ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จครูประทับมหาสมาคมฟ้าสลับหัว(เคลียร์สะสางมหากาลไม่ทำร้าย) พ่ออาจารย์พล

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้ใครมีคำถามหรือจะฝากอะไรก็ PM กันไว้ได้เลยนะ เดี๋ยวผมจะดำเนินการส่งต่อให้

 

พูดคุยล่วงหน้า​

สองวันนี้มีแต่คน PM โทรหา และไลน์มาถามแต่เครื่องมงคลรายการเก่าๆ บางอย่างก็สองสามปีแล้ว ก่อนอื่นต้องเรียนกันก่อน อย่างที่พ่ออาจารย์ท่านเคยบอกว่าเครื่องมงคลแต่ละชิ้นเป็นของเฉพาะคนและเครื่องมงคลทุกชิ้นล้วนมีเจ้าของทุกชิ้น ครูท่านกำหนดมาแล้ว ถ้าไม่ใช่จ้องอย่างไรก็ไม่ได้ ยิ่งรายการเก่าๆไม่ต้องไปคุยเลยเนื่องจากจองเต็มปิดรายการกันหมด บางคนเผื่อญาติพี่น้องคนเดียวสี่องค์ คนเดียวห้าองค์ก็มีอยู่บ่อยๆทำให้ของไม่กระจายและไม่ค่อยเหลือให้ทำบุญกัน บางรายการอาจจะมีเหลือบ้างองค์หรือสององค์ก็ต้องถามเข้ามา ก็คิดว่ารอเจ้าของถ้ามีก็เป็นวาสนาของเขาไป บางคนมาคุยกับผมว่าจะเลือกรายการไหนดีระหว่างองค์นี้กับองค์นี้แต่แปลกนะ ไม่ยักกับมีใครถามผมก่อนที่เค้าจะเลือกว่ามีเหลือมั๊ย ปกติที่ผมจะลงเครื่องมงคลรายการใหม่ๆให้บูชาก็เนื่องจากว่ามีคนถามกันเข้ามาแล้วตอนนี้มันก็เกือบจะเกลี้ยงทุกรายการจริงๆแล้ว ไม่มีอะไรให้เช่าแล้วผมถึงจะขออนุญาติท่านนำรายการอื่นๆมาลง

บางคนก็ถามว่าทำไมเครื่องมงคลท่านมีเป็นร้อยชนิด อันนี้ก็ยอมรับว่ามีหลายชนิดจริง แต่ว่าแต่ละชนิดนั้นมีรายการละกี่องค์ เปิดจองเท่าไหร่ก็เต็มไม่เคยพอกับความต้องการของคนที่ต้องการใช้ เพราะท่านสร้างน้อยถึงน้อยที่สุด ไม่ได้เน้นปริมาณแบบที่อื่นว่าตะกรุดต้องแบบละสองสามร้อยดอก พระผงชนิดละร้อยหรือพันองค์เสียเมื่อไหร่ ทุกอย่างมีแต่หลักหน่วยกับหลักสิบ เพราะทุกอย่างต้องผ่านมือท่าน ต้องทำของท่านเองทุกขั้นตอนไม่ให้ใครมาแตะหรือมายุ่งตั้งแต่งานพระผง เครื่องราง ตลอดจนเครื่องมงคลธาตุกายสิทธิ์งานหล่อโลหะต่างๆ จะเรียกตามภาษาของผมว่าท่านทำให้กับเจ้าของที่ถูกกำหนดไว้แล้วจริงๆก็ไม่ผิด ส่วนตัวผมเรียกนิสัยของท่านว่าอินดี้ ยากแก่ความเข้าใจ บางคนมาบอกว่าฝันว่าต้องบูชาองค์นั้นองค์นี้ซึ่งมันเป็นรายการที่หมดไปแล้วผมก็ไม่รู้จะหาที่ไหนให้ก็ถือว่าไม่มีวาสนาต้องกันเสียก็แล้วกันในรายการนั้นๆ

อันนี้ก็ขอให้ทำความเข้าใจกันนะครับ ไม่ต้องไปมองของเก่าๆเลย หรือถ้ามองก็ถามมาก่อนว่าเหลือมั๊ยถ้าคุณมีวาสนาต้องกันก็อาจจะได้ เนื่องจากทุกรายการท่านสร้างน้อยจริงๆ ลองเช็คแม้แต่รายการปัจจุบันว่ามีเหลือมั๊ยดีกว่า PM มาถามมาพูดคุยกันได้ เห็นมีคนถามมาสี่ ห้าคนวันนี้ว่ามีของแรงๆหลักร้อยหรือพันนิดๆมั๊ย เพราะเราไม่ได้เอามาลงนานแล้ว ก็ยอมรับนะว่ามีอยู่ ระดับคุณภาพคับแก้วเรียกว่าคุณภาพระดับหลักหมื่นหลักแสนเลย เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะลงให้แล้วก็อย่าช้ากัน จะได้บูชากันได้ทั่วๆและไม่เกินกำลังทรัพย์กันด้วย แจ้งไว้ล่วงหน้าก่อนนะครับ

 

