ร่วมบุญ สร้างกุศล อานิสงส์ยิ่งใหญ่ สร้างศาลาปฏิบัติธรรมพระกัมมัฏฐานสายหลวงปู่ชา

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย ประสงค์ 1994, 25 ตุลาคม 2012.

  1. ประสงค์ 1994

    ประสงค์ 1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +453
    ขอเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรมพระกัมมัฏฐานสายหลวงปู่ชา ณ วัดหนองป่ากุง(สาขาวัดหนองป่าพงที่ 161) หมู่ 7 บ.ไทรงาม ต. ดอนจิก อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี 34110
    พระอาจารย์สกล สนฺตจิตฺโต
    เบอร์โทรศัพท์ 083-1247316
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00182.JPG
      DSC00182.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.9 MB
      เปิดดู:
      254
    • DSC00183.JPG
      DSC00183.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.8 MB
      เปิดดู:
      224
    • DSC00188.JPG
      DSC00188.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.2 MB
      เปิดดู:
      221
    • DSC00190.JPG
      DSC00190.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.4 MB
      เปิดดู:
      163
    • DSC00191.JPG
      DSC00191.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.4 MB
      เปิดดู:
      197
    • DSC00200.JPG
      DSC00200.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.5 MB
      เปิดดู:
      66
    • DSC00202.JPG
      DSC00202.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.3 MB
      เปิดดู:
      61
    • DSC00205.JPG
      DSC00205.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.4 MB
      เปิดดู:
      80
    • DSC00211.JPG
      DSC00211.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.8 MB
      เปิดดู:
      98
    • DSC00213.JPG
      DSC00213.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.4 MB
      เปิดดู:
      61
  2. ประสงค์ 1994

    ประสงค์ 1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +453
    วิหารทาน คือการทำบุญถวายหรือร่วมสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ถวายไว้เป็นสมบัติพระศาสนา เช่น การสร้างพระอุโบสถ (โบสถ์) กุฏิ ศาลา วิหาร หอฉัน หอระฆังเป็นต้น
    องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่าการถวายวิหารทานมีอานิสงส์มาก โดยมีพุทธดำรัสตรัสเอาไว้ว่า
    "แม้ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าถวายสังฆทานครั้งเดียว"
    "แม้การถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าการถวาย "วิหารทาน" ครั้งเดียว"
    การถวายวิหารทานยังมีอานิสงส์อีกมาก ดังที่จะได้พรรณาถึงอานิสงส์ที่มีมาในพระไตรปิฎก ต่อไป
     
  3. ประสงค์ 1994

    ประสงค์ 1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +453
    ความเป็นมาของการถวายวิหารทานในพระพุทธศาสนา​


    เสนาสนะขันธกะ
    เรื่องราชคหเศรษฐีถวายวิหาร

    [๑๙๘] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร อันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์ ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคยังมิได้ทรงบัญญัติเสนาสนะแก่ภิกษุทั้งหลาย และภิกษุเหล่านั้น ก็อยู่ในที่นั้น ๆ คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง

    ภิกษุเหล่านั้นออกจากที่อยู่นั้น ๆ คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง แต่เช้าตรู่ มีอาการเดินไปข้างหน้า ถอยกลับ แลเหลียว คู้แขน เหยียดแขน น่าเลื่อมใส มีจักษุทอดลง สมบูรณ์ด้วยอิริยาบถ ฯ

    [๑๙๙] สมัยนั้น ราชคหเศรษฐีได้ไปสวนแต่เช้าตรู่ ได้แลเห็นภิกษุเหล่านั้นเดินออกจากที่อยู่นั้น ๆ คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง แต่เช้าตรู่ มีอาการเดินไปข้างหน้า ถอยกลับ แลเหลียว คู้แขน เหยียดแขน น่าเลื่อมใส มีจักษุทอดลง สมบูรณ์ด้วยอิริยาบถ

    ครั้นแล้วก็มีจิตเลื่อมใส จึงเข้าไปหาภิกษุเหล่านั้น เรียนถามว่า
    "ท่านเจ้าข้า หากข้าพเจ้าสร้างวิหารถวาย พระคุณเจ้าจะอยู่ในวิหารของข้าพเจ้าหรือไม่"

    ภิกษุเหล่านั้นตอบว่า "ดูกรคหบดี พระผู้มีพระภาคยังมิได้ทรงอนุญาตวิหาร"
    เศรษฐีกล่าวว่า "ท่านเจ้าข้า ถ้าเช่นนั้น พระคุณเจ้าจงทูลถามพระผู้มีพระภาค แล้วแจ้งแก่ข้าพเจ้า"

