ร่วมทำบุญสร้างวิหาร เพื่อประดิษฐานพระพุทธมงกุฎหิรัญเทวาธิราช

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย aegmanmu, 29 เมษายน 2013.

  1. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    ขอเชิญร่วมทำบุญ จัดสร้างวิหารเพื่อประดิษฐานพระพุทธมงกุฎหิรัญเทวาธิราช บริเวณหน้าศาลเทพนาคราชและท้าวหิรัญพนาสูร ณ วัดเสน่หา อ.เมือง จ.นครปฐม ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท และทุกท่านสามารถบูชาวัตถุมงคลที่วัด รายได้ก็นำไปช่วยสร้างวิหารแห่งนี้ ร่วมกันทำบุญและขออนุโมทนาบุญแก่ทุกท่านด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    นี้คือพระพุทธรูปที่จะนำไป ประดิษฐานในวิหารที่จะสร้าง
    "พระพุทธมงกุฏหิรัญเทวาธิราช"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2013
  3. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    ขอบคุณครับ

    ครับผม องค์จริงสวยมากครับ
     
  4. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    ตัวอย่างองค์เทพนาคราชที่ทางวัดมีให้บูชา เพื่อนำเงินไปร่วมสร้างศาลา

    องค์นี้ 4900
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    ตัวอย่างองค์เทพนาคราชที่ทางวัดมีให้บูชา เพื่อนำเงินไปร่วมสร้างศาลา

    องค์นี้ 3900
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    บรรยากาศภายในวัดและองค์หล่อเทพนาคราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. อนันตพุทธะ

    อนันตพุทธะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    2,724
    ค่าพลัง:
    +9,701
    มีรายละเอียด บัญชีที่โอนทำบุญไหมครับ ขอบคุณครับ
     
  8. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    กำหนดการวางศิลาฤกษ์

    ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างวิหารประดิษฐานพระพุทธมงกุฎหิรัญเทวาธิราช วันอาทิตย์ ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ วัดเสนหา พระอารามหลวง จ.นครปฐม
    พิธีการ ๙.๐๙ - ๑๔.๐๐ น.
    ๙.๐๙ น. ประธานจุดธูปเทียนเครื่องสังเวยเทวดา พราหมณ์ทำพิธีสวดอัญเชิญเทวดา

    ๙.๒๙ น. นายมนูญ มุกข์ประดิษฐ์ รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย รับศีล สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์ เจิมแผ่นศิลาฤกษ์และไม้มงคล ( พระสงฆ์สวดมงคลสูตรระหว่างประธานเจิม )

    ๙.๓๙ น. เจ้าหน้าที่เชิญไม้มงคล ประธานตอกไม้มงคลและวางศิลาฤกษ์ ( พระสงฆ์สวดชยันโตระหว่างตอกไม้มงคลและวางแผ่นศิลาฤกษ์ ) คณะพราหมณ์ตีฆ้องเป่าสังข์ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา ฯลฯจบ ถวายไทยธรรม รับพรพระ ประพรมน้ำมนต์

    ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล

    ๑๒.๔๕ น. ประธานจุดธูปเทียนเครื่องสังเวย เทพนาคราช และท้าวหิรัญพนาสูร พราหมณ์ทำพิธีบวงสรวง และถวายละครรำ

    ๑๔.๐๐ น. เสร็จพิธี

    ผู้สนใจจะบริจาคเงินร่วมทำบุญสร้างวิหาร บริจาคได้ที่
    ชื่อบัญชี พระครูปลัดพานิช ญาณชีโว และพระครูโชติธรรมาทร ธ.กรุงไทย สาขานครปฐม เลขที่ 7010999813 ขอบคุณครับ
     
  9. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างวิหารประดิษฐานพระพุทธมงกุฎหิรัญเทวาธิราช วันอาทิตย์ ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ วัดเสนหา พระอารามหลวง จ.นครปฐม
    พิธีการ ๙.๐๙ - ๑๔.๐๐ น.
    ๙.๐๙ น. ประธานจุดธูปเทียนเครื่องสังเวยเทวดา พราหมณ์ทำพิธีสวดอัญเชิญเทวดา

    ๙.๒๙ น. นายมนูญ มุกข์ประดิษฐ์ รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย รับศีล สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์ เจิมแผ่นศิลาฤกษ์และไม้มงคล ( พระสงฆ์สวดมงคลสูตรระหว่างประธานเจิม )