พอลงแจ้งก็ถามกันเข้ามาเลยจะอธิบายให้นิดหน่อย สำหรับรายการนี้ที่จะลงให้พรุ่งนี้ก็จะไม่ให้บูชากันในราคาที่เกินกำลัง แต่จะบอกว่าให้รีบเพราะมีเพียง 7 ดอกเท่านั้น นี่เป็นตะกรุดสำคัญมากด้วยเนื่องจากเป็นตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านลงไว้ โดยทำพิธีลงบูชาครูเพียงปีละ 1 ดอก ซึ่งพูดง่ายๆก็คือต้องลงถึง 7 ปี ถึงจะสะสมได้ 7 ดอก ปกติในอดีตนั้นท่านจะลงให้ศิษย์ใกล้ชิดแค่คนละดอกปีละคนเท่านั้น เรียกว่าถ้าพลาดรายการนี้ไปก้ต้องรอท่านลงเก็บสะสมอีก อาจจะ 7 ปี หรือ 9 ปี ถึงจะเปิดให้บูชาอีกหนหนึ่ง

 

คุณกรณ์ครับ ตะกรุดที่ลงบูชาครูและเปิดให้บูชาในราคาหลักร้อยหรือพันนิดๆ ขอบูชา 1 ดอกครับ

 

ขอจอง
ตะกรุดลงบูชาครูฯ ในราคาหลักร้อยหรือพันนิดๆ จำนวน 1 ดอก ครับ ขอบพระคุณครับ

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดบูชาครูเปิดกำลังพระสัพพัญญุตญาณสมปรารถนา(ทับยันต์)​

พ่ออาจารย์ท่านมีธรรมเนียมเป็นปกติที่ต้องทำปีละครั้งและทำทุกปี นั่นคือการเขียนหรือลงตะกรุดพิเศษ ซึ่งตะกรุดตัวนี้ท่านจะลงเพียงปีละหนึ่งดอก ไม่ขาดไม่เกิน มากกว่าหรือน้อยกว่านี้ เป็นการเขียนหรือลงตะกรุดถวายเสด็จพระใหญ่ ท่านว่าเช่นนั้น เรียกว่าเป็นตะกรุดที่พ่ออาจารย์ทำตามรับสั่งขององค์ปฐมและลงถวายท่านปีละ 1 ดอกนั่นเอง

โดยแต่ก่อนท่านจะมอบให้กับคนที่ร่วมทำบุญและบอกเพียงคร่าวๆว่าเป็นตะกรุดบูชาครู อยากได้อะไรจะทำอะไรเวลาใช้ให้นึกถึงองค์ปฐมท่าน และเอากระดาษมาเขียนชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดบ้านเลขที่ที่อยู่ของตัวเอง ท่านว่าให้เขียนอย่างละเอียด พร้อมกับเขียนสิ่งที่ต้องการด้วย นำมาม้วนห่อทับตะกรุดไว้แล้วตั้งจิตให้ดีนึกถึงเสด็จพระใหญ่นึกถึงพระพุทธานุภาพ ท่านว่าช่วยได้ทุกทางตามแต่ปรารถนา ขั้นตอนนี้ทำได้เอง แล้วจะเปลี่ยนตัวกระดาษนี้เมื่อไหร่ก็ได้ ให้เข้ากับช่วงสถานการณ์ต่างๆของชีวิตที่จะเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน เช่นนี้ท่านจึงเรียกตะกรุดตัวนี้ของท่านให้เข้าใจง่ายๆว่าทับยันต์นั่นคือคนใช้ต้องเขียนกระดาษม้วนทับไปนั่นเอง ท่านว่าให้เอาไปใช้ในทางที่ถูกที่ควรเถิดได้ผลมามากแล้ว ท่านว่าเวลาจะขออะไรก็ให้ขอในสิ่งที่เป็นไปได้และมีเหตุผล ไม่ใช่ขอรถขอบ้านให้มันตกลงมาจากฟ้า มันก็ต้องเริ่มจากของานขอลาภลอยต่างๆแล้วก็ต้องรู้จักเก็บสะสมเงินไว้ด้วยไม่ใช่นึกอยากจะเขียนอะไรก็เขียน ให้พึงสังวรณ์ไว้ว่าครูอย่างไรก็8nvครูอย่าดึงท่านลงมาเล่น ให้ทำแบบเป็นจริงเป็นจังเดี๋ยวทุกอย่างจะเปลี่ยนไปและดีขึ้นเอง คนที่ไร้คู่จะได้คู่ คนที่ไร้บ้านจะได้บ้าน คนที่ขาดจะเต็ม คนที่พร่องจะสมบูรณ์พร้อม

โดยปกติท่านจะลงตะกรุดทับยันต์ดังกล่าวเพียงปีละดอก จึงเรียกว่าลงเพื่อบูชาครูอย่างแท้จริงและเนื่องจากพระพุทธานุภาพเป็นที่ปรากฏจึงมีการพูดคุยกันแบบปากต่อปากมากขึ้น มันก็ยิ่งมีคนถามหายิ่งรู้ว่าทำน้อย หาคนได้ครอบครองยากเนื่องจากปริมาณไม่สอดคล้องกับความต้องการเค้าก็ยิ่งอยากได้ แต่แม้ว่าจะถามกันเท่าไหร่ ถึงจะมีคนขอให้ท่านทำเพิ่ม หรือจะทำบุญเพื่อขอตะกรุดทับยันต์นี้เท่าไหร่ก็ตาม พ่ออาจารย์ท่านก็ไม่เคยจะลงให้เพื่อใครเป็นพิเศษเกินปีละดอกแม้แต่หนเดียว ท่านพูดเพียงแค่ว่าฟ้าท่านให้ทำถวายแค่รอบปีละหน เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว แม้มีคนขอหรือพยายามตื้ออย่างไรก็จะได้คำตอบซ้ำๆว่า อยากจะให้เราตายรึไง ถ้าปีนึงเราลงเกินดอกนึงตามลมปากคนเขา บอกเค้าว่าไม่ต้องรอหรอกตะกรุด ไปรอเก็บศพเราได้เลย เมื่อท่านพูดเช่นนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่านี่เป็นตะกรุดที่ไม่ธรรมดา ลึกๆลงไปต้องมีอะไรที่สำคัญมากอย่างแน่นอน

