะมากๆๆ ผมไม่ขอกล่าวถึงก็แล้วกัน
    แล้วเทพเจ้าของพวกพราหมณ์ ฮินดู ที่ว่านี้ท่านเข้าไปแทรกซึมในวัดวาอามรามได้ยังไงหละ
    หรือท่านศักดิ์สิทธ์มาก ถึงขนาดเนรมิตรท่านไปยืนอยู่ในวัดวาได้
    เปล่าเลย ท่านก็อยู่ส่วนท่าน แต่ที่เคลื่อนย้ายได้นั้นเกิดจาก คนนี่แหละที่เอาไป
    ไว้ เพื่อจุดประสงค์ต่างๆแล้วแต่นโยบาย ผู้มีอำนาจสูงสุดในวัดที่ต้องการ
    บ้างก็รู้จุดอ่อนของคนไปวัด ว่าคนที่เข้าวัด มาเที่ยวอย่างนี้ต้องไม่สบายใจหละ่
    ก็ใช้หลักการตลาดเข้าช่วยหน่อย โดยโฆษณาเข้าไว้ หากตัวเลือกในพุทธศาส
    นาก็น้อยเต็มที ที่จะดึงดูดให้คนอยากจะควักกระเป๋าเพื่อทำบุญ

    ตัวเลือกที่ดีสุด ก็หนีไม่พ้นเทพแห่งศาสนาฮินดู เพราะมีประวัติยาวนาน มี
    รูปลักษณ์ที่ดูแปลก น่าเกรงขาม เพื่อจะให้คนที่มาวัดทำบุญให้้มากขึ้น ยิ่งๆขึ้น
    โดยหารู้ไม่ว่า ท่านกำลังทำลายพุทธศาสนาอย่างเลือดเย็น โดยการนำเทพเจ้า
    ที่ผมกล่าวถึง มาวางปะปนกับ รูปปั้น รูปหล่อพระพุทธรูป พระเกจิอาจารย์ต่างๆ
    จนชาวบ้านญาติโยมที่เขาตั้งใจมาทำบุญกัน สับสนอลหม่านไปหมด พ่อแม่บาง
    คนที่พาลูกๆมาเที่ยว ที่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็บอกลูก สอนลูกไปอย่างผิดๆ
    ว่า ผมได้ยินกับหู ระหว่างที่ไปทำบุญที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจังหวัด อ่างทอง (วัดชื่อดัง)

    ลูก = พ่อนี่อะไร?
    พ่อ = พระภิฆเนศลูก ไหว้ท่านซะลูก จะได้เรียนเก่งๆ

    ลูก =ท่านเป็นใคร?
    พ่อ =อ้อ ท่านเป็นพระ แห่งความสมหวัง


    เห็นแล้วนะครับว่า นี่เป็นขนาดนี้แล้ว พ่อกับลูก ถามและตอบกัน ไม่ต่างอะไร
    กับ คนตาบอด จูงมือคนตาบอด ไม่รู้ ถามคนไม่รู้ คำตอบก็อย่างที่เห็นลงเหว
    ลงคลองกันหมด พ่อบอกว่า ท่านเป็นพระแห่งความสมหวัีง ผมอยู่ใกล้ๆอยากจะ
    พูดแต่ด้วยมารยาท ก็เลยไม่พูดดีกว่า แต่จริงๆแล้วไม่มี ทางพุทธศาสานาไม่มี
    พระไตรปิำฎกเล่มไหน ที่อ้าง หรือกล่าวถึงพระภิฆเนศเลย แม้แต่น้อย แต่เนื่อง
    จากความเชื่อของคนไทยที่ถ่ายทอด จากรุ่น สู่รุ่นอย่างนี้ที่ผิดๆ เป็นวงจรแห่ง
    หายนะทางศาสนาก็ว่าได้ เพราะคนไทยมีความพิเศษกว่า ชาติใด คือไม่เชื่อ
    อย่าลบหลู่ (ฮึๆๆ กบในกระลา)ก็เลยไม่คิดต่อแล้ว ต่างพวกฝรั่งมังค่า และยุ่น
    เขามองว่า ไม่เชื่อ ต้องศึกษาให้ทะลุปรุโปร่ง ต่างกันตรงนี้เอง ที่พี่ไทยเรา
    วิ่งออกแรงอย่างเมามัน แต่อยู่กับที่ ไทยเรางมงาย แถมไม่ยอมศึก
    ษาต่อยอดเพื่มเติม ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น แรงขับเคลื่อนของสัง
    คมกระท่อนกระแท่น ทุกอย่างรับข้อมูลอย่างผิดๆไปหมด