    ๙.๓๙ น. เจ้าหน้าที่เชิญไม้มงคล ประธานตอกไม้มงคลและวางศิลาฤกษ์ ( พระสงฆ์สวดชยันโตระหว่างตอกไม้มงคลและวางแผ่นศิลาฤกษ์ ) คณะพราหมณ์ตีฆ้องเป่าสังข์ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา ฯลฯจบ ถวายไทยธรรม รับพรพระ ประพรมน้ำมนต์

    ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล

    ๑๒.๔๕ น. ประธานจุดธูปเทียนเครื่องสังเวย เทพนาคราช และท้าวหิรัญพนาสูร พราหมณ์ทำพิธีบวงสรวง และถวายละครรำ

    ๑๔.๐๐ น. เสร็จพิธี

    ผู้สนใจจะบริจาคเงินร่วมทำบุญสร้างวิหาร บริจาคได้ที่
    ชื่อบัญชี พระครูปลัดพานิช ญาณชีโว และพระครูโชติธรรมาทร ธ.กรุงไทย สาขานครปฐม เลขที่ 7010999813 ขอบคุณครับ
     
  10. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    ขออำนาจพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก ปกปักรักษาผู้ที่ใจบุญใจกุศล ทุกท่านขอให้ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองต่อไป สาธุ อนุโมทนาบุญทุกท่านครับ
     
  11. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    ข้าพเจ้าและน้องนาง +ทิวากร +เทวานิน ร่วมทำบุญ จัดสร้างวิหารเพื่อประดิษฐานพระพุทธมงกุฎหิรัญเทวาธิราช บริเวณหน้าศาลเทพนาคราชและท้าวหิรัญพนาสูร ณ วัดเสน่หา อ.เมือง จ.นครปฐม วางศิลาฤกษ์สร้างวิหารประดิษฐานพระพุทธมงกุฎหิรัญเทวาธิราช วันอาทิตย์ ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖

    จำนวน 50 บาท

    เลขที่อ้างอิงการทำรายการ 21040034262013510 วัน/เวลาการทำรายการ 10-05-2013 01:28:04
    บัญชีผู้โอน
    บัญชีผู้รับโอน วัดเสน่หา*701-0-99981-3 ชื่อบัญชีผู้รับโอน พระครูปลัดพานิช ญาณชีโว และ
    จำนวนเงิน 50.00 บาท

    ประเภทการโอนเงิน ทันที
     
  12. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้เจริญๆๆนะ
     
  13. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    อานิสงส์การสร้างวิหารทาน

