รักแล้ว...รักเลย # แฟนซีผีตาโขน แรงศรัทธา ของชาวด่านซ้าย จ.เลย

รักแล้ว...รักเลย # แฟนซีผีตาโขน แรงศรัทธา ของชาวด่านซ้าย จ.เลย​

หากพูดถึงผี หลายคนคงวิ่งแจ่น หนีแน่นอน แต่ผีที่นี้มีแต่คนเค้าอยากถ่ายรูปเพื่ออวดฝีมือกัน ก็ 1 ปีมีครั้งเดียว งานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน ของชาวด่านซ้าย จ.เลย นั้นเอง กว่าจะเกิดงานนี้ได้ สืบทอดจากบรรพกาล งานบุญผีตาโขน เป็นส่วนหนึ่งของ “งานบุญหลวง” ซึ่งถือว่า เป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่น โดยจะเอา “งานบุญพระเวส” (ฮิตเดือนสี่) และ “งานบุญบั้งไฟ” (ฮิตเดือนหก) เข้าไว้เป็นงานบุญเดียวกัน

​

งานบุญพระเวสนั้นเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อฟังเทศน์มหาชาติ ทั้ง 13 กัณฑ์ ซึ่งถือว่าได้รับอานิสงส์แรงกล้าให้พบพระศรีอริยเมตไตรย์ในชาติหน้า ส่วนงานบุญบั้งไฟเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อบูชาอารักษ์หลักเมือและถือเป็นประเพณีการแห่ขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล ในงานบุญหลวงนี้จะมีกองทัพ “ผีตาโขน” ออกวาดลวดลายทั่วเมืองด่านซ้ายร่วมสร้างความสนุกสนานครื้นเครง ในขบวนแห่ด้วย
fficeffice" /><O></O>
ที่มาของคำว่า “ผีตาโขน” นั้นบ้างก็ว่ามาจากการที่ผีเหล่านี้ สวนหน้ากาก คล้ายลักษณะของหัวโขนแต่เดิมบางคนเรียกว่า “ผีตามขน” แต่ก็หาความหมายไม่ได้ชัดแจ้ง และจากคำบอกเล่าของเจ้าพ่อกวน ขณะเข้าทรงว่า “ผีตามคน” ต่อมาจึงเพี้ยนเป็น “ผีตาโขน” ในที่สุด เพิ่มเติมเป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆ เมื่อครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอยู่ในทศชาติ พระเวสสันดรและนางมัทรีจะเดินทางออกจากป่า กลับสู่เมืองบรรดาผีป่าหลายตนและสัตว์นานาชนิดอาลัยรักจึงพาแห่แหนแฝงตัวแฝงตน มากับชาวบ้านเพื่อมาส่งทั้งสองพระองค์กลับเมือง เรียกกันว่า "ผีตามคน" หรือ "ผีตาขน" จนกลายมาเป็น "ผีตาโขน" อย่างในปัจจุบัน

