รูปถ่ายพระพุทธรูป คือรูปพระพุทธเจ้า ใครว่าเป็นแค่กระดาษ แค่ธาตุสี่ ระวังกรรมปรามาส

รูปถ่ายพระพุทธรูป รูปถ่ายพระแก้วมรกต คือรูปพระพุทธเจ้า

ใครว่าเป็นแค่กระดาษ แค่ธาตุสี่ ระวังกรรมปรามาส

ใครคิดว่าเป็นแค่ธาตุ 4 เป็นแค่กระดาษ ข้าม เหยียบย่ำรูป คิดเองเออเองว่า ไม่รู้ ไม่มีกรรม ไม่มีเจตนา ระวังไว้นะครับ ^^


.

 

รู้ไหมครับ ยิ่งผมอ่านกระทู้แนวนี้ของคุณผมยิ่งรับรู้ได้เลยว่า คุณพยายามกระแทกแดกดันผม มันคนละกรณีกัน กรณีที่ผมพูดถึงคือการที่คนสติไม่สมประกอบเพราะสารเคมีในสมองแต่เขาก็สำนึกผิดและขอขมาด้วยพิธีต่างๆเป็นประจำ

แต่ดูเหมือนคุณอยากเอาชนะ เลยมาตั้งกระทู้กรรมปรามาสอยู่นั่นแหละครับ

 

ใจเย็นๆครับ
เขาอาจจะไม่ได้กระแทกแดกดันคุณก็ได้
เขาอาจจะกระแทกแดกดันคนอื่นก็ได้
เขาอาจจะกระแทกแดกดันทุกคนก็ได้
เขาอาจจะกระแทกแดกดันตัวเองก็ได้
ใครรับ ก็ทุกข์ครับ
แต่ถ้าเขาเจตนากระแทกแดกดันใครแม้เพียงคนเดียว
ตัวเขาทุกข์อยู่ก่อนแล้ว เราไม่ต้องไปทุกข์ตามเขาหรอกครับ
ความเชื้อ ห้ามกันไม่ได้ครับ
ถ้าใครจะอ้างเหตุผลตามพระธรรม ก็เป็นสิทธิ์ของบุคคลนั้น
ถ้าใครจะอ้างความเชื่อคำเล่าปากต่อปากจากกลุ่มบุคคล ก็เป็นสิทธิ์ของบุคคลนั้น
คิดดี ก็เป็นสุข คิดไม่ดี ก็เป็นทุกข์ นะครับ

 

ขอบคุณมากครับที่เตือนสติ ที่จริงผมก็ไม่ซีเรียสกับเขามากหรอก แค่อยากให้เรื่องมันจบๆไป เพราะตอนนี้ทุกฝ่ายก็สบายใจกันแล้ว ง่ายๆคือทุกคนมีความสุข น่าจะหาทางออกกันแต่เหมือนกระแทกกันแบบนี้ แต่ก็ครับ ผมก็คงห้ามอะไรใครไม่ได้ ผมเชื่อครับกรรมปรามาสมีจริง ขอขมาได้ บาปกรรมมีอยู่ สวรรค์-นรก จิตสุดท้าย บาปเหมือนเกลือ บุญเหมือนน้ำ ตามทฤษฎีพระธรรม พระสงฆ์ทุกท่าน สาธุครับ _/l\_

 

ผมไม่ได้มีอะไรกับคุณครับ หรือคนอื่นๆ ครับ

สบายใจได้ครับ


ถ้าผมคิดชั่ว ทำชั่ว กรรมชั่วก็ตกอยู่กับตัวผมเองครับ ใครทำกรรมอะไรไว้ คนนั้นก็เป็นผู้เสวยผล ครับ

ผมตั้งกระทู้ไว้ก็เพราะส่วนนึงเอาไว้เป็นข้อมูลไว้ให้บุคคลอื่นๆ ที่ยังไม่ทราบ ได้พิจารณาด้วยตัวเองครับ

^^

 

พระอาจารย์กล่าวว่า "บุคคลที่ก้าวข้ามสิ่งสมมติได้แล้วอย่างแท้จริง จะเคารพสมมติด้วย จะไม่มีการย่ำยีหรือดูถูกสิ่งสมมตินั้น

สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

 

ถูกครับ
เพราะผู้มีสติ มีเหตุ มีผล ต่อให้ตนพ้นสมมติได้
แต่สมมตินั้น ก็้ป็นสมมติที่มีคนอื่นๆยึดถือ
การย่ำยีดูถูกสิ่งที่เป็นที่เคารพของบุคคลอื่นๆ
เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ
คนที่กระทำได้ จิตใจไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้มีจิตใจเลวทราม
พึงหวังกระทำให้บุคคลใดๆเจ็บปวดทางใจ
บุคคลนั้น ไม่พ้นนรก

 

ที่สอนว่ารูปถ่ายพระพุทธรูปคือรูปพระพุทธเจ้า เพราะผู้สอนใส่อุปาทานลงไปในรูปที่เห็น
ผู้ดูผู้รู้ผู้เห็นมีอุปาทานไปสำคัญมั่นหมายว่าเป็นพระพุทธรูป
พระพุทธรูปไม่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นพระพุทธรูป ก้อนหินไม่รู้ว่าตัวเองเป็นก้อนหิน
พระพุทธรูปในประเทศไทยมีหน้าตา รูปแบบอย่างของประเทศไทย
พระพุทธรูปในอินเดีย จีน พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา ต่างมีหน้าตาไม่เหมือนกัน
เพราะแต่ละประเทศใส่อุปาทานของตนลงไปในพระพุทธรุป พระพุทธรูปจึงไม่เหมือนกัน
สมมติกับวิมุติอยู่ที่เดียวกัน ไม่มีใครไปข้ามมาหรือดึงมา เหมือนหน้ามือกับหลังมือ

 

งั้นก็กราบขออภัยด้วยละกันครับ

แต่ทั้งนี้ก็ต้องกล่าวเกริ่นก่อนว่าผมเคารพพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
เจอพระพุทธรูปที่ใดก็ยกมือไหว้หมด ไม่ใช่แค่ผมเคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับ OCD แล้วทำผิดพลาดไปโดยขาดสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์กลายเป็นว่าผมนิสัยหยาบช้าปรามาสพระพุทธรูปนะครับ

ปล.ผมนับถือศาสนาพุทธและเคารพ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำความดีไม่หยุดหย่อนแน่นอนครับ

เรียนมาเพื่อทราบน่ะครับ กลัวเข้าใจตัวผมผิดกัน

 

คนที่ยึดติดกับสมมติเท่านั้นครับ ที่จะมีข้อเปรียบเทียบ และจะเข้าใจคุณผิดไปได้