    ต่อนี้ไปก็มาคุยกันถึงเรื่องการทำบุญ คนทำบุญบรรดาท่านพุทธบริษัท พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่าเมื่อจิตใจตั้งใจทำบุญเสร็จ ทำบุญแน่นอนแล้ว สมเด็จพระประทีปแก้วทรงยืนยันว่าวิมานคอยอยู่แล้ว คือเจ้าของยังไม่ตายแต่วิมานปรากฏอยู่ก่อน เรื่องราวมีอยู่ว่า
    ในสมัยที่องค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ เวลานั้นปรากฏว่า มีมาณพท่านหนึ่งคือ นันทิยมาณพ เป็นคนเคารพในพระพุทธศาสนาปกครองทรัพย์สินมากมาย คือเป็นเศรษฐี มีความเลื่อมใสในองค์สมเด็จพระมหามุนี สร้างศาลา ๔ หน้า ถวายพระพุทธเจ้าคือถวายเป็นของสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
    หลังจากนั้นเวลาตอนกลางคืน อัครสาวกขององค์สมเด็จพระพิชิตมาร คือพระโมคคัลลาน์ พระองค์นี้มีความสำคัญมาก เรียกว่าวันนี้ทั้งหมดบรรดาพุทธบริษัท พูดเรื่องจริงทั้งหมดนะ ไม่มีนิทาน แล้วก็ไม่มีนิมิต
    นิทานก็ดี นิมิตก็ดี ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทอย่าถือว่าจริงเกินไป เอาเหตุเอาผลเป็นสำคัญ แต่ว่าในเรื่องนั้นๆ ให้ถือว่าธรรมะเป็นเรื่องสำคัญ ธรรมะน่ะจริงแน่
    พระโมคคัลลาน์ท่องสวรรค์
    มาตอนนี้ปรากฏว่าพระโมคคัลลาน์ พระโมคคัลลาน์นี่ท่านเป็นพระพิเศษ แต่พระที่ท่องเที่ยวในสวรรค์ ในพรหมโลก ในนรก แดนเปรต แดนอสุรกาย มีเยอะ ไม่ใช่มีพระโมคคัลลาน์องค์เดียว
    แต่ว่าแต่ละท่าน ต่างคนต่างไป ต่างคนต่างรู้ ไปเห็นแล้วรู้แล้ว เข้าใจแล้ว ก็มาแนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัทด้วยความจริงใจว่า คนนั้นตายไปเกิดที่นั่น คนนี้ตายไปเกิดที่นี่ ใครเป็นญาติกานาติเกกันบ้าง เขาสั่งมาว่าอย่างไร ก็แนะนำตามนั้น เวลานั้นพระพุทธเจ้าทรงยืนยัน แต่พระโมคคัลลาน์นั้นไปแล้วไม่อยู่เปล่า ไปหามาทั่วพบทั่วแล้วก็กลับมาถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เหตุที่พบมานั้นเป็นจริงหรือไม่ องค์สมเด็จพระจอมไตรก็ทรงยืนยันรับรอง
    ทีนี้มาวันนั้น คืนวันนั้น ที่นันทิยมาณพท่านถวายศาลา ๔ หน้าเสร็จ กลางคืนพระโมคคัลลาน์ก็เจริญกรรมฐานปกติของพระอรหันต์
    พระอรหันต์นี่เวลาเจริญกรรมฐาน บรรดท่านพุทธบริษัท จะไปดูเวลานั่งขัดสมาธินี่มันไม่ได้ ท่านไม่ถือการขัดสมาธิเป็นเรื่องสำคัญ นั่งขัดสมาธิมือซ้อนกันนี่นะ เพราะว่าเป็นพระที่จบแล้ว ท่านใช้อารมณ์ได้ทุกขณะ ขณะคุยกันนี่ท่านก็ใช้ได้
    อย่าลืมว่าอรหันต์ใช้ฌานสมาบัติ ความเป็นทิพย์ไม่จำกัดเวลาจะพูด จะคุย จะทำงานทำการ อยากจะรู้เมื่อไรก็รู้ได้ เห็นอะไรปุ๊บปั๊บมีความรู้สึก แต่ว่าพระอรหันต์เป็นพระเก็บ ไม่แสดงออก ไม่ชูงวง อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เธอทั้งหลาย จงอย่าชูงวงเข้าไปสู่ตระ++ล"
    นั่นหมายความว่า แสดงตนโอ้อวดว่าฉันเป็นพระอรหันต์บ้าง ฉันมีความรู้อย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ฉันเป็นเปรียญชั้นนั้นชั้นนี้ ฉันเป็นพระครู ฉันเป็นเจ้าคุณ อะไรพวกนี้
    จริงๆ แล้วพระสมัยนี้ท่านก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีใครเขาชูงวงกัน แต่พวกชูงวงคงจะมีอยู่บ้าง เป็นของธรรมดาๆ สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าห้าม สิ่งนั้นก็ย่อมจะมี
    ท่านบอกว่า "เธอทั้งหลาย จงอย่าชูงวงเข้าไปสู่ตระ++ล"
    คือประกาศตนว่าฉันเป็นขั้นนั้น ฉันเป็นขั้นนี้ เพื่อความเลื่อมใสของบุคคล
    อีกประการหนึ่ง ท่านบอกว่า
