ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ณ สำนักสงฆ์แสงเพชร

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย เอกกร, 21 พฤศจิกายน 2023.

  1. เอกกร

    เอกกร ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    22
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +56
    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนบูรณะปฏิสังขรณ์ และก่อสร้างถาวรวัตถุ ณ สำนักสงฆ์แสงเพชร ต.หนองนกทา อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี
    วันอาทิตย์ ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
    เวลา ๙.๐๙ น. ถวายองค์กฐินสามัคคี

    ท่านสามารถร่วมบุญได้ที่
    บัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์
    เลขที่ ๔๐๘-๕๑๑-๑๓๐๙ (408-511-1309)

    นายเอกกร เอกมงคลกิตติ

    สามารถร่วมบุญได้ถึงวันเสาร์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๗.๐๐ น.
    หากโอนปัจจัยหลังจากนั้นถือว่าให้เจ้าของบัญชีร่วมบุญต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย
    a01.jpg a02.jpg
    a03.jpg a04.jpg
    a05.jpeg


    กฐินทานนั้นสำคัญที่สุดก็อยู่ตรงผ้าไตร ส่วนอื่น ๆ เป็นได้แค่บริวารกฐิน


    บุคคลที่ถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา ถ้าเกิดชาติใหม่มีโอกาสได้พบพระพุทธศาสนา ถ้าท่านเป็นชาย ได้รับประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมีจีวรสำเร็จด้วยฤทธิ์ลอยมาสวมตัวให้ ถ้าท่านเกิดเป็นผู้หญิงจะมีเครื่องประดับชื่อมหาลดาปสาธน์

    เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์นี้ มีลักษณะเป็นรูปนกยูงรำแพน โดยมีช่วงต่อออกมาเป็นเสื้อคลุม เสื้อคลุมนี้ร้อยขึ้นมาจากแก้วมณี ๑๑ ทะนาน แก้วไพฑูรย์ ๒๒ ทะนาน แก้วประพาฬ ๒๒ ทะนาน เป็นต้น สิ่งที่ใช้ร้อยแก้วนั้นก็คือด้ายเงินและด้ายทอง จึงทำให้ชุดนี้มีน้ำหนักมหาศาล ถ้าหากว่าไม่ได้ประกอบด้วยบุญหรือว่าไม่ได้เกิดมาเป็นเจ้าของจริง ๆ จะไม่สามารถยกขึ้นได้

    เครื่องประดับชิ้นนี้ในสมัยพุทธกาลมีผู้หญิงอยู่ ๓ คน ด้วยกันที่มี คนแรกคือ นางวิสาขามหาอุบาสิกา คนที่สองคือ นางมัลลิกาเทวี ภรรยาของพันธุลเสนา คนที่สามคือ ภรรยาของโจรที่ชื่อว่า เทวนานิยะ เครื่องประดับชิ้นนี้มีราคา ๙ โกฏิของสมัยนั้น

    ๑ โกฏิ ถ้าว่าตามหลักของภาษาบาลี คือ ๑๐ ล้าน ก็แปลว่า ราคาต่ำสุดก็คือ ๙๐ ล้านของสมัยนั้น สมัยนี้ ๙,๐๐๐ ล้านไม่ทราบว่าจะซื้อได้หรือไม่ เพราะว่าแก้วมณีก็คือเพชร ร้อยขึ้นมาจากเพชร ๑๑ ทะนาน แล้วยังมีแก้วประพาฬแก้วไพฑูรย์อีกอย่างละ ๒๒ ทะนาน

    การทำบุญในพระพุทธศาสนาจะเห็นได้ว่าทำแล้วไม่สูญเปล่า ทำแล้วต้องได้ผลแน่นอน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น
    ..................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...