    เห็นหรือยังครับ คนไปทำบุญปัจจุบันเขาไปทำบุญกันแล้วได้อะไรกลับมา
    แทนทีไปวัด จะได้นั่งฟังธรรมเทศนาจากพระที่มีความรู้ที่ถูำกต้อง สอนสั่งให้ใช้
    ชีวิตด้วยปัญญา ทำดี ไม่เบียดเบียนทั้งตนและคนอื่นๆ แต่กลับได้ความเชื่อผิดๆ
    กลับมา น้อยวัดที่จะมีการเทศนาสั่งสอนญาติโยม ส่วนมากแล้วเน้นที่ให้ญาติ
    โยมทำบุญโดยการบริจาค บางวัีดก็ตามกำลังศรัทธา ก็ดีหน่อย บางวัดหนักหน่อย
    จัดการอย่างดี มีแพ็คเกจให้เรียบร้อย ชุดเล็ก 50 บาท ชุดใหญ่ 100 บาท
    เป็นต้น เหมือนบังคับไปในตัวทีเดียว

    อยากให้เราชาวพุทธ มองนอกกรอบ ให้กว้างกว่าอีก มองไปอีก 20-30 ปี
    อนาคตข้างหน้า มาเถิด มาช่วยกันทำศาสนาให้เป็นที่พึ่งทางกาย ทางใจ โดย
    ช่วยกัน บอกกล่าว แนะนำหลัก คำสอนของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ที่เป็นแก่นแท้ๆ ไม่ใช่กระพี้ ที่เห็นดาดเดื่อนในปัจจุบัน

    ปกป้องพระพุทธศาสนา โดยทำดี ไม่เบียดเบียน สอนสั่งคนอื่นด้วยความถูก
    ต้อง มองที่เหตุผล ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิด ย่อมมาจากเหตุ ไม่ใช่จากการ อ้อน
    วอนที่ปราศจาการลงมือทำ ดังปัจจุบันที่เป็นยุคแห่งความเสื่อมถอยทางศิลธรรม
    ความอ่อนแอทางสังคม วัฒนาธรรมซีดจาง หลงวัตถุ บริโภคนิยม

    อย่าให้วัดเป็นที่รวม ของ วัดถุที่เชื่อผิดๆว่าบูชาแล้วพ้นเคราะำห์ ไม่ว่ารูป
    ปั้นเทพเจ้าทั้งหลาย คำหลอกลวง ที่ไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ได้ แต่อยากให้ วัด
    เป็นสถานที่รวมของนักปราชญ์ และ ผู้รู้ที่ถูกต้อง ชี้แนะให้ทางเดินที่ถูก

    นี่มิใช่หรือ คือความหวัง ของคนไปวัด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. sayan2519

    sayan2519 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +2
    หากว่ากระทู่ที่ผมกล่าวไปนี้ ไม่ถูกใจกับหลายๆท่าน ก็กราบขอภัยงามๆ มา ณ ที่ีนี้ด้วย แต่เนื่องจากว่าผมเป็นคนชอบแสดงความคิดเห็น

    หากท่านเห็นด้วย หรือไม่ประการใดก็เชิญแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
     