    "จงทำตนเหมือนโมคคัลลาน์ โมคคัลลาน์ทำตนเหมือนแมลงภู่ เข้าไปเชยน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้ ได้กินน้ำหวานแล้วดอกไม้เขาไม่ช้ำฉันใด บรรดาพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายในพระพุทธศาสนา เวลาเข้าไปสู่ตระ++ล จงอย่าทำให้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทชอกช้ำในความเป็นอยู่หรือจิตใจ"
    ก็รวมความว่า วันนั้นพระโมคคัลลาน์ขึ้นไปบนสวรรค์ก็ไปเจอวิมานที่ไปพบมาแล้วทุกๆวัน แต่ปรากฏว่า พอเลี้ยวเข้ามามุมหนึ่งของสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ก็มีความแปลกใจว่าเห็นวิมานใหม่มันเกิดขึ้น วิมานนี้เป็นวิมาน ๔ มุข มียอดใหญ่ตระการตาสวยสดงดงามมาก แพรวพราวเป็นระยับ
    วิมานคอยอยู่แล้ว
    ท่านจึงหันไปถามเทพบุตรที่อยู่ใกล้ๆถามว่า "วิมานนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร...?"
    เทพบุตรองค์นั้นท่านก็ตอบว่า "วิมานนี้เป็นวิมานของ นันทิยมาณพ เมื่อกลางวันวานที่แล้วมาปรากฏว่านันทิยมาณพเขาถวายวิหารศาลา ๔ มุขในพระพุทธศาสนา มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน พอถวายเสร็จวิมานก็ปรากฏก่อน"
    อัครสาวกขององค์สมเด็จรพระชินวรถามว่า "เป็นอย่างนี้ทุกรายรึ...?"
    เทพบุตรองค์นั้นก็บอกว่า "เป็นอย่างนี้ทุกราย คนที่ทำบุญเสร็จมีวิมานทันทีทันใด"
    พอพูดมาถึงตอนนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท ก็นึกถึงว่าคนที่ถวายสังฆทาน ความจริงถวายสังฆทานก็พร้อมด้วยวิหารทาน คือปัจจัยที่นำมาถวายก็เป็นสังฆทานด้วย เป็นวิหารทานด้วย จึงมีวิมานปรากฏก่อนทุกคน
    อัครสาวกขององค์สมเด้จพระชินวรก็มองดูไปที่วิมาน เห็นนางฟ้าเต็มไปหมด เป็นพันคน เวลานั้นบรรดานางฟ้าทั้งหลายก็ลงมาจากวิมาน มากราบอัครสาวกขององค์สมเด็จพระทศพลแล้วเธอทั้งหลายก็กล่าวว่า
    "ภันเต พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระเจ้าข้า พวกฉันเป็นนางฟ้ามาอยู่ที่วิมานนี้หวังจะบำรุงบำเรอเทพบุตร คือนันทิยมาณพให้ความสุข แต่เมื่อมาถึงแล้วก็ปรากฏว่าอยู่เปล่า ว่างๆใจเหวงหวาง เพราะไม่มีเทพบุตรที่จะบำรุงบำเรอ
    ฉะนั้น พระคุณเจ้ากลับลงไปเมืองมนุษย์ ได้โปรดบอกนันทิยมาณพด้วยว่า เวลานี้วิมานใหญ่โตสวยงามที่สุดปรากฏขึ้นแล้วในดาวดึงสเทวโลก เป็นที่อยู่ของท่าน และมีนางฟ้านับพันคอยบำรุงบำเรออยู่ ขอให้นันทิยมาณพละอัตภาพจากความเป็นคน คือรีบตายแล้วมาเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ดีกว่า"
    เธอเปรียบเทียบว่า "อยู่เมืองมนุษย์ก็เหมือนกับใช้ถาดดินเหนียว มาอยู่บนสวรรค์ก็เหมือนใช้ถาดทองคำ"
    พอเวลาเสร็จภาระกิจ พระโมคคัลลาน์ก็กลับ
    ตอนเช้า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศน์จบ พระโมคคัลลาน์ก็ฟังด้วย ความจริงพระอรหันต์ก็ฟังเทศน์ อย่านึกว่าเป็นอรหันต์แล้วไม่ฟังนะ ทุกองค์ยังมีความเคารพในพระพุทธเจ้า มีความเคารพในพระธรรม และพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงเทศน์อาจจะมีแปลกๆ นิดๆ หน่อยๆ เป็นความรู้ใหม่ เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรทรงเทศน์จบ
    พระโมคคัลลาน์ก็ทูลถามว่า
    "คนที่ทำบุญแลวแต่ยังไม่ตาย ปรากฏว่าวิมานเกิดคอยแล้ว ความจริงเป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า"
    ที่พระโมคคัลลาน์ถามอย่างนี้ บรรดาท่านพระพุทธบริษัทไม่ใชพระโมคคัลลาน์อวดดีพระโมคคัลลาน์อวดเด่น พระโมคคัลลาน์จะอวดใคร เป็นความดีที่พระโมคคัลลาน์ทำอย่างนั้นเพื่อเป็นการตัดอารมณ์ของตัวว่า การเห็นแบบนั้นเป็นอุปทานหรือเปล่า คำว่า อุปทาน เป็นการนึกขึ้นเอง