พ่ออาจารย์ท่านพูดว่าการทำบูชาครู ทำถวายครูก็คือตะกรุดนี้ท่านทำถวายสมเด็จองค์ปฐมไปแล้ว ทุกดอกเป็นของพระพุทธเจ้าองค์ปฐมก่อนที่ท่านจะขออนุญาตินำกลับมาเพื่อให้คนที่เคารพศรัทธากันนำไปใช้ติดตัว พ่ออาจารย์ว่าปกติเราห้อยพระต้องห้อยในที่สูงบริเวณคอยิ่งองค์ปฐมยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย แต่ว่าตะกรุดนี้สามารถลงเอวได้เพราะเป็นวิชาของเท่าน

ตะกรุดทับยันต์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอานุภาพมากนักใช้ได้หลายด้านเพราะท่านลงไว้ครบทั้งหมด
- ประการแรก คือปกป้องคุ้มครองเภทภัย กันอันตรายกันคนไม่ดีตลอดจนกันกระทำไสยศาสตร์ต่างๆท่านว่าพกบูชาไว้เถิด ทุกข์โศกเข้าไม่ถึงตัวเราเลย
- ประการที่สอง ท่านว่าอานุภาพของตะกรุดนี้ แม้เราไปพูดคุยกับใคร เค้าจะสะกิดใจ รู้สึกอิ่มเอิบเบิกบาน ทำให้เค้ารำลึกถึงเราอยู่เนืองๆ แม้จากไปแล้วก็ยังระลึกถึง คือมีไมตรีด้วย พร้อมที่จะผูกสัมพันธ์ด้วย เข้าหาใครก็จะเจริญในกิจการ ทำงานก็จะไปได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะคนทั้งหลายเค้าคอยเกื้อหนุน มีสิ่งดีก็นึกถึงเรา เก็บไว้ให้เราเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือคิดถึงระลึกถึงกันไม่รู้คลายรู้เบื่อ
- ประการที่สาม แก้ข้อความคดีความดีนัก แม้เราไม่ผิดย่อมไม่สามารถทำร้ายเราได้เลย มีอันให้แพ้ภัยตัวเองทั้งสิ้น ท่านว่าไม่ต้องถึงเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลก็แก้ได้ เพราะสมัยนี้ปากคนยาวกว่าปากกา การนินทากาเลต่างๆย่อมมีปรากฏทุกเมื่อเชื่อวัน จะหลบลี้หนีหายนั้นเป็นไปไม่ได้เลยเพราะมันเป็นสัจธรรมของสิ่งมีชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละข้อความทั้งหลายที่ใครว่าร้ายเราหากไม่จริงแล้วไซร้ก็แพ้ภัยได้กับตัวเขาเองทั้งสิ้น
- ประการที่สี่ ตะกรุดนี้แม้พกไว้มิรู้จักคำว่าอับจนหนทางเลย วิชานี้ท่านว่าวิเศษนักทำให้คนรวยขึ้น มีมากขึ้น ไม่รู้จนรู้หมด เปิดทางสว่างช่วยให้ความคิดและการตัดสินใจของเราถูกต้อง แต่ก็อย่าประมาทในพระพุทธานุภาพไป ทำอะไรควรดำรงค์สติไว้
- ประการที่ห้า จะไม่เกิดอันตรายร้ายแรงก่อนถึงอายุขัย ไม่ว่าจะในน้ำ บนบก หรือในนภากาศ
- ประการที่หก แม้รู้สึกไม่สบายใจ ต้องการกำลังใจ ท่านให้นำตะกรุดขึ้นมาวนใบหน้าตามเข็มนาฬิกาสามรอบ ท่านว่าจะทำอะไรก็ทำให้เต็มที่เถิดเป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย ซ้ำยังกันกระทำด้วย
- ประการที่หก ให้นำตะกรุดวางไว้บนฝ่ามือแบมือออก กำหนดจิตให้เกิดภาพเสมือนว่าเสด็จพระใหญ่ท่านมอบทรัพย์สมบัติแก่เรา ท่านว่าอยากได้อะไรก็สิ่งนั้นเลย ก่อนจะเสี่ยงโชคหรือเวลาขออะไรท่านว่าให้ตั้งใจทำเถิดได้ผลมามากแล้ว
- ประการที่เจ็ด ท่านว่าผีเข้าไม่ได้
- ประการที่แปด ท่านว่าแก้รูปรอยการฝังอาถรรพ์ทั้งปวง หลุดและคลายหมด

พ่ออาจารย์ท่านว่าพุทธคุณนั้นออกได้ทุกทางตามแต่จะนำไปใช้ ท่านว่าท่านแยกแยะให้ทราบเพียงคร่าวๆเพราะพระพุทธานุภาพนั้นเป็นของอัศจรรย์ไม่สามารถจะกล่าวได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ตะกรุดทับยันต์นั้น เนื่องจากมีคนขอบูชามามากในภายหลังท่านจึงไม่ให้ใครไปเลย เพราะท่านบอกว่าอยากค่อยๆทำเก็บรวบรวมให้ได้สักจำนวนหนึ่งก่อนค่อยเอาออกไป เพราะถ้าให้ทีละดอกเดี๋ยวก็ได้ตีกันตาย ซ้ำคนที่ไม่ได้จะเขม่นคนที่ได้เสียเปล่าๆ จนในวาระนี้ท่านทำเก็บรวบรวมได้จำนวนหนึ่งจึงให้เปิดบูชา

