ระวัง งูจงอางใหญ่ ตอนกลางคืน ในบริเวณเขารอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Apinya Smabut, 16 ตุลาคม 2019.

  1. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,633
    พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมใครจะไปตากอากาศที่ทองผาภูมิช่วงนี้ก็เชิญได้ อากาศกำลังสบายเลย แต่ขอร้องนะ อย่าขึ้นไปนอนบนรอยพระพุทธบาท เพราะว่ารอยพระพุทธบาทอยู่ในพื้นที่ป่าเขาเลยนะ ส่วนที่อาตมากลัวที่สุดก็คืองูจงอางใหญ่ ๒ ตัวจะมานอนด้วยหรือเปล่า ? ถ้าถามว่าใหญ่ขนาดไหนก็บอกไม่ถูก กะ ๆ ด้วยสายตาน่าจะเกินขวดน้ำปลา ความยาวของงูนี่หัวพ้นถนนไปแล้ว หางยังไม่ขึ้นมาเลย

    เจ้าพวกนี้อาตมามีประสบการณ์เยอะ ก็คือตอนธุดงค์อยู่ในป่า ช่วงหน้าหนาวเขาจะมาหาที่อุ่น ๆ แล้วที่อุ่นที่สุดก็คือตัวเรา อาตมาโดนนอนทับอก โดนนอนเบียดข้างมาเยอะแล้ว ถึงเวลาภาวนาอยู่อะไรหนัก ๆ บนอก ต้องค่อย ๆ เอามือคลำ คลำให้เขารู้ตัว อย่าไปพรวดพราด พอเขารู้ตัวแล้วก็จับ ค่อย ๆ ดึงลงช้า ๆ ถ้าหากว่าดึงเร็วพรวดพราด มีหวังโดนกัดแน่นอน แต่ส่วนใหญ่พวกเราเองมักจะตกใจแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก

    อาตมาไม่ได้ใจเย็นขนาดหลวงพ่อวัดท่าซุง งูมาเบียดท่านก็ทำเป็นหมอนเลย ได้ขนาดพอดี ท่านเล่าให้ฟัง ท่านบอกตื่นขึ้นมาอะไรเบียดอยู่ใกล้ ๆ คลำไปคลำมามีเกล็ด ๆ อยู่น่าจะเป็นงู ขนาดกำลังดี ขอเป็นหมอนหน่อยแล้วกัน แล้วก็หนุนไปเลย"

    "ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมจำนวนหนึ่ง ชอบชีวิตกลางแจ้งที่เรียกว่าเอาท์ดอร์ ใจคอจะขึ้นไปกางเต็นท์บนรอยพระพุทธบาทเรื่อยเลย ที่นั่นอยู่นอกเขตวัด แล้วก็อยู่หลัง อบต. กลางคืนเจ้าหน้าที่ อบต.เขาก็ไม่มีใครอยู่ ถ้าเกิดมีมิจฉาชีพไปปล้นไปฆ่านี่ยุ่งตายชักเลย เพราะว่าอยู่ในที่ลับหูลับตามาก โยมแหกปากให้ดังแค่ไหนก็ได้ยินไม่ถึงข้างล่างหรอก โยมตะโกน อาตมาได้ยินเต็มที่ก็แค่ ๓๐๐ เมตร แล้วขึ้นยอดเขาตั้ง ๘๙๐ กว่าเมตรเกือบ ๙๐๐ เมตร ตะโกนให้ตายได้ยินสักครึ่งเขาก็ดีตายชักแล้ว

    อาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะว่าเราไปเปิดโอกาสให้เขา อย่างเช่นมีหลายรายที่เข้าไปข่มขืนเขา พอตำรวจสอบสวน บอกว่าเห็นประตูห้องเปิดอยู่ เห็นประตูห้องเปิดอยู่ ก็มุดเข้าไปล็อกประตู แล้วผู้หญิงตัวคนเดียวจะไปสู้อะไรเขาได้ ฉะนั้น...อย่าไปเปิดโอกาสให้เขา

    อยากจะไปดูทะเลหมอกตอนเช้าก็รอโน่น...ทำวัตรเสร็จแล้ว ตี ๕ ครึ่งค่อยเดินขึ้นไป พอถึงเวลาขึ้นข้างบนก็พอดีได้อรุณ ได้ดูทะเลหมอก เวลากลางวันแล้วก็ไม่มีใครอยากจะยุ่งด้วยหรอก เพราะว่าพวกอาชญากรโจรขโมยพวกนี้กลัวเสียงดังกับกลัวแสงสว่าง สมัยอยู่วัดท่าซุงอาตมาปิดไฟตั้งแต่ตี ๕ ครึ่ง หลวงพ่อท่านบอกว่า คราวหน้าอย่าทำ กราบเรียนถามว่าทำไม ? ท่านบอกว่าถ้ายังจำหน้าคนไม่ได้อย่าเพิ่งปิดไฟ รอให้สว่างจำหน้าคนได้ก่อนแล้วค่อยปิด อย่าไปกลัวเปลืองไฟ"

    "ด้วยความที่ว่ารอยพระพุทธบาทอยู่นอกเขตวัดไปคนละฝั่งถนน แล้วขึ้นเขาไปไกลมาก ถ้าจะเดินสายกล้องวงจรปิดไป ก็คงจะหมดอีกหลายแสน ก็เลยไม่ได้ทำ จึงกลายเป็นจุดปลอดจุดเดียวของวัดที่ไม่มีกล้องวงจรปิดควบคุม

    ตอนนี้ญาติโยมกี่คน ๆ โทรมาก็ถามว่า จะขึ้นไปค้างข้างบนได้ไหม ? ขอร้องเถอะโยม มาค้างในวัดปลอดภัยกว่า ทำวัตรด้วยกัน สร้างบุญสร้างกุศลเสร็จก็ไม่เกินตีห้าครึ่ง ส่วนใหญ่เต็มที่ก็ประมาณตีห้าสิบห้านาที เราเดินขึ้นยอดเขาก็สว่างพอดี แล้วยิ่งหน้านี้ยิ่งสว่างช้าเข้าไปใหญ่ เพราะว่าเป็นฤดูหนาว กลางคืนจะยาวกว่ากลางวัน

    เราไม่รู้ว่าวาระกรรมจะมาถึงตอนไหน เพราะฉะนั้น...อย่าประมาท ในเมื่อพระพุทธเจ้าสอนเราไม่ให้ประมาทก็ต้องทำตาม จะเห็นว่าขนาดท่านเจ้าสัววิชัยพกพระดีขนาดนั้น ท่านเองพอถึงวาระก็ยังต้องไป เราเองไม่ได้สร้างบุญสร้างกุศลมาดีขนาดท่าน ทำอะไรแบบประมาท ระวังจะถูกหวยรางวัลใหญ่โดยไม่รู้ตัว"


    ที่มา วัดท่าขนุน
     

แชร์หน้านี้

Loading...