...รับชี้ทางช่วยเหลือคน...@ พี่วิทย์ ญาณสื่อจิต @

​

 

ขอขอบคุณ พี่วิทย์ ที่กรุณาเสียสละเวลา ชี้แนะ แนะนำ รวมถึงการแก้ไขโดย มิได้หวังสิ่งตอบแทน รู้สึกสบายใจ มีกำลังสู้ต่อ อย่างคนมีหวัง ขอขอบคุณ พลังจิต ที่ทำให้ ได้รู้จัก พี่วิทย์ ขออนุโมทนาบุญ ค่ะ....สาธุ

 

ได้ดูกับพี่วิทย์แล้วบอกเลยว่าดีมาก พี่เค้าแนะนำในหลายๆเรื่องที่เรานึกไม่ถึงแต่มันกลับส่งผมถึงชีวิตของเราอย่างมาก ขอบคุณจากใจครับพี่

 

วันนี้มาแบ่งปันประสบการณ์เพิ่มเติมจากการฟังบทสวดในยามหลับ

สำหรับคนยุคทำงานสมัยนี้ หาเช้ากินค่ำ เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานทำธุรกิจหาเงินเพื่อเลี้ยงชีพ ดังนั้น การหาเวลาสวดมนต์นั่งสมาธิเองอย่างเดียว จึงไม่เพียงพอ จากผลการปฏิบัติที่ผ่านมาไม่นานมานี้โดยมีครูบาอาจารย์ท่านชี้ทางให้เราเดินจิตวิปัสสนาญาณเกิดปัญญา เห็นแจ้งว่า ในสภาวะที่มนุษย์นอนหลับ เป็นสภาวะที่เหมาะสมที่สุด สำหรับมนุษย์ทุกผู้นาม เนื่องเพราะจิตหลับลึกและง่ายต่อการซึบซับทุกสภาวะเข้าสู่จิตใต้สำนึก พุทธศาสนา เรียกว่า "การปรับธาตุ" อานิสงค์คุณประโยชน์ที่บังเกิดขึ้น คือ

1.เมื่อฟังสวดบ่อยๆ มีผลให้คลื่นความถี่ของจิตนิ่งละเอียดขึ้นโดยง่าย กลายเป็นสัญญาความจำในจิตใต้สำนึกในดวงจิตหรือเรียกว่า การน้อมนำพุทธคุณสู่จิตสู่ใจ เป็นฐานแห่งการสั่งสมกำลังจิตที่มั่นคงมากขึ้น เหตุจากดวงจิตยามหลับคล้อยตามคลื่นความถี่ของกำลังจิตจากผู้สวด และเมื่อจิตมีความถี่ละเอียดคงที่ จิตก็ทำงานปกติ และสั่งงานสมองให้ทำงานเป็นปกติด้วยเช่นกัน เหตุปัจจัยนี้ที่แจ้งด้วยวิปัสสนาญาณการเดินจิต จึงตอบคำถามว่า ทำไม คนสวดมนต์นั่งสมาธิ ยิ่งด้วยจิตอริยะชั้นสูง โดยเฉพาะในพระเกจิวัยแก่ชราหลายรูป อันทรงด้วยสติสมาธิปัญญาตั้งมั่นในทางธรรม จึงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย แม้ภายนอกไม่ออกกำลังกาย แต่ภายในอวัยวะเซลล์ของร่างกายออกกำลังกายอยู่เสมอด้วยการสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่ และบางโรคที่ร้ายแรงหรือเรื้อรังจึงรักษาหายได้อย่างเป็นอัศจรรย์ สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนล้วนเห็นตามความเป็นจริง วิชชาความรู้เกิด อวิชชาความไม่รู้จึงดับไปนั้นแล รู้ในเหตุปัจจัยทั้งปวง สาธุ !

2.มีผลให้คลื่นความถี่ของสมองราบเรียบละเอียดคงที่ได้โดยตรง
มีผลให้สติแจ่มชัด สมองปลอดโปร่งแจ่มใส เกิดปัญญาไหวพริบ เนื่องเพราะยิ่งคลื่นความถี่สมองละเอียดคงที่มากขึ้นเท่าใด สมองก็คิดได้ว่องไวมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุที่เส้นประสาทของสมองอ่อนไหวมีปฏิกิริยาโต้ตอบหรือ sensitive ไปตามคลื่นความถี่อันละเอียดนั้น เปรียบดั่ง การใช้ขนนกแยงรูหู แล้วเกิดอาการเสียวขึ้น เพราะเส้นประสาทตอบสนองไวมาก แต่เทียบไม่ได้กับเส้นประสาทในเนื้อสมองที่ไวกว่าหลายเท่านัก ในพุทธะธรรมจึงแจ้งรู้ถึง เหตุปัจจัยในการฝึกพัฒนาสมองของมนุษย์ให้สามารถรับรู้สัมผัสในสิ่งที่ดวงตาและอวัยวะต่างๆ ที่เป็นของหยาบไม่สามารถรับรู้ได้ถึง เพราะขีดจำกัดของศักยภาพในอวัยวะ และละเอียดเล็กเข้าไปอีก ก็คือ เซลล์