    แต่ก็ไม่แน่นัก คำว่าอุปทานอาตมาก็เคยเกิด เคยพบวันหนึ่งมีอารมณ์มัวไปนิดหนึ่ง ก็ปรากฏว่าอยากจะเฝ้าพระพุทธเจ้าขึ้นไปเห็นพระพุทธเจ้าสวยงามมาก เปล่งปลั่ง รัศมีปกติเหมือนทุกอย่าง กราบท่านแล้วก็ถามปัญหาบางอย่าง ปรากฏว่าคำตอบผิด อาตมาถามถึงเหตุที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า ระยะสั้นๆ
    คือถาม ๑ ชั่วโมง ต้องการผลใน ๑ ชั่วโมง ผลที่เกิดมาผิด ก็แปลกใจว่า ทุกครั้งที่เราฟังมาไม่เคยผิด
    วันต่อมาจึงเข้าไปเฝ้าองค์สมเด็จพระธรรมสามิสร ทำใหม่คราวนี้ทำใจให้สะอาดจริงๆ ไม่หุนหันพลันแล่น ไม่นึกถึงเรื่องราวที่คิดไว้ก่อน ก็พบองค์สมเด็จพระชินวร ถามท่าน
    ท่านก็บอกว่า "ดูซ้ายมือซิ"
    พอดูซ้ายมือ เห็นเป็นรูปพระพุทธเจ้า แต่มีเขี้ยว
    ท่านบอกว่า "มารเข้าขวางทางของเธอก่อนที่เธอจะมาเธอจงอย่าคิดอะไรก่อน จงทำเหมือนทุกครั้งที่แล้วมา เมื่อวานนี้เธอคิดอะไรเสียก่อนแล้วขึ้นมา อารมณ์นั้นยังค้างอยู่ เขาเรียกอุปทาน"
    เป็นอันว่าพระโมคคัลลาน์ท่านตัดอุปทานอย่างนี้
    เพื่อความมั่นใจ เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรทรงสดับแล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้วตรัสว่า "โมคคัลลาน์ เมื่อคืนนี้เธอไปเห็นมาเองแล้วใช่ไหม พระโมคคัลลาน์ก็มีความมั่นใจ
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท การทำบุญนั้น วิมานเขาค่อยอยู่แล้ว ทุกคนให้มั่นใจในความดีของตน
    นิมิต
    อย่างมีครั้งหนึ่งตามที่กล่าวมาว่า ครั้งหนึ่งที่อาตมานิมิตคือไม่ใช่นิมิตหรอก จิตมันวูบวาบไป มันตายน่ะ
    พูดง่ายๆถ้าใครเขาเห็นเวลานั้นก็เป็นความตาย แต่มันใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงนัก จากเวลา ๓ ทุ่มเศษๆ ไปถึงตี ๒ กลับมา ตอนนั้นที่บอกว่าไปนั่งอยู่หน้ากำแพงด้านหนึ่งตามที่ผ่านมาแล้ว แล้วก็มองเข้าไปข้างใน ใสสะอาดสวยงามมาก แพรวพราวเป็นระยับ สว่างมาก
    แล้วท่านบอกว่า "มีวิมาน ๗ แสนหลังคอยพวกเธออยู่ภายใน เธอมีสิทธิ์ แต่ยังเข้าไม่ได้ คอยก่อน"
    อันนี้ก็เป็นนิมิตอันหนึ่ง ที่จะจริงก็ได้บรรดาท่านพุทธบริษัทตอนนี้เป็นนิมิตนะ ขอบรรดาท่านผู้รู้ใช้กำลังของท่านพิจารณาดูก็แล้วกัน
    แล้วต่อมาอีกวันหนึ่ง เข้าไปทบทวนใหม่ ถามว่า "วิมานชุดนั้นตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่...?"
    วันนั้นเข้าได้ เข้าแล้วอยู่ไม่ได้ วันที่ผ่านมาแล้วที่พูดเข้าไปจะอยู่เลย คือไปแล้วจะอยู่เลย ไม่กลับ ท่านเลยห้ามเขตแต่วันต่อมา ไม่เอาล่ะ จะไปแค่ดูเฉยๆ ท่านก็เลยบอกว่า
    "จากจุดนี้ที่เธอนั่ง หันหน้าไปทางด้านทิศเหนือ แล้วอยู่ทางซ้ายมือ วิมาน ๗ แสนวิมาน ตั้งเรียงรายเป็นระยับ"
    ก็มีคนถามว่า คล้ายบ้านจัดสรรใช่ไหม ก็บอกว่าใช่แต่บริเวณเขาไกลกว่ากันมาก เขากว้างมาก สวยสดงดงามเป็นระยับ
    ก็เดินเข้าไปดู ก็เกิดความเพลิดเพลินว่า วิมานนี้เป็นวิมานเฉาจริงๆไม่มีเจ้าของ ถ้าเป็นเมืองมนุษย์เราจะขายเลหลัง จะเลหลังคงจะได้หลายสตางค์ แต่ว่านี่เป็นนิพพาน ขายไม่ได้
    เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เวลาเหลืออีกประมาณ ๑ นาทีเศษๆ ก็ขอบรรดาสาวกองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ เอาธรรมเป็นเครื่องประจำใจไปใช้ปฏิบัติสักนิดหนึ่งว่า ความดีเบื้องต้นของคนก็คือศีล ๕ ทุกคนจงระมัดระวัง
    ศีล ๕ คือ ๑. ไม่ฆ่าสัตว์ ๒. ไม่ลักทรัพย์ ๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม ๔. ไม่พูดมุสาวาท ๕. ไม่ดื่มสุราและเมรัย