    ภิกษุเหล่านั้นรับคำของราชคหเศรษฐี แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคมนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วทูลถามว่า "พระพุทธเจ้าข้า ราชคหเศรษฐีประสงค์จะสร้างวิหารถวาย ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะพึงปฏิบัติอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า ฯ"
    พุทธานุญาตเสนาสนะ ๕ ชนิด

    [๒๐๐] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเสนาสนะ ๕ ชนิด คือ วิหาร ๑ เรือนมุงแถบเดียว ๑ เรือนชั้น ๑ เรือนโล้น ๑ ถ้ำ ๑ ฯ"

    [๒๐๑] ต่อมา ภิกษุเหล่านั้นเข้าไปหาท่านราชคหเศรษฐีแล้วได้กล่าวว่า
    "คหบดี พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตวิหารแล้ว บัดนี้เป็นการสมควรที่จะสร้างได้"

    ราชคหเศรษฐีให้สร้างวิหาร ๖๐ หลังโดยวันเดียวเท่านั้น ครั้นให้สร้างเสร็จแล้ว จึงเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคมนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลอาราธนาว่า "พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคกับภิกษุสงฆ์ จงทรงรับภัตตาหารของข้าพระพุทธเจ้า เพื่อเสวยในวันพรุ่งนี้"

    พระผู้มีพระภาคทรงรับอาราธนาโดยดุษณีภาพ ครั้นเศรษฐีทราบว่า ทรงรับอาราธนาแล้วจึงลุกจากอาสนะ ถวายบังคม ทำประทักษิณ กลับไปแล้ว ให้ตกแต่งขาทนียโภชนียาหารอันประณีตโดยล่วงราตรีนั้น แล้วให้คนไปกราบทูลภัตกาลแด่พระผู้มีพระภาคว่า ถึงเวลาแล้ว ภัตตาหารเสร็จแล้ว พระพุทธเจ้าข้า ฯ
    ถวายวิหาร

    [๒๐๒] ครั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงอันตรวาสก ถือบาตรจีวร เสด็จไปยังนิเวศน์ของราชคหเศรษฐี
    ครั้นแล้วประทับนั่งเหนืออาสนะที่เขาปูลาดถวาย พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์

    ราชคหเศรษฐี อังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีตด้วยมือของตน จนยังพระผู้มีพระภาคผู้เสวยแล้ว ลดพระหัตถ์จากบาตร ให้ห้ามภัตรแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
    "พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าต้องการบุญ ต้องการสวรรค์ ได้ให้สร้างวิหาร ๖๐ หลังนี้ไว้แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าจะพึงปฏิบัติอย่างไร ในวิหารเหล่านั้น พระพุทธเจ้าข้า"

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
    "ดูกรคหบดี ถ้าเช่นนั้น เธอจงถวายวิหารเหล่านั้นแก่สงฆ์จาตุรทิศ ทั้งที่มาแล้วและยังไม่มา"

    ราชคหเศรษฐีทูลรับพระพุทธดำรัสแล้ว ได้ถวายวิหารเหล่านั้น แก่สงฆ์ จาตุรทิศ ทั้งที่มาแล้วและยังไม่มา
    ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนาแก่ราชคหเศรษฐีด้วยคาถาเหล่านี้ ว่าดังนี้:-
    คาถาอนุโมทนาวิหารทาน


    [๒๐๓] วิหารย่อมป้องกันหนาว ร้อน และเนื้อร้าย นอกจากนั้นยัง
    ป้องกันงูและยุง ฝนในสิสิรฤดู นอกจากนั้นวิหารยังป้องกัน
    ลมและแดดอันกล้าที่เกิดขึ้นได้ การถวายวิหารแก่สงฆ์ เพื่อ
    หลีกเร้นอยู่ เพื่อความสุข เพื่อเพ่งพิจารณา และเพื่อเห็น
    แจ้ง พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่า เป็นทานอันเลิศ เพราะ
    เหตุนั้นแล คนผู้ฉลาด เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ตน พึงสร้าง
    วิหารอันรื่นรมย์ให้ภิกษุทั้งหลายผู้พหูสูต อยู่ในวิหารนี้เถิด อนึ่ง
    พึงมีใจเลื่อมใสถวายข้าว น้ำ ผ้า และเสนาสนะ อันเหมาะ
    สมแก่พวกเธอ ในพวกเธอผู้ซื่อตรง เพราะพวกเธอ ย่อม
    แสดงธรรมอันเป็นเครื่องบรรเทาสรรพทุกข์แก่เขา เขารู้ทั่วถึง
    แล้ว จะเป็นผู้ไม่มีอาสวะ ปรินิพพานในโลกนี้
    ครั้นพระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนาท่านราชคหเศรษฐี ด้วยคาถาเหล่านี้​