  3. หนองสะลาบ

    หนองสะลาบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +564
    ปัจจุบันคนไทยมีความอ่อนแอทางด้านปัญญามากจึงถูกจูงจมูกลากไปไหนต่อไหนได้สบายที่นครนายกเห็นสร้างเป็นอุทยานพระคเณศสร้างใหญ่มากจนผู้นำจิตวิญญาณของพราห์มต้องบินด่วนมาแสดงความยินดีกับเจ้าอาวาสรูปนั้นผมเห็นข่าวแล้วรู้สึกรันทดหดหู่สังเวชทุเรศฯลฯเอาแค่พอเหมาะพองามก็ได้ไม่เห็นต้องถึงขนาดนั้นเลยแต่ถ้าจะให้ดีและถูกไม่ควรมีจะดีกว่าจะไปเซ่นวักตะบักตะบวยที่ไหนก็เอาเถอะแล้วแต่ศัทธาแต่ไม่ควรมีในวัดและมีผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพุทธบุตรเป็นตัวตั้งตัวตีอย่างนี้ เห็นด้วยอย่างแรงกับ จขกท ครับ
     
  4. sayan2519

    sayan2519 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +2
    นักบวช กับพระสงฆ์ กับเทพเจ้าฮินดู เกี่ยวกันอย่างไร งงจริงๆ

    เป็นที่น่าสงสัย ใช้หรือไม่ สำหรับท่านทีไปทำบุญที่วัดต่างๆ ทำไม ถึงมี รูป
    หล่อ ของพระภิฆเณศ พระอิศวร หรือเทพรูปอื่นๆ มายืน หรือมานั่งหราอยู่ ข้างๆ
    พระพุทธรู อันเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา หรือ ว่าปัจจุบัน ศิษย์ของ
    พระตถาคตเจ้า เริ่มสับสนกับ ที่มาของพระศาสดา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คน
    รักว่านคงมีความคิดว่า ทำอย่างนั้นไม่ถูกต้องแน่นอน ถึงแม้ในพระธรรมวินัย
    หรือกฎสงฆ์ไม่มีกฎหมายห้ามนำ เทพเจ้าองค์อื่นที่ไม่ใช่ และหรือ เกี่ยวข้องกับ
    ทาง ศาสนาพุทธ เข้าในวัด

    แต่ อย่าลืมว่า ท่าน(พระ)เป็นสาวกเป็นตัวแทน เป็นที่สืบทอดเจตนารมณ์ของ
    พระพุทธเจ้า เป็นตัวกลางระหว่างพระธรรมอันเป็นคำสั่งสอนที่ถูกต้องแล้ว และ
    สาวก คือญาติโยม หากเทียบกับ บัวสี่เหล่าแล้ว ญาติโยมอย่างดีสุดก็ ดอกบัว
    ที่อยู่ในน้ำ หรือเลวร้ายหน่อย ก็อยู่โคนตม อันเป็น แค่อาหาร เต่าล้านปี แต่
    พระเอง อย่างน้อยผมให้เครดิตว่า ท่านอยู่กลางน้ำหรือปริ่มน้ำ หรือพ้นน้ำแล้ว
    (หายาก)

    แล้วบัวที่อยู่ใต้โคนตา ที่เป็นอาหารเต่า นั้นหาก เปรียบกับคนในยุค
    ปัจจุบัน ก็ไม่แปลกนัก และเป็นอย่างนั้นจำนวนมากด้วย

    บัวที่อยู่ใต้โคนตม คือ ญาติโยมที่ไม่มีความรู้ ดังคนตาบอด เขาอย่างไร ก็ไป
    ตามนั้น จนเป็นเหยื่อของคนที่มองเห็นจุดอ่อนในข้อนี้ มาแสวงหาผลประโยชน์
    ต่างๆ ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ช่างน่าสงสารจริงๆ สำหรับท่านที่เป็นอย่างนี้