<O></O>
การละเล่นผีตาโขน<O></O>
เนื่องจากงานประเพณีผีตาโขนเป็นงานบุญใหญ่ซึ่งเรียกกันว่างานบุญหลวง จัดขึ้นที่วัดโพนชัย อ.ด่านซ้าย โดยมีการละเล่นผีตาโขน มีการเทศน์มหาชาติ มีการทำบุญพระธาตุศรีสองรักและงานบุญต่างๆเข้ามาผสมอยู่รวมๆกัน จึงมีการจัดงานกัน 3 วัน
วันแรก เริ่มพิธีตอนเช้า 04.00-05.00 น. คณะแสนหรือข้าทาสบริวารของเจ้าพ่อกวนจะนำอุปกรณ์ มีด ดาบ หอก ฉัตร พานดอกไม้ ธูปเทียน ขันห้าขันแปด(พานดอกไม้ 5 คู่ หรือ 8 คู่) ถือเดินนำขบวนไปที่ริมแม่น้ำหมัน เพื่อนิมนต์พระอุปคุตต์ พระผู้มีฤทธานุภาพมาก และมักเนรมิตกายอยู่ในมหาสมุทร เพื่อป้องกันภัยอันตราย และให้เกิดความสุขสวัสดี เมื่อถึงแล้วผู้อันเชิญต้องกล่าวพระคาถาและให้อีกคนลงไปในน้ำ งมก้อนหินใต้น้ำขึ้นมา ถามว่า "ใช่พระอุปคุตต์หรือไม่" ผู้ที่ยืนอยู่บนฝั่งตอบว่า "ไม่ใช่" พอก้อนหินก้อนที่ 3 ให้ตอบว่า "ใช่ นั่นแหละพระอุปคุตต์ที่แท้จริง" เมื่อได้พระอุปคุตต์มาแล้ว ก็นำใส่พาน แล้วนำขบวนกลับที่หอพระอุปคุตต์ ทำการทักขิณาวัฏ 3 รอบ มีการยิงปืนและจุดประทัด ซึ่งช่วงเวลานั้นบรรดาผีตาโขนที่นอนหลับหรืออยู่ตามที่ต่างๆก็จะมาร่วมขบวนด้วยความยินดีปรีดา เต้นรำ เข้าจังหวะกับเสียงหมากกระแร่ง ซึ่งเป็นกระดิ่งผูกคอวัวหรือกระดิ่งให้ดังเสียงดัง
วันที่สอง เป็นพิธีแห่พระเวส ในขบวนประกอบด้วย พระพุทธรูป 1 องค์ พระสงฆ์ 4 รูป นั่งบนแคร่หามตามด้วย เจ้าพ่อกวน นั่งอยู่บนกระบอกบั้งไฟ ท้ายขบวนเป็นเจ้าแม่นางเทียม กับบริวาร ชาวบ้าน และเหล่าผีตาโขน เดินตามเสด็จไปรอบเมือง ก่อนตะวันตกดิน สำหรับคนที่เล่นเป็นผีตาโขนใหญ่ ต้องถอดเครื่องแต่งกายผีตาโขนใหญ่ออกให้หมดและนำไปทิ้งในแม่น้ำหมัน ห้ามนำเข้าบ้าน เป็นการทิ้งความทุกข์ยากและสิ่งเลวร้ายไป รอจนปีหน้าฟ้าใหม่แล้วค่อยทำเล่นกันใหม่
วันที่สาม เป็นการรวมเอางานบุญประเพณีประจำเดือนต่างๆของปีมารวมกันจัดในงานบุญหลวง ประชาชนจะมานั่งฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ ที่วัดโพนชัย เพื่อเป็นการสร้างกุศลและเป็นมงคลแก่ครอบครัว
<O>ขอขอบคุณที่มา : เทศบาลด่านซ้าย</O>

 

แรงศรัทธาที่สืบทอด

26 / 6 / 52
ขบวนแห่จากบ้านเจ้าพ่อกวน มาประกอบพิธี ณ วัดโพนชัย ประมาณตี 4
ขณะนั้นฝนตกลงมา ชาวบ้านมีจิตตั้งมั่นมาก​

 

ขึ้นพระอุโบสถเตรียมประกอบพิธี ชาวด่านซ้ายและนักท่องเที่ยวร่วมงานอย่างอบอุ่นทั้งไทย-เทศ​

 

ชาวบ้านตั้งหน้าตั้งตารอ เตรียมไปแม่น้ำหมันเพื่อทำพิธีเบิกลูกพระอุปคุต
ตอนนี้พ่อแสนทำพิธีทางศาสนาในพระอุโบสถ​

 

พ่อแสนและคณะ เดินทางไปบริเวณแม่น้ำหมัน - ลำน้ำศอก ทำพิธีเบิกลูกพระอุปคุต

 

เดี๋ยวกลับมาต่อให้นะ...รอก่อนหละ
-- ออ ขอขอบคุณพี่สร้อยฟ้าที่ให้คำแนะนำการทำกระทู้นะครับ

 

ภาพขึ้นแค่อันแรกเองค่ะ เวลาลงภาพต้องทำแบบอันแรกนะคะ ลงทีเดียวหลายภาพก็ได้นะคะ

 

เคยไปสมัยเด็กๆ นานมาแร้ว

 