ตะกรุดทับยันต์นี้เป็นตะกรุดกริ่งที่พ่ออาจารย์ท่านผนึกหัวท้ายเอาไว้ แกนกลางหรือที่เรียกว่าหัวใจจริงๆของตะกรุดนั้นจะเป็นไส้ตะกรุดทองแดงที่อยู่ภายใน ท่านว่าตะกรุดทองแดงนี้เองที่ท่านเรียกว่าตัวเปิดกำลังพระสัพพัญญุตญาณสมปรารถนา กำลังนี้ท่านว่าสำคัญนักเกินจะกล่าว เป็นวิชาในส่วนของพุทธนิมิต ท่านว่าวิชานี้นอกจากเรียนเอากับเสด็จพระใหญ่โดยตรงแล้ว แน่นอนว่าย่อมไม่มีใครสอนได้เลย เนื่องจากต้องแปรรหัสเป็นเลขยันต์หัวใจต่างๆ เมื่อลงวิชาแล้วท่านก็นำมาบรรจุไว้ภายในเป็นใจของตะกรุด ท่านว่าตะกรุดมีหัวใจพอเขย่าก็มีการเคลื่อนไหวอยู่ภายในนั่นคือตะกรุดที่มีชีวิต ท่านว่าเมื่ออธิษฐานอะไรหรือบอกกล่าวจะเขียนกระดาษนำมาม้วนทับยันต์ก็อย่าลืมเขย่าตะกรุดด้วย เขยาก่อนหนึ่งครั้งก่อนอธิษฐาน และเขย่าอีกครั้งเมื่ออธิษฐานเสร็จ ดุจดั่งว่าส่งคำอธิษฐานของเราให้กังวาลทั่วนิพพานให้ทราบถึงสมเด็จท่านโดยฉับพลันเช่นนั้น

ตะกรุดเปิดกำลังพระสัพพัญุตญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นญาณที่อยู่เหนือจักรวาล นั่นคือญาณรู้ในสิ่งทั้งปวง เมื่อพกตะกรุดนี้ติดตัวท่านว่าหากเป็นคนที่หมั่นสวดมนต์นั่งสมาธิแล้ว มันจะกระตุ้นตาที่สาม กระตุ้นกายและจิตวิญญาณของเรา เปิดตัวรู้ให้เรา เปิดกำลังในการรับรู้การเกิดขึ้นของญาณและการเข้าถึงญาณให้เรา ท่านว่าแม้คนผู้นั้นไม่ได้ญาณอะไรเลย สมาธิไม่กะดิกก็ตาม แต่หากมีความเพียรหมั่นสวดมนต์ฝึกสมาธิเจริญกรรมฐานแล้วก็จะได้รู้ได้เห็นสิ่งต่างๆบรรดามี ได้ทราบอดีตของตนบ้าง ได้เห็นเหตุการณ์เสมือนภาพติดตาบ้าง ได้ฝันเห็นอนาคตบ้าง ท่านว่ามันจะปรากฏออกมาในรูปแบบต่างๆไม่ซ้ำกันตามจริตของแต่ละบุคคล บางคนหากทำเป็นประจำมีกำลังสมาธิมากก็จะเห็นแม้แต่เรื่องราวของบุคคลทั้งหลายที่เค้าเข้ามาเกี่ยวพันกับเราในชีวิตทั้งญาติเราพ่อแม่พี่น้องเราหรือเพื่อนของเราทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดมากไปก็ไม่ดีเพราะเป็นเรื่องเหนือโลก เป็นเรื่องสำคัญ เป็นกำลังของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่าน ว่าท่านต้องการสงเคราะห์อย่างใดให้เห็นให้รู้สิ่งใด พ่ออาจารย์ว่าไอ้ตัวรู้นี้แม้มันใช่สิ่งที่รู้แล้วจะช่วยให้เราเข้าถึงบรมสุขได้ ไม่ใช่กำลังอย่างปราณีตแท้จริง แต่ก็ยังดีกว่าเกิดมาแล้วไม่ทำไม่รู้อะไรเลย

ท่านว่าตะกรุดนี้ ที่แน่นอนว่ากำลังของพระพุทธองค์นั้นเป็นกำลังด้านบวก เป็นแสงสว่างที่ดับผลาญอวิชชาและความมืดทั้งหลาย นี่คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นจริง พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลประเภทนี้สำคัญมากบางคนที่ชีวิตเค้าตีบตันหาทางออกไม่เจอคืออยู่ในช่วงที่แย่ที่สุดเค้าจะไม่อาราธนาเครื่องมงคลแบบอื่นเลย เพราะเค้าต้องการใช้แต่ของประเภทนี้เข้ามาเสริม มันจะช่วยทำให้เค้าผ่านช่วงเวลานั้นไปได้อย่างรวดเร็ว

พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากนี้แล้ว ในตะกรุดท่านยังใส่ผงวิชาสำคัญๆของครูบาอาจารย์องค์สำคัญทั้งหลายลงไปด้วย ทั้งผงขรัวตาคง ผงท่านเจ้ามา ผงหลวงปู่แก้ว ผงหลวงปู่ศุข ผงหลวงพ่อปาน ท่านว่าผงแต่ละอย่างล้วนแต่หายากและครอบครองได้ยากทั้งสิ้น โดยท่านพูดให้คิดว่าไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร แต่เอาว่าดีที่สุดที่จะหามาใส่ให้ได้ก็พอ

โดยตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านทำรวบรวมไว้เจ็ดดอกตามระยะเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมา ท่านว่าตะกรุดเหล่านี้ล้วนมีเจ้าของอยู่ทุกดอก ดังนั้นไม่ต้องแย่งกัน อย่างไรเสียถ้าเป็นของเราแล้วก็ต้องเป็นของเราอยู่วันยังค่ำ

พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้นอกจากคำว่าพุทโธแล้ว ไม่ต้องภาวนาคาถาใดๆอีก ทุกคาถาสิ้นสุดที่คำว่าพุทโธทั้งสิ้น ให้ใช้พุทโธนี้อาราธนาหรือภาวนาเวลาต้องการกำลังใจจากตะกรุดเท่านั้นพอ แล้วก็ใช้ตามวิธีใช้ต่างๆที่ได้อธิบายไว้ดีแล้ว

* ตะกรุดบูชาครูเปิดกำลังพระสัพพัญญุตญาณสมปรารถนา(ทับยันต์) เปิดให้จองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ให้PM แจ้งรายละเอียดกันเข้ามา โดยท่านบอกว่าคนหนึ่งคนนั้นใช้หนึ่งดอกก็เพียงพอแล้ว ซึ่งหากคลาดจากปีนี้ก็ต้องรอในโอกาสหน้าต่อไป รายได้จากการบูชาร่วมสร้างวิหารทานถวายเสด็จพระใหญ่สืบต่อไป

ตะกรุดบูชาครูเปิดกำลังพระสัพพัญญุตญาณสมปรารถนา(ทับยันต์) ร่วมทำบุญบูชา 1,500 บาท

 

เรื่องตะกรุดดวงอริยสัจจ์ อันนี้ทำความเข้าใจนิดนึงนะครับกรณีที่ผมไม่ได้แจ้งกลับไปก็คือไม่ลงหรือลงไม่ได้ตามที่แจ้งไว้แล้วในกติกาแต่เริ่ม กับอีกกรณีนึงคือยังไม่ถึงคิวคุณ ก็มีแค่นั้น ทำตามกติกาไว้ไม่ต้องทวงถามหรือซ้ำข้อความอะไรเข้ามาให้การจัดลำดับมันซับซ้อนขึ้น อย่าลืมว่าไม่ได้มีเฉพาะของคุณมันยังมีของคนอื่นด้วย และที่สำคัญเราบอกแต่แรกแล้วว่านี่ไม่ใช่เกมส์แจกของมีทั้งลงได้และลงไม่ได้

ทีนี้พอซ้ำข้อความมามันก็เกิดความผิดพลาด เพราะกรณีนี้ก็มีปรากฏมาหลายคนแล้วปรากฏว่าได้ตะกรุดส่งไปคนละสองสามดอกก็มี คือว่ามันมีปัญหาตอนเราเก็บรวบรวมข้อมูลนี่แหละทำซ้ำกันบางคนหลายดอกเลย แล้วที่ไปเอาของครอบครัวมาหลายๆคนอันนี้ก็ใจเย็นๆ จะบอกว่าเอาจริงๆคือที่ลงได้มันมีไม่มากนะ บางคนส่งมาเป็นสิบลงได้คนเดียวก็มี ถ้ามาประชดผมหรืออะไรที่ผมเห็นผมก็พยายามแกล้งไม่อ่านหรือกดลบทิ้งไป เพราะเราไม่ได้ว่างอย่างเมื่อวานก็ประชุมเกือบทั้งวัน ใครทักมาก็ส่งรูปให้เค้าดูไปว่าไม่สะดวกคุย แต่กระทู้ก็ไม่ได้ทิ้งพยายามตอบอยู่ ถ้ามีเรื่องใหม่หรือประเด็นใหม่อยากให้ตอบไวๆก็ PM ทิ้งเอาไว้ โอเคนะครับ

 

เดี๋ยวพรุ่งนี้จะส่งรายการที่โอนมาแล้วกับตะกรุดดวงอริยสัจจ์ให้นะครับ ถ้าไม่ทันก็จะเลื่อนไปมะรืนขอดูเวลานิดนึง

 

พูดคุยยามเช้า​

ขอเลื่อนเป็นพรุ่งนี้จะเคลียร์ของและจัดส่งที่ตกค้างทั้งหมดของทุกคนให้นะครับ พอดีวันนี้มีงานด่วนเข้ามาแต่เช้า แล้วก็มาพูดคุยต่อเรื่องสารความรู้กัน

เรื่องของการห้อยพระหรือแขวนพระนั้น หลายคนคงยังสงสัยหรือยังคิดไม่ออกว่า ควรจะแขวนพระกี่องค์ถึงจะดีและมีการถกเถียงกันมาก ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด แต่มีเคล็ดและข้อแนะนำ ที่อยากให้ลองอ่านและพิจารณาดูว่าเราเหมาะกับการแขวนพระอย่างไร

