ระดับของปัญญา

อนุโมทนา สาธุค่ะ

^^

ปัญญาทางโลก ภาษาฝรั่งเรียกว่า "ไอคิว" เป็นหน่วยความจำเฉย ๆ

ปัญญาทางธรรม คือการรู้แจ้งเห็นจริง ตามสภาพความเป็นจริง

 

ปัญญาทางโลกเพิ่มกิเลส ปัญญาทางธรรมลดกิเลส

 

ขออนุโมทนาปัญญาทางธรรม
คือการรู้แจ้งเห็นจริง ตามสภาพความเป็นจริง
และขออนุโมทนาบุญกุศลกับทุกท่านด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

คนที่มีปัญญาทางโลกสูงมาก ๆ (ฉลาดมาก) มักมีปัญญาทางธรรมน้อย เหมือนจะเดินสวนทางกันอย่างไงไม่รู้ ยกตัวอย่าง คุณหมอที่เก่ง ผ่าตัด รักษาโรค เก่ง แต่หลุดไม่พ้นกิเลส ตัณหา ชำแหละเมียเก่าเพื่ออยู่กับเมียใหม่ หรือผู้หญิงที่สูงด้วยชาติตระกูล ทรัพย์สินเงินทองมากมาย มีความรู้สูงที่สุดที่ทางโลกกำหนด แต่ก็ยังอยากได้สามีผู้อื่นมาครอบครอง ตัดสินใจแทนคนอื่นว่าชายที่ตนเองพึงพอใจ มันต้องเหมาะกับเรา ต้องเป็นของเราเท่านั้น เกิดมาไม่เคยถูกขัดใจ เห็นไหม เก่งทางโลก ไม่ได้หมายความว่า จะเก่งทางธรรม

หรือเด็กที่เรียนเก่ง พอไม่สามารถรักษาเกรดเอ หรือสถานะที่ตนเองเป็นหนึ่งมาตลอดไว้ได้ กลุ้มใจ เพราะความยึดมั่น ถือมั่น กระโดดตึกตายสะอย่างนั้น

ยกตัวอย่างใกล้ ๆ ตัวดีกว่า เราเองตอนที่โลดแล่นอยู่ในทางโลก ก็ปากไว เถียงใครได้ อารมณ์เหมือนไฟเผาตัวเอง ไม่ได้เผาคนอื่นเลย เข้าที่ประชุม ใครใส่อะไรมาโต้กลับทันควัน หน้าเหมือนยักษ์มาร จะเอาชนะให้ได้ โกหกก็ยอม ให้คนอื่นเป็นผุยผงต่อหน้าก็เอา ขอให้ได้ชนะ แต่ถ้าแพ้ ออกจากที่ประชุมก็เอาอารมณ์นั้นติดกลับบ้านไปคิดต่อ เพื่อหาทางเอาคืน หลับไปแล้ว ตื่นมาอารมณ์นั้นก็ยังคงอยู่อีก ความเครียดถามหา

แต่พอเข้ามาทางธรรม พยายามหาทางดับไฟเผาคนอื่นและตัวเองลง ปล่อยวางลง เข้าห้องประชุมให้น้อยที่สุด สงบเยือกเย็นขึ้น แต่ความคล่องตัวทางโลกลดลงไป ความไม่พูดมาก (ปิดวาจา) ปล่อยวาง เหมือนช่างมันเสียทุกอย่าง เรารู้ว่าองค์กรไม่ค่อยแฮปปี้กับพฤติกรรมแบบนี้ มันต้องฟัดเก่งซิถึงจะชอบ เห็นไหม มันสวนทางกันจริง ๆ pig_cryy black_pig

 

อนุโมทนา ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้ามีครบทั้ง3อย่าง นั้นดีเป็นที่สุด

 

" ปัญญาของปุถุชน คือคนทั่ว ๆ ไปที่เกลือกกลั้วกับกิเลส ปัญญาของผู้ทรงฌาน ปัญญาของพระอริยเจ้า แต่ละระดับไม่เท่ากัน ความหยาบละเอียดต่างกัน พอเราทำถึงจุด ๆ หนึ่ง เราจะคิดว่า ดีแล้ว ถูกแล้ว แต่ความจริงยังไม่ใช่ เพราะยังดีแค่นั้น ถูกแค่นั้น พอเรามีปัญญามากขึ้น พิจารณาได้ลึกซึ้งกว่านั้น ก็จะมีของที่ถูกกว่านั้น ดีกว่านั้นขึ้นมา พอเรามองย้อนไป ที่เราเคยว่าถูกแล้ว ดีแล้ว ก็กลายเป็นยังผิดไป "
เข้าใจชัดเจนเลยค่ะ เห็นเป็นเช่นนั้นจริงๆ ว่าปัญญามีหลายระดับ ความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนตามระดับชั้นของภูมิธรรมจริงๆ

 

ขออนุโมทนาสาธุ ครับ
ขอให้ปัญญาทางธรรม จงบังเกิดมวลมนุษย์ ทั้งโลกเทอญ

 

ผมว่า เหมือนกับโลกียะ กับโลกุตตระ
เป็นคนละเรื่อง กันเลย แต่ถ้าเรามีปัญญาในทางธรรม เรื่องในทางโลก จิ๊บ ๆ มาก

 

ปัญญาหากเข้าถึงจริงจะสมารถตอบปัญหาทางโลก..วิทยาศาสตร์...ธรรมศาสตร์...ปัญญาควรมองโลกอย่างพิจารณาพร้อมนำหลักธรรมมากำกับเสมอเพื่อความไม่หลงยึดถือว่าสิ่งนั้นเป็นของใคร.....พระพุทธองค์ท่านสอนว่า ..ไม่พูดในสิ่งที่มีผู้อยากฟังแต่ไม่มีประโยชน์..พูดเฉพาะ..จำเป็น....แตกต่างจาก.....ผู้ที่จะมาในอนาคตผู้ใขความมหัสจรรย์ของจักรวาล

 

รู้ ในความเป็นจริง รู้ ทุกขณะจิต สร้างสติ ให้เป็นมหาสติ พัฒนาจิต พัฒนาปัญญา ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านครับ

 

ขออนุโมทนาสาธุ ครับ
ขอให้ปัญญาทางธรรม จงบังเกิดมวลมนุษย์ ทั้งโลกเทอญ<!-- google_ad_section_end -->