งานบุญพระเวสนั้นเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อฟังเทศน์มหาชาติ ทั้ง 13 กัณฑ์ ซึ่งถือว่าได้รับอานิสงส์แรงกล้าให้พบพระศรีอริยเมตไตรย์ในชาติหน้า ส่วนงานบุญบั้งไฟเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อบูชาอารักษ์หลักเมือและถือเป็นประเพณีการแห่ขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล ในงานบุญหลวงนี้จะมีกองทัพ “ผีตาโขน” ออกวาดลวดลายทั่วเมืองด่านซ้ายร่วมสร้างความสนุกสนานครื้นเครง ในขบวนแห่ด้วย
fficeffice" /><O></O>
ที่มาของคำว่า “ผีตาโขน” นั้นบ้างก็ว่ามาจากการที่ผีเหล่านี้ สวนหน้ากาก คล้ายลักษณะของหัวโขนแต่เดิมบางคนเรียกว่า “ผีตามขน” แต่ก็หาความหมายไม่ได้ชัดแจ้ง และจากคำบอกเล่าของเจ้าพ่อกวน ขณะเข้าทรงว่า “ผีตามคน” ต่อมาจึงเพี้ยนเป็น “ผีตาโขน” ในที่สุด เพิ่มเติมเป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆ เมื่อครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอยู่ในทศชาติ พระเวสสันดรและนางมัทรีจะเดินทางออกจากป่า กลับสู่เมืองบรรดาผีป่าหลายตนและสัตว์นานาชนิดอาลัยรักจึงพาแห่แหนแฝงตัวแฝงตน มากับชาวบ้านเพื่อมาส่งทั้งสองพระองค์กลับเมือง เรียกกันว่า "ผีตามคน" หรือ "ผีตาขน" จนกลายมาเป็น "ผีตาโขน" อย่างในปัจจุบัน

<O></O>

fficeffice" /><O></O>

ใช้ได้แล้วหล่ะ ครั้งแรกทำได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้วนะ แต่
สงสัยตรงนี้ พิมพ์จาก Word อย่าลืมแปลง font นะ แล้วรูปอื่นไม่ขึ้น ค่อยๆ ทำเดี๋ยวก็คงจะคล่องเอง

จะคอยติดตามอ่านนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้.....

 

ขอขอบมากครับพี่สร้อยฟ้าที่ให้คำแนะนำและกำลังใจ ช่วงนี้งานตึงเปี้ย จะทยอยอัฟภาพนะ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุษบากาญจ์<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2309280", true); </SCRIPT> แนะนำและแก้ไขเรื่องภาพ ผมลงแล้วไม่มีรูปติดเลย คงแก้ตัวใหม่อีกรอบ

 

ไปใหม่อีกทีนะ ปีหน้าไม่รู้วันที่เท่าไหร่ แต่อยู่ระหว่างเดือน มิ.ย. / ก.ค. นะ
ขึ้นอยู่กับเจ้าพ่อกวนท่านจะลงทรงแล้วดูว่าวันใด ถ้ารู้วันจะบอกนะครับ

 

อย่างนี้เค้าเรียก ผีหล่อ หรือ ผีสวย ครับ

 

ข้อความแต่ละโพสต์สามารถแก้ไขได้นะ ให้เลือก "แก้ไข/ลบ" แล้วก็เลือก "เลือกตอบเต็มรูปแบบ" คราวนี้ก็ไปที่ "upload" ก็ brows รูปเข้ามาได้เลย.... ลองดูใหม่นะ....

 

น่าจะเป็นผีหวานได้ไหม...

 

มาให้กำลังใจ...

 

ไปต่างจังหวัดเพิ่งกลับมาค่ะ เก่งแล้วนะคะ เป็นกำลังใจให้คราวหน้าต้องทำได้ดีกว่านี้แน่นอนค่ะ ^________^

 

ลำนำผีตาโขน

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.696686/[/MUSIC]

 

วิชาเริ่มแก่กล้า....

 

แหมพี่สร้อยฟ้าก็ ถ้าไม่ได้พี่ๆ แนะนำผมก็ทำไม่เป็นหรอกน่า...

เริ่มตั้งขบวน(ผี)ตาโขนกันใหม่..หลังจากมีงานมาหมักอยู่หลายเรื่อง

 

พ่อแสนบริกรรมคาถาและตั้งจิตเชิญพระอุปคุตในแม่น้ำหมัน



ทางดินเดินไปแม่น้ำหมัน อาจเลื่อนสักหน่อย ฝนตกพรำๆ