-การแขวนพระจะเป็นองค์เดียว 2-3-4 ถึง 9 องค์หรือมากกว่านั้น จะเป็นเลขคู่หรือเลขคี่นั้นแล้วแต่จริตความชอบ หลายคนบอกว่าคนโบราณนั้นแขวนเป็นเลขคี่แล้วแต่ความเชื่อ พระสงฆ์เวลานิมนต์ต้องเป็นเลขคี่ ซึ่งจะให้พิจารณาเรื่องหนึ่ง คำว่า คณะสงฆ์นั้นต้องครบ 4 รูป ตามพุทธบัญญัติถึงจะทำสังฆกรรมได้ เรื่องของการแขวนพระจะเป็นเลขคู่หรือจะคี่จึงเป็นที่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากต้องการพุทธคุณด้านไหน ก็เลือกเอาตามความพอใจ จะเป็นเมตตา อำนาจ บารมี ค้าขาย แคล้วคลาด แต่ข้อแนะนำว่า องค์ที่เป็นประธานที่อยู่ตรงกลางนั้นเป็นองค์ที่สำคัญที่สุด ที่เหลือนั้นตามความพอใจลดหลั่นกันไป หลายคนยึดคติโบราณเอาความหมายเช่น มั่น มี ศรี สุข ก็คือ หลวงปู่มั่น หลวงปู่มี หลวงปู่ศรี หลวงปู่ศุข ที่เอาแต่เสียงที่ออกเสียงเหมือนกัน

ความเชื่อของบางบุคคลที่กล่าวว่า “การห้อยพระหลายองค์ทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละองค์นั้นน้อยลง” ความจริงแล้วพลังศักดิ์สิทธิ์ของพระท่านเท่ากันทุกองค์ เพราะมาจากพลังแห่งการบูชาพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น

แต่ตัวเราเองนั้นสำคัญว่า เป็นคนมีศีล มีบุญบารมีหรือไม่ซึ่งต้องสร้างขึ้นมาในชาตินี้เพื่อรวมกับบุญเก่า เมื่อเครื่องรับหรือตัวคนห้อยพระนั้นดี คลื่นศักดิ์สิทธิ์จากพระที่ห้อยอยู่ก็ส่งได้แบบได้ผลมาก แต่ในทางกลับกันต่อให้พระนั้นมีพลังศักดิ์สิทธิ์มากเพียงใด แต่ตัวคนใส่นั้นไม่มีศีล พระท่านก็ไม่ช่วย เราคงเคยได้ยินเจ้าพ่อที่แม้แต่อมพระไว้ในปาก ยังโดนยิงเสียพรุน นักเลงโตห้อยพระเต็มคอแต่โดนเสียบด้วยมีดทีเดียวตายก็เพราะคนเหล่านั้นไม่มีศีลธรรมห้อยพระแพงหรือเนื้อดีแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้

การแขวนพระตามอาชีพนั้น เป็นไปตามกรรมที่สะสมมาและถือว่าเป็นเรื่องดี เรื่องวิเศษอย่างยิ่งคนหลายคนยังไม่ทราบว่าอาชีพที่ทำอยู่นั้นเป็นไปตามกรรมที่ทำมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คนที่เป็นพ่อค้าก็เพราะเคยเป็นพ่อค้ามาก่อน คนที่รับราชการก็เพราะเคยทำหน้าที่แบบนี้มาก่อนในอดีตชาติ การที่ในชาตินี้ได้มีโอกาสครอบครองพระเครื่องไม่ว่าจะองค์ใด จะเป็นท่านใดสร้างก็ตามนั้นเป็นด้วยกรรมที่ผูกพันกับครูบาอาจารย์ที่ท่านสร้างขึ้นมาแน่นอน ซึ่งอาจจะเป็นในชาติใดชาติหนึ่ง ดังนั้นการสวมพระเครื่องตรงตามอาชีพของตนนั้นจะช่วยส่งเสริมให้ทำการใดมักจะสำเร็จตามที่ปรารถนา เพราะมีบุญบารมีของครูบาอาจารย์ที่สร้างมาช่วยเพิ่มหนุนนำ จากบุญเก่าและบุญใหม่ที่มีอยู่

เช่น ถ้าค้าขายก็คงเน้นห้อยพระไปด้านเมตตามหานิยม โชคลาภที่ได้มาโดยง่ายก็ต้องเลือกพระเครื่องที่เด่นด้านนี้ อย่างเช่น หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ถ้าปลดหนี้สินก็ต้องเลือกด้านการขจัดอุปสรรคและการเงิน ก็ต้องหลวงปู่หลิว พญาเต่าเรือน ต้องการอำนาจบารมี ความสะดวกไหลลื่นในการทำงานก็ต้องพระสมเด็จ เด่นเรื่องรักษาโรคก็ต้องพระกริ่ง เป็นต้น ซึ่งในแต่ละพระเครื่อง แต่ละครูบาอาจารย์ท่านจะมีจุดเด่นเฉพาะตัวออกไป

ถ้าพระเครื่ององค์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านมีข้อกำหนดในการใช้คาถากำกับไว้ ก็ต้องสวดให้ครบถ้วนตามที่ท่านกำหนดไว้ ขอให้จำง่ายๆ ว่า มีของดีแล้วต้องอาราธนาพระ ปลุกพระและปลุกตนเองด้วยถึงจะดีจริง ที่สำคัญควรทำบุญและอุทิศบุญไปให้ครูบาอาจารย์ที่สร้างอย่างสม่ำเสมอเพื่อเชื่อมบุญระหว่างตัวเรากับท่านให้กระชับเข้ามาใกล้กันมากขึ้น ครูบาอาจารย์ที่ท่านสร้างและมีวัตรปฏิบัติดีนั้น บางรูปเป็นถึงพระอรหันต์ บางรูปก็เป็นพระโพธิสัตว์ การได้ทำบุญและเชื่อมบุญกับท่านนั้นจึงเป็นบุญใหญ่มาก