    เต่า คือคน หรือกลุ่มคน ที่เอาเปรียบ หรือ หากินกับความโง่เขลา ของคน(พวก
    ดอกบัวอยู่ใต้โคนตม) เต่าพวกนี้มีความคิดที่ล้าหลังไม่ยอมที่จะพัฒนาตนเอง
    ทางด้านจิตวิญญาณ ยังคงพอใจกับการหากินอาหารที่ได้มาอย่างผิดๆ หากิน
    กับความเชื่อของคนด้อยปัญญา


    หรือพระสงฆ์ (บางรูป) ที่มีแนวความคิดอย่างนี้ ท่านไม่ได้เรียนทางปริ
    ญัติธรรมมาเลย ไม่ได้เรียน พุทธประวัติ ไม่รู้ว่ากิจของสงฆ์ต้องทำอะไร และ
    อย่างไร?.. คนรักว่าน นับถือในตัวท่าน พุทธทาสภิกขุ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เป็น
    พระจริงๆ ไม่ใช่นักบวช ท่านมีแนวคำสอนที่พิสูจน์ได้ น่ายกย่องนัก ต่างจาก
    นักบวชบางท่าน ที่ไม่รู้หลักหรือ แก่นของศาสนา จริงๆ พูดเอาได้ได้ ไม่คำนึง
    ถึงคนรับข้อมูล ว่าเขารับไปแล้ว เขาเข้าใจอย่างไร ถ้าเข้าใจผิด หรือ ได้ข้อมูล
    ผิดๆ ผลเป็นอย่างไร


    คนรักว่านนั้น มีความเห็นว่า เราชาวพุทธ ต้องตื่น ต้องรู้ ต้องหัดแยกแยะ
    อันไหนพุทธจริง อันไหนพุทธปลอม กาไหว้รูปเทพเจ้าที่คนสร้างขึ้นมา ผมคิด
    ว่าไม่ต่างอะไรกับว่ายก้อนอิฐ ไหว้บิดา ไหว้มารดา คนที่เรารักดีกว่า น่าจะมีคุณ

    ประโยชน์ ดีกว่ารูปเทพเจ้าครึ่งคน ครึ่งสัตว์ใช่หรือไม่ :'(
     
  5. sangsawang

    sangsawang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    416
    ค่าพลัง:
    +2,473
    เห็นด้วยอีกเสียงครับ

    บางที่พากันออกทะเลไปกันไกลมากครับ

    ปล. เราต้องเลือกที่จะบริโภคครับ
     
  6. sayan2519

    sayan2519 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +2
    เวอร์คช็อป ตอน มาวิเคราะห์ และ ช่วยระดมสมอง เพื่อปกป้องพุทธศานา

    หากคุณเป็น ชาวพุทธศาสนาจริงๆ มาหาแนวทางกันดีใหม ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ
    การเผยแผ่ และทะนุบำรุงพุทธศาสนาให้สืบต่อไป

    ผมตั้งโจทย์มา 1 ข้อ เพื่ออยากเห็นไอเดียดีๆของพวกเรา ที่มีมุมมองคล้ายหรือต่างกัน
    ดังนี้ครับ