    แล้ว ทรงลุกจากอาสนะเสด็จกลับ ฯ
    อานิสงส์สร้างกุฎีวิหาร


    ......ในกาลครั้งนั้น สมเด็จพระบรมศาสดา เสด็จประทับอยู่ ณ ลัฏฐิวันสวนตาลหนุ่ม พระองค์เที่ยวโปรดเวไนยสัตว์ให้ได้มรรค ๔ ผล ๔
    ในครั้งนั้นพระเจ้าพิมพิสาร ได้ครองราชสมบัติที่กรุงราชคฤห์ ก็มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า แล้วก่อสร้างกุฎีวิหารในพระราชอุทยานเวฬุวัน สวนป่าไม้ไผ่ ให้เป็นวัดแรกในพุทธศาสนา ถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมกับภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูป พร้อมกับถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน องค์สมเด็จพระบรมศาสดา พร้อมกับภิกษุสงฆ์เสร็จภัตตากิจแล้ว
    พระเจ้าพิมพิสารทูลถามว่า​

    "ภนฺเต ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญสาธุชนทั้งหลายมีใจศรัทธา ปสันนาการ เลื่อมใส มาก่อสร้างกุฎีวิหารถวายเป็นสังฆทานนั้น จะได้ผลานิสงส์เป็นประการใด ขอให้พระองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาให้ข้าพุทธเจ้า พร้อมบริษัททั้งหลายให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า"

    องค์สมเด็จพระบรมศาสดา ทรงแสดงพระธรรมเทศนาว่า ​

    "ดูกรมหาบพิตรพระราชสมภาร บุคคลผู้ใดมีจิตศรัทธาเลื่อมใสพระรัตนตรัยแล้วก่อสร้างกุฎีวิหาร ศาลาคูหาน้อยใหญ่ ถวายเป็นทาน จะประกอบด้วยผลอานิสงส์มาก เป็นอเนกประการนับได้ถึง ๔๐ กัลป์"

    พระองค์ทรงนำอดีตนิทานมาเทศนาต่อไปว่า... ในอดีตกาลล่วงมาแล้ว พระพุทธเจ้ายังมิได้อุบัติบังเกิดในโลก ยังศูนย์เหล่าอยู่สิ้นกาลช้านาน ในระหว่างนั้นพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลาย ก็ได้บังเกิดตรัสรู้ในโลกนี้ ​

    พระปัจเจกโพธิเจ้าก็อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ จนอยู่มาวันหนึ่งมีความปรารถนาเพื่อจะมาใกล้หมู่บ้านอันเป็นว่านแคว้นกาสิกราช จึงมาอาศัยอยู่ในราวป่าแห่งหนึ่งแถบใกล้บ้านนั้น​

    มีนายช่างคนหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านนั้นไปป่ากับลูกชายของตน เพื่อจะตัดไม้มาขายกินเลี้ยงชีพตามเคย ก็แลเห็นพระปัจเจกโพธิเจ้านั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พ่อลูกสองคนก็เข้าไปใกล้ น้อมกายถวายนมัสการแล้ว ทูลถามว่า "ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าจะไปไหน จึงมาอยู่ในสถานที่นี้" ​

    พระปัจเจกโพธิจึงตอบว่า "ดูกรอาวุโส บัดนี้จวนจะเข้าพรรษาแล้ว อาตมาเที่ยวแสวงหากุฏีวิหาร ที่จะจำพรรษา"
    นายช่างก็อาราธนาให้อยู่จำพรรษาในที่นี้ ​

    พระปัจเจกโพธิทรงรับด้วยการดุษณียภาพ สองคนพ่อลูกดีใจ จึงขออาราธนาพระผู้เป็นเจ้าเข้าไปสู่เรือน ถวายบิณฑบาตทานแด่พระปัจเจกโพธิ สองคนพ่อลูกก็เที่ยวตัดไม้แก่นมาทำสร้างกุฎีวิหารที่ริมสระโบกขรณีใหญ่ และทำที่จงกรม เสร็จแล้วขออาราธนาพระผู้เป็นเจ้าจงอยู่ให้เป็นสุข​