 

เพิ่งเสร็จงาน ก็พรุ่งนี้นะครับเดี๋ยวจะส่งของให้ครบ นี่ก็จะเร่งห่อให้อยู่ซื้อซองมาแล้ว ขออภัยที่ครั้งนี้เลทนิดหน่อย

 

พอดีมีพี่ท่านนึง PM มาเล่าประสบการณ์ พอดียังไม่ได้ขออนุญาติแล้วก็ยังไม่ได้ดูว่า PM มาเมื่อเช้าหรือเมื่อคืนก็ขอเอาลงมาให้อ่านกันนะครับ ใช้เครื่องมงคลก็อย่าลืมสวดมนต์เยอะๆ (ผมชอบตรงพญานาครัดถึงสามครั้งสามคืนติดนี่แหละ)

ขอเล่าประสบการณ์ครับ ตอนนี้ผมสมหวังตามที่ขอแล้ว เรื่องความรัก คือผมบูชาเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์พลและสวดมนต์ภาวนา และทำทานตามโอกาส โดยอุทิศบุญถึงพรหมเทวดาและครูทุกครั้งก่อนขอพรเรื่องคู่ โดยขอคนที่มีลักษณะใจบุญมีศีลและคอยส่งเสริมเรา ซึ่งพอผมมีแฝนสมใจก็มีความสุขดีพอถามไปถามมาน้องเค้าเล่าว่าก่อนที่ผมจะขอน้องเป็นแฟนน้องเค้าฝันว่ามีพญานาคเข้าไปรัดถึงสามคืนติดกัน น้องเค้าเล่าติดตลกว่าวันแรกก็กลัวเพราะพญานาคมาแบบมีฤทธิ์แบบเต็มยศน้องเค้าขัดขืนตลอดพญานาดก็ไม่ได้ทำร้ายจนคืนที่สามน้องเค้าใจอ่อนยอมให้พญานาครัด หลังจากนั้นก็เจอผมเข้าไปจีบ ครับประสบการณ์ที่อยากบอกมีแค่นี้ ผมฝากขอบคุณพ่ออาจารย์พลด้วยนะครับ ทุกวันนี้ผมก็สวดมนต์ทุกเช้า และภาวนาบ้าง ทำทานบ้าง และทุกครั้งที่อุทิศบุญผมไม่เคยลืมพรหมเทวดาครูอาจารย์และพ่ออาจารย์พลเลยครับ ขอบคุณครับ

 

แจ้งการส่ง EMS
​

พี่ศิระ ER 5711 6188 3 TH

พี่พงศ์พิชิต ER 5711 6189 7 TH

พี่ธีรนนท์ ER 5711 6190 6 TH

พี่บรรณกานต์ ER 5711 6191 0 TH

พี่สรวุฒิ ER 5711 6192 3 TH

พี่ศิระ ER 5711 6193 7 TH

พี่ฐิตกาญจน์ ER 5711 6194 5 TH

พี่ธีรพจน์ ER 5711 6195 4 TH

พี่พชร ER 5711 6196 8 TH

พี่ฐิตกาญจน์ ER 5711 6197 1 TH

พี่อภิญญา ER 5711 6198 5 TH

พี่สมภพ ER 5711 6199 9 TH

พี่สุเมธ ER 5711 6200 5 TH

พี่อัครพงษ์ ER 5711 6201 9 TH

พี่ศุภชัย ER 5711 6202 2 TH

พี่คณพศ ER 5711 6203 6 TH

พี่รังสรรค์ ER 5711 6204 0 TH

พี่กัมปนาท ER 5711 6205 3 TH

พี่สิวริศร ER 5711 6206 7 TH

พี่ปฎิภาณ ER 5711 6207 5 TH

พี่เขมินท์ ER 5711 6208 4 TH

พี่ชัยวัฒน์ ER 5711 6209 8 TH

พี่เอกชัย ER 5711 6210 7 TH

พี่กฤตยชญ์ ER 5711 6211 5 TH

พี่จักรกฤษณ์ ER 5711 6212 4 TH

พี่ปภัสสร ER 5711 6213 8 TH

พี่ปกรณ์ ER 5711 6214 1 TH

พี่กฤตยชญ์ ER 5711 6215 5 TH

 

พรุ่งนี้ผมอาจจะไม่อยู่ทั้งวัน ใครที่โอนมารอบหลังเดี๋ยวจะเคลียร์ส่งของให้วันมะรืนนะครับ แล้วจะลงสาระความรู้ให้ต่อด้วย

 

ผมตอบpm ครบแล้วนะครับ สอบถามอะไร pm ทิ้งไว้ได้เลย

 

ได้รับตะกรุดแล้วครับขอบคุณมาก

 

ตอบpm ครบนะครับ

 

พรุ่งนี้ติดตามนะครับ มีเรื่องน่าสนใจมากๆมาพูดคุยกัน

 

กิจกรรมพิเศษ​

อรุณสวัสดิ์ครับ

ก่อนที่จะมาลงสาระความรู้กัน ก็จะมาพูดคุยกันก่อนรอบเช้า เรื่องที่จะหยิบมาพูดในวันนี้ก็เป็นดำริที่พ่ออาจารย์ท่านฝากมาแจ้งเกือบอาทิตย์แล้ว แต่เรายังปิดไว้อยู่เพราะตั้งใจจะรอโครงการอริยสัจจ์โสฬสให้จบไปก่อนแล้วค่อยบอกเป็นเรื่องๆไป