    ทั้ง ๕ ประการนี้ ถ้าทำได้บรรดาพุทธบริษัท จะเป็นมหาเสน่ห์อย่างมาก เพราะการไม่ฆ่าสัตว์ เป็นคนที่มีใจไม่โหดร้าย อย่างนี้มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส มีเมตตาปรานี ไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก เป็นเสน่ห์
    การไม่ลักไม่ขโมยเขา ทุกคนก็ไว้วางใจ มีเพื่อนมากมีคนต้องการคบหาสมาคม จะไปพักที่ไหน จะไปนอนที่ไหนก็ได้ ข้าวปลาอาหารไม่อด เพราะเขารัก นี่ก็เป็นเหตุความสุขใจ
    การไม่ละเมิดสามีภรรยาของบุคคลอื่น อันนี้เป็นเครื่องสบายใจอย่างหนึ่ง เป็นที่ไว้วางใจของคน ไม่ทำลายความรักกันก็เป็นเสน่ห์ให้เกิดความรัก
    การพูดตรงไปตรงมาเป็นสัจธรรม อันนี้มีความสำคัญมาก บรรดาท่านพุทธบริษัท รักษาให้ดี เป็นเสน่ห์มหาศาล
    ต่อมาข้อสุดท้าย ที่พวกเราไม่ดื่มสุราบานไม่ทำสติสัมปชัญญะให้เสื่อม จะเป็นของดีมาก
    ทุกอย่าง ๕ ประการนี้ ทำได้มีแต่ความสุข ไม่มีความทุกข์ ความทุกข์ใดๆที่มีอยู่แล้วในโลกที่ปรากฏมาก่อน ตามศีล ๕ ที่องค์สมเด็จพระชินวรตรัสไว้แล้วนั้น บรรดาท่านทั้งหลายเขาถือว่าเป็น สีลานุสสติกรรมฐาน เป็นกรรมฐานบทสำคัญทำให้ท่านทั้งหลายมีความสุขทั้งชาตินี้และชาติหน้า
    เวลาหมดแล้วบรรดาท่านพุทธบริษัท ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูลผล จงมีแก่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้อ่านทุกท่าน
    จากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙ หน้าที่ ๒๑-๓๐ โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร)
     