    ครั้นพระปัจเจกโพธิได้รับนิมนต์แล้ว สองคนพ่อลูกตั้งปณิธานความปรารถนา ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากทุกข์ยากไร้เข็ญใจ และขอให้ข้าพเจ้าทั้งสองนี้ได้เป็นพระอรหันต์ขีณาสพผู้ประเสริฐองค์หนึ่งเถิด พระปัจเจกโพธิก็รับอนุโมทนาซึ่งบุญนั้น ​

    นายช่างสองคนพ่อลูกอยู่จนสิ้นอายุขัยแล้วก็ทำกาลกิริยาตาย ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีวิมานทองเป็นที่รองรับ และเทพอัปสรแวดล้อมเป็นบริวาร เสวยทิพย์สมบัติอยู่ในสวรรค์สิ้นกาลช้านานเทพบุตรองค์ลูก จุติจากสวรรค์นั้นแล้วก็ไปบังเกิดเป็นราชบุตรของพระเจ้าสุโรธิบรมกษัตริย์ในเมืองมิถิลามหานคร ทรงพระนามว่ามหาปนาทกุมาร​

    มหาปนาทกุมารเจริญวัยขึ้น ได้เสวยราชสมบัติเป็นพระยาจักรพรรดิราช ด้วยอานิสงส์ที่ได้สร้างกุฎีวิหารถวายเป็นทานแด่พระปัจเจกโพธิ ครั้นตายจากชาติเป็นพระยามหาปนาทแล้ว ก็เวียนว่ายตายเกิดในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ แล้วก็มาเกิดเป็นเศรษฐีมีทรัพย์ ๘๐ โกฎิอยู่ในภัททิยนคร ชื่อว่า ภัททชิ ก็ได้ปราสาท ๓ หลัง อยู่ใน ๓ ฤดู ครั้นเจริญวัยก็ได้บวชในศาสนา สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ในศาสนาของตถาคตดังนี้แล​

    ส่วนเทพบุตรองค์พ่อนั้น ยังเสวยทิพย์สมบัติอยู่ในสวรรค์ช้านาน จนถึงศาสนาพระศรีอาริยเมตไตรย์ลงมาตรัสสัพพัญญูเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในมนุษย์โลก จักได้จุติลงมาปฏิสนธิในครรภ์พระอัครมเหสีสมเด็จพระเจ้ากรุงเกตุมวดี ทรงพระนามว่าสังขกุมาร
    ครั้นเจริญวัยแล้วก็ขึ้นครองราชย์สมบัติ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าสังขจักรบรมกษัตริย์ มีทวีปน้อยใหญ่เป็นบริวาร พระองค์จึงได้สละราชสมบัติ บ้านเมือง ออกไปบรรพชาในสำนักพระศรีอาริยเมตไตรย์ กับทั้งบริวาร ๑ โกฎิ ก็ได้ถึงอรหันต์ได้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา ทรงพระนามอโสกเถระ ​

    ก็ด้วยอานิสงส์ได้สร้างกุฎีให้เป็นทานนั้นแล อันเป็นบุญให้ถึงความสุข ๓ ประการ คือ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 ตุลาคม 2012
  4. สมศักดิ์2510

    สมศักดิ์2510 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    526
    ค่าพลัง:
    +3,705
    มีหมายเลขบัญชีไหมครับ
     
  5. ประสงค์ 1994

    ประสงค์ 1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +453
    ขอบคุณมากครับที่แวะเยี่ยมชม หากมีโอกาสมาร่วมบุญกันนะครับ
    เพราะว่าวัดยังขาดเสนาสนะอีกมากนะครับ ซึ่งในแต่ละปีจะมีการจัดปฏิบัติธรรมเป็นพุทธบูชา ให้พุทธศาสนิกชนมาร่วมตักบาตร ทำบุญถือศีล บำเพ็ญบารมี และรับฟังเทศน์จากครูบาอาจารย์ สายวัดหนองป่าพง รวมทั้งจัดกิจกรรมอบรมธรรมะแก่นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งอาจารย์ จากโรงเรียนต่างๆ ให้ห่างไกลจากยาเสพติด จึงอยากขอให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนด้วยนะครับ
     
  6. ประสงค์ 1994

    ประสงค์ 1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +453
    ขอบคุณมากครับผม ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ ส่วนเลขที่บัญชีทางวัดเดี๋ยวผมสอบถามให้ครับ หรือสอบถามรายละเอียดกับพระอาจารย์โดยตรงตามเบอร์โทรที่ให้ไว้ก้อได้ครับ พระอาจารย์ใจดีสนทนาเป็นกันเองมากครับกับลูกศิษย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...