3.มีผลให้ปรับสมดุลคลื่นความถี่ของเซลล์ในร่างกาย ภาพโดยรวมในกรณีนี้ ต้องฟังสวดมานานจึงจะส่งผลต่อโครงสร้างของเซลล์ จนสุดท้าย เมื่อร่างกายตายไป เซลล์ในอวัยวะต่างๆ จะปรับเปลี่ยนสภาพเป็นผลึกแก้วเม็ดผลึก ทางพุทธศาสนา เรียกว่า "พระธาตุ" ซึ่งพระธาตุของพระพุทธเจ้า ของพระอรหันต์ มีความแตกต่างกัน เนื่องด้วย โครงสร้างเซลล์มีวิวัฒนาการที่พัฒนาไปมากน้อยแตกต่างกันตามความละเอียดและหลากหลายของความถี่ กล่าวคือ คลื่นความถี่จิตของพระพุทธองค์ สามารถขยายความถี่ได้ทุกช่วงทุกความละเอียด ความถี่จิตที่หลากหลายปรับช่วงได้ตามใจปรารถนา ที่จิตส่งออกไปกระทบสภาวะและสะท้อนกลับมารับรู้เรื่องราวของทุกสรรพสิ่ง กระบวนการส่งรับครบรอบหรือวงจรเกิดดับของความถี่เกิดขึ้นไวมาก เพราะจิตไวมาก และด้วยสภาวะดวงจิตตัวมันเองก็เกิดดับไวจนเราเห็นว่า แสงสว่างของดวงจิตที่มันส่องสว่างออกมา มันเจิดจ้า แต่แท้จริง แสงสว่างที่เปล่งออกจากดวงจิตเกิดดับไปตามดวงจิตที่เกิดดับเช่นกัน แต่มันไวจนเรารับรู้ไม่ทันถึงการเกิดดับนั้น เปรียบดั่ง แสงสว่างของหลอดนีออน ถ้าเราเอากล้องวีดีโอที่ปรับความถี่สูงมาถ่ายบันทึกภาพ จะปรากฎเห็นแสงสว่างของหลอดนีออนมีการกระพริบเกิดดับของแสงสว่างอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน แต่ดวงจิตมันไวกว่านั้นมาก เทียบกันไม่ได้เลย เพราะจิตละเอียดเช่นนี้ จึงมีสภาวะพร้อมในการรับรู้ความเป็นจริงของทุกสภาวะในธรรมชาติ เซลล์ อิเลคตรอน กระแสพลังงานต่างๆ สิ่งที่เล็กที่สุดในทางวิทยาศาสตร์ รับรู้สภาวะของสิ่งที่มองไม่เห็นรวมถึงความเป็นทิพย์ละเอียดทั้งหลายทั้งปวง

จิตปัญญาทางธรรมที่แจ้งแล้ว รู้แม้ศักยภาพการทำงานของอวัยวะและเซลล์ของสรรพสัตว์ แจ้งชัดแม้กระทั่งส่วนที่เล็กที่สุด รู้ทั่วในวิถีแห่งสรรพสัตว์ทุกสรรพสิ่ง ด้วยประการฉะนี้

ดังนั้น ปุถุชนคนทั่วไปใน 1 วัน น้อยคนนักที่จะใช้เวลาสวดมนต์นั่งสมาธิได้หลายชั่วโมง ยิ่งน้อยเข้าไปอีก คือ ทำบ้างไม่ทำบ้าง หรือไม่ทำเลย จึงเน้นทำบุญทำทานเป็นสำคัญ จิตและกายของคนเราแท้จริงมันไม่ได้ดีขึ้นอย่างรวดเร็วและมั่นคง แค่เพียงทานบารมีอย่างเดียวที่ทำเป็นครั้งคราวหรือแม้ทำบ่อยก็ตาม แต่กายจิตมันดีได้ด้วยการอบรมรักษาและทรงอารมณ์แห่งความดีทั้งหลาย ลดละอารมณ์รักโลภโกรธหลง คลายให้จิตเบากายสบาย กล้ามเนื้ออวัยวะไม่เครียสไม่กดดันไปตามอารมณ์ที่พุ่งพล่านเหล่านั้น จนส่งผลให้กายใจเจ็บป่วยในที่สุด

การฟังสวดบ่อยๆ ใน 1 วันยามว่างและไม่ว่าง ยิ่งฟังคลอๆ ยามหลับ สามารถทำควบคู่ไปกับกิจกรรมอื่นๆ ได้ ถือว่าเป็นการฝึกจิตฝึกกายเรา ให้ผ่อนคลายและพัฒนาศักยภาพได้ดี การฟังสวดจึงง่ายและเหมาะสมในทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะยุคของคนทำงานเหน็ดเหนื่อยหาเงินเลี้ยงชีพเช่นนี้ สาธุ !

------------

3 บทฟังวน ยามว่างและไม่ว่าง ยามหลับและยามตื่น จิตจะมีกำลังใจเบานิ่งสงบเป็นสมาธิลุ่มลึกมากขึ้น นานวันจิตจักทรงฌานทรงสติทรงสมาธิแลทรงปัญญาทางธรรม มีไหวพริบจัดการงาน,แก้ไขปัญหาลุล่วงได้โดยง่าย เป็นการฝึกจิตที่เหมาะกับชีวิตอันวุ่นวายของคนในยุคสมัยนี้ครับ.

บทพระพุทธมนต์ Download :
ฟังพระพุทธมนต์

บทพระคาถาเงินล้าน Download :
https://drive.boonrawd.co.th:5001/sharing/L3dOsnCqB

บทพระคาถาชินบัญชร Download :
https://drive.boonrawd.co.th:5001/sharing/iNpqT4rbC

 

อ่านแล้วโดนใจจังค่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าจิตไม่ใสสะอาดดั่งเคย เพราะความรัก
วันนี้จะเริ่มสวดมนต์ค่ะ ไม่รู้อีกกี่วันความรู้สึกจะจางลง (หมายถึงจิตที่ครุ่นคิด)
อยากฟังคำชี้แนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ขอบพระคุณพี่วิทย์มากนะคะ ที่เสียสละเวลาดูให้ 2 ชม เต็มแม่นเว่อร์ๆ หนุกหนาน ขอบคุณสำหรับทุกคำทำนาย และคำชี้แนะนะคะ ขอบคุณค่ะ