    1.มีวัดแห่งหนึ่ง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงพอสมควร เจ้าอาวาสเป็น เน้นการพัฒนาวัดใน
    แบบส่งเสริมให้ญาติโยมบริจาค ไม่ว่าจะเดินไปส่วนไหนก็มีตู้รับบริจาคตลอดทาง
    โดยมีจุดขายทางตลาดดังนี้
    1.1 นอนโรงศพ เพื่อต่อชะตา ค่าทำบุญ 120 บาท
    1.2 สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ค่าทำบุญ 200 บาท
    1.3 บูชาน้ำมันมหาเสน่ห์ คนรัก คนหลง ค่าทำบุญ 500 บาท
    1.5 บูชาทำบุญใส่ตู้บริจาค เหล่าเทพของศาสนาพราห์มต่างๆ 10 ตู้
    หมายเหตุ ท่านเจ้าอาวาส จบปริญาตรี ด้านการตลาดมา และเบื่อชีวิตทางโลก
    ก็เลยหันมาพึ่งทางพุทธศาสนา พอดีเป็นพระที่เจรจาเก่ง พูดจาเก่ง(Present)
    จนดันตัวท่านเป็นเจ้าอาวาส ในที่สุด การศุกษาด้านพุทธศาสนา จบนักธรรมชั้น
    โท
    ผลงานท่าน ก่อนหน้านั้น จากวัดที่คนไม่ค่อยรู้จัก พอท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่าน
    ทำแผนพัฒนาวัดนั้น โดยตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 3 ปี วัดต้องมีรายได้จากการ
    ที่ญาติโยม มาทำบุญอย่างน้อยเดือนละ 100000 บาท ทำอย่างไรก็ได้เพื่อไ้ด้
    ตามเป้าที่กำหนด
    คำถาม
    1.พระรูปนี้เหมาะสมที่จะเป็นพระหรือไม่
    2.แนวทางของพระรูปนี้ ที่จะบำรุงศาสนาถูกต้องหรือไม่
    3.ท่านคิดว่า มีผลประโยชน์อืื่่น แอบแฝงหรือไม่
    4.ท่านคิดว่าการจัดการของท่าน เหมาะสมหรือไม่

    หากเป็นท่าน จะมีแนวทางการพัฒนาวัดนี้อย่างไรกับวัดนี้ และแนวที่ถูกควรเป็นอย่างไร?
    ทางการบำารุงศาสนาต้องเป็นอย่างไร


    เพราะหนึ่งความคิดเห็นของท่าน บางทีมันอาจมีค่าอย่างมากมายกับบางที่ ที่
    ยังขาดการจัดการที่ถูกต้องของ เรื่องนั้นๆ
    ขอบคุณ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    เห็นด้วยครับ
    ทำไมต้องมีทั้งๆที่พุทธบารมีไม่มีประมาณครับ
    สาธุ
    ฤาษีอีกอย่างเห้นพระเข้ากราบไหว้แล้วไม่อาบัติหรอ!!!
    จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาพระสงฆ์ไทยด้อยความรู้ในหลักธรรมคำสอนของพระศาสดาน้อยลง
    ผมว่าตรงนี้คือจุดอ่อนแอของศาสนาน่ะครับ
    สาธุ
     
  8. หนองสะลาบ

    หนองสะลาบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +564
    เอาแบบรวมๆน่ะครับผมยอมให้วัดรกหญ้าดีกว่ารกคน(โง่ๆ)ส่วนจะพัฒนาอย่างไรนั้นก็ไปดูวัดที่ทำถูกทำดีเช่นวัดอัมพวัน สิงห์บุรี วัดท่าซุง วัดหลวงพ่อสด วัดและสาขาสายหลวงปู่มั่นฯลฯ(โทษทีครับที่ตอบมักง่ายไปหน่อย)
     
  9. sayan2519

    sayan2519 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +2
    นักรบธรรมมีจำนวนมาก แต่ขาดยุทธวิธีในการรบ ชนะได้อย่างไร

    เห็นด้วยอย่างมาก ที่คุณหนองสะลาบ ได้ให้ความคิดเห็นมาอย่างตรงๆ กระชับได้ใจความดี
    ผมขอต่อยอดจากพี่ เพิ่มเติมอีก ผมคิดว่าปัจจุบันนี้พระของเราเอง ต้องยอมรับกันว่า พระเรา
    นั้นมีจำนวนไม่น้อย ที่เข้ามาบวช ด้วยจุดประสงค์อื่นๆ (จริงหรือไม่ลองคิดตามดู)เช่น
    ๑ แทนคุณมารดา บิดา
    ๒ บวชตามประเพณี
    ๓ บวชพักร้อน
    ๔ บวชก่อนเบียด
    ๕ บวชหนีเหตุการณ์บางอย่าง
    ๖ บวชเพื่อหนีทุกข์ เบื่อโลก
    หากมองตามนี้แล้ว ผมว่า เรายังไม่มีแผนการพัฒนา และไม่มีสถานบันใด ที่มีหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์
    ในการที่จะพัฒนา พระพุทธศาสนาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และไม่มีแผนแม่บท ใดๆเลย ปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นไปตามธรรมชาติของกระแสนิยมของสังคมปัจจุบัน

