"ฤทธิ์ในโลกุตระ" : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร

"ฤทธิ์ในโลกุตระ"

“...กฎพระไตรลักษณ์ญาณครอบสามแดนโลกธาตุ แล้วใครจะเหนือกฎพระไตรลักษณ์ญาณได้ล่ะ กามภพ รูปภพ และอรูปภพแม้แต่ในอรูปพรหมก็อยู่ในกฎพระไตรลักษณ์ญาณ ฤทธิ์ในโลกียะ ฤทธิ์ในโลกตุระแตกต่างกันมากนะ พวกเธอจะเอาฤทธิ์ในโลกียะมาแสดงอวดโลกอวดสงสารพวกเธออวดได้เหมือนพระเทวทัต แต่ไม่สามารถอวดแล้วก็เหนือกรรมได้มีแต่พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกที่เป็นพระอรหันต์ ที่อวดโลกอวดสงสารได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในโลกุตระฤทธิ์ ฤทธิ์ในโลกุตระนั่น ไม่มีใครที่ว่าเปรียบเสมือนหรือเทียบเท่าได้เลย ฤทธิ์ในโลกุตระนี่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกเนี่ยเห็นไหมล่ะ พวกเราเขาเรียกว่ามันเป็นโกโรโกโส พอปฏิบัติหน่อยเริ่มที่จะมีสมาธิเริ่มที่จะได้ฤทธิ์ได้เดชก็หลงในฤทธิ์ในเดชนั่น

ตอนแรกก็เจตนาในมรรคได้ผลพอเห็นฤทธิ์เห็นเดชแล้วก็เป็นบ้าบอคอแตกไปเห็นไหมล่ะ เนี่ยมันก็เห็นกันอย่างงั้น อันนี้เราไม่เคยเป็นนะเรานี่ไม่เคยเป็น พอฤทธิ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่เนี่ย โอ้ย...ไม่ใช่ทางแล้วนี่ เป็นสิ่งที่ขวางกั้นทางมรรคทางผลหนีดีกว่าในสมัยที่เราจำพรรษาอยู่ที่บ้านหนองหอย หยิบได้เหรอฝ้ายผูกแขน หยิบได้เหรอฝ้ายที่ผูกแขนผูกคอหยิบได้เหรอ หยิบอะไรขึ้นก็เป็นทองคำทั้งหมดเห็นไหมนั่น แต่เราไม่เหมือนหมู่ลูกต้องเข้าใจด้วยนะ เราไม่ได้บวชมาก็เพื่อฤทธิ์เพื่อเดชตัวนี้ เพื่อที่จะสั่งสมกองมหากิเลสเปรตผีที่เป็นโลกียะฤทธิ์ ถ้าฤทธิ์เราต้องการเป็นโลกุตระฤทธิ์ ฤทธิ์ในโลกุตระ ฤทธิ์ตัวนี้นี้เราต้องการฤทธิ์ทำลายอาสวะให้สิ้นนั่น ฤทธิ์ในการทำลายกามภพ รูปภพ และอรูปภพเข้าสู่มหาปรินิพพาน นี่เราต้องการฤทธิ์ตัวนี้ไม่ใช่ว่าเป็นฤทธิ์เป็นเดชทางด้านอื่น เป็นฤทธิ์เป็นเดชแล้วมันได้อะไรดีขึ้นมา มีแต่เปรตมีแต่ผีสิงสถิตในใจนั่น

ก็อวดอ้างตัวเองว่าฤทธิ์เดชนั้นมีฤทธิ์มีเดชมากไปรักษาคนนั้น ไปเป่าซะจนสลบไสล ใครสลบไสลก็ตัวเองมันเป็นบ้าเห็นไหมล่ะ ไม่คลำดูหัวโล้นและผ้าเหลืองนี้ได้มาจากไหนนั่น ไม่ระลึกถึงพ่อผู้เลิศในไตรโลกธาตุคือพระพุทธเจ้า มีไหมล่ะที่พระตถาคตเจ้านี่ใช้ฤทธิ์ใช้เดชไปรักษาคน เราไม่เห็นนี่ พระติสสะพระโรคเรื้อน ฤทธิ์มากขนาดนั้นก็ไม่เห็นว่าพระตถาคตเจ้าใช้ฤทธิ์ ฟังด้วยทั่วโลก ก่อไฟไปต้มน้ำร้อนเอาผ้ามาชุบน้ำอุ่นๆ แล้วเช็ดตัวพระติสสที่เป็นโรคเรื้อน พระติสสก็ร้องไห้สิ อบอุ่นสิก็เหมือนพ่อดูสิ ไม่เห็นว่าพระตถาคตเจ้าใช้ฤทธิ์ใช้เดชเป่าแขนเป่าขาเป่าเชื้อโรคของพระติสสก็ฟังด้วยทั่วโลก งี่เง่าไหมพวกเรานี่อะไรก็ว่าตัวเองเลิศตัวเองประเสริฐ พอมีลาภสักการะ พอมีฤทธิ์เดชนิดๆหน่อยๆในโลกียะก็หลง เหมือนพระเทวทัต…”

พระธรรมเทศนา : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
๗ เมษายน ๒๕๖๔