  14. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    อานิสงส์ในการสร้างวิหารทาน (ต่อ)
    วิหารตามความหมายในทางพุทธศาสนามีหลายความหมาย เช่น หมายถึงที่พักอาศัยในป่ากระท่อม ที่อยู่อาศัย ที่พัก กุฏิ (สำหรับพระภิกษุ) สถานที่ประชุมของภิกษุ ตึกใหญ่สำหรับภิกษุทั้งหลายอยู่อาศัย วัด วิหาร ฯลฯ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้
    ความหมายว่า วิหาร น. วัด, ที่อยู่ของพระสงฆ์; ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป, คู่กับโบสถ์.
    (ป. วิหาร). ปัจจุบันนี้ วิหารเปลี่ยนเป็นสถานที่กลาง เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูป การมีพระพุทธรูปไว้ในวิหารก็เพื่อหมายเอาว่าพระพุทธเจ้ายังคงเสด็จอยู่ ไม่ใช่เรือนพักอาศัย หรือ ที่อยู่ตามความหมายเดิม แต่ก็ยังพบว่าพระภิกษุบางรูปยังคงอาศัยอยู่ในวิหารเช่นเดียวกันกับสมัยพุทธกาล แต่มีไม่มากนัก
    ในสมัยพุทธกาลเข้าใจว่าเวลาที่พระสงฆ์จาริกไปนั้น คงจะพักตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นของฆราวาสบ้าง ตามโคนต้นไม้บ้าง ตามป่าบ้าง เพราะพระศาสดายังไม่ทรงอนุญาต ครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จกรุงราชคฤห์เป็นครั้งแรก พระเจ้าพิมพิสารทรงถวายเวฬุวนารามเป็นที่ประทับพร้อมเหล่าภิกษุ เข้าใจว่าน่าจะเป็นสวนหลวงที่ภายในสวนมีโรงเรือนศาลาที่พักเดิมอยู่แล้ว เช้าวันหนึ่งราชคหกเศรษฐีเข้าไปสู่อุทยานแต่เช้าเห็นเหล่าภิกษุนั้นอาศัยอยู่มีอาการอันน่าเลื่อมใส ท่านเศรษฐีถามเหล่าภิกษุนั้นว่าถ้าจะสร้างวิหารกุฏิถวายจะรับไว้ได้หรือไม่ ภิกษุเหล่านั้นตอบว่าพระพุทธเจ้ายังไม่ทรงอนุญาต ท่านเศรษฐีจึงขอเหล่าภิกษุให้ทูลพระพุทธเจ้าว่าพระองค์จะทรงอนุญาตหรือไม่ พระพุทธเจ้าทรงทราบเหตุแล้วกล่าวอนุญาตเสนาสนะ คือที่นอนที่พำนัก ๕ ชนิด ได้แก่ วิหาร ๑ (กุฏิมีหลังคา มีชายคาสองข้าง) อัฆฒโยค ๑ (โรงเรืองหรือร้านที่มุงซีกเดียว อีกด้านหนึ่งเปิดโปร่ง) ปราสาท ๑ (เรือนยอดหรือกุฎาคาร) หัมมียะ ๑ (เรือนแบบหนึ่ง หลังคาตัด) และคูหา (ถ้ำแห่งภูเขา) ท่านเศรษฐีสร้างวิหารเสร็จในวันเดียว ๖๐ หลังแล้วเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า กราบทูลพระพุทธเจ้าว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร พระองค์ตรัสแนะว่า ให้ตั้งอุทิศไว้เพื่อจาตุททิสงฆ์ คืออุทิศให้แก่ภิกษุอันมาถึงแล้วหรือยังมาไม่ถึงจากทิศทั้ง ๔ พระพุทธเจ้าทรงอนุโมทนาทานนั้นว่า การถวายวิหารก็เพื่อเป็นที่สำหรับภิกษุเพื่อเป็นที่เร้น เพื่อความสำราญ เพื่อบำเพ็ญสมถวิปัสสนา ยังประโยชน์แก่พระศาสนา เหตุนั้นบัณฑิตผู้เห็นประโยชน์ตนพึงสร้างวิหารถวายแล้วนิมนต์ท่านผู้พหูสูตให้พำนักอยู่ พึงถวายข้าวน้ำ เครื่องนุ่งห่ม เสนาสนะแก่ท่านด้วยจิตใจเลื่อมใสศรัทธา ท่านพหูสูตรเหล่านั้นย่อมแสดงธรรมอันเป็นเครื่องบำบัดทุกข์แก่ผู้ถวายทานนั้น เมื่อรู้ธรรมแล้วจักยังผลให้ผู้ถวายทานนั้นเป็นผู้หาอาสวะ (กิเลสที่นองเนื่องอยู่ในสันดาน) มิได้ พึงสำเร็จปรินิพพานในโลกนี้
    ความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในล้านนา ในสมัยพระยามังราย (พ.ศ.๑๘๓๙–๑๘๖๐) พระองค์ได้ให้เมืองหริภุญไชยเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของอาณาจักร ต่อมาในสมัยพระเจ้ากือนา (พ.ศ.๑๙๑๐–๑๙๓๑) ในปี พ.ศ. ๑๙๑๒ พระองค์ได้อาราธนาพระสุมนเถระจากสุโขทัยให้เข้ามาเผยแผ่พุทธศาสนานิกายลังกาวงศ์ ทรงสร้างวัดบุปผารามหรือวัดสวนดอกถวาย เรียกในสมัยนั้นว่า นิกายวัดสวนดอก หรือนิกายรามัญ ความรุ่งเรืองของพระศาสนาในสมัยพระเจ้ากือนานั้น ได้เกิดคณะสงฆ์ในอาณาจักรล้านนาขึ้น ๓ นิกาย คือ นิกายเดิมที่รับมาจากหริภุญไชย นิกายลังกาวงศ์ที่สุโขทัยรับมาจากมอญ เรียกว่า นิกายรามัญวงศ์ และนิกายสีหล หรือนิกายลังกาวงศ์ใหม่ มีศูนย์กลางอยู่ที่วัดป่าแดงเรียกว่าคณะวัดป่าแดง
    เนื่องมาจากความเจริญของศาสนาในอาณาจักรล้านนานี้เองส่งผลให้ศาสนิกชนนิยมที่จะบำรุงพระศาสนาด้วยการสร้างศาสนวัตถุ มีวัดใหม่ ๆ เกิดขึ้นในอาณาจักรล้านนาเป็นจำนวนมาก เป็นทั้งที่สร้างโดยกษัตริย์ เจ้าเมือง และชาวบ้านทั่วไป การก่อสร้างศาสนวัตถุไว้เป็นจำนวนมากนี้จะต้องใช้ทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์เป็นจำนวนมาก จึงสะท้อนให้เห็นถึงความเลื่อมใส ปสาทะศรัทธาในพระศาสนา ความเชื่อในเรื่องผลอานิสงส์ผลบุญของการสร้างพระวิหารของผู้อุทิศสร้างพระวิหารถวายเป็นทานในอาณาจักรล้านนาได้เป็นอย่างดี
    อานิสงส์ของการสร้างวิหารเนื้อความในมิลินทปัญหา ตอนอนิเกตานาลยกรณปัญหา ความว่า พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามปัญหาซึ่งพระนาคเสนเกี่ยวกับการพักอาศัยของพระภิกษุในวิหารว่า บรรพชิตควรเป็นเพศที่หาที่อยู่มิได้ ไม่ควรอยู่เป็นหลักแหล่ง หาอาลัยที่อาศัยมิได้ พระนาคเสนถวายวิสัชนาว่า สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ามี พุทธฎีกาโปรดว่า พระองค์มิได้ทรงห้ามในเรื่องที่อยู่อาศัยของภิกษุ แต่ทรงห้ามไม่ให้ภิกษุติดในที่อยู่อาศัย เมื่อพำนักอยู่ชั่วคราวแล้วให้เที่ยวจาริกไป คือ สมควรแก่สมณะ เป็นสมณะสารูป ชอบแก่สมณะ ควรแก่สมณะ เป็นอารมณ์แก่สมณะ และเป็นที่ปรารถนาแก่สมณะ การที่ทายกได้สร้างวิหารที่พำนักอาศัยแก่ภิกษุ เป็นที่สรรเสริญ ยินยอมแก่สมเด็จพระพุทธเจ้าแต่ก่อนมา อานิสงส์ของผู้สร้างวิหารถวาย ย่อมส่งผลให้ผู้ถวายอาจสำเร็จ พระนิพพาน พ้นจากทุกข์ ๔ คือ ชาติทุกข์ ชราทุกข์ พยาธิทุกข์ และมรณะทุกข์ อานิสงส์อีกประการหนึ่งของการสร้างวิหารถวายย่อมทำให้ภิกษุที่เที่ยวจาริกไป ทำให้ผู้มีศรัทธาพบได้ด้วยยากนั้น เมื่อสร้างที่พำนักอาศัยถวายแก่พระภิกษุให้เป็นที่พำนักอาศัยแล้ว ผู้มีจิตศรัทธาปสาทะย่อมไปพบเพื่อทำบุญให้ทานได้โดยง่าย นี้เป็นอานิสงส์ของการสร้างวิหารถวาย
    ชัปนะ ปิ่นเงิน ผู้เขียน
    ที่มา: วารสารเชียงใหม่ปริทัศน์ปีที่ 6 ฉบับที่58 มกราคม 2548
     