แต่ก็มีเหตุให้ต้องพูดต้องบอกกัน เพราะตั้งแต่เปิดโครงการอริยสัจจ์โสฬสขึ้นมานั้น มีสมาชิกใหม่ๆหลายๆคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยติดตามกระทู้ให้ความสนใจติดต่อเข้ามามากและบางคนก็มีทั้งได้รับและไม่ได้รับ ทั้งนี้ก็ต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อน ในสิ่งที่ทุกคนปรารถนาและเข้ามาส่วนใหญ่ก็เนื่องจากมีปัญหาต่างๆ

ที่จริงพ่ออาจารย์ท่านมีดำริมานานแล้ว จะให้เราเปิดกระทู้แยกต่างหาก เป็นกระทู้ไว้รับปรึกษาปัญหาส่วนตัว เป็นบริการให้เลย เพราะว่าท่านให้ความสำคัญกับการดำเนินชีวิตของคน ท่านว่าบางคนเขาต้องการคำแนะนำการชี้แนะต่างๆ บางคนก็มากบางคนก็เพียงเล็กน้อย พอได้ตรงนี้ปุ้ปหลายคนเขาสว่างเลยก็มี

ซึ่งไอ้ตัวปัญหาในชีวิตคนทั้งหลายเหล่านี้ ท่านว่าเราจะเหมารวมไม่ได้ เพราะแต่ละคนต่างกันด้วยสถานที่เกิด ด้วยกรรมลิขิต ด้วยเกณฑ์ชะตา แตกต่างกันโดยรวมเอาแล้วว่ามาก เนื่องจากทุกคนมีวงจรชีวิตที่แตกต่างกันไป เพราะเช่นนั้นท่านว่าเราไม่สามารถใช้เกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งมาเป็นตัววัดปัญหาของทุกคนว่าอยู่ในระดับเดียวกันหรือเสมอกันได้ ทั้งนี้ท่านว่าเวลาคนมีปัญหา เค้าก็อยากจะระบายออกอยากจะปรึกษา ให้ช่วยรับฟังเขาหรือหาทางออกไปพร้อมกับเขาอย่าไปตัดหนทางหรือทำให้เขาเสียกำลังใจ ท่านว่าการรับปรึกษาปัญหาส่วนตัวต่างๆเหล่านี้ก็เพื่อจะทำให้ทุกข์เขาหาย กำลังใจเขามี

ซึ่งเมื่อท่านดำริเช่นนี้ ด้วยว่าให้เรารับเรื่องตลอดจนปัญหาของทุกๆคนส่งตรงไปถึงมือท่านเลย ตัวท่านจะช่วยวิเคราะห์แก้ไขและบอกหนทางต่างๆให้ ตัวดำริเช่นนี้ผมก็มองว่าจะเปิดกระทู้ใหม่อีกกระทู้นึงดีมั๊ย ก็นั่งคิดมาเป็นอาทิตย์ ก็ยังไม่ได้คำตอบอะไรเนื่องจากเป็นช่วงที่เรายุ่งๆอยู่กับงาน จนมีหลายๆคนพูดว่าจะเปิดกระทู้อื่นไปทำไม ทำไมเราไม่ใช้กระทู้นี้แล้วก็จัดเป็นกิจกรรมระยะยาวไปเลย

ตรงนี้จะพิเศษมาก เพราะนอกจากการปรึกษาปัญหาแล้วเรายังจะตอบโจทย์หลายๆอย่างในหลายคำถามของท่านด้วย และพูดล่วงหน้าได้เพียงคร่าวๆว่ามันยังมีกิจกรรมอะไรบางอย่างที่พิเศษสุดๆ จากความรู้สึกผมนะเรียกว่าพีคสุดๆไม่คิดว่าพ่ออาจารย์ท่านจะทำให้ ซึ่งท่านก็จะทำ กิจกรรมนี้มันก็จะแทรกอยู่ในโอกาศ ในวาระดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกันก็ติดตามกันให้ดีแล้วกัน ผมเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับตัวท่านเอง และกับอีกหลายๆคนที่เจอปัญหาแบบไม่พร้อมจะคิดหรือต้องการคำปรึกษา ผมจะถือว่าตรงนี้เป็นโครงการระยะยาวตัวใหม่ดีกว่าและจะลองทำดูก่อน ถ้าทำแล้วไม่ตึงมือเกินไปก็จะเปลี่ยนจากกิจกรรมมาเป็นธุระให้แทน วันนี้เพียงนำมาบอกกล่าวคร่าวๆให้รับทราบ เรียกว่ามานั่งพูดคุยกัน เดี๋ยวจะมาลงรายละเอียดตอนเริ่มกิจกรรมอีกทีหนึ่ง ก็ติดตามกันให้ดี หลังจากนี้เวลาผมโพสต์อะไรผมจะลงเบอร์โทรกับไลน์ผมไว้ให้ตลอดนะครับ เพื่อจะได้ง่ายต่อการติดต่อสื่อสารกลับเข้ามาหาเรา

ติดต่อ กรณ์ - 094 886 6245
LINE id artist30996

 

ได้รับตะกรุดอริยสัจจ์โสฬสมหามงคลเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

ขอบพระคุณมากครับ

 

วันนี้รอบเย็นๆหน่อยติดตามกันดีๆนะ วิชานี้แรงระดับถอดรูปเงาะทีเดียว