    การบวชคือ ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นการสืบทอดพุทธศาสนาเช่นกัน แต่บวชแล้วส่วนมากจะอยู่ระหว่าง
    ข้อ ๑ถึงข้อ ๕ ส่วนข้อ ๖ ผมว่ามีจำนวน น้อยมาก แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราปล่อยให้ศาสนาเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง

    เจ็บปวดมากกว่านั้น พระที่เข้ามาบวช ไม่ว่าจะอยู่ตามข้อใดก็ตาม บวชนานเข้าท่านก็เลอะเลือน ไม่รู้ว่าสัญลักษณ์
    ของพระพุทธศาสนาเป็นอย่างไร นำเอารูปปั้นของศาสนาอื่นเข้ามากราบไหว้ ตัวเองโง่ไม่พอ ยังหลอกให้ญาติโยมเชื่อ
    ตามตัวเองอีก พูดแล้ว คนรักว่านพูดได้ว่า เศร้าใจมากๆ

    ผมว่าการที่จะทำให้พุทธศาสนาดีขึ้น ในความเห็นของผมนั้น ผมขอเสนอข้อคิดเห็นดังนี้
    ใช้หลักการ 4 Mครับ น่าจะประยุกต์ใช้ได้ 5 M มีอะไรบ้าง (ผมความรู้น้อย ขอพูดได้เท่าที่รู้ก็แล้วกัน)
    ๑ MAN (แมน) คือ คน การที่จะเลือกผู้เข้าบวชในศาสนาต้องเลือกเฟ้นให้ดีๆ ต้องกำหนดมาตรฐานของคนจะบวชสอบ
    ประวัติให้ลึกๆ เพื่อป้องกันพวกกระเทย พวกขี้ยา คนหนีโทษทางกฎหมาย หรืออื่นๆ (ย้ำต้องเกณฑ์ในการเลือกคนให้
    เหมาะกับสภาพปัจจุบัน) เพื่อไม่ให้คนพวกนี้เข้าไปอาศัยศาสนาในการทำกิจกรรมต่าง จนส่งผลให้ศาสนาด่างพล้อยไป

    ๒ MACHINE (แม็ชชีน) คือเครื่องมือในการพัฒนา เช่นสื่อเผยแผ่ต่างๆ ต้องคิดใหม่ ทำใหม่ มีหน่วยงานที่เข้ามาดูแล และ
    ควรได้รับส่งเสริมงบประมาณ และสนับสนุนทางรัฐบาลส่วนหนึ่ง(ต้องมีคนเรียกร้องบ้าง ฆ้องดีไม่ตี ไม่ดัง ) สร้างสื่อธรรม CD ต่างๆ ควรเจาะกลุ่มเด็กๆ หรือวัยรุ่นให้สนใจ เพราะคนกลุ่มนี้คือกำลังในอนาคต เช่นทำหนังการ์ตูน ละครธรรมเป็นต้น
    ๓ METHO(เมธอด) คือวิธีการ แผนการพัฒนา วัดวาอารามให้เป็นรูปธรรม กำหนดรูปแบบการตรวจประเมินทั้งความรู้
    ความรู้ ความสามารถของพระทุกระดับ เป็นประจำทุกๆความถี่กีปี กี่เดือนก็ว่าไป