  15. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    วิหารทาน คือการทำบุญถวายหรือร่วมสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ถวายไว้เป็นสมบัติพระศาสนา เช่น การสร้างพระอุโบสถ (โบสถ์) กุฏิ ศาลา วิหาร หอฉัน หอระฆังเป็นต้น
    องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่าการถวายวิหารทานมีอานิสงส์มาก โดยมีพุทธดำรัสตรัสเอาไว้ว่า
    "แม้ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าถวายสังฆทานครั้งเดียว"
    "แม้การถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าการถวาย "วิหารทาน" ครั้งเดียว"
    การถวายวิหารทานยังมีอานิสงส์อีกมาก ดังที่จะได้พรรณาถึงอานิสงส์ที่มีมาในพระไตรปิฎก ต่อไป
     
  16. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    รูปหล่อเทพนาคราช

    รูปหล่อเทพนาคราช
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    โบว์ชัวร์สำหรับผู้สนใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. polpavin

    polpavin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +887
    พลภวินท์ วีระพันธ์กุล และ รามิลณัทท์ ทองมาลัยกาญจน์ ขอถวายปัจจัยร่วมสร้างวิหาร ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.7 KB
      เปิดดู:
      29
  19. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    อนุโมทนา



    ขอกุศลผลบุญจากการทำบุญครั้งนี้ขอให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญครับ พบเจอแต่สิ่งดีๆๆตลอดไป สาธุ
     
  20. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,215
    ค่าพลัง:
    +10,106
    อัพเดทงานบุญ

    อาจารย์ราม วัชรประดิษฐ์ แฟนพันธุ์แท้พระเครื่องและคอลัมนิสต์ชื่อดัง มาสักการะขอพรเทพนาคราชและท้าวหิรัญพนาสูรที่วัดเสนหา จ.นครปฐม พร้อมบูชาเทพนาคราชเพื่อนำไปกันภัย บันดาลโชค
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...