    ๔ MANANGEMENT(แมนเนกเมนท์)การบริหาร การจัดการ ต้องหาวิธีประยุกต์ให้เข้ากับ พุทธให้ได้ โดยการระดมความ
    คิดเห็นของพระ และญาติโยม และกลั่นออกมาให้เหมาะสมที่สุด กำหนดรูปแบบการปกครองใหม่ และการเลื่อนยศชอง
    ของพระต้องได้มาตรฐานจริง(มาตรฐานทั้งความรู้ ความสามารถ และการปฎิบัติที่ถูกต้องตามธรรมวินัย)
    โดยสรุปแล้ว ปัจจุบันผมพูดแบบกำปั้นทุบดินเลย เรายังไม่มีหน่วยใด ที่มานั่งคิดเรื่อง แก้ไขและป้องกันการเสื่อมถอย
    ของพุทธศาสานาอย่างจริงจัง

    สิ่งที่ต้องเริ่มทำสิ่งแรกคือ ควรจัดตั้งหน่วยงาน ที่มีหน้าที่หลัก คือ กำหนดแผนแม่บท พัฒนาพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน
    จากนั้น กำหนดแผนการดำเนินการย่อยๆ ออกมา และกำหนดหน่วยงานเข้ามาดูแล และกำกับของแต่ละขั้นตอน ลำดับ
    ถัดไป ดำเนินการลงมือทำตามแผนแม่บท และแผนการดำเนินการต่าง พร้อมทั้ง นำข้อมูลผลการดำเนินการย่อยต่างมา
    มาวิเคราะห์หาปัญหา วิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง อุปสรรค และโอกาส จากนั้นนำข้อมูลต่างๆที่ได้มาหาทางแก้ไขไปเรื่อย
    อย่างนี้ผมว่าไม่เกิน ๑๐ ปี น่าจะดีกว่าปล่อยไปตามเรื่องตามราวอย่างที่เป็นแน่อน
    คนรักว่านเป็นคนที่มีมุมมองอาจต่างจากท่าน แต่ถ้าท่านมีรูปแบบหรือข้อเสนอแนะก็พูดคุยกันได้ อย่างนิ่งดูดายกับ
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น:':)':)':)'(
     
  10. sayan2519

    sayan2519 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +2
    ของไม่ดีต้องช่วยกันกำจัด แจ้ง สคบ.ดีมั๊ย+555

    เห็นด้วยครับ กับวลี คำว่า เราต้องเลือกที่จะบริโภค แต่ผมมีแนวคิดว่าเพิ่มอีกว่า
    สินค้าไม่ดี ไม่ได้มาตรฐาน เราผู้บริโภค ต้องร้องเรียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
    ครับ อย่าปล่อยให้เธอลอยนวล ..ๆ:cool:
     
  11. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    เท่าที่รู้มา เทพเจ้าที่ จขกท. ว่าไว้ ส่วนมากท่านจะเป็นพระโพธิสัตว์น่ะ ส่วนจะเท็จจริงอย่างไงก็ไม่ทราบได้ครับ แค่รู้ว่าไว้เฉย ๆ
     
  12. sayan2519

    sayan2519 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +2
    ต้องออกตัวไว้ก่อนว่า วัดที่เป็นอย่างที่ว่านี้มีจำนวนน้อย แต่อย่างไรก็ตาม น้อยแต่ส่งผลในอนาคต
    อย่างไม่รู้จะมากน้อยเพียงไร ทางที่ดี ต้องให้คนมีความู้อย่างถูกต้อง และต้องใช้ปัญญาไม่ใช่
    ไม่เชื่อ แต่อย่าหลบหลู่ อันนี้ผิดแน่นอน มันต้องไม่เชื่อต้องทดลองและพิสูจน์ เพราะทุกอย่างที่เกิด ย่อมมีเหตุเป็นตัวตั้งต้นทุกอย่